ตอนที่ 23 การช่วยเหลือฮิมาวาริและการแทรกแซงภารกิจ
เมื่อความกังวลจางหายไป บาโคริโอะเริ่มมองเห็นสถานการณ์ในห้องได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทำให้ฮิอาชิและฮินาตะมองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ เพราะก่อนหน้าที่เขาจะกลับมาที่จุดเซฟนี้เขาพึ่งทำให้ฮิมาวาริตายด้วยมือของเขาเอง
บาโคริโอะเมินเฉยต่อสายตาที่พวกเขามองมา และเริ่มอธิบายอีกครั้งถึงวิธีที่คิดออกเพื่อช่วยชีวิตเธอ และในที่สุดฮิาชิก็ตกลงอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินฮินาตะขอให้ช่วย ดังนั้นบาโคริโอะจึงหันไปสนใจฮิมาวาริที่กำลังหลับอยู่
ตอนนี้บาโคริโอะรู้แล้วว่าการควบคุมจักระและเปลี่ยนจักระเป็นพลังงานทางกายภาพ จากนั้นจึงช่วยผสานเข้ากับพลังงานทางร่างกายและจิตวิญญาณของเธอในตอนนี้นั้นยากเพียงใด เขามาพร้อมกับวิธีแก้ปัญหาที่ดูง่ายแต่สมบูรณ์แบบ
'ถ้าสองมือไม่พอใช้ก็ใช้สี่และถ้ายังไม่พอใช้หกมือ' เขาคิดและใช้คาถาร่างแยกเงา สร้างร่างแยกขึ้นมาอีกสองร่าง ฮิอาชิแะลฮินาตะต่างตกใจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร
บาโคริโอะรีบชี้ไปที่ร่างแยกร่างหนึ่งและพูดว่า "นายจะต้องรับผิดชอบในการเปลี่ยนจักระเป็นพลังงานทางกายภาพ" จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ร่างแยกตัวที่สอง "ส่วนนายจะต้องรับผิดชอบในการเพิ่มจักระ และฉันจะจัดการกับส่วนที่เหลือเอง และถ้ามีอะไรจำเป็นจริงๆพวกนายทั้งคู่จะต้องมาช่วยฉันก่อน"
ร่างแยกทั้งคู่พยักหน้าและทั้งสามคนก็เปิดใช้งานเนตรวงแหวนและวางมือบนท้องของฮิมาวาริก่อนที่ร่างแรกจะเริ่มเพิ่มจักระของคุรามะเข้าไปตามสัญญาที่บาดคริโอะร่างต้นบอก
ร่างแยกคนที่สองเริ่มเปลี่ยนให้เป็นพลังงานทางกายภาพอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากครั้งนี้พวกเขาเพิ่มจักระเข้าในปริมาณที่เหมาะสม จึงไม่ถูกพลังงานทางวิญญาณครอบงำเพราะมากเกินไปหรือน้อยเกินไปจนทำให้จักระที่เหลือของเธอหายไป
บาโคริโอะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาพลังงานทั้งสองให้สมดุลและก่อนที่จักระจะเริ่มถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง คราวนี้จักระที่มีพลังบางอย่างเริ่มถูกดูดซับโดยร่างกายของฮิมาวาริอย่างช้าๆ เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตบางส่วนของเธอที่หายไป และไม่นานนัก ผิวที่ซีดของเธอก็ค่อยๆกลับมาเป็นสีผิวปกติเหมือนคนทั่วไป
เมื่อเห็นว่าร่างกายของเธอกลับมาทำงานเป็นปกติ เขาจึงหยุดรักษาสมดุลเนื่องจากร่างกายของเธอสามารถปรับตัวเองได้อีกครั้งโดยอัตโนมัติและบาโคริโอะทำให้ร่างแยกของเขาสลายไป
บาโคริโอะหันไปหาฮินาตะและฮิอาชิแล้วยิ้ม "ได้ผล แล้วล่ะ"
"ยอดมาก!" "น่าทึ่งจริงๆ!" พวกเขาทั้งสองพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขและตื่นเต้นขณะที่พวกเขารีบวิ่งไปที่ด้านข้างของฮิมาวาริและมองดูผิวสีอมชมพูของเธอ
“ขอบคุณมาก ข้าไม่รู้จะตอบแทนเจ้ายังไงจริงๆ” ฮิอาชิพูดด้วยท่าทางขอบคุณ
"ขอบคุณมากนะพี่ชาย" ฮินาตะพูดด้วยท่าทางที่มีความสุขและเขินอาย
"ด้วยความยินดี แต่นี่ช่วยเธอได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น ยังต้องใช้เวลาในการรักษาเธออีกนานเพื่อให้หายขาด ดังนั้น เพื่อความแน่ใจเธอจะต้องไม่มีลูกอีกจนกว่าจะถึงตอนนั้น" บาโคริโอะพูดพร้อมกับมองฮิอาชิด้วยสายตาที่คล้ายกับจะรู้อะไรบางอย่าง
"ได้ ฉันจะรอจนกว่าวันที่เธอจะหายจนเป็นปกติ" ฮิอาชิตอบอย่างจริงจังเพื่อซ่อนความลำบากใจของเขา
“เอาล่ะ เธอน่าจะใกล้ตื่นแล้ว ตอนนี้ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำอยู่ ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ” บาโคริโอะพูดโดยตั้งใจว่าจะปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเป็นการส่วนตัว
"ขอบคุณมาก ไว้ข้าจะส่งคนติดต่อเจ้าไปอีกครั้ง" ฮิอาชิพูดและยอมรับข้อตกลงของบาโคริโอะ เนื่องจากเขาต้องการมีใช้เวลากับภรรยาและลูกสาวของเขาและจริงๆ หลังจากที่ผ่านความทุกข์มาได้
เมื่อออกจากบ้านของตระกูลฮิวงะ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่า 'ครอบครัว งั้นเหรอ...'
-----------------------------
วันต่อมา เขาไปถามฟุงาคุเกี่ยวกับเรื่องของชิซุย เพราะเขากังวลว่าดันโซอาจทำอะไรที่คาดเดาไม่ได้ แต่เขาประหลาดใจกับสิ่งที่ฟุงาคุพูดว่า "ตอนนี้ชิซุยไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน อิทาจิขอความช่วยเหลือจากเขาเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ"
'ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วสินะ' บาโคริโอะคิดในขณะที่เริ่มจำบางอย่างที่เขาเคยอ่านเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของอิทาจิได้ แต่เขาถามเพื่อยืนยันอีกครั้วว่า "โอ้ อิทาจิไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จได้ด้วยพลังในตอนนี้ของเขางั้นเหรอ?" เพราะตอนนี้อิทาจิอยู่ในระดับเดียวกับโจนินแล้ว
ฟุงาคุพยักหน้า "ตามที่ฉันรู้ มันเป็นภารกิจระดับ S ที่ดันโซมอบให้แต่ฉันไม่รู้รายละเอียดของภารกิจนั้นเท่าไหร่นัก"
“เข้าใจแล้ว ผมมั่นใจว่าสองคนนั้นจะไม่เป็นไร ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับนินจาระดับคาเงะ” เขาพูดเพื่อให้ฟุงาคุมั่นใจ
“ฉันก็หวังอย่างนั้น” ฟุงาคุถอนหายใจเมื่อเขารู้ว่าไม่สามารถควบคุมลูกชายของเขาได้อีกต่อไป
"ผมจะไปฝึกกับนารูโตะและซาสึเกะสักพัก ถ้าพวกเขากลับมาช่วยเรียกผมด้วยนะ" บาโคริโอะพูด
"ได้" ฟุงาคุตอบ บาดคริโอะรีบออกไปพร้อมกับส่งร่างแยกไปกับซาสึเกะและนารูโตะ ในขณะที่ร่างจริงของเขามาถึงสถานที่ลับอย่างรวดเร็ว เขามักใช้ที่นี่เพื่อออกจากหมู่บ้านและเป็นครั้งแรกที่เขาจะออกจากหมู่บ้านด้วยร่างจริงของเขา
ถ้าฉันจำไม่ผิดอิทาจิถูกส่งไปลอบสังหาร โคอินาตะ มุไก ชายผู้เคยเป็นหน่วยลับแต่หลังจากที่ลูกคนหนึ่งของเขาป่วย เขาเริ่มทำงานเป็นสายลับสองหน้าและเปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดจำนวนมากไปยังหมู่บ้านคิริงาคุเระ เพื่อหาเงินมาช่วยรักษาอาการป่วยของลูก
แต่มุไกนั้นเขาจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายก่อนที่ ชิซุยจะสามารถควบคุมเขาได้อย่างสมบูรณ์ด้วยความสามารถของเขา
เมื่อบาโคริโอะเรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับชายคนนี้แล้ว เขาจึงใช้ประสาทสัมผัสที่แข็งแกร่งของเขาติดตามกลิ่นกับร่องรอยของอิทาจิ และเริ่มติดตามพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
'ฉันต้องรีบไป ไม่งั้นจะไม่ทัน' บาโคริโอะคิดพร้อมกับเร่งความเร็วให้มากที่สุด
3 ชั่วโมงต่อมา ขณะที่บาดคริโอะกำลังกระโดดจากต้นไม้หนึ่งไปยังอีกต้นไม้หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ จึงรีบมุ่งหน้าไปทางนั้น และมันก็ทันเวลาพอดีที่ได้เห็นมุไกทำให้อิทาจิเคลื่อนไหวไม่ได้โดยใช้วิชามวยอ่อนของตระกุลฮิวงะ และชิซุยก็วิ่งจากด้านหลังมุไก เพื่อช่วยอิทาจิ
'ทันเวลาพอดี' เขาคิดว่าหลังจากนี้ในต้นฉบับ มุไกจะคว้าคอชิซุยและบีบคอเขา ส่วนชิซุยจะตอบโต้ด้วยความสามารถของ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา วิชาเทพต่างสวรรค์
ขณะที่มุไกกำลังจะคว้าตัวชิซุย บาโคริโอะรีบใช้วิชาผนึกและใช้วิชาบอลเพลิงของเขา ซึ่งมุไกก็สลายบอลเพลิงได้โดยใช้วิชามวยอ่อน แต่ชิซุยได้ถอยหนีออกไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ขณะที่บาโคริโอะกระโดดลงมาที่อิทาจิที่ยังเคลื่อนไหวไม่ได้แล้วพยุงเขาขึ้นมา
อิทาจิและชิซุย ต่างตกใจกับการปรากฏตัวของบาโคริโอะในตอนนี้
"ไง คุณอิทาจิ ผมไม่คิดว่าจะเจอคุณในสภาพแบบนี้" บาโคริโอะพูดกับอิทาจิที่ตกใจด้วยรอยยิ้มพร้อมกับแบกไว้บนหลังของตัวเขา
มุไกมองไปที่การพัฒนาที่แปลกประหลาดของเด็กคนนี้พร้อมกับขมวดคิ้วและรู้สึกว่าเขาต้องการอะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวเขารอดจากสถานการ์ณตอนนี้ไปได้