ตอนที่แล้วตอนที่ 512 สถานการณ์สวยหรู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 514 ฝูอิง

ตอนที่ 513 เพชรฆาตอิง


ครืนนน

เสียงดังกึกก้องออกมาจากกับดักทางเข้า พลังระเบิดสั่นสะเทือนม่านพลังแสงอย่างเห็นได้ชัด รังสีแพรวพราวทะลุผ่านม่านพลังสว่างเจิดจ้าในท้องฟ้ายามราตรี

“ข้างในนั้นมีคนอยู่กี่คนกันแน่?”  เริ่นหรูไห่ถามอย่างเคร่งเครียด

“เก้าคน” ถงเก๋อรายงาน

“เจ้าคิดว่าเขาจะทนการโจมตีอย่างนี้ได้นานแค่ไหน?”  เริ่นหรูไห่ถาม

“ข้าไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอน”  ถงเก๋อตอบด้วยสีหน้าหงุดหงิด  เขาส่ายหัว “หลังจากการต่อสู้ของมอนตาแล้ว  ข้าคิดว่าเขาไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงเหลือทนต่อการโจมตีของเรา!  ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าแม้จะส่งเซียนเข้าไปต่อเนื่องถึงสามคน ก็ไม่มีใครโค่นเขาลงได้ คนผู้นี้น่าหวั่นเกรงนัก”

“ไม่ว่าแข็งแกร่งเพียงไหน  ก็ยังมีเวลาที่เขาต้องล้มลงจนได้”  หลี่รั่วกล่าว

“ถูกแล้ว!”ถงเก๋อพยักหน้า  “อย่างไรก็ตาม  เราจำเป็นต้องหาคนเพิ่ม  ถ้าไม่อย่างนั้นเมื่อมีโอกาสที่เราจะเอาชนะเขาได้ เราอาจไม่มีพลังพอจะเอาชนะเขาได้”

อีกสองคนเห็นด้วย

แม้ต้องสูญเสียในการต่อสู้ไปมาก แต่ก็ยังมีคลื่นนักสู้ชั้นเซียนพร้อมจะเดินหน้าเข้าไปในป้อมปราการประตูเดี่ยว  การสู้แต่ละครั้งดูเหมือนจะทอดเวลานานออกไปอีกจนเวลาเกือบสองชั่วโมง อาจได้ข้อสรุปว่าศัตรูที่อยู่ภายในฐานกำลังดิ้นรนต่อสู้

เซียนทุกคนนับถือที่นักสู้ผู้คุ้มกันทางเข้ายังยืนหยัดต่อสู้ภายในป้อมได้เป็นเวลานาน แม้แต่บุรุษเหล็กคงไม่สามารถอยู่ได้นานภายใต้สถานการณ์ต่อสู้ที่เข้มข้นเช่นนี้  พวกเขาเชื่อว่าศัตรูจะพ่ายแพ้ในเวลาไม่ช้า

ดังนั้นทุกคนกำลังแข่งขันกันแย่งเข้าไปในป้อมปราการพวกเขาเดิมพันความหวังทุกอย่างว่าพวกเขาจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จเอาชนะคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวได้

ทางเข้าป้อมปราการประตูเดียวตอนนี้สับสนวุ่นวาย  แม้แต่เซียนเองก็ทะเลาะแก่งแย่งกันเข้าไปในประตูให้ได้ก่อน  ในความสับสนวุ่นวายนั้น แม้แต่เริ่นหรูไห่ที่เป็นนักสู้ผู้น่ากลัวก็ยังไม่กล้าดูเบา

“นอกจากนี้เราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไป”  ถงเก๋อตอบ “อย่าลืมสิ, ในนั้นยังมีฟู่จงซานและหยางเฮ่าหรัน  พลังของพวกเขาน่ากลัวเช่นกัน เราจะประมาทพวกเขาไม่ได้  ถ้าพวกเขาร่วมกำลังกันตอบโต้  ก็อาจน่ากลัวก็เป็นได้”

“นั่นก็ถูก” เริ่นหรูไห่พยักหน้าและตอบ “เราจำเป็นต้องหานักสู้ชั้นแนวหน้าที่กล้านำบุกเข้าไป

เวลานั้นกับดักทางเข้าขยายตัวอย่างรวดเร็วครอบคลุมจวนที่ทำการทั้งหมด

“น่าเสียดาย,คนที่อยู่ภายในมีโอกาสพักฟื้นก่อนได้ต่อสู้ทุกครั้ง”  ถงเก๋อกล่าวคนภายนอกส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับลักษณะพิเศษของป้อมปราการประตูเดี่ยวแล้ว ป้อมปราการสามารถดูดซับพลังงานขนาดใหญ่ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากการต่อสู้ในแต่ละครั้งก่อเกิดเป็นแนวชั้นป้องกัน

คนโดยรอบถอนหายใจได้ยินชัด พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าทันทีที่พวกเขาส่งคนเข้าไปเพิ่ม ผู้เฝ้าประตูคงไม่สามารถทนอยู่ได้นาน  เมื่อพวกเขาคิดว่าจะชนะในชั่วอึดใจก็เกิดชั้นพลังป้องกันเพิ่มขึ้น

ป้อมปราการประตูเดี่ยวเป็นโครงสร้างปราการที่แปลกประหลาด

ทันใดนั้นถงเก๋อให้ความสนใจคนหนึ่งในฝูงชนนั้น

เขาเป็นคนหนุ่มสวมชุดขาวมีสีหน้าเยือกเย็นยืนอยู่ในท่ามกลางกลุ่มผู้คนเด่นสะดุดตายิ่งนัก  ถงเก๋อหรี่ตา เขาจำบุรุษหนุ่มคนนี้ได้

บุรุษหนุ่มรู้สึกถึงสายตาของเขาและหันมามองทางถงเก๋อ  เขาเดินเข้ามาหา

เริ่นหรูไห่และคนที่เหลือก็มองเห็นบุรุษผู้นั้นเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นสัญลักษณ์ที่อกเสื้อของบุรุษหนุ่มผู้นั้น  ทุกคนผงะ เขามาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ

ขณะที่บุรุษหนุ่มชุดขาวเดินเข้าหาถงเก๋อและถาม  “เย่เฉาเกออยู่ที่ไหน?”

ถงเก๋อกลับคืนความสงบ  “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบท่านที่นี่  ท่านฝูอิง อย่างไรก็ตามคำถามท่านก็ทำให้ข้าตะลึงเหมือนกัน ข้าหวังว่าท่านจะไม่คิดว่าข้าคือคนที่อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปครั้งนี้”

“เจ้าไม่มีความสามารถพอจะทำเช่นนั้น”  ฝูอิงตอบ

“ดูเหมือนเย่เฉาเกอจะเป็นที่โปรดปรานของผู้อาวุโสหรงปัวอย่างแท้จริง  ถึงขนาดส่งท่านฝูอิงมาที่นี่  ข้าไม่กล้าหลอกท่านแน่นอน  ถ้าข้าได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับเขา  ข้าจะบอกท่านเอง”  ถงเก๋อตอบ

เริ่นหรูไห่และหลี่รั่วได้แต่เงียบด้วยความกลัว

ฝูอิงยังคงเงียบขณะที่เขาหันหลังเดินจากไป

“ข้าไม่เคยคาดเลยว่าเขาจะมา”  ถงเก๋อตอบ “เรื่องจะไปกันใหญ่”

“เขามาที่นี่เพื่อตามหาเย่เฉาเกอ”  หลี่รั่วลนลานอุทาน

เริ่นหรูไห่หน้าซีด

ฝูอิงมักจะอยู่ในแนวหน้า เขาคือหัวหอกของสมาพันธ์ชาวยุทธและมีฉายาว่าเพชฌฆาตอิง  ในบรรดาเซียนบรอนซ์ เขาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดมีเซียนบรอนซ์นับไม่ถ้วนที่ตายภายใต้กระบี่ของเขา

ทุกคนคาดไม่ถึงเลยว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นจะมายังเมืองหานกู่

หลังจากนั้นไม่นานที่ฟู่อิงเข้ามายังร้านอาหารเมืองหานกู่ เมื่อเขาออกจากร้านอาหารไป เขาได้หัวหอกกลุ่มดาวเบเรนิสไว้ในมือ

เขาควงหัวหอกดาวเบเรนิสขณะที่เดินไปไปรอบๆเมืองหานกู่อย่างไม่มีจุดหมาย

เมื่อต้องทนอุดอู้อยู่ในป้อมปราการตลอดทั้งวัน  ถังเทียนแอบเล็ดลอดเข้าไปในจวนที่ทำการ  แม้จะถูกป้อมปราการประตูเดี่วยผนึกเอาไว้แต่ปิงก็สร้างทางลับสัญจรเอาไว้ ปิงสร้างทางเข้าลับเพื่อให้ถังเทียนเข้าออกฐานได้  แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ทำเช่นนี้ แต่ป้อมปราการประตูเดี่ยวในปัจจุบันแข็งแกร่งเพียงพอต่อการแทรกซึมดังกล่าวได้

ตอนแรกการเฝ้าป้องกันป้อมปราการประตูเดี่ยวดูเหมือนจะเป็นงานที่น่าสนใจสำหรับถังเทียน  อย่างไรก็ตามเขาเกิดความเบื่อมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเล่ห์เหลี่ยมหรือกลโกงปิงสามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่ว่าเซียนทุกคนมีครอบครัวต้องเลี้ยงดู   เซียนบางส่วนเลือกเส้นทางสันโดษแทน  ดังนั้นเมื่อเผชิญกับบุคคลที่ยากจะรับมือต่างๆเช่นนี้ ปิงจะใช้การหลอกล่อต่างๆ นานาเพื่อให้พวกเขาเข้าร่วมกับเขา

“ร่มนี้สวยจริงๆ เลยนะ  เป็นอาวุธปรับแต่งชั้นบรอนซ์ระดับต่ำหรือเปล่า?ไม่ ไม่ นี่ต้องเป็นอาวุธบรอนซ์ระดับกลางแน่นอน”

“ดูสิ ร่างวิญญาณน่ารักดี, เขาชื่อเสี่ยวเอ้อเป็นร่างวิญญาณชนิดแรกที่สามารถสร้างสมบัติจิตวิญญาณได้!”

“พวกท่านอาจจะนึกไม่ถึง แต่เขาสามารถสร้างสมบัติจิตวิญญาณได้อย่างเชี่ยวชาญแน่นอน  เขามีพรสวรรค์เชี่ยวชาญด้านสมบัติวิญญาณ!”

หน้าของเสี่ยวเอ้อดำเหมือนก้นหม้อ เขาหงุดหงิดที่ถูกทำเหมือนเป็นสินค้าที่แสดงให้ทุกคนดู

โธ่เว้ย...

ทำไมมันแตกต่างจากที่ข้าคิดเอาไว้อยู่เรื่อย? ทำไมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างถึงได้ลงเอยอย่างผิดพลาดโดยไม่คาดคิดจนควบคุมไม่ได้

ปัญหาคืออะไรกันแน่?

เสี่ยวเอ้อหน้ามุ่ยขณะที่คิดถึงเรื่องที่ผิดพลาด

ช่วงสองสามวันมานี้ฟู่จือหงรู้สึกเหมือนกับว่านางกำลังฝัน นางไม่เคยคาดว่าจะได้เห็นวันที่เซียนของจวนที่ทำการจะมีความมุ่งมั่นเหมือนอย่างวันนี้

ภายในวันเดียวเซียนเก้าคนก็สมัครเข้ามาร่วมด้วย กำลังที่รวบรวมได้อย่างรวดเร็วช่างดูน่ากลัวจริงๆ

ฟู่จงซานและหยางเฮ่าหรันที่ตอนแรกไม่เชื่อมั่นในถังเทียนแต่ตอนนี้กลับเชื่อมั่นเขาอย่างสนิทใจ ตอนนี้มีเซียนสิบสองคนอยู่ในจวนที่ทำการแล้ว

นี่คือกองกำลังที่น่ากลัว

ขณะที่เดินไปตามถนนยามราตรีความรู้สึกหนาวเหน็บยาวราตรี ทำให้พลังวิญญาณของถังเทียนถูกปลุกเร้า  ตอนแรกเขาเตรียมจะสู้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจนป่านนี้แล้วเขายังไม่ได้ออกแรงแม้แต่หมัดเดียว  แม้แต่กล่องตราพลังต้นกำเนิดที่เขาเตรียมไว้ก็ยังไม่ได้ใช้

ขณะที่กับดักทางเข้าขยายออกไป  เซียนทุกคนก็พากันถอย  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถนนยังคงเงียบ

ถังเทียนยังเดินวิเคราะห์ต่อไป

เจ้าบัดซบนั่น(พ่อ) ยังอยู่หรือว่าตายแล้ว?  เขารู้สึกงงกับความรู้สึกของเขา  ในอดีตเขารู้สึกแต่เพียงว่าเกลียดชังเขาแต่เมื่อถังเทียนรู้เรื่องเขามากขึ้น ความเกลียดในหัวใจของถังเทียนค่อยๆ ลดลง  แม้จะยังไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างเต็มที่ แต่เขารู้สึกถึงเรื่องโยงใยที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลัง  อดีตต้องมีอันตรายและซับซ้อนมากกว่าตอนนี้

หลังจากผ่านไปหลายปีแล้ว  เขาตายแล้วหรือว่ายังมีชีวิต?

เชียนฮุ่ยดูเหมือนจะรู้บางอย่าง  นางรู้เรื่องดวงตาเซกซ์แทนส์  บางทีข้าควรถามนางในครั้งต่อไป

สายตาของถังเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เพียงเมื่อเขาเห็นบุรุษสวมชุดขาวเดินเข้ามาจากนั้นให้ความสนใจเขา

“พาเย่เฉาเกอมาให้ข้า”  ฝูอิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ

เป็นพวกสมาพันธ์ชาวยุทธนั่นเอง

ถังเทียนตอบ  “เย่เฉาเกอตอนนี้เป็นเชลยของข้า  ตราบใดที่เจ้าจ่ายค่าไถ่มา ข้าจะคืนเขาให้เจ้า”

“ค่าไถ่?” ฝูอิงจ้องถังเทียนพลังฆ่าฟันเพิ่มขึ้นพร้อมกับที่เขายกมือขวา  “หาที่ตาย”

ฝ่ามือของเขาฉายรังสีแสงที่คมกล้าและเจิดจ้าเหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อยที่ไม่มีใครกล้ามองโดยตรง

ฝ่ามือเพชฌฆาต!

รังสีดาบระยิบระยับพุ่งข้ามถนนเหมือนกับงูเลื้อยตรงเข้าหาถังเทียน

ถังเทียนรู้สึกถึงอันตรายทันทีเมื่อฝูอิงยกฝ่ามือ  เขาตะโกนทันที “เสี่ยวเอ้อ!”

ร่มคันหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้ารังสีดาบ

ประกายแสงนุ่มนวลฉายออกมาจากผิวร่ม  ร่มหยาหยาเริ่มหมุนเป็นวังวน

ปัง!

พลังแสงจากร่มทำให้ถังเทียนและเสี่ยวเอ้อผงะ  ทั้งสองถูกพลังรุนแรงกระแทกถอยหลัง

โชคดีรังสีที่คล้ายกับงูถูกสะท้อนเบี่ยงเบนวิถีส่งตรงขึ้นไปบนฟ้า

วีดดดด

รังสีแสงแหวกผ่านท้องฟ้าเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ

เมืองหานกู่ตกอยู่ในความเงียบทันที  เซียนทุกคนตกตะลึงกับเสียงแหลมหวีดหวิวนั้น

พลังแสงนั้นแข็งแกร่งรุนแรงที่แม้แต่ภูเขาหิมะบนผิวร่มหยาหยาก็ยังพังทลายไปครึ่งหนึ่ง

พลังที่น่ากลัวนี้สร้างความเกรงขามให้กับถังเทียน  เขาอุ้มเสี่ยวเอ้อที่บาดเจ็บและใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาหนีหายไป

เคลื่อนย้ายในพริบตา?  ฝูอิงประหลาดใจกับวิชาหายตัวของถังเทียน

เซียนส่วนใหญ่ไม่มีวิชารับมือเคลื่อนย้ายในพริบตา แต่สำหรับฝูอิงซึ่งเคยสังหารยอดฝีมือชั้นสูงทั้งหลายมาก่อนมันเป็นเรื่องเล็กสำหรับเขา ระยะของเคลื่อนย้ายพริบตานั้นสั้น เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถอยไปได้ไกลเกิน

เขาเหาะขึ้นไปบนฟ้าและหลับตาขณะที่พยายามขยายความรู้สึกออกไป

ทันใดนั้นเขาลืมตาและยกฝ่ามือไปตรงตำแหน่งอาคารที่ห่างออกไป70 เมตร

คลื่นรังสีดาบพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา  เมื่อรังสีถูกยิงออกมาจากฝ่ามือของเขาก็หายไปในอากาศที่เบาบาง ทันใดนั้นรังสีดาบไปปรากฏอยู่ในระยะ 70 เมตรห่างจากฝูอิงและกลืนบ้านทั้งหลังที่อยู่ในวิถีโจมตี

บึ้ม!

ทุกอย่างในระยะสิบเมตรจากระยะโจมตีไหม้เกรียม  สิ่งที่เหลือก็คือหลุมที่ไฟไหม้

ฟู่อิงลูบคิ้วด้วยความตกใจ  เขาพลาด

ในชั่ววับเดียวฝูอิงเทเลพอร์ตผ่านระยะร้อยเมตรมาข้างหน้า  และหยุดเพื่อโจมตีไปข้างหน้าอีกครั้ง

บึ้ม!

วิชาที่น่ากลัวฉีกแผ่นดินที่อยู่ใต้เขาทุกสิ่งที่อยู่ในเส้นทางผ่านของเขามอดไหม้หมด ขณะที่เซียนเผ่นออกมาจากบ้านของพวกเขา พวกเขาเตรียมโกรธใส่เขา แต่เมื่อพวกเขาเห็นเครื่องหมายสมาพันธ์ชาวยุทธ พวกเขาก็เงียบทันที

ฝูอิงไม่สนใจพวกเขายังคงมองหาต่อไป  การโจมตีใส่ถังเทียนของเขาพลาดอีกครั้ง

ศัตรูของเขามีสัญชาตญาณที่แข็งแกร่ง  ฝูอิงคิดและนอกจากนี้เขาสามารถเบี่ยงวิถีพลังโจมตีของฝูอิงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ  เขาแข็งแกร่งมากกว่าที่ฝูอิงคิด

เขาโฉบอยู่ในกลางอากาศขณะที่พยายามรู้สึกถึงเป้าหมายโดยไม่ประสบความสำเร็จ

เป็นไปไม่ได้!

เขาจับปราณของเป้าหมายได้แล้ว  ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ในเมืองหานกู่พวกเขาจะไม่มีทางหลบหนีจากการค้นหาของเขาไปได้

ฝูอิงยังคงหาต่อไปและแสงม่านพลังสะดุดความสนใจของเขา เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถส่งความรู้สึกเข้าไปในม่านพลังนี้  ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็มีความเป็นไปได้ประการเดียว!

เป้าหมายของเขาซ่อนตัวอยู่ในกับดักทางเข้า!

แม้ว่าป้อมปราการที่อยู่ต่อหน้าของเขาจะดูแปลกประหลาด แต่เขาไม่ได้พิจารณาถึงผลที่จะเกิดตามมาถ้าเขาโจมตีใส่

ในเมื่อมันซ่อนตัวอยู่ในกระดองเต่า  ข้าจะเป่าให้มันกระจายเป็นเศษซาก

เขายกฝ่ามือขวาเล็งไปที่ทางเข้าป้อมประตูเดี่ยว  ฝ่ามือเพชฌฆาต!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด