ตอนที่ 507 เศษเสี้ยวสมบัติวิญญาณ
ถังเทียนออกมาจากจวนที่ทำการเงียบๆ
เขามองดูจวนที่ทำการแล้วยิ้มลักษณะภายนอกของจวนแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ระหว่างลานด้านหน้า ตะวันออกและตะวันตกมีการเพิ่มถ้ำหินคลื่นเย็นตัดเป็นกากบาทและที่สำคัญที่สุดปิงดึงดูดคลื่นพลังเย็นจากภายใต้ออกมาที่กำแพงทำให้ความสามารถในการป้องกันของกำแพงเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ปิงเอาแผนผังแนวป้องกันมาจากฟู่จือหงและเชื่อมต่อจวนที่ทำการกับเมืองหานกู่ ถังเทียนจำสีหน้าของฟู่จือหงได้เมื่อนางมีสีหน้าตะลึง
ถูกแล้ว ลุงปิงมีมาตรฐานบางอย่างแท้จริง หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ต้องยอมรับแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
ถังเทียนพึมพำอยู่ในใจ แต่ถังเทียนไม่คิดว่าเป้าหมายของปิงรอยประทับบนมือของเขา
“ข้าเคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาก่อน แต่ข้าจำได้เมื่อตอนข้าเห็นหลัวซือ หลัวซือเคยใช้ มันมีประโยชน์อยู่สองอย่าง คือหนึ่งช่วยให้เจ้าเข้าใจกฎต่างๆและที่เหมาะกับเจ้ามากก็เพราะเจ้ามีร่างพลังกายเป็นศูนย์ตราเครื่องหมายเหล่านี้ไม่มีพลังอยู่ในพวกมันเลยแต่ก็ยังได้รับการยกย่องเป็นตราดั้งเดิม หลัวซือคาดว่ามันเป็นแหล่งที่มาของกฎต่างๆดังนั้นเขาจึงพยายามคลี่คลายตราเหล่านี้อยู่เสมอและผสานเข้าในอาวุธจักรกลแต่ว่าไม่สำเร็จ เพราะตราดั้งเดิมถูกมองว่าทั่วไปและยากจะถอดรหัสออกมาได้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ความสามารถทำลายล้างก็แข็งแกร่งมาก เมื่อผนึกมันในโลหะมันจะทำลายโลหะเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อเขาค้นคว้าบรอนซ์หมายเลขเก้า ในที่สุดเขาก็สามารถผนึกตราเครื่องหมายและทำของพิเศษที่เรียกว่ากล่องตราพลังต้นกำเนิด”
“แน่นอนว่าสำหรับกองทัพดาวกางเขนใต้ปกติพวกเขาไม่ใช้ของเล่นเล็กๆ อย่างนั้น แต่สำหรับเจ้าในตอนนี้ มันมีประโยชน์สำหรับเจ้า”
ลุงปิงวิ่งกลับไปยังเมืองสามวิญญาณและสร้างกล่องสองสามกล่อง แม้ว่าเซรีนและพวกที่เหลือจะย้ายออกจากเมืองสามวิญญาณไปแล้วแต่ห้องปฏิบัติการยังมีคนสองสามคนอยู่ภายในคอยซ่อมแซมอาวุธจักรกลวิญญาณ และไม่มีปัญหาอะไรกับการสั่งให้คนสองสามคนนั้นช่วยสร้างกล่อง
และปัจจุบันนี้เซรีนและพวกพ้องมีความก้าวหน้าขนานใหญ่กับสูตรผสมโลหะและก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน หลังจากรุ่นสามกองทัพมหาอำนาจแล้ว วิชาอาวุธจักรกลตกต่ำลงไปมาก แต่หลังจากนั้นวิศวกรผู้เคยพ่ายแพ้ไม่ยอมถอดใจและพยายามอย่างหนัก ทำให้มีการพัฒนาปรับปรุงในสองสามเรื่องใหญ่ๆ และสูตรโลหะก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อเซรีนได้รับสูตรทำบรอนซ์จากกองทัพเก่าแล้ว นางมีความก้าวหน้าอย่างมากมายในด้านนี้เซรีนเริ่มทดสอบสร้างโลหะวิญญาณและสมบัติลับ สิ่งที่เรียกว่าโลหะวิญญาณนี้คือการรวมกันของจิตวิญญาณยุทธและโลหะ ขณะที่โลหะดวงดาวยังน่าทึ่งยิ่งกว่าซึ่งสกัดโลหะที่บริสุทธิ์ที่สุดออกมาจากสมบัติที่มีพลังเต็มที่
ห้องปฏิบัติการจักรกลในปัจจุบันนี้มีความโอ่อ่าภูมิฐานมาก ให้บรรยากาศดูน่าคลั่งไคล้จริงๆ
กล่องตราพลังต้นกำเนิดในอดีตจะถูกจำกัดด้วยโลหะไม่กี่ชิ้นและไม่สามารถผลึกตราพลังงานระดับสูงได้ ตอนนี้ปิงคาดหวังตราเช่นนี้
สำหรับถังเทียน สามารถซื้อวัตถุที่มีตรแหล่งพลังโดยไม่ต้องหวังกระดูกเซียนก็ได้ เพราะราคาสูงเกินกว่าจะรับได้แน่นอน แต่เมื่อปิงพูดว่าหลัวซือได้ค้นคว้าเรื่องเช่นนี้ไว้ในอดีต เขาไม่จำเป็นต้องใช้กระดูกเซียนอย่างแน่นอน
ทั้งสองคนช่วยกันพลิกดูหนังสือจิตวิญญาณและพบว่าเศษชิ้นส่วนของสมบัติวิญญาณ เมื่อพวกเขาปรับแต่งสมบัติวิญญาณสมบัติวิญญาณนั้นจะทิ้งเครื่องหมายตราเอาไว้ และภายในเครื่องหมายเหล่านี้จะบรรจุกฎต่างๆ เพื่อให้นักสู้เข้าใจ
วัสดุหลังที่จำเป็นต้องใช้ในการปรับแต่งสมบัติวิญญาณก็คือสมบัติดวงดาวและเป็นสมบัติดวงดาวใดๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงตลอดหลายปีนับไม่ถ้วน สภาพที่มั่นคงนี้ก็คือม่านพลังที่ไร้ลักษณ์และจะทำลายม่านพลังของสมบัติจำเป็นต้องใช้พลังมาก แต่ก็ต้องเข้าใจกฎวิญญาณอย่างลึกซึ้งด้วย
การทำความเข้าใจกฎเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าพลัง เพราะความเข้าใจยิ่งมากก็ยิ่งทำลายอุปสรรคของสมบัติดวงดาวได้ง่าย ด้วยระดับความเข้าใจที่ตื้นเขิน ไม่ว่าใครพยายามใช้อำนาจพลังมากแค่ไหน ก็ยังคงนำไปสู่ความล้มเหลว แม้ว่าพวกเขาจะมีความสำเร็จ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถปล่อยพลังที่แท้จริงของสมบัติวิญญาณออกมาได้
เมื่อผ่านกระบวนการปรับแต่ง ความเข้าใจถอดรหัสในสมบัติจิตวิญญาณก็จะกลายเป็นตราผนึก แน่นอนว่าตราผนึกนั้นไม่สามารถเทียบได้กับจิตวิญญาณเซียน แต่สำหรับถังเทียนและตราเครื่องหมายนี้ถือว่าสมบูรณ์อย่างเพียงพอแล้ว
ราคาของสมบัติจิตวิญญาณสูงเทียมฟ้า แต่ราคาของเศษสมบัติจิตวิญญาณนั้นสมเหตุผลมากกว่า
ถังเทียนนึกย้อนกลับไปถึงการต่อสู้กับเย่เฉาเกอ
เมื่อเทียบกับพวกนักสู้แล้ว พวกเซียนร่ำรวยมากกว่า และเมื่อก้าวเข้าสู่เขตแดนเซียนอย่างแท้จริงก็จะรู้ว่า ถ้าครอบครัวของเขาไม่ดีพอ พวกเซียนจะมีวันเวลาที่ยากลำบาก พวกเซียนอิสระทั้งหมดนี้ไม่มีผู้หนุนหลังที่ร่ำรวยพอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ชีวิตอย่างตระหนี่ไปในแต่ละวัน
และมีเซียนหลายคนในเมืองหานกู่และมีเซียนสองสามคนในนี้ที่คิดจะทำมาหากินโดยเริ่มธุรกิจของตนเอง ในชีวิตประจำวันทุกคนจะอยู่ในพื้นที่ของตนเองและงดเว้นจากการพบปะกัน เพราะเมื่อทุกคนมาพบกัน พวกเขาจะเริ่มแลกเปลี่ยนสิ่งของที่พวกเขามี โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เซียนหลายคนก็สนใจและเริ่มร่วมกันดำเนินธุรกิจเหมือนกัน
ถังเทียนมาถึงร้านอาหารเมืองหานกู่และมีเซียนคนหนึ่งชื่อเฉียนเซินเช่าสถานที่ทำธุรกรรมอยู่ โถงของร้านอาหารมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่หลายแผ่นในนั้นจะเขียนชื่อสิ่งของที่พวกเขาครอบครองและมีหลายอย่างที่พวกเขาต้องการแลกเปลี่ยน ขณะที่เจ้าของพักอยู่ในห้อง นับเป็นครั้งแรกที่ถังเทียนเห็นธุรกรรมของเซียนและสนใจขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นถังเทียนมาถึงตาของเฉียนเซินเป็นประกายทันที เศรษฐีใหม่มาแล้ว!
ราคาของแสงอรุณที่ขายไปสูงมากซึ่งข่าวถูกปล่อยกระจายไปรอบๆถนนเมืองหานกู่อย่างรวดเร็ว ในเมืองหานกู่ สมบัติวิญญาณที่สมบูรณ์แม้จะเป็นของระดับต่ำสุด สมบัติวิญญาณบรอนซ์ระดับต่ำ ราคาของมันอาจขายได้ถึง 50 พันล้านเหรียญดาวเคล็ดการปรับแต่สมบัติวิญญาณระดับต่ำไม่ได้ลึกซึ้ง แต่ความยากนั้นไม่ต่ำทรามเลยและสิ้นเปลืองพลังงานมาก เซียนโดยทั่วไปจะหาสมบัติเป็นของพวกเขาเองก็ต้องใช้เวลา 2-3 ปีเพื่อปรับแต่งสมบัติจิตวิญญาณ
ราคาของสมบัติวิญญาณยังมากแม้ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น
เมื่อทุกคนรวมตัวกันเพื่อวิเคราะห์ พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าคนลึกลับนั้นเตรียมการไว้แล้วถึงได้ขุดกระเป๋าของพวกสมาพันธ์ชาวยุทธได้ลึก เมื่อทำได้เช่นนั้นทำให้ทุกคนมีความสุข แต่คนที่ขุดกระเป๋าได้ลึกมากและใช้ความพยายามมากก็ทำให้ทุกคนอิจฉาเหมือนกัน
“โอว...ข้ากำลังคิดอยู่ว่าทำไมนะเช้านี้ถึงได้เป็นวันที่วิเศษนี่เป็นเพราะการมาถึงของอาคันตุกะผู้มีเกียรตินั่นเอง!” เฉียนเซินรีบเข้ามาทักทาย “ร้านเล็กๆ แห่งนี้มีของดีๆมากมายหลายอย่างมีกระบี่วิญญาณบรอนซ์เล่มหนึ่ง คุณภาพระดับชั้นกลางและมีความโดดเด่นมาก ราคาเพียง200 พันล้านเหรียญดาว....”
แค่ 200 พันล้านเหรียญดาว....
ถังเทียนทวนคำในใจ เขาเพิ่งใช้เงินรวมจำนวนมหาศาลไปกับการจัดตั้งหน่วยเซียน และนั่นมากพอให้เขารู้สึกว่าโอ้อวดเกินไป ตอนนี้ได้ยินว่าสมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่งราคา 200พันล้านเหรียญดาว เขามีความคิดอย่างหนึ่งว่าเงินของเซียนไม่ใช่เงินอีกต่อไปแล้วกระมัง?ในช่วงเวลานั้นถังเทียนรู้สึกเศร้าใจ ทำไมเขาไม่เป็นเซียนของกลุ่มดาวอควาเรียส เขาได้ยินมาว่าเซียนกลุ่มดาวอคาเรียสมีไหสมบัติเต็มไปด้วยเหรียญดาว
ถังเทียนกระแอม “ท่านมีเศษชิ้นสมบัติวิญญาณบ้างไหม?”
เฉียนเซินสะดุ้ง เศษชิ้นสมบัติวิญญาณน่ะหรือ?
“ไม่มีใช่ไหม?” ถังเทียนขมวดคิ้ว เขากระทำไปตามสัญชาตญาณ แต่สำหรับคนอื่น เขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมหาญ
เฉียนเซินใจสั่นสะท้าน เขาคือผู้เชี่ยวชาญในการประเมินผู้คน ผู้คงแก่เรียนล้วนมีราศีแห่งปัญญาและนักสู้ผู้แข็งแกร่งจะมีราศีแห่งพลังของนักสู้ผู้แข็งแกร่งทุกคนมีคุณสมบัติเป็นของตนเอง สำหรับราศีที่สง่างามและเหี้ยมหาญเช่นนั้น ถ้าพบกับคนระดับสูงไม่ใช่เรื่องแปลกตัวอย่างเช่นผู้อาวุโสสำนักหรงปัวก็มี แต่เพราะคนผู้นี้ก็มีด้วย....
คงเป็นเพราะรู้สึกไปเอง...
“ได้ได้ ได้!” เขาตอบทันที ก็ได้.. คนรวยๆมักมีนิสัยแปลกประหลาดทั้งนั้นมาที่นี่เพื่อซื้อของถูกๆ
เศษชิ้นสมบัติวิญญาณถือว่าเป็นสินค้าราคาถูก,และปกติมีแต่เซียนผู้ไม่สามารถซื้อหาสมบัติวิญญาณได้ แต่ตั้งใจจะปรับแต่งสมบัติของตนเองจึงมองหาเศษสมบัติพวกนี้ พวกเขาต้องการจะรื้อดูเศษซากสมบัติวิญญาณเพื่อทำความเข้าใจวิธีปรับแต่งสมบัติเซียนและขยายเส้นทางการค้นคว้าของตนเอง
เจ้าผู้นี้ชอบปรับแต่งสมบัติวิญญาณงั้นหรือ?
เฉียนเซินคิดเซียนผู้เอาดีในเรื่องปรับแต่งสมบัติวิญญาณจะเป็นเซียนที่พวกพ่อค้าชอบที่สุด สมบัติวิญญาณคือสินค้าที่ราคาสูงมาก แต่ก็ยังต้องเก็บไว้เผื่อได้พบคนที่ต้องการเนื่องจากมีผู้มีอำนาจอยู่มากมายนั่นเอง
เมื่อคิดถึงเรื่องนั่นแล้วเฉียนเซินมีอารมณ์หลงใหลทันที และพลิกบันทึกของเขา “เรามีกองเศษชิ้นส่วนจากสมบัติวิญญาณเพื่อเอาไว้ขายอยู่ในร้านของข้า เชิญตามข้ามา”
เฉียนเซินพาถังเทียนไปที่ห้องหนึ่งจากนั้นเขาเอาหีบออกมาจากตู้เก็บของอควาเรียส ภายในหีบเต็มไปด้วยเศษของสีสันต่างๆประกายรัศมีของสิ่งของเหล่านี้หมองแล้วทำให้มองดูเป็นภาพแปลกประหลาด
“ของในนี้ทั้งหมดคือเศษสมบัติวิญญาณราคาชิ้นละ 100 ล้านเหรียญดาว” เฉียนเซินแกล้งทำเป็นใจกว้างและกล่าว “เจ้าต้องเข้าใจราคาตลาดให้ชัดก่อนและโดยปกติแล้วจะไม่มีใครเลือกเศษชิ้นส่วนที่เหลือนี้ได้ แต่เมื่อข้าเห็นเจ้า ข้ารู้สึกว่าเหมือนกับเป็นคนกันเอง ดังนั้นเจ้าสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองเลย”
แพงมาก!
สำหรับเศษชิ้นสมบัติราคาร้อยล้านต่อชิ้น พวกเซียนชอบเผาเหรียญดาวทิ้งกันจริงๆ
ถังเทียนรู้สึกเจ็บปวดใจ เขามองดูไปรอบๆ “และที่นี่มีอยู่กี่ชิ้น?”
เฉียนเซินกระตือรือร้น เขาเป็นเศรษฐีใหม่ตัวจริงแท้!
เมื่อคิดดูแล้ว เจ้าผู้นี้ต้องเป็นเศรษฐีใหม่ที่ต้องการซื้อเศษสมบัติวิญญาณเขาแตกต่างจากคนอื่น ราศีแบบนั้น ลักษณะเช่นนั้น โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก เขากางนิ้วห้านิ้ว “510 ชิ้น ข้าสามารถคิดเป็นราคา500 ชิ้น ราคา 50 พันล้าน!”
ถังเทียนผงกศีรษะจากนั้นหยิบหัวหอกดาวผมเบเรนิสออกมา “หัวหอกกลุ่มดาวผมเบเรนิสนี้ตีราคาเท่าใด?”
เฉียนเซินหยิบหัวหอกดาวผมเบเรนิสและตรวจสอบอย่างระมัดระวังแล้วตอบอย่างมืออาชีพ “สมบัติชิ้นนี้คุณภาพไม่สูงนักเป็นระดับบรอนซ์ชั้นต่ำ แต่เป็นงานเก่าและฝีมือที่สร้างมาทำได้ดี เป็นของประณีตในสมบัติบรอนซ์ระดับล่างๆ ราคาควรจะอยู่ที่ราวๆ 80 พันล้าน”
“ข้าจะขายให้ท่าน70 พันล้าน” ถังเทียนพูดตามตรง หลังจากปล่อยให้เสี่ยวเอ้อเล่นอยู่สองวัน เขาโยนมันกลับคืนมาให้ถังเทียนอย่างเหยียดหยาม และบอกว่ามันอาจจะขายได้
เฉียนเซินยอมรับโดยไม่ลังเล “ตกลง!”
เขารายงานราคาไป 80 พันล้านแต่ค่อนข้างจะเป็นราคาขั้นต่ำ เขามั่นใจว่าจะขายหัวหอกดาวผมเบเรนิสได้ถึง 100พันล้าน ซื้อมันในราคา 70 พันล้านและทำกำไร 30 พันล้าน ราคาเศษสมบัติวิญญาณราคา 50 พันล้านกำไรไม่มากแต่ก็ยังถึง 5 พันล้านเหรียญดาว ถ้าคิดอย่างนี้เขาจะทำกำไรได้ถึง 35 พันล้านเหรียญดาว!
ทำธุรกิจกับคนมีอิทธิพลอำนาจนี่ช่างดีจริงๆ!
“เจ้าต้องการให้ข้าจ่ายเจ้า20 พันล้านเหรียญดาวเลยไหม?” เฉียนเซินถาม
“ท่านมีหนังสือจิตวิญญาณเรื่องการปรับแต่งสมบัติวิญญาณบ้างไหม?” ถังเทียนถาม
เฉียนเซินแทบสำลัก “อย่าบอกนว่าเจ้าไม่รู้วิธี....”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเสียใจทันที โอว...ข้าไม่ล่วงเกินเจ้าผู้ทรงอิทธิพลอำนาจผู้นี้ดีกว่า ถ้าไม่อย่างนั้น กำไร 35พันล้านของข้าคงบินหายไปแน่!
“โอว,ข้าก็แค่คิดว่ามันน่าสนใจกว่า และต้องการจะลองทำดู” ถังเทียนพูดโดยไม่ใส่ใจ
เฉียนเซินมีความสุขมาก ถูกเรียกเป็นผู้มีอิทธิพลเพราะเขาต้องการเอาดีเรื่องการปรับแต่งสมบัติถึงกับโยน 70 พันล้านทิ้งไม่ไยดี นี่เขาคงคลั่งไคล้มากเป็นแน่ “ได้ ได้ ได้! ใช่แล้ว เล่นเรื่องการปรับแต่งสมบัติ สามารถฝึกฝนใจของผู้ทำได้,สง่างามมากจริงๆ! เจ้าเพิ่งจะเริ่ม ดังนั้นข้าขอแนะนำให้เจ้าซื้อไปเป็นชุดทั้งหมด เอาตั้งแต่หนังสือปรับแต่งพื้นฐานจนถึงระดับชั้นสูง รวมๆ กันแล้วก็ประมาณ12 พันล้าน ถ้าเจ้าต้องการไปปรับแต่งเองอย่างนั้นเจ้าต้องใช้วิชาจิตวิญญาณเพลิง พอดีข้ามีการ์ดวิชาเพลิงวิญญาณดีๆ อยู่ชุดหนึ่ง วิชาเพลิงเย็นแห่งกลุ่มดาวหงส์ราคาแปดพันล้านพอดี”
“ตกลง!” ถังเทียนตอบทันที
เฉียนเซินมีความสุขมากจนเขาไม่สามารถปิดบังความดีใจได้ ธุรกิจของเขาเป็นไปด้วยดีทีเดียวแต่มันเป็นการขายตรง ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เงินของตนเองทดรองจ่ายไปก่อน ข้อตกลงธุรกิจมูลค่าเกือบ 100 พันล้านนับเป็นครั้งแรกของเขา ที่สำคัญที่สุดกำไรส่วนใหญ่ตกอยู่ในกระเป๋าของเขา
ถังเทียนต้องรีบเร่งทำเวลา หลังจากได้รับของทุกอย่างแล้ว เขาโยนของทั้งหมดในห้องจิตวิญญาณยุทธให้เสี่ยวเอ้อดู
เขาปล่อยให้การปรับแต่งสมบัติวิญญาณเป็นหน้าที่ของเสี่ยวเอ้อ
เมื่อเฉียนเซินส่งถังเทียนออกไปจากร้านอาหารเมืองหานกู่ด้วยมารยาทอันดี เมื่อเขาเพิ่งออกมาได้ ก็ต้องหยุดทันที
คนที่อยู่ในระยะไกลกำลังยืนยิ้ม
เป็นความจริงที่ว่าศัตรูมักจะพบจะได้พบกันในทางแคบเสมอ!