2102 - เทือกเขาอมตะร่วงหล่น
2102 - เทือกเขาอมตะร่วงหล่น
เมื่อคนอื่นๆเห็นว่าสือฮ่าวสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย ทุกคนต่างพากันดีใจและรู้สึกว่าควรค่าแก่การฉลอง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถเข้าใจความคิดปัจจุบันของเขาได้อย่างแท้จริง
การแยกทางครั้งเดียวก็ไม่ได้พบกันเป็นเวลาหลายแสนปี… สำหรับสือฮ่าวที่ยังสามารถกลับมาพบหน้ากับทุกคนในวันนี้มันทำให้เขารู้สึกดีอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีนี้เมื่อเขาเห็นหัวหน้าเผ่าชรา พ่อแม่ของเขา เห็นเพื่อนในวัยเด็กที่มีผมสีขาวเต็มศีรษะ ดวงตาของสือฮ่าวกลายเป็นเปรี้ยวเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขาซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้อย่างสมบูรณ์
ได้เจอหน้ากันอีกครั้งก็ดีเท่าไหร่แล้ว!
สิบปีต่อมาราชันย์ดินแดนปิดผนึกและคนอื่นๆก็กลับมา พวกเขารอการกลับมาของสือฮ่าวในถ้ำโบราณของอาณาจักรเซียนเป็นเวลาสิบปี
เมื่อพวกเขาแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ และพวกเขาไม่สามารถรอการกลับมาของสือฮ่าวได้ ในที่สุดพวกเขาก็กลับสู่เก้าสวรรค์สิบพิภพ
"ฮ่อง! เจ้ากลับมาก่อนพวกเราได้ยังไง!” เจ้าหมาน้อยตกใจเมื่อกลับมาถึงดินแดนนี้อีกครั้ง
วันนั้นสือฮ่าวและราชันย์ดินแดนปิดผนึกพูดคุยกันในรายละเอียด พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น พูดคุยกันเป็นเวลานานมาก
เวลาผ่านไปร้อยปี ในที่สุดสือฮ่าวก็ลุกขึ้น ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมานี้ เขานั่งอยู่ตรงนี้โดยไม่รู้ไปไหน นี่ไม่ใช่การบ่มเพาะแต่เขาพยายามสัมผัสให้ได้ถึงทุกสิ่งที่อยู่ในโลก
เขากำลังเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโลกนี้กับโลกนั้น
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าไม่สามารถคาดเดาได้? เมื่อเทียบกับผู้อัมตะที่แท้จริงข้ากลับรู้สึกว่าเจ้าอันตรายกว่าพวกเขามาก?” มดเขาสวรรค์กล่าว
เมื่อสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดบุกเข้ามา เขาได้เห็นผู้อมตะที่แท้จริงมากกว่าหนึ่งคน
“ทักษะเต๋าของข้าก้าวหน้า ข้าพบเส้นทางแล้ว” สือฮ่าวพยักหน้า
“เมื่อใดที่เราจะสามารถค้นหาส่วนหลังของคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้” มดเขาสวรรค์กล่าวถึงปัญหานี้
คัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้เดิมเป็นมรดกของมดเขาสวรรค์ แต่เขามีข้อบกพร่องโดยกำเนิด ต่อมามดเขาสวรรค์ตัวน้อยและสือฮ่าวไปที่สวรรค์ไร้ขอบเขตและพบคัมภีร์ที่ซ่อนอยู่ในทะเลทางตอนเหนือ
น่าเสียดายที่คัมภีร์เล่มนี้ยังไม่สมบูรณ์
มันถูกแบ่งออกสองส่วน ส่วนสุดท้ายอยู่กับศัตรูต่างมิติแต่โชคดีที่ยังมีฉบับคัดลอกถูกสลักไว้ในกำแพงหินของดินแดนปิดผนึกอีกส่วนหนึ่ง
หนึ่งพันปีก่อน มดเขาสวรรค์ตามสืบจนพบว่าคัมภีร์นั้นถูกสลักไว้ที่ดินแดนปิดผนึกแห่งใด
“เราจะมุ่งหน้าไปยังดินแดนปิดผนึกนั้นเดี๋ยวนี้!” สือฮ่าวกล่าว
“พวกเรากำลังจะได้มันมาครองจริงๆหรือ?” มดเขาสวรรค์กลืนน้ำลายเข้าไปอย่างยากลำบาก เขาตกใจมากเพราะเขาแค่พูดมันขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจเท่านั้น
ด้วยระดับบนเพราะปัจจุบันของสือฮ่าวเขาจะสามารถไปที่นั่นได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้? ในความเห็นของมดเขาสวรรค์ มันอันตรายเกินไป
“ลองดูก่อนถ้าพวกเขาอนุญาตให้เราศึกษาก็แล้วกันไป แต่หากไม่พวกเราก็ถอยออกมาแล้วค่อยไปอีกครั้งเมื่อข้าบรรลุความเป็นอมตะ” สือฮ่าวกล่าว
มดเขาสวรรค์มองมาที่สือฮ่าวด้วยสีหน้าแปลกๆ มันรู้สึกได้ชัดเจนว่าสือฮ่าวแตกต่างจากเมื่อก่อนราวกับเป็นคนละคน เขามีความสงบนิ่งแม้กระทั่งดินแดนปิดผนึกก็ยังไม่สามารถคุกคามเขาได้ในตอนนี้
“ก็ได้!”
มดเขาสวรรค์นั้นกล้าหาญอย่างยิ่งเสมอมา ในเมื่อสือฮ่าวไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรมันก็ไม่รู้สึกกลัวเช่นกัน
ภายในดินแดนปิดผนึกแห่งนี้ท้องฟ้าเป็นสีแดงทั้งหมด ภูเขาอันยิ่งใหญ่มากมายปรากฏอยู่ตลอดเส้นทาง
ว่ากันว่าเทือกเขาอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ตรงหน้านี้คือซากศพของผู้อมตะในสมัยโบราณ นั่นคือเหตุผลที่เทือกเขาขนาดใหญ่นี้มีชื่อว่าเทือกเขาอมตะที่ร่วงหล่น
เทือกเขาอมตะที่ร่วงหล่นสูงเท่าท้องฟ้า มันมืดครึ้มแหละขาดพืชพันธุ์ใดๆ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความแห้งแล้งคล้ายกับว่ามันเป็นแบบนี้เสมอมา
มันกว้างใหญ่เกินไป สันเขาหลายแห่งกลาดเกลื่อนไปด้วยซากศพของผู้คนมากมายเป็นบรรยากาศที่น่ากลัวอย่างยิ่ง หลายปีมาแล้วที่ไม่มีใครมาเยือนดินแดนนี้
ผู้คนที่เคยมาที่นี่ล้วนมาได้แต่จากไปไม่ได้ หลังจากหลายปีไม่รู้จบ ไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตกี่ตัวที่เสียชีวิตต่อหน้าเทือกเขาอมตะ
จะเห็นได้ว่าสันเขาแรกมีกระดูกเหี่ยวแห้งสองสามชุดซ้อนกันเป็นชั้นหนา สือฮ่าวและมดเขาสวรรค์มาถึงแล้ว พวกเขายืนอยู่บนท้องฟ้า
ท่าทางของพวกเขาจริงจังขณะตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ มีพลังงานอมตะที่ปกคลุมพื้นที่ระหว่างสันเขา หมอกเซียนปกคลุมดินแดนเป็นชั้นชั้น
พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นของยาเซียนบางชนิด นั่นอาจจะเป็นพืชชนิดเดียวในดินแดนแห่งนี้!
“มดเขาสวรรค์ปรารถนามาเยี่ยมผู้อาวุโสของเทือกเขาอมตะที่ร่วงหล่น” มดเขาสวรรค์กล่าวด้วยความสุภาพ น้ำเสียงค่อนข้างเบาเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนสิ่งมีชีวิตที่หลับใหลอยู่
เขาเชื่อว่ามีคนอยู่ข้างในที่ตื่นอยู่ในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน นี่คือยุคที่ไร้การบ่มเพาะ การประลองครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง เผ่าพันธุ์ไหนกล้าไม่ตื่นตัว?
เมื่อเขาพูดไปก็มีคนที่ออกมาจากเทือกเขาอมตะร่วงหล่นซึ่งมีรัศมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง หมอกสีเทาพุ่งขึ้น สิ่งมีชีวิตตัวนั้นบินขึ้นมาบนท้องฟ้าและมองไปที่สือฮ่าวจากระยะไกล
เขาอยู่ในร่างมนุษย์ ดวงตาของเขาเย็นชา ไม่มีร่องรอยของอารมณ์แม้แต่น้อย
เขาไม่พูดอะไร แค่มองทั้งสองอย่างนั้น
จากนั้นสิ่งมีชีวิตที่อายุเยาว์สองคนก็ปรากฏขึ้น พวกเขาควรจะเป็นผู้ฝึกตนในโลกปัจจุบัน ไม่ใช่พวกสัตว์ประหลาดในสมัยโบราณที่หลับไหลอยู่ภายใน
พวกเขาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของบุคคลที่น่าสะพรึงกลัว คนหนึ่งอยู่ทางซ้าย อีกคนหนึ่งอยู่ทางขวา
"เจ้าคือใคร?" เด็กคนหนึ่งถามอย่างเย็นชาและมองไปทาสือฮ่าว
“ฮวง ขอแสดงความนับถือต่อสหายเต๋า” สือฮ่าวตอบกลับ
"เป็นเจ้านั้นเอง? มาที่นี่เพราะอะไร!” เด็กอีกคนตะโกนออกมา
มดเขาสวรรค์ขมวดคิ้ว แม้แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังของเด็กคนนั้น เขารู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะจบลงด้วยความล้มเหลว บางทีอาจถึงขั้นสร้างปัญหาด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าดินแดนปิดผนึกนั้นน่ากลัว ไม่ใช่สถานที่ที่เข้าถึงได้ง่าย!
“เรามาเพื่อคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้”
สือฮ่าวสงบนิ่งมาก เขาไม่ได้มีท่าทีอย่างไรต่อความโกรธแค้นของเด็กทั้งสอง เขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ
“เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ!”
"ฝันต่อไป!"
ความเกลียดชังของเด็กสองคนนั้นรุนแรง ดวงตาของพวกเขาเย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
มดเขาสวรรค์ตกตะลึง พวกเขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใดๆกับดินแดนปิดผนึกเหตุไฉนทั้งสองถึงทำตัวแบบนี้?
“ข้าเชื่อว่าเราไม่เคยมีปัญหากัน” สือฮ่าวกล่าว
“พันปีที่แล้ว ผู้อมตะที่แท้จริงของเราออกไปตามหาเจ้า แต่สุดท้ายเขาก็ไม่กลับมา!” สิ่งมีชีวิตตัวเล็กพูดอย่างเย็นชา
ผู้เชี่ยวชาญที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่ตรงกลางก็ปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ผันผวนในเวลานี้ หมอกสีเทากลายเป็นหนาแน่น แผ่ออกไปด้านนอก เตรียมพร้อมจะลงมือได้ทุกเมื่อ
ดวงตาของสือฮ่าวปลดปล่อยสายฟ้าออกมา ในอดีตซากอมตะที่ถูกทำลายของตำหนักเซียนได้เชิญผู้อมตะที่แท้จริงสองคนมาร่วมจัดการเขา
หนึ่งในนั้นมาจากอาณาจักรเซียน และอีกคนหนึ่งมาจากดินแดนปิดผนึก พวกเขาไล่ตามสือฮ่าวไปในห้วงลึกของจักรวาล
ในท้ายที่สุด ผู้อมตะที่แท้จริงทั้งสองก็ถูกผู้อาวุโสใหญ่จับเข้าสู่ประตูแห่งความมืดและหายสาบสูญไปนับแต่นั้น
ดวงตาของสือฮ่าวมีความเย็นชา ราชันดินแดนปิดผนึกของที่นี่มีทัศนคติอย่างไรกับเขาเป็นที่ทราบได้ รอให้เขาบรรลุความเป็นอมตะแล้วเขาจะมาที่นี่อีกครั้ง?
"ไปกันเถอะ." สือฮ่าวกล่าว
หลังจากเข้าใจกรรมแล้ว เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้เขาดูคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้แน่นอน
“หยุด เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป!” สิ่งมีชีวิตอายุน้อยคนหนึ่งตะโกน
“ท่านผู้เฒ่า โปรดดำเนินการ เป็นไปได้ไหมว่าผู้อมตะที่แท้จริงของตระกูลเราตายไปอย่างเปล่าประโยชน์?” อีกคนกล่าว.
เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่ตรงกลางนั้นคือบุคคลระดับเต๋าอมตะ ความแข็งแกร่งของเขาน่ากลัวถึงขีดสุด
ตอนนี้เขาตื่นขึ้นเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับดินแดนนี้ ในยุคที่ไร้การฝึกฝน การประลองครั้งใหญ่กำลังจะมาถึง ดินแดนปิดผนึกต่างๆล้วนก็หวาดกลัวเช่นเดียวกัน