ตอนที่ 725 : ขอโทษด้วยแต่ฉันต้องการทั้งหมด!
ตอนที่ 725 : ขอโทษด้วยแต่ฉันต้องการทั้งหมด!
ดวงตาของซูเสี่ยวเสี่ยวค้าง เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและพูดกับเจียงเฉินว่า "ไม่ เครื่องประดับที่นี่มันแพงเกินไป แค่ชุดเดียวก็ราคาหลายล้านแล้ว นายจะซื้อของแพงๆแบบนี้ได้ยังไง"
เจียงเฉินยิ้ม "เธอแค่ต้องดูดีก็พอเรื่องอื่นก็อย่าไปสนใจเลย! และอีกอย่างของพวกนี้ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของฉันทั้งหมดและอีกอย่างปกติแล้วฉันก็ไม่ได้ให้เครื่องประดับราคาแพงกับเธอเลย ครั้งนี้ฉันก็เลยอยากหามันให้เธอสักหน่อย"
ฉันพูดจริงนะ~~
แต่ในความคิดของเจียงเฉินคือ ~~
ในอีกสักครู่เขาจะเหมาเครื่องประดับทั้งหมดในงานนี้!
เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็มีแฟนหลายคน
ปกติช่วงวันหยุดหรือเทศกาลต่างการจะไปซื้อของขวัญนั้นก็ค่อนข้างลำบาก
ในนิทรรศการเครื่องประดับระดับไฮเอนด์นี้เครื่องประดับหรูหราระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายร้อยชุดถูกนำมาวางอยู่ตรงหน้าเจียงเฉินแล้ว...
ดวงตาของเจียงเฉินสว่างขึ้นทันที
นี่ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาใหญ่ที่ฉันกำลังปวดหัวอยู่หรอ?
อะไรกัน เงิน?
สำหรับเจียงเฉินแล้วเงินคืออะไร?
สิ่งที่เขาขาดคือเวลา! สิ่งที่เขาขาดไปคือการหาโอกาสในการซื้อของขวัญให้ถูกใจแฟนสาวของเขา!
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเจองานนิทรรศการเครื่องประดับสุดหรูแบบนี้ในเมื่อเจอแล้วทำไมเขาไม่ซื้อไปทั้งหมดเลยล่ะ?
ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบเครื่องประดับระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเภทนี้ที่มีราคาเป็นล้านหรืออาจเป็นสิบล้านต่อชิ้น
ร้อยละเก้าสิบเก้าของผู้หญิงไม่มีพวกเธอคนไหนที่ได้รับการยกเว้นจากเสน่ห์ของเครื่องประดับ
นอกจากนี้ เครื่องประดับระดับไฮเอนด์ทุกชิ้นนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการผลิตออกมามากมาย
เจียงเฉินจึงวางใจและกล้าลงทุนเพราะในอนาคตไม่ว่าแฟนสาวของเขาจะฉลองเทศกาลไหน เขาก็จะสามารถหยิบสร้อยคอ ต่างหูและแหวนเพชรมูลค่านับสิบล้านออกมามอบให้แฟนสาวของเขาเพื่อให้พวกเธอมีความสุข!
เจียงเฉินกำลังคิดอย่างมีความสุขเกี่ยวกับการเหมาเครื่องประดับในงานนิทรรศการเครื่องประดับนี้อย่างลับๆ โดยไม่บอกให้ซู เสี่ยวเสี่ยวรู้เพราะเขาจะให้พวกพนักงานทำการแพ็คและส่งไปที่บ้านของเขาจนมากพอที่จะใช้เป็นของขวัญสำหรับแฟนสาวของเขาเป็นเวลาหนึ่งปี...
ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดออกมาอย่างกะทันหัน "เดี๋ยวก่อน ฉันลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในรถ ฉันต้องลงกลับไปเอามันมาก่อน"
เจียงเฉิน "ไปกันเถอะ ลงไปข้างล่างกัน"
ทั้งสองเพิ่งเดินกลับไปที่พื้นที่แสดงเครื่องประดับทั่วไปที่ชั้น 1 และก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“อ๊ะ! สามี ดูเร็วๆ นี่ใครกันนะ”
ในเวลานี้พวกเขาก็เห็นว่าเกาปิงจี้ซึ่งพวกเขาเพิ่งจะได้พบที่ชั้นล่างตอนนี้กำลังบิดเอวและสะโพกของเธอและสวมกอดกับนักธุรกิจผู้ร่ำรวยวัยกลางคนซึ่งกำลังซื้อเครื่องประดับในพื้นที่ธรรมดาและมองมาทางพวกเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
เจียงเฉิน "..."
ไปที่ไหนก็เจอแต่คนไม่ดี แม้แต่ในแวดวงของคนที่ร่ำรวยที่สุดก็ไม่มีข้อยกเว้น
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของคนพวกนี้มีมากกว่า 100 ล้านหยวนแต่ทำไมนิสัยของพวกเขาถึงได้มีช่องว่างขนาดใหญ่แบบนี้กันนะ?
เกาปิงจี้มองไปที่เจียงเฉินและซูเสี่ยวเสี่ยวก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจ "อะไรกัน ทำไมพวกเธอถึงมาที่นี่ได้? โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว พวกเธอคงจะเห็นงานนิทรรศการเครื่องประดับที่นี่และคิดว่าพวกเธอจะสามารถจ่ายได้ พวกเธอก็เลยกล้าเข้ามาที่นี่สินะ? ฮ่าๆๆ ฉัน ขอโทษทีนะ ฉันไม่ควรพูดแบบนั้นเลยเพราะยังไงเราก็เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน"
ซูเสี่ยวเสี่ยวก็โกรธเช่นกัน "เกาปิงจี้ทำไมเธอถึงต้องมาตามหลอกหลอนพวกเราอยู่เสมอเลย?!"
"ฉัน? หลอกหลอน? ฮ่าๆๆ!"
เกาปิงจี้ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า "ฉันขอโทษนะแต่ว่าเราได้รับเชิญมา นอกจากนี้ เราไม่ได้จะดูเครื่องประดับที่ชั้นหนึ่งด้วย! เพราะเครื่องประดับที่นี่ราคาถูกเกินไป! เพียงแค่ชิ้นละหลักแสนเท่านั้น! สามีของฉันกำลังจะซื้อเครื่องประดับระดับไฮเอนด์ให้ฉัน เธอเคยเห็นไหม? เครื่องประดับระดับไฮเอนด์แบบที่เริ่มต้นที่หลักล้านดอลลาร์และต้องสั่งจองล่วงหน้า! เธออยากขึ้นไปชั้นบนกับฉันเพื่อดูไหม? ฉันจะให้โอกาสเธอได้ลืมตาดูโลกกว้างสักหน่อย"
เจียงเฉิน "..”
ท้องแทบจะแตกเพราะกลั้นเสียงหัวเราะ
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่โง่เขลาคนนี้ที่ทำตัวหยิ่งผยองและหยิ่งยโสเพียงเพราะเธออยู่ข้างๆชายวัยกลางคนที่ร่ำรวยเพียงเล็กน้อยเจียงเฉินแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ไม่ได้~~
ระดับของคนมันมีความแตกต่างกันมากจริงๆ ช่องว่างมันใหญ่เกินไปจริงๆ
วันนี้เจอหมาเห่าหอนไม่พอ! ยังเจอกบในบ่อน้ำอีก!
เจียงเฉินพูดออกมา "เราก็จะไม่ซื้อเครื่องประดับที่นี่เหมือนกัน"
"โอ้! ฉันเข้าใจแล้ว! พวกเธอคงจะไม่สามารถซื้อเครื่องประดับในพื้นที่ธรรมดาของที่นี่ได้ใช่ไหม"
เกาปิงจี้เยาะเย้ย "ซูเสี่ยวเสี่ยว ดูผู้ชายที่เธอมองหาสิ เขาไม่สามารถแม้แต่จะซื้อเครื่องประดับที่นี่ได้ แต่ฉันต้องขึ้นไปชั้นบนและรับเครื่องประดับระดับไฮเอนด์สุดหรูที่ผู้ชายของฉันมอบให้ฉัน เพื่อนร่วมชั้นของฉันนี่มีชะตากรรมที่แตกต่างกับฉันจริงๆ"
ซูเสี่ยวเสี่ยวโกรธมาก "เกาปิงจี้! อย่ารังแกฉันมากเกินไปนะ! ฉันจะจ่ายได้หรือไม่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ"
ดวงตาของเจียงเฉินเริ่มเต็มไปด้วยความเย็นชา
ผู้หญิงคนนี้ควรได้รับบทเรียน!
คนจะมีเงินหรือไม่แต่พวกเขาก็ต้องมีความเคารพต่อผู้คนเป็นพื้นฐาน! นี่คือคุณภาพขั้นพื้นฐานของคนที่มีคุณภาพในสังคม!
ถ้าเป็นคนไม่มีคุณภาพก็ได้แต่รอให้สังคมตบหน้า!
เจียงเฉินพูดอย่างตรงไปตรงมา "นี่มันสุนัขของใครกัน? ปล่อยให้มันเห่าในงานได้ยังไงกัน? ทำไมเจ้าของถึงไม่เอาสายจูงมาใส่?! รู้ไหมว่ามันละเมิดกฎการเลี้ยงสุนัข ระวังฉันจะเตะสุนัขตัวนี้ออกไปนะ"
“นาย นายกำลังพูดถึงอะไร? นายว่าใครเป็นสุนัข?”
เกาปิงจี้ตัวสั่นด้วยความโกรธ
ในเวลานี้ ผู้จัดการที่ได้ยินเสียงดังก็รีบลงมา "เรียนแขกทั้งสองอย่าเพิ่งทะเลาะกันนะครับ มันจะทำให้ทางเราลำบากนะครับ"
"ฮึ่ม! พวกเราเป็นคนรวย! เรามีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 100 ล้าน!"
ดูเหมือนว่าเกาปิงจี้จะภูมิใจกับเงินจริงๆ เธอพูดออกมาอย่างเย่อหยิ่งว่า "สามีของฉันมีเงินมากมาย แค่บอกจำนวนนี้มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้นายตกใจแทบตาย! ลืมมันไปเถอะ ฉันจะไม่คุยกับระดับนายอีกต่อไปแล้ว ฉันผิดเอง ไปกันเถอะค่ะ สามี ขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูของขวัญที่คุณจะให้ฉันกัน"
เกาปิงจี้ขึ้นไปกับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งวัยกลางคน
ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดกับเจียงเฉิน "เราเองก็ไปกันเถอะ ฉันคงจะโชคร้ายที่ต้องมาพบกับเกาปิงจี้ คนๆนี้เป็นคนไม่มีคุณภาพจริงๆ ฉันขอโทษนะเจียงเฉินที่วันนี้ฉันทำให้นายไม่พอใจ"
เจียงเฉินยิ้ม "อะไรกัน ถ้าเราเจอสุนัขเราก็ต้องเดินอ้อมไปทุกครั้งเลยหรอ? แล้วแบบนี้จะอยู่ในสังคมทุกวันนี้ได้ยังไงกัน? มองมาที่ฉันสิ!"
ซูเสี่ยวเสี่ยวรู้ดีว่าเจียงเฉินไม่ใช่คนที่จะยอมถูกรังแกอยู่แล้วดังนั้นเธอจึงหัวเราะออกมาเบาๆ "นั่นคือเพื่อนร่วมชั้นของฉันนะ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็อย่าทำให้เธออับอายมากเกินไปล่ะ"
เจียงเฉินเกาจมูกเล็กๆของซูเสี่ยวเสี่ยว "เธอใจดีมากเกินไปนะ มีคนรังแกเธอ แต่เธอกลับยังพูดแทนอีกฝ่ายเพราะกลัวว่าฉันจะสั่งสอนอีกฝ่ายแรงเกินไปอีกนะ"
ซูเสี่ยวเสี่ยวโอบแขนของเธอไว้รอบตัวเจียงเฉินและพูดด้วยรอยยิ้มหวานว่า "เพราะฉันรู้ว่าสามีของฉันแข็งแกร่ง ฉันก็แค่กลัวว่าเธอจะไม่สามารถรับได้ถ้านายเคลื่อนไหว ฉันเองก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญมากเหมือนกันที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้”
เจียงเฉินหัวเราะออกมาดังๆ
ห้านาทีต่อมาเจียงเฉินก็ได้มาเอาโทรศัพท์มือถือของซูเสี่ยวเสี่ยวและทั้งสองก็ขึ้นไปอีกครั้ง
ในเวลานี้เกาปิงจี้กำลังลองสร้อยคอและในขณะที่กำลังลองสวมมันอย่างยั่วยวนนั้นเธอก็ยังอารมณ์เสีย "ฉันบอกพวกเธอแล้วไม่ใช่หรือยังไง ทำไมถึงมีคนมาบริการฉันแค่สองคน!? ฉันซื้อเครื่องประดับของพวกเธอที่มีราคาเป็นล้านนะ! ไปหาคนมาอีกสิบคนเพื่อช่วยฉันลองเครื่องประดับเดี๋ยวนี้! พวกเธอตาบอดกันหรือยังไง! ฝึกกันมายังไงหะ!"
เธอมีเครื่องประดับระดับไฮเอนด์เพียงแค่ชิ้นละหนึ่งล้านแต่เธอกลับเรียกพนักงานหลายสิบคนมาบริการ ซึ่งทำให้ทุกคนต่างหันมาสนใจและแน่นอนว่าฉันนี้นั้นน่าอายมาก..
มีคนรวยมากมายรายล้อมพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
รู้ไหมว่าทุกคนที่สามารถซื้อเครื่องประดับที่นี่ได้คือคนรวยที่มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 100 ล้าน
ทุกคนมีคุณสมบัติครบถ้วน แต่มีใครไหมที่จะจงใจอวดเก่งเหมือนเธอ?
แวบแรกก็รู้เลยว่าเธอไม่เคยมาสถานที่แบบนี้เลย! นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกพามาที่นี่! ดูก็รู้ว่าตื่นเต้นเกินไปและจงใจอวด! ต้องการบอกให้คนทั้งโลกรู้!
ยิ่งอวดแบบนี้ยิ่งแสดงว่าไม่มีเงิน!
คนรวยจริงนั้นคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบนี้มานานแล้วและพวกเขาจะไม่ขอให้พนักงานนับสิบคนมาให้บริการช่วยพวกเขาสวมสร้อยคออย่างแน่นอน!
ในเวลานี้เมื่อเห็นเจียงเฉินและซูเสี่ยวเสี่ยวเดินเข้ามาเกาปิงจี้ก็ตกตะลึง!
"เฮ้ พวกเธอขึ้นมาได้ยังไง?! พวกเธอไม่มีจดหมายเชิญพวกเธออยู่ได้แต่ข้างล่างนะ! พวกเธอไม่เข้าใจกฎหรือยังไง"
เกาปิงจี้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ในคิดของเธอ มันเป็นความอับอายมากที่ซูเสี่ยวเสี่ยวสามารถขึ้นมาซื้อของกับเธอในห้องโถงวีไอพีนี้ได้
แต่ผู้จัดการก็พูดออกมาว่า "ผมต้องขอโทษด้วย คุณเกาและคุณเย่ แต่คุณซูเป็นแขกรับเชิญของเราด้วยครับ พวกเขามีคุณสมบัติมากเพียงพอที่จะขึ้นมาที่นี่"
ผู้จัดการมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่ในใจนั้น....!
เธอกำลังบอกว่าพวกเขาไม่มีคุณสมบัติงั้นหรอ?!
คุณเจียงเฉินเป็นถึงเจ้าของบุลการี่ของเรา!
ถ้าเทียบกับคุณเจียงเฉิน เธอนับเป็นอะไรได้บ้าง?
แต่ด้วยความสุภาพผู้จัดการจึงไม่ได้พูดออกไปตรงๆและสิ่งนี้ก็ทำให้ความเข้าใจผิดของเกาปิงจี้ดำเนินต่อไป
"หึ~~! เอาล่ะ"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้จัดการพูด เกาปิงจี้ก็ได้แต่กลืนลมหายใจกลับไปอย่างช่วยไม่ได้
นักธุรกิจผู้มั่งคั่งวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างเธอก็เริ่มประหม่า
ซึ่งแตกต่างจากการแสดงออกของเกาปิงจี้ การที่เขาเป็นคนที่อยู่ในสังคมชั้นสูงและสามารถเป็นบุคคลที่มีความร่ำรวยได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน
เมื่อเขาได้ยินว่าเจียงเฉินเป็นบุคคลที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากพอและมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้ามาที่นี่ นักธุรกิจผู้มั่งคั่งอย่างเขาก็ต้องลังเลเล็กน้อย
เขามองไม่ออกเลยว่าเจียงเฉินก็มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมด้วย?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงมันก็ไม่ใช่ง่ายแล้ว
บางทีเขาอาจพลาดสิ่งที่สำคัญไปแล้วก็ได้!
ไม่มีคนโง่ที่สามารถสร้างชื่อให้ตัวเองในสังคมได้
นักธุรกิจผู้มั่งคั่งวัยกลางคนรีบพูดว่าออกมาว่า "ปิงจี้อย่าทำตัวแบบนี้...ทุกคนมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องประดับ เธออย่าไปดูถูกคนอื่นจะได้ไหม"
เกาปิงจี้ตะคอกอย่างเย็นชาจากรูจมูกของเธอ "คุณ คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว! เห็นได้ชัดว่าเรามีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน! เขายังเด็กมากแล้วเขาจะรวยกว่าคุณได้ยังไง ลืมมันไปเถอะ สามีของฉันใจกว้างฉันจะไม่เถียงกับคุณ"
แม้ว่าการได้เห็นซูเสี่ยวเสี่ยวและเจียงเฉินขึ้นมาที่พื้นที่วีไอพีทำให้เกาปิงจี้อารมณ์เสียเล็กน้อย แต่หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วสามีของเธอก็ไม่ใช่คนระดับต่ำนี่ แต่เป็นคนรวยระดับสูงที่มีทรัพย์สินมูลค่าหนึ่งพันล้าน!
ในระดับคนรวยเองก็มีการดูถูกกันอยู่เช่นกัน
เศรษฐีดูถูกคนจน มหาเศรษฐีดูถูกเศรษฐีธรรมดา มหาเศรษฐีธรรมดาดูถูกเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านแต่มีเงินไม่พอใช้...
เกาปิงจี้ตะคอกอย่างเย็นชา "ซูเสี่ยวเสี่ยว มาดูเครื่องประดับราคาหลักล้านที่สามีของฉันสั่งมาให้ฉันโดยเฉพาะกันดีกว่า เป็นไงบ้าง ดูดีไหม"
เธอยืนขึ้นอย่างโอ้อวดและแสดงให้ซูเสี่ยวเสี่ยวดู
ซูเสี่ยวเสี่ยวมองไปที่มันและตอบอย่างสุภาพ "ก็โอเคนะ"
"โอเค?
เกาปิงจี้ตะโกนออกมา "คุณเข้าใจอะไรบ้างไหม บุลการี่กรุ๊ปทำสิ่งนี้ให้ฉันเป็นการเฉพาะ เหล่าสาวงามที่มีชื่อเสียงมากมายล้วนแล้วแต่ใช้เครื่องประดับที่ถูกทำขึ้นมาให้พวกเธอโดยเฉพาะของแบรนด์นี้! อย่างสร้อยคอมรกตเส้นนี้ ด้วยสถานะของสามีของฉันราคามันต้องแพงกว่า 2ล้าน! ผู้ชายของเธอจ่ายไหวไหมล่ะ?!"
นักธุรกิจวัยกลางคนผู้มั่งคั่งที่อยู่ข้างๆเธอก็ขมวดคิ้วอย่างกังวล
แม้ว่าเขาจะมีทรัพย์สินมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้าน แต่เขาเองก็มีภรรยาอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว!
เกาปิงจี้คนนี้เป็นเพียงผู้หญิงที่เขาเก็บไว้เลี้ยงเล่นเท่านั้น!
และการใช้จ่ายมากกว่าสองล้านหยวนกับเธอเพื่อซื้อเครื่องประดับชิ้นหนึ่งถือเป็นขีดจำกัดของการลงทุนของเขาแล้ว
เช่นเดียวกับที่เจียงเฉินเคยพูดในกลุ่มหาคู่ระดับไฮเอนด์ก่อนหน้านี้ ยิ่งคนรวยมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งอ่อนไหวต่อการใช้เงินและผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้นเท่านั้น
เนื่องจากเธอเป็นเมียน้อย จึงถูกกำหนดไว้ให้เล่นเพื่อความสนุกเท่านั้นและพวกเขาจะไม่จริงจังกับเธอมากเกินไป
"สินทรัพย์" ประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วมีไว้สำหรับเช่าระยะสั้นโดยคนรวย!
และยิ่งหากภรรยาของเขารู้ว่าเขาแอบใช้เงินซื้อเครื่องประดับระดับไฮเอนด์มูลค่ากว่า 2 ล้านให้กับภรรยาน้อยของเขาล่ะก็ เขาคงมีอันเป็นไปอย่างแน่นอน
นักธุรกิจวัยกลางคนผู้มั่งคั่งขมวดคิ้ว "ปิงจี้ลองดูเครื่องประดับชิ้นนี้ก่อน ยังไม่จำเป็นต้องซื้อมันก็ได้"
เกาปิงจี้เลิกคิ้วขึ้น "ห๊ะ? สามี? คุณไม่ยอมซื้อให้ฉันเหรอ? ฉันพูดออกไปแล้วนะ ถ้าเกิดคุณไม่ซื้อให้ฉันมันจะทำให้ฉันอับอายต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นของฉันนะ"
เธอมุ่งมั่นที่จะครอบครองเครื่องประดับจากบุลการี่ชิ้นนี้ที่มีราคามากกว่า 2 ล้านมาก!
เธอจึงไม่รีรอที่จะสู้กับนักธุรกิจวัยกลางคนของเธอเพื่อสิ่งนี้
สายตาของนักธุรกิจวัยกลางคนผู้ร่ำรวยเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที "ฉันแค่บอกเธอว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ มันราคามากกว่า 2 ล้านซึ่งมันเกินงบของฉันไปหน่อย"
ชายหญิงคู่หนึ่งจ้องหน้ากัน ผู้จัดการรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
ฉากนี้น่าอายมาก
ในเวลานี้เอง~
เจียงเฉินก็เดินออกมา
เขาพูดกับผู้จัดการซึ่งอยู่ข้างๆว่า "ในงานนิทรรศการเครื่องประดับนี้มีเครื่องประดับสั่งทำพิเศษระดับไฮเอนด์นี้กี่ชิ้น? แน่นอนว่ายกเว้นของเธอคนนี้นะ"
เจียงเฉินชี้ไปที่สร้อยคอมรกตเกาปิงจี้ที่กำลังสวมรอบคอของเธออยู่
ผู้จัดการตอบด้วยความเคารพทันที "คุณเจียง คุณคงได้ดูเครื่องประดับระดับวีไอพีระดับสูงในนิทรรศการของเราแล้วในตอนนี้ เรามีทั้งหมด 108 ชิ้นครับ ราคาเฉลี่ยของแต่ละชิ้นอยู่ที่ประมาณ 10 ล้าน แน่นอนว่ามีเครื่องประดับระดับไฮเอนด์กว่านี้อยู่ครับ อย่างเช่นแหวนอัญมณี 18 กะรัตที่เอลิซาเบธ เทย์เลอร์เคยสวมใส่ราคาอยู่ที่เพียง 160 ล้านเท่านั้นครับและยังมีสมบัติของราชวงศ์อีกหลายชิ้นที่เราได้รับมอบหมายจากราชวงศ์อังกฤษให้นำมาขายโดยแต่ละชิ้นมีราคาหลายร้อยล้านและมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณสามพันกว่าล้านหยวนครับ"
เจียงเฉินพูดอย่างเฉื่อยชา "3 พันล้านงั้นหรอ เอาล่ะ ห่อมันให้ฉันด้วย"
นักธุรกิจวัยกลางคนผู้มั่งคั่ง "..."
มหาเศรษฐีคนอื่นๆ "..."
งงไปหมด!
สรุป? เขาหมายถึงชิ้นไหน?
เขาต้องการให้ห่ออะไร?
เกาปิงจี้เยาะเย้ยและพูดว่า "คนๆนี้ยังพูดได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ! นายแค่บอกว่าให้ไปห่อ แต่ไม่ได้บอกเลยว่าชิ้นไหน คนอื่นเขาจะรู้ได้ยังไงว่านายกำลังหมายถึงอะไร นายคงไม่ได้ต้องการพวกมันทั้งหมดใช่ไหม ? ฮ่าๆๆ!"
ก่อนที่เธอจะพูดจบเจียงเฉินก็พูดออกมา "สิ่งที่ผมพูดนั้นชัดเจนมากพออยู่แล้ว! คุณเป็นคนที่ไม่มีสมองเองเลยฟังไม่รู้เรื่องอะไร! แต่คุณก็พูดถูก ผมหมายถึงเครื่องประดับทุกชิ้นบนโถงวีไอพีนี้! และแน่นอนว่าไม่รวมเครื่องประดับที่คุณสวมอยู่รอบคอของคุณ”
“มันสกปรกแล้ว ผมไม่ต้องการมัน!”
ผู้ชมตกตะลึง~~ เงียบกริบ!