ตอนที่ 15-32 แสงม่วงสู่สวรรค์
ลินลี่ย์หันไปมองอย่างประหลาดใจเช่นกัน “เป็นโอลิเวอร์จริงๆ!” แต่ตอนนี้ โอลิเวอร์กำลังถูกคนกลุ่มหนึ่งรุมล้อมลินลี่ย์กวาดสายตามองพวกเขาอย่างใจเย็น “สิบเอ็ดคนนี้เป็นเทพแท้ทั้งหมด ไม่มีอะไรน่ากลัว อย่างไรก็ตาม ทำไมพวกเขาทุกคนจึงจ้องมองโอลิเวอร์? หรือว่าโอลิเวอร์ได้รับสมบัติบางอย่าง?”
ขณะที่คิดเรื่องนี้ลินลี่ย์เริ่มบินเข้าหาโอลิเวอร์และเดเลียกับบีบีติดตามอยู่ข้างเคียงเขาเป็นธรรมดา
“ฮ่าฮ่า..โอลิเวอร์! เกิดอะไรขึ้น?” บีบีหัวเราะ “ต้องการให้เราช่วยไหม?”
โอลิเวอร์เห็นกลุ่มลินลี่ย์สามคนบินเข้ามาและเขาจำได้ทันที “ลินลี่ย์ภรรยาของเขาและบีบีนั่นเอง” โอลิเวอร์อดฝืนใจหัวเราะให้ตนเองมิได้ ขณะที่เขาเห็น ลินลี่ย์ในอดีตเป็นระดับเทียมเทพ หลังจากผ่านไปหลายสิบปีเกือบจะเป็นเทพแท้อยู่แล้ว
“เจ้าทั้งสามคนมาในเวลาอย่างนี้พอดี!” โอลิเวอร์ลอบถอนหายใจกับตัวเอง
ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างนั้นโอลิเวอร์ไม่ได้ตรวจสอบพลังของกลุ่มลินลี่ย์อย่างระมัดระวัง ที่สำคัญคือในใจของโอลิเวอร์คิดว่ากลุ่มของลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้สามคน แต่นี่มีเทพแท้รุมล้อมเขาถึงสิบเอ็ดคน!
“พวกเจ้าทั้งสามคน!” ทันใดนั้นเทพแท้คนหนึ่งเข้ามายืนขวางหน้ากลุ่มของลินลี่ย์ “นี่เป็นเรื่องระหว่างเรากับโอลิเวอร์ เจ้าทั้งสามคนรีบจากไปเป็นดีที่สุด”
ทันใดนั้น...
“ตุ้บ!”
ประกายร่างหนึ่งพร้อมกับเงาขาที่รวดเร็วดุจสายฟ้า กระแทกใส่อกเทพผู้นั้นอย่างรุนแรง เขาซี่โครงหักยุบเข้าไปในตัวและปลิวลึกเข้าไปในหมอกขาวเหมือนกระสอบทรายต้องเข้าใจก่อนว่านั่นคือหมอกขาว!
คนไม่สามารถเข้าไปในทะเลหมอกลึกเกินไปนั่นเป็นพื้นที่อันตราย แรงเตะนั้นส่งเขากระเด็นไปหลายสิบเมตรแต่ขณะเวลาที่วิกฤตินั้น เทพแท้นั้นคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและบังคับตนเองให้หยุด
“เจ้า....!” เทพแท้นั้นชี้มาที่บีบีหมวกฟางอย่างโมโห
“ข้า? แล้วยังไง?” บีบีจ้องมองเขา จากนั้นโต้เถียงกลับ “ข้ากับพี่ใหญ่ข้ากำลังบินเข้ามาด้วยธุระของเราเองจู่ๆ เจ้าก็โผล่เข้ามาขวางทาง นอกจากเตะเจ้าแล้วจะให้ข้าเตะใครอื่นเล่า? เด็กน้อย! เมื่อครู่นี้นับว่าข้ายังมีความกรุณาอยู่ ไม่อย่างนั้นข้าคงเตะเจ้าตายในทีเดียวไปแล้ว!”
เทพแท้ทั้งสิบเอ็ดคนอดรู้สึกโกรธไม่ได้และในขณะเดียวกันพวกเขารู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน
ลูกเตะของบีบีรวดเร็วมาก! แม้ว่าจะเป็นระยะประชิดแต่ไม่สามารถป้องกันได้เลย ความจริง..บีบีเองมีพรสวรรค์ในวิชาร่างเงาร่างมายาอยู่แล้ว และเขาคืออสูรวิเศษหนูกินเทพมีพลังร่างกายสูงล้ำและความเร็วตามธรรมชาติอยู่แล้ว
“พวกเจ้าทั้งสามไม่ทำเกินเลยไปหน่อยหรือ?” ผู้นำกลุ่มที่ถูกเรียกว่าหัวหน้ากล่าว
ลินลี่ย์กับเดเลียไม่พูดแต่บีบีชำเลืองมองมาทางเขา “เกินเลยหรือ? เจ้าคิดว่าอะไรคือเกินเลย? ความจริงข้านับว่าสุภาพมากแล้ว ถ้าข้าต้องการให้เรื่องเกินเลยจริงๆ คิดดูสิพวกเจ้าสิบเอ็ดคนยังจะมีชีวิตรอดอยู่หรือ?” บีบีกวาดสายตามองทั้งสิบเอ็ดคน เหมือนกับมองสัตว์ที่เป็นเหยื่อ
“หัวหน้า! สตรีผู้นั้นเป็นนักสู้อสูรเทพชั้นสูง!” ทันใดนั้นมีคนส่งสำนึกเทพเตือนเข้ามาในใจเขา
“อสูรเทพชั้นสูง?” หัวหน้าตกใจอย่างหนัก
เพราะเห็นได้ชัดเจนจากลักษณะของคนในกลุ่มลินลี่ย์บ่งชี้ว่าลินลี่ย์เป็นผู้นำกลุ่มพวกเขาหลายคนจึงไม่ให้ความสนใจสตรีที่ดูเหมือนบอบบาง แต่เมื่อพวกเขาตรวจสอบนางดีๆ พวกเขาพบว่า...พวกเขาไม่สามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายใดๆ จากเดเลียแม้แต่น้อย
เทพชั้นสูง! และเป็นอสูรเทพชั้นสูง!
ไม่ใช่แค่หัวหน้าเท่านั้นแต่คนอื่นก็พบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
“เฮ้, พวกเจ้าเอาแต่เงียบได้ยังไง?”บีบีในฐานะอสูรเทพ หนูกินเทพเต็มไปด้วยความโหดและกระหายต่อสู้อยู่แล้วเขาหวังว่าจะมีการต่อสู้เหมาะๆ เขาจ้องมองคนทั้งสิบเอ็ดคนอย่างดุร้าย “พวกเจ้าบอกว่าข้าทำเกินเลยไปไม่ใช่หรือ? มาเลยข้าจะแสดงให้พวกเจ้าดูว่าการกระทำเกินเลยจริงๆ แล้วหมายความว่ายังไง!”
“ไม่ต้อง!” หัวหน้าร้องขึ้นทันทีขณะเดียวกันสีหน้าท่าทางของเขาดูอ่อนน้อมขึ้น
“หือ?” บีบีชำเลืองมองเขา
หัวหน้ากลุ่มฝืนยิ้ม “ในเมื่อพวกท่านทั้งสามรู้จักโอลิเวอร์ เราจะไม่รบกวนโอลิเวอร์ในระหว่างพบปะกับพวกท่าน”และจากนั้นหัวหน้ากลุ่มมองดูคนอื่น เทพแท้ทั้งสิบเอ็ดคนรู้กันโดยนัยแล้วรีบบินหนีจากไปทันที
ในพริบตาเดียวเหลืออยู่แต่เพียงกลุ่มของลินลี่ย์และโอลิเวอร์
“พวกเขาหนีกันเร็วจริงๆ!” บีบีเม้มปากกล่าว
โอลิเวอร์ตกใจหนัก “พวกเขาหนีไปหรือ?” กองอะเมทิสต์สำหรับเทพแท้แล้วนับว่าล่อตาล่อใจอย่างที่โอลิเวอร์ก็รู้เช่นกัน ถ้าทั้งสามเป็นเทพแท้คงไม่สามารถทำให้พวกเทพแท้ทั้งสิบเอ็ดหนีไปแน่นอน โอลิเวอร์กวาดตามองบีบีลินลี่ย์และจากนั้นเป็นเดเลีย
โอลิเวอร์ตกใจอย่างหนัก “เดเลีย,นี่นางกลายเป็นเทพชั้นสูงแล้วหรือนี่?”
“โอลิเวอร์! ไม่ได้พบกันนานเลยนะ” น้ำเสียงอบอุ่นเป็นกันเองดังขึ้น ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีบินเข้ามาหาโอลิเวอร์
“โอลิเวอร์,ดูเหมือนว่าเจ้าจะอยู่ในสภาพย่ำแย่ทีเดียวเลยนะ” บีบีล้อ
โอลิเวอร์ค่อยหายประหลาดใจ หน้าของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งขอบคุณ เขากล่าว “ลินลี่ย์, ครั้งนี้ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ครั้งนี้ข้าคงลำบากจริงๆ!” โอลิเวอร์รู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มของลินลี่ย์อีกสิบเอ็ดคนคงโจมตีแน่นอน
ถึงจุดนี้เขายังถึงแค่เพียงระดับเทพแท้เฉพาะร่างธาตุแสงเท่านั้น ในแง่พลังยังมีบางคนในสิบเอ็ดคนที่ทรงพลังมากกว่าเขา
“เป็นไปได้ว่าเจ้าได้รับสมบัติล้ำค่าก็เลยทำให้พวกเขาโลภและสุมหัวกันใช้กำลังบังคับเอาจากเจ้าสินะ?” ลินลี่ย์ถาม
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้โอลิเวอร์ถอนหายใจเบาๆ “เมื่อครู่นี้มีฝูงอะเมทิสต์บินออกมาจากทะเลหมอกกะทันหัน นี่คือโชคลาภมหาศาล อย่างไรก็ตามสมบัติกับความวิบัติมักจะมาคู่กันเสมอข้าได้รับอะเมทิสต์กองนี้ไป เป็นเหตุให้พวกเขาเกิดเจตนาคิดฆ่า”
ลินลี่ย์พยักหน้าเข้าใจ
ทันใดนั้นลินลี่ย์คิดถึงคนผู้นหนึ่ง “โอลิเวอร์! เจ้ารู้จักบาชเลอร์ไหม?”
“บาชเลอร์? เจ้าพบเขาหรือ?” โอลิเวอร์ดีใจ “บาชเลอร์เป็นยังไงบ้าง? เขาน่าจะทำได้ดีกว่าข้า เนื่องจากภารกิจสุดท้ายของเขา ทำให้เรากระจายไปคนละทาง”
เมื่อเห็นสีหน้าของโอลิเวอร์ลินลี่ย์เข้าใจว่าบาชเลอร์และโอลิเวอร์เป็นสหายที่ดีต่อกัน
“เขาตายแล้ว” ลินลี่ย์พูดตามตรง
“ตาย?” โอลิเวอร์ตกใจ
ลินลี่ย์ระบายลมหายใจเบาๆ “เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เราสองคนรับภารกิจคุ้มครอง เรารู้จักกันระหว่างภารกิจนั้น อย่างไรก็ตาม...ขณะรับหน้าที่เราพบกับการลอบโจมตีจากยอดฝีมือคนหนึ่งและบาชเลอร์โชคร้ายถูกฆ่าตาย”
ลินลี่ย์ยังคงจำได้ดีถึงฉากภาพที่บาชเลอร์ถูกหินยิงกระแทกตาย ตอนนี้เมื่อเขานึกย้อนไปเหมือนกับจะเป็นเรื่องที่แน่นอน ยักษ์ภูเขาไฟนั้นก็คือฟูโซ่สุดยอดฝีมือที่มีพลังพอกับเทพอสูร ใช้ก้อนหินยิงสังหารเหล่าเทพได้อย่างง่ายดาย
โอลิเวอร์เงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นถอนหายใจเบาๆ “ตายอีกคนหนึ่งแล้ว!”
ลินลี่ย์เดเลียและบีบีใจสั่นสะท้าน แม้ว่าประโยคว่า‘ตายอีกคน’ จะเป็นประโยคง่ายๆแต่ประโยคนี้ก็แฝงไปด้วยเรื่องราวมากมายซึ่งพวกเขานึกตามได้
“แดนนรกคือสถานที่ซึ่งคนที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้นจึงจะอยู่รอดได้ การสู้รบและการเข่นฆ่ากันเป็นเรื่องธรรมดาในแดนนรก” ลินลี่ย์กล่าว “จากเผ่าที่เล็กที่สุดและกลุ่มโจรไปจนถึงอสูรหกดาวที่ทรงพลังที่สุด อสูรเจ็ดดาว และแม้กระทั่งยอดฝีมือระดับเทพอสูรก็ยังต่อสู้ไม่มีจบสิ้น”
“ถูกแล้วผู้อยู่รอดคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด” โอลิเวอร์พยักหน้า
“ลินลี่ย์,ในแดนนรกนี้พวกเจ้าทั้งสามดูเหมือนทำได้ดีกว่าข้ามาก” โอลิเวอร์หัวเราะ เขาสังเกตตราอสูรบนหน้าอกพวกเขาและรู้ว่าเดเลียเป็นอสูรเทพชั้นสูง “อย่างไรก็ตาม, พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
โอลิเวอร์ไม่เชื่อว่ากลุ่มของลินลี่ย์มาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์
“เราช่วยคนไว้ในระหว่างทางก็เลยพาเขามาส่งที่นี่ ขณะเดียวกันเราต้องการเยี่ยมชมภูเขาอะเมทิสต์ด้วย ข้าได้ยินว่าทะเลหมอกงดงามมากและเป็นหนึ่งในทัศนียภาพที่ยิ่งใหญ่ในแดนนรก”ลินลี่ย์หัวเราะ
“เจ้ามาที่นี่เพื่อเที่ยวชมเท่านั้นหรือ?” โอลิเวอร์ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เมื่อการดำรงชีวิตยังเป็นปัญหาสำหรับคนๆหนึ่ง บางคนที่ยังฝึกหาวิธีให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น เพียงแต่เมื่อบางคนไม่ตกอยู่ในอันตรายเขายังคิดจะท่องเที่ยวชมวิวได้อีกหรือนี่
แค่ความจริงที่ว่าลินลี่ย์มาเที่ยวชมดูโอลิเวอร์แน่ใจว่าชีวิตของลินลี่ย์ในเวลาที่ผ่านมาค่อนข้างจะสบาย
“ใช่แล้วทัศนียภาพที่นี่งดงามยอดเยี่ยมจริงๆ” โอลิเวอร์ได้แต่เห็นด้วย
“หือ, เกิดอะไรขึ้น?”ลินลี่ย์หันไปดูอย่างมึนงง จากในที่ไกลระลอกพลังงานสีม่วงแผ่ขยายออกมา เดเลียบีบีและโอลิเวอร์มองดูกันหมด แม้แต่เสียงคำรามด้วยความโกรธก็ได้ยินมาจากทางนั้น และเสียงตะโกนด้วยเช่นกัน
“ฆ่าเจ้าเด็กชุดขาวนั่นซะ เขาได้กลุ่มอะเมทิสต์ไป!” เสียงคำรามดังขึ้นมาแต่ไกล
ทันใดนั้นมีคนหลายคนใกล้ๆ มากันจากทิศทางต่างๆ
“ทุกคน, รีบฆ่าเจ้าเด็กชุดขาวนั่น!”
“อา, คนชุดแดงได้มันไปแล้ว!”
จากที่ไกลเสียงคำรามด้วยความโกรธดังขึ้นต่อเนื่อง ในทันใดนั้นคนจำนวนเกินกว่าพันคนหลั่งไหลมามาสมทบทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
แม้แต่กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนก็พลอยตกใจไปด้วย
“กลุ่มอะเมทิสต์หรือ?” สีหน้าของโอลิเวอร์ค่อนข้างจะเฉยเมย ที่สำคัญเขาเองก็ได้มากลุ่มหนึ่งแล้ว
“มาเถอะ ไปดูกัน” บีบีพูดอย่างกระตือรือร้น
ลินลี่ย์พยักหน้าคนเกือบทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวอะเมทิสต์จะเป็นเทพแท้หรือไม่ก็เทียมเทพ พลังของพวกเขามากพอข่มขู่คนอย่างนั้นได้
ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์เข้าไปใกล้เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดก็สงบลง ขณะที่การไล่ล่าเพิ่มขึ้นแทน! คนกลุ่มหนึ่งกำลังไล่ตามบุรุษชุดเขียวผู้ควงหอกยาวบินหนีไปด้วยความเร็วสูง
กลุ่มของลินลี่ย์กวาดตามองกลุ่มคนที่บินอยู่ข้างหน้าเขาหลายคนนี้
“ดูเหมือนว่ากองอะเมทิสต์ถูกคนชุดเขียวได้ไป” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น
“มันบ้ามากจริงๆ” บีบีบ่น “ก็แค่กองอะเมทิสต์ สมควรตื่นเต้นขนาดนั้นกันเชียวหรือ?”
โอลิเวอร์กล่าว “กองอะเมทิสต์นั้น แต่ละกลุ่มอะเมทิสต์จะมีอยู่น้อยมากแต่ก็มีอะเมทิสต์มากกว่าหมื่นชิ้น นั่นมีมูลค่าถึงเจ็ดสิบหรือแปดสิบล้านศิลาดำ สำหรับเทพแท้นี่เป็นโชคลาภก้อนใหญ่
บีบีรังเกียจเต็มที่
“ด้วยทรัพย์สินเกินกว่าสองแสนล้านเขาจะสนใจสมบัติอย่างนั้นได้ยังไง?
“แต่แน่นอนเงินเล็กน้อยนั้นไม่สะดุดสายตาของอสูรเทพชั้นสูงมากนัก” โอลิเวอร์พูดต่อ
“อ๋า.. กลุ่มอะเมทิสต์! เขานั่นเอง ฆ่าเขา!” ในอีกด้านหนึ่งยังเสียงตะโกนกราดเกรี้ยวสามารถได้ยินจากที่ไกลเสียงของการต่อสู้ต่อเนื่องดังขึ้นจนได้ยินชัดเจน
“ปัง!” จากด้านอื่นมีเสียงระเบิดขึ้น
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว “เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างที่นี่ผิดปกติ”
ตอนนี้ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน มีพื้นที่ต่างๆมากมายซึ่งเต็มไปด้วยเสียงระลอกพลังงานรุนแรง เห็นได้ชัดว่าการสู้รบรุนแรงเกิดขึ้นในทุกที่ กล่าวโดยทั่วไปก็คือ หนึ่งสอง หรืออะเมทิสต์นับสิบๆไม่น่าจะเป็นเหตุให้เทพแท้เหล่านี้ต้องสู้รบกันแบบนี้ นอกจากกลุ่มอะเมทิสต์ปรากฏจึงจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้
การได้รับอะเมทิสต์นั้นเป็นเรื่องของโชค
แต่ตอนนี้การต่อสู้เกิดขึ้นหลายพื้นที่
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เดเลียงงและขมวดคิ้ว “เป็นไปได้ไหมว่าพบกลุ่มอะเมทิสต์ในหลายพื้นที่?”
เดเลียคาดเดาถูกต้อง!
ขณะนี้ทั่วทั้งภูเขาอะเมทิสต์ดูเหมือนกลายเป็นภูเขาใจดี ในหลายๆพื้นที่มีอะเมทิสต์ปริมาณมากมายบินออกมา บางครั้งก็บินออกมาเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีอะเมทิสต์อย่างน้อยพันชิ้น ขณะที่กลุ่มใหญ่ที่สุดมีอะเมทิสต์มากกว่าล้านบินออกมาเป็นกลุ่มๆ
เกิดความวุ่นวายอย่างหนัก!
อะเมทิสต์มากมายเกินไปทำให้เหล่าเทพแท้เสียสติ
ภูเขาอะเมทิสต์มีเส้นรอบวงหลายแสนกิโลเมตร รอบๆ ภูเขาอะเมทิสต์มีปราสาทโบราณอยู่สิบแปดแห่งกระจัดกระจายอยู่ในตำแหน่งต่างๆ แต่ละปราสาทเป็นฐานที่ตั้งของสิบแปดตระกูลใหญ่ แต่ตอนนี้มีผู้คนเหาะออกมาจากปราสาททั้งหมด
“ใต้เท้าอะเมทิสต์มากมายบินออกมา ภูเขาอะเมทิสต์ดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปแล้ว” ในอากาศเหนือปราสาทบุรุษชุดดำคนหนึ่งและบุรุษชุดม่วงลอยตัวอยู่ในอากาศจ้องมองทะเลหมอก คนชุดดำพูดด้วยความเคารพ
บุรุษชุดม่วงจ้องมองดูทะเลหมอกและแววดีใจปรากฏอยู่ในใบหน้าของเขา “ฮ่าฮ่า.. แสงม่วงสู่สวรรค์! เป็นแสงม่วงสู่สวรรค์จริงๆ! หลังจากมีคลื่นหมอกขาวของภูเขาอะเมทิสต์มาหลายปี!ในที่สุดก็ปรากฏอีกครั้ง ฮ่าฮ่า...” บุรุษชุดม่วงดีใจหนัก
ตอนนี้เมื่อมองดูทะเลหมอกจากด้านนอก
ลึกลงไปในทะเลหมอก ดวงตาเป็นประกายเรืองแสงสีม่วงฉายลำแสงแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าทะลุผ่านม่านเมฆเป็นประกายแพรวพราว
“ครืนน...”
‘ทะเลหมอก’ปกคลุมภูเขาอะเมทิสต์พลันระเบิดกระจายตัวออกส่งคลื่นกระแทกไปทุกตำแหน่งในพริบตาคลื่นที่รุนแรงแผ่ออกไปเกือบสิบกิโลเมตรแรงคลื่นระเบิดขยายออกมาจนใกล้จะถึงปราสาททั้งสิบแปด
สำหรับคนที่แต่เดิมเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์อยู่ที่ชายขอบทะเลหมอก พวกเขาไม่ทันตั้งตัวก่อนที่ทะเลหมอกจะกลืนพวกเขาไปทั้งหมด