ตอนที่แล้วตอนที่ 15-37 ช่วยเหลือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-39 เผ่นเพื่อชีวิต

ตอนที่ 15-38 อสูรอะเมทิสต์น้อย


แม้ว่าพวกเขาจะประหลาดใจจาร์ร็อดและการ์แลนด์ก็รู้สึกกลัวพลังของกลุ่มลินลี่ย์นับว่าถูกแล้ว

“เฮ้, การ์แลน พวกเจ้าทั้งสองคนคงจะอยู่ในภูเขาอะเมทิสต์มานานแล้วใช่ไหม?”  บีบีหัวเราะขณะถาม  การ์แลนและจาร์ร็อดมองหน้ากันเองตาของพวกเขามีแววจำนน

การ์แลนถอนหายใจ  “ถูกแล้ว เราอยู่ที่นี่มานานแล้วอย่างน้อยก็ร้อยล้านปี”

“เกินกว่าร้อยล้านปี?”  กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง

ร้อยล้านปี!

วลีง่ายๆ  แต่เป็นตัวเลขที่มากมายเหลือเกิน  ลินลี่ย์อยู่มาเพียงสองศตวรรษและยังห่างจากร้อยล้านปีอยู่มาก

จาร์ร็อดพูดจริงจัง  “ในอดีตการ์แลนกับข้าก็เผชิญกับสถานการณ์หมอกขาวเช่นกัน ดังนั้นเราจึงถูกนำเข้ามาในภูเขาอะเมทิสต์อย่างไม่เต็มใจ  วันนั้นอสูรอะเมทิสต์ตื่นเต้นกันมาก  พวกมันฆ่าคนไปมากมาย  แต่เราสองคนโชคดีเอาตัวรอดได้  ตอนนั้นข้าเป็นเทพแท้ขณะที่การ์แลนเป็นเทียมเทพ หลังจากผ่านไปหลายปีการ์แลนและข้าก็ฝึกฝนจนถึงระดับเทพชั้นสูง  แต่เพราะเวลาผ่านไปนานมากเกินไปเราทั้งสองคนจึงไม่ใส่ใจกับการนับอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเครื่องหมายร้อยล้านปีผ่านไปนานแล้ว”

ลินลี่ย์ตกใจ

เลื่อนจากเทียมเทพไปเป็นเทพชั้นสูงสำหรับคนทุกคนถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่ต้องใช้ไป

“หรือว่าพวกท่านไม่ต้องการจากไป?”  ลินลี่ย์มองดูพวกเขาขณะพูดอย่างจริงจัง  “หรืออาจเป็นไปได้ว่าภูเขาอะเมทิสต์นี้ เป็นเข้าได้อย่างเดียวแต่ไม่สามารถจากไปได้”

เมื่อเขาได้ยินผู้คนพูดกันที่ชายขอบของทะเลหมอกลินลี่ย์เชื่อเพียงครึ่งเดียว

ขณะที่ลินลี่ย์เห็น ไม่มีใครที่เก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ลึกเข้าไปในทะเลหมอก พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเป็นเช่นไร?  แม้แต่เขาเองก็เข้ามาในภูเขาอะเมทิสต์  ลินลี่ย์ก็ยังยึดมั่นกับความหวังลมๆ แล้งๆ

เขาเชื่อว่าเขายังมีโอกาสจากไปได้

“ใช่แล้ว เมื่อเจ้าเข้ามาในนี้เจ้าไม่สามารถจากไปได้” จาร์ร็อดพูดยืนยันหนักแน่น

“พวกท่านไม่สามารถจากไปได้จริงๆ หรือ?”  ลินลี่ย์ตะลึง

เขาต้องติดอยู่ในนี้ตลอดไปหรือ?

เดเลียที่อยู่ใกล้ๆมองดูลินลี่ย์เมื่อรู้ว่าลินลี่ย์ต้องการเดินทางไปแคว้นอินดิโกเพื่อไปเยี่ยมบรรพบุรุษตระกูลบาลุค  เดเลียถามทันที  “จาร์ร็อด!  ทำไมท่านท่านถึงแน่ใจนักเล่า?  ภูเขาอะเมทิสต์กว้างใหญ่มาก มีคนแตกต่างมากมายที่นี่  ไม่มีสักคนเดียวที่จากไปได้หรือ?”

สตรีผมน้ำตาลการ์แลนกล่าวปลอบโยน  “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่ยินดียอมรับผลเช่นนี้  แต่นี่เป็นความจริง”

“ประการแรกเลยแรงโน้มถ่วงในภูเขาอะเมทิสต์ทรงพลังมาก”  การ์แลนกล่าว “กล่าวโดยทั่วไปก็คือเทพชั้นสูงไม่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดได้เลยแม้แต่น้อย”

เดเลียและลินลี่ย์พยักหน้ากันทั้งคู่

เดเลียเป็นเทพชั้นสูง  แต่นางไม่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดนี้ได้  แม้ว่าร่างกายของลินลี่ย์จะแข็งทนทาน  แต่เขาก็ยังไม่สามารถต่อต้านแรงดึงดูดบินออกไปข้างนอกไม่ได้

การ์แลนพูดต่อ  “ภูเขาอะเมทิสต์คงอยู่มาเป็นเวลายาวนาน  หลายคนที่เข้ามาในพื้นที่อันตรายแห่งนี้ได้เข้าถึงพลังระดับสูงล้ำ ส่วนใหญ่เทียบได้กับอสูรห้าดาว อสูรหกดาวราวๆ นั้น ครั้งหนึ่งมีเทพชั้นสูงที่ทรงพลังสามารถต่อต้านแรงโน้มถ่วงได้และพยายามจะบินออกไปข้างนอก”

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

“เขาสามารถต้านทานแรงโน้มถ่วงได้ แต่เมื่อเขาไปถึงพื้นที่ซึ่งมีลมแปลกประหลาดพัด  เขาได้รับผลจนศีรษะของเขามึนงง  แม้ว่าเขาจะสามารถรักษาสติไว้ได้  เขาอยู่ในกลางอากาศเป็นเวลาหลายสิบปีโดยไม่สามารถหางออกไปได้!”  การ์แลนกล่าว

บีบีพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ  “หลายสิบปีหรือ?  ในพื้นที่ซึ่งทำให้มึนหัวน่ะหรือ?”

“ใช่แล้ว อย่างไรก็ตามพื้นที่นั้นแปลกประหลาดมาก ไม่ใช่แค่สร้างความสับสนเท่านั้น  แม้แต่วิญญาณก็ยังได้รับผลไปด้วย  ดังนั้นจึงไม่มีทางบินออกไป”  การ์แลนส่ายศีรษะขณะกล่าว

ลินลี่ย์ปวดใจอย่างช่วยไม่ได้

แม้แต่ยอดฝีมือผู้สามารถต่อต้านแรงดึงดูดก็ยังไม่สามารถบินออกไปได้  แล้วลินลี่ย์จะทำอะไรได้?

จาร์ร็อดถามอย่างประหลาดใจ  “หลังจากนั้นก็ยิ่งแปลกประหลาด ยอดฝีมือเลิกความตั้งใจออกไปจากภูเขาอะเมทิสต์    แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายไปอย่างไม่มีเหตุผล”

“หายไปอย่างไม่มีเหตุผล?”  กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนตกใจ

การ์แลนพยักหน้า  “ถูกแล้ว, ไม่ใช่แค่เขา หลังจากนั้นทุกคนที่ถึงระดับฝีมือที่สูงส่งจะหายไปทันที  ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาตายหรือว่าหนีไป  หรือว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น”  การ์แลนและจาร์ร็อดก็รู้สึกทึ่งมากเช่นกัน

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว ยอดฝีมือเหล่านี้ผู้เป็นอสูรหกดาวหรือพลังระดับอสูรเจ็ดดาวต้องการจะจากไปแต่ล้มเหลว ไม่มีทางที่พวกเขาจะออกไปได้ด้วยพลังของตนเอง

“ไม่ว่าพวกเขาตายหรือจากไปหรือถูกควบคุมเอาไว้ แต่จะมีกลไกลอยู่หลังฉากที่นี่คอยควบคุมทุกอย่าง”  ลินลี่ย์พูดกับตนเอง

ลินลี่ย์จ้องมองภูเขาอะเมทิสต์

เขายังคงมีความรู้สึกว่าภูเขาอะเมทิสต์มีความแปลกประหลาดในตัวเองมาก  ‘แก่นวิญญาณ’ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของวิญญาณ แต่ภูเขาอะเมทิสต์กลับผลิตอะเมทิสต์ออกมาได้จริง  นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึง

นอกจากนี้ยังมีหมอกขาวซึ่งครอบคลุมไปทุกพื้นที่,เสียงลมที่แปลกประหลาด และแรงโน้มถ่วงที่แปลกประหลาด

และนอกจากนี้ถ้ำที่ดึงดูดเข้าและพ่นออกเป็นครั้งคราว

เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ทำให้เขาสบายใจเลย

“การ์แลน, จาร์ร็อด”  บีบีชี้ไปที่รอยแยกไกลๆ “ท่านเคยเห็นที่ซึ่งพ่นอะเมทิสต์ออกมาบ้างหรือเปล่า?  เกิดอะไรขึ้นกับถ้ำในรอยแยก?   บางทีมันพ่นสิ่งต่างๆ ออกมา และบางครั้งก็หยุดแต่จากนั้นก็เริ่มดูดกลืนกินสิ่งต่างๆ เข้าไป มันคืออะไร?”

“อย่าไปในที่นั้น”  การ์แลนรีบกล่าว  “สถานที่เหล่านั้นเราเรียกกันว่ารังอะเมทิสต์ปีศาจ โดยสรุปก็คือทั่วทั้งเทือกเขาอะเมทิสต์มีรังอะเมทิสต์ปีศาจอยู่ 108 แห่ง

“108 แห่ง?” บีบีจ้อง  “สถานที่ประหลาดนี้มีมากมายจริงๆหรือ?”

การ์แลนรีบกล่าว  “ใช่แล้วรังอะเมทิสต์ปีศาจก็คือแหล่งที่พ่นอะเมทิสต์ออกมา มันจะพ่นอะเมทิสต์ออกมาเป็นปกติ เพียงแต่ปริมาณค่อนข้างน้อยต่างจากวันนี้ที่พวกมันพ่นอะเมทิสต์ออกมามากมาย นอกจากนี้ เมื่อรังอะเมทิสต์ปีศาจหยุดพ่นอย่าได้โลภและเข้าไปในรอยแยกเพื่อเก็บอะเมทิสต์”

“ข้ารู้” บีบีแค่นเสียง  “ข้าเห็นกับตามีคนสี่คนถูกกลืนเข้าไปในถ้ำ  เจนกินที่น่าสงสาร..”  ตาของบีบีเต็มไปด้วยแววเศร้าสร้อย

“มีคนถูกกลืนกินในนั้นด้วยหรือ?”  จาร์ร็อดที่อยู่ใกล้ประหลาดใจจากนั้นเขาพูดทันที  “คนที่ถูกกลืนเข้าไปข้างในคงเป็นผู้มาใหม่ไม่รู้อะไรแน่ในบรรดากระบวนการ พ่น พัก และกลืนของรังอะเมทิสต์ปีศาจ กระบวนการพ่นจะยาวนานที่สุดขั้นตอนพักจะสั้นที่สุด ขณะที่กลืนจะอยู่ในระดับกลาง ไม่เพียงขั้นตอนพักจะมีระยะสั้นที่สุด ช่วงเวลาพักก็แตกต่างกัน ไม่มีรูปแบบหรือกฎเกณฑ์ใดๆและไม่มีใครรู้ว่ามันอันตรายมากเพียงไหนถึงได้กล้ากระโดดลงไป

กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่พยักหน้าเล็กน้อย

พวกเขาเห็นเรื่องนี้กับตาตนเอง  ขั้นตอนพ่นเป็นเวลานานมาก  ขณะที่ขั้นตอนพักแค่เพียงไม่กี่วินาที

“การเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป  ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนพักพวกเจ้าทุกคนก็ใช้ร่างเงามายา หรือมือธาตุเพื่อเก็บอะเมทิสต์ออกมา”  การ์แลนหัวเราะอย่างใจเย็น

ทันใดนั้นลินลี่ย์เข้าใจทันที

ถูกแล้วตัวอย่างเช่น แก่นธาตุดินสามารถสร้างมือยาวเอื้อมไปเก็บได้ แม้ว่าขั้นตอนกลืนจะเริ่มขึ้นทันทีก็ยังไม่มีอะไรที่สูญเสียมาก

“เจนกินและอีกสามคน..เฮ้อ”  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ “แต่เวลานั้นพวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรังอะเมทิสต์ปีศาจ  เมื่อพวกเขาเห็นการพ่นหยุดชะงัก  พวกเขาดีใจและลงไปเก็บรวบรวมอะเมทิสต์”

“ฮ่าฮ่า... ความจริงเก็บอะเมทิสต์ไปจะมีประโยชน์อะไร?” จาร์ร็อดหัวเราะและส่ายศีรษะ “ไม่ว่าพวกเจ้าจะมีอะเมทิสต์อยู่เท่าใด  ก็ไม่มีอะไรนอกจากเสียเวลาเปล่า ที่นี่คือภูเขาอะเมทิสต์ พวกเราจะไม่มีทางออกไปได้ดังนั้นไม่ต้องคิดเลยเรื่องเปลี่ยนอะเมทิสต์ให้เป็นเงินอะซูไรท์และศิลาดำ”

กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง

“ถูกแล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถออกไปได้ จะมีประโยชน์อะไรกับการได้อะเมทิสต์ในเทือกเขาอะเมทิสต์นี้?”  โอลิเวอร์ส่ายศีรษะเช่นกัน

สำหรับยอดฝีมืออย่างลินลี่ย์และโอลิเวอร์ผู้ไม่พอใจกับการใช้ชีวิตตามปกติและชอบท้าทายศัตรูที่ทรงพลังการติดอยู่ในที่เดียวตลอดไปโดยไม่มีทางออกไปได้นับเป็นความทรมานแน่นอน

“ควั่บ” เสียงแหวกอากาศสามารถได้ยินอย่างเลือนราง

กลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนและจาร์ร็อดกับการ์แลนกำลังพักอยู่ในระดับครึ่งหนึ่งของความสูงภูเขา

ไม่มีใคนในพวกเขารู้ว่าอสูรอะเมทิสต์อยู่ในตำแหน่งไหนกันแน่  ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าอาจพักอยู่ในที่นั้นได้

ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์กำลังคุยกันเรื่องภูเขาอะเมทิสต์  ทันใดนั้น...

“โรววววว!”  “โรววววว!”

“ฮาหหห์!  ฆ่า!”

เสียงคำรามของอสูรกลุ่มใหญ่และเสียงต่อสู้ดังกึกก้องอยู่ในป่าเขาต่อเนื่องไม่ขาด  เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้ หน้าของคนในกลุ่มลินลี่ย์ทั้งหกคนเปลี่ยนไปทันที

“อสูรอะเมทิสต์มากมายนัก!”  ลินลี่ย์มองดูแหล่งที่มาของเสียง  เฉพาะเสียงอย่างเดียวลินลี่ย์แน่ใจว่ามีอสูรอะเมทิสต์จำนวนมาก

“มีอสูรอะเมทิสต์อย่างน้อย 20-30 ตัว”จาร์ร็อดรีบบอก  “เราต้องไปกันเดี๋ยวนี้”

ลินลี่ย์เลือกตำแหน่งทันที  “เราจะไปทางนั้น” ไม่มีใครในพวกเขาต้องการเผชิญกับอสูรอะเมทิสต์เหล่านั้นและพวกเขาตามลินลี่ย์ไปด้วยความเร็วสูงทันที ถ้าอสูรอะเมทิสต์สองสามตัวมา กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงฝืนร่วมมือกันได้

แต่ถ้ามากันหลายสิบตัว...

พวกเขาเสร็จแน่นอน  แม้ว่าลินลี่ย์และบีบี เมื่อเผชิญกับการโจมตีของอสูรอะเมทิสต์เป็นกลุ่ม  ก็คงตกอยู่ในอันตราย

“เร็วเข้า” ลินลี่ย์กระตุ้นพวกเขา ขระที่เสียงคำรามอย่างดุร้ายสามารถได้ยินจากด้านหลังพวกเขา

“เจ้าช้ามาก” บีบีคว้ามือโอลิเวอร์ทันที และโอลิเวอร์ได้อาศัยความเร็วบีบีจึงไล่ตามทัน

“พวกเขาไวจริงๆ!”  จาร์ร็อดและการ์แลนตกใจอย่างหนัก ความเร็วของกลุ่มลินลี่ย์ไม่ด้อยไปกว่าเทพชั้นสูงทั้งคู่แม้แต่เล็กน้อย  โดยเฉพาะลินลี่ย์และบีบี... เมื่อร่างของพวกเขาระเบิดพลังความเร็วเต็มที่  พวกเขาจะไวกว่าเล็กน้อย

พวกเขาวิ่งตลอดเวลา หลังจากผ่านไปพักหนึ่งเสียงคำรามดุร้ายก็ไม่ดังจากเบื้องหลังพวกเขา

“เฮ้อ... ในที่สุดเราก็ปลอดภัย”  บีบีโบกมือสวมหมวกฟาง และหมอบลงกับโขดหิน“เฮ้..พักกันตรงนี้เถอะ อสูรอะเมทิสต์ไปคนละทิศทางกับเรา พวกมันไล่ตามเราไม่ทันแล้ว”

ลินลี่ย์และเดเลียนั่งลงเคียงข้างกันโอลิเวอร์หาที่ยืนเงียบๆ ตามปกติ

จาร์ร็อดและการ์แลนมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า  “ทุกคนอย่าใจร้อนเกินไป  คลื่นหมอกจะคงอยู่เพียงวันเดียว นั่นคือวันนี้อสูรอเมทิสต์เหล่านี้จะจะวิ่งล่าอย่างบ้าคลั่ง หลังจากวันนี้ไปอสูรอะเมทิสต์จะกลับไปยังที่ตนเองและเราจะสามารถมีชีวิตอย่างสงบสุขไปนานนับปีไม่ถ้วน”

“ถ้าทุกคนเป็นอย่างวันนี้  ชีวิตคงทุกข์ทรมานแสนสาหัส”  บีบีพึมพำ

“บีบี, แม้แต่เจ้าก็ยังกลัวหรือนี่”  ลินลี่ย์เม้มปากยิ้ม

“ทุกคนคงรู้สึกปวดหัวเมื่อเผชิญหน้ากับตัวประหลาดที่ฆ่าได้ไม่หยุดอย่างนี้”  บีบีพูดอย่างจนใจ

ขณะที่ทุกคนกำลังคุยตามปกติ..

“เฮ้..ทุกคนดู.. เกิดอะไรขึ้นที่นั่น?”บีบีชี้ไปที่ห่างออกไป

กลุ่มของลินลี่ย์จ้องมองในที่ไกลและเห็นในที่ไกลออกไปหมอกขาวกว้างไกลกำลังเคลื่อนไปทางทิศหนึ่งด้วยความเร็วสูงหมอกขาวหายไปเพิ่มทัศนวิสัยให้ลินลี่ย์เห็นได้ไกลขึ้น ในพริบตาหมอกขาวภายในระยะหลายสิบเมตรของที่นี่ก็หายไป

ลินลี่ย์บีบีและพวกที่เหลือทั้งหกคนจ้องมองปากอ้าค้าง

ทั้งหกคนอยู่ในระยะกึ่งกลางความสูงของยอดเขาสามารถเห็นได้ไกลสามในสี่ของระยะทางกิโลเมตร มีกลุ่มอสูรอะเมทิสต์เต็มอยู่ในสายตาเขาตอนนี้    เท่าที่เห็นมีจำนวนเกินพัน  ขณะที่อีกพวกอยู่ลึกลงไปในหมอก

“นี่....นี่....”กลุ่มของลินลี่ย์กลัวจนทำอะไรไม่ถูก

อสูรอะเมทิสต์สองตัวก็ยากจะจัดการด้วยแล้วนี่อสูรอะเมทิสต์เป็นพัน?

“มีคนอยู่ด้วย!  โอว, พวกเขาถูกรายล้อมไว้”  จาร์ร็อดและการ์แลนสีหน้าเปลี่ยน  ลินลี่ย์มองดูอย่างระมัดระวังเช่นกัน

ภายในวงล้อมของอสูรอะเมทิสต์มีคนเป็นร้อย

ภายในกลุ่มของอสูรอะเมทิสต์  มีตัวหนึ่งที่สูงเจ็ดเมตรและยาวยี่สิบเมตรเป็นเบเฮม็อธสีม่วงเหมือนอะเมทิสต์ แต่สิ่งที่สะดุดตาไม่ใช่อสูรอะเมทิสต์ แต่เป็นอสูรอะเมทิสต์อีกตัวหนึ่งที่กำลังยืนอยู่บนหัวเบเฮม็อธอะเมทิสต์

อสูรอะเมทิสต์เด็กยาวแค่เมตรเดียวเทียบกับอสูรอะเมทิสต์อื่น ไม่มีอะไรจะพูดได้

เมื่อหนูกินเทพสู้รบ  พวกเขาอาจเพิ่มขนาดได้เล็กน้อย ซึ่งพวกเขาอาจเทียบเท่าได้กับอสูรอะเมทิสต์เด็กนี้ พูดโดยเจาะจงก็คืออสูรอะเมทิสต์เด็กนี้ควรจะซ่อนตัวอยู่ห่างๆไว้และได้รับการปกป้องอยู่ในรัง

อย่างไรก็ตามอสูรเมื่อเห็นอสูรอะเมทิสต์เด็ก  กลุ่มของลินลี่ย์สั่นสะท้านและไม่ใช่จากความหนาวเย็น

เพราะในขณะนั้นเองอสูรอะเมทิสต์เด็กอ้าปากกว้างหมอกขาวปริมาณมหาศาลถูกกลืนเข้าปากของอสูรอะเมทิสต์เด็ก ต่อมาภายในวงล้อมสิบกิโลเมตรไม่เหลือหมอกขาวให้เห็นแม้แต่น้อย  สิ่งที่แปลกก็คือหมอกขาวในบริเวณอื่นไม่ได้เข้ามาเติมในช่องว่าง

อสูรอะเมทิสต์เด็กลูบท้องน้อยของมันและจากนั้นมันพูดด้วยเสียงชัดสั่นสะท้านโลก “ฮ่าฮ่า มนุษย์เอ๋ย, หมอกขาวที่ล้อมรอบบริเวณอยู่ใต้การควบคุมของข้า  ถ้าเจ้าต้องการเข้าไปในหมอกขาวและหนีไป  ไม่มีทางทำได้อีกต่อไป  พวกเจ้าทุกคนเตรียมตัวเป็นอาหารเสียเถิด”  เสียงดังชัดจากอสูรเด็กนั่น  แต่คำพูดของมันลื่นไหล

กลุ่มของลินลี่ย์ตกใจ

นี่เป็นเพราะอสูรอะเมทิสต์ที่พวกเขาพบ  เมื่อตนพูดจะมีเสียงแข็ง  สติปัญญาของพวกมันยังต่ำเช่นกัน  แต่ของอสูรอะเมทิสต์เด็กแตกต่างออกไป

“ฮ่าฮ่า, เด็กๆ จงฆ่าพวกมันให้ข้า!”    อสูรอะเมทิสต์เด็กตะโกนด้วยความยินดี

ทันใดนั้นอสูรอะเมทิสต์นับไม่ถ้วนเริ่มคำรามทั้งหมดขณะที่พุ่งเข้าหาคนที่ถูกล้อมทั้งหลายร้อย คนหลายร้อยได้รับคำสั่งให้โจมตีอย่างทรงพลังที่สุด ลินลี่ย์บอกได้ทันทีว่าคนทั้งร้อยนี้ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังทุกคนพลังโจมตีที่พวกเขาใช้แฝงไว้ด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับทำให้แม้แต่ลินลี่ย์ประหลาดใจ

ชั่วขณะนั้นตลอดทั้งโลกเต็มไปด้วยเสียงกึกก้องกัมปนาท เสียงคำรามด้วยความโกรธดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ตายซะเถอะ, เจ้าสัตว์ประหลาด!” บุรุษผมขาวคนหนึ่งกำลังควงหอกยาวและเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวสว่างเจิดจ้าพอๆกับดวงอาทิตย์ขณะที่เขาพุ่งแหวกอากาศตรงหาอสูรอะเมทิสต์เด็ก

“อสูรอะเมทิสต์เด็กยิ้มแจ่มใสโบกมือตามปกติยิงลำแสงสีม่วงใส่บุรุษผมขาว เขาร่วงลงจากอากาศตายทันที

“โอว, เจ้ามองหาที่ตายหรอกหรือ?”  อสูรอะเมทิสต์เด็กพูดอย่างเหยียดหยาม

กลุ่มลินลี่ย์ตกใจ

“พลังโจมตีวิญญาณ!”  บีบีตะลึงกล่าว“และแฝงไปด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับอยู่ภายในด้วย”

“อสูรอะเมทสิต์ตนนี้สามารถใช้พลังกฎธรรมชาติโจมตีได้ด้วยหรือ?”  หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน

อสูรอะเมทิสต์เด็กไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดามันแตกต่างจากอสูรอะเมทิสต์ธรรมดาอื่นๆ

“มนุษย์เหล่านั้นน่าจะเป็นเทพชั้นสูงทุกคนเหมือนอย่างข้า  พวกเขาอยู่ที่นี่มานานมาก”การ์แลนกล่าวอย่างตกใจ “คนที่เพิ่งถูกสัตว์ประหลาดน้อยนั้นฆ่าเป็นเทพชั้นสูงที่ทรงพลังมาก  และเขาถูกฆ่าในท่าเดียว  พลังของอสูรน้อยนั่น...”  การ์แลนพบว่าตัวเองพูดไม่ออก

นี่มันพลังอะไรกัน?

พลังของเทพอสูรหรือ?

“รีบไปจากที่นี่กัน”  ลินลี่ย์รีบกล่าว

“พลังมากเกินไป เราไปกันเถอะ”  บีบีเห็นด้วย

กลุ่มของลินลี่ย์หนีจากมาทันที

ในสนามรบระยะไกลอสูรอะเมทิสต์น้อยที่ยืนอยู่บนศีรษะของเบเฮม็อธอะเมทิสต์โบกมือ และแสงสีม่วงสายหนึ่งยิงผ่านร่างของเทพชั้นสูงที่ทรงพลังอีกคนหนึ่งฆ่าเขาทันที และจากนั้นเขาหันหน้ามาทางทิศที่ลินลี่ย์อยู่พลางบ่น “โอว? ข้าเตรียมจะจัดการพวกเจ้าต่อไปคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากเห็นในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเจ้าจะกลัวจนเผ่นหนีได้”

จากนั้นอสูรอะเมทิสต์น้อยร้องสั่งเสียงดัง  “เด็กๆ ไล่ตามไป!”  เสียงดังสะท้านท้องฟ้า

ทันใดนั้นอสูรอะเมทิสต์นับไม่ถ้วนเริ่มส่งเสียงคำรามทันที และเริ่มวิ่งด้วยความเร็วสูงไปตามทิศทางที่อสูรอะเมทิสต์น้อยชี้บอก  บนพื้นสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงศพไม่กี่ซาก  เทพชั้นสูงหลายร้อยล้วนตายหมด!

ทำไมนึกถึงเจ้าตัวนี้ก็ไม่รู้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด