ตอนที่ 502 มารโลหิตวิลเลียม
การโจมตีอย่างบ้าคลั่งดำเนินต่อไปห้านาทีเต็มก่อนจะหยุดนิ่ง
ข่ายยาวแตกออกเป็นชิ้นๆร่างสามร่างที่ถูกรุมสังหารร่วงออกมาจากข่ายและกระแทกกับพื้น ศพทั้งสามไม่สามารถแยกแยะได้ดำสนิทไม่มีสัญญาณชีวิตอยู่ในร่างเหล่านี้
ทั้งพื้นที่เงียบมีแต่เสียงหอบหายใจได้ยินอย่างชัดเจน
เป็นเวลาห้านาทีที่ทุกคนทุ่มเทสุดกำลังใครจะรู้กันว่าพวกเซียนที่บุกใส่กองทัพจะพบกับจุดจบถูกทำลายอย่างนั้น เมื่อถังโฉ่วเสนอความคิดที่บ้าคลั่งเช่นนั้น แทบจะทุกคนเกือบจะปฏิเสธ ถ้าพวกเขาปล่อยให้พวกเซียนเข้ามาในระยะใกล้นั่นก็เท่ากับเล่นกับไฟ! ความผิดพลาดใดๆที่เกิดขึ้นอาจหมายถึงจุดจบของกองทัพทั้งหมด
ในที่สุดหลังจากถังโฉ่วยืนกรานอย่างต่อเนื่อง แผนการบ้าระห่ำนี้จึงถูกนำมาใช้
สำเร็จ...
ทุกคนมองดูซากที่ดำเป็นตอตะโกทั้งสามร่างอย่างว่างเปล่า ทาร์ตันมีร่างเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดขลุ่ยวิเศษกำลังหอบหายใจ หวงฝู่หงที่อยู่ในชุดจักรกลวิญญาณของเขาจ้องมองศพทั้งสามอย่างว่างเปล่า
สำเร็จ...ทำได้สำเร็จจริงๆ!
พวกเขาสังหารเซียนไปสี่คน....พวกเขาฆ่าเซียนได้สี่คนจริงๆ!
วันที่สี่เซียนเสียชีวิตเมืองอาเลียธถูกยึด คนที่เหลือยอมแพ้สร้างความตกตะลึงไปทั้งเจ็ดดาวเหนือ
**********
ถังเทียนยื่นมือเข้าไปในหมอก ควั่บ หมอกกลืนร่างถังเทียนเช่นกัน ถังเทียนเพียงแต่เห็นว่าทัศนวิสัยของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำและจากนั้นเขาถูกดึงเข้าไปในที่ว่างเปล่า บุรุษหนุ่มร่างผอมผมแดง ตาดำและมีหน้าซีดขาวท่าทางชั่วร้ายยืนอยู่หน้าเขา
“ข้าคือวิลเลียม”
เขาพูดเบาๆ
ถังเทียนอุทาน“อา” และตอบ “ข้าคือถังเทียน”
“เจ้ามีเรื่องขัดเคืองกับสมาพันธ์ชาวยุทธหรือ?” วิลเลี่ยมมองดูถังเทียนด้วยความสนใจ
“เอ.. เจ้ารู้ได้ไง?” ถังเทียนประหลาดใจ
“เพราะพวกเขาให้จิตวิญญาณเซียนของข้าแก่เจ้าน่ะสิ” วิลเลียมเลิกคิ้วด้วยท่าทางเยาะเย้ย“พวกเขาเอาจิตวิญญาณเซียนออกมาจากร่างของข้าแต่ไม่กล้าใช้ แต่กลับให้คนอื่นเพื่อทำร้ายพวกเขา”
“เจ้าพวกบัดซบนั่นบังอาจโกงข้า!” ถังเทียนเริ่มโกรธ
“ความจริงข้าคือจิตวิญญาณเซียน ดังนั้นข้าจึงมีรสชาติที่ดีมาก” วิลเลียมดุ “แน่นอน เบื้องต้นเราต้องมาทำความตกลงกัน ปล่อยให้เจ้าพวกบัดซบจากสมาพันธ์ชาวยุทธได้มันไปถือว่าเป็นการดูถูกข้าอย่างแท้จริง”
“ข้อตกลงอะไร?” ถังเทียนสงสัย “เจ้าอย่าคิดหลอกข้าจะดีกว่า!”
วิลเลียมโบกมือ “เฮ้ เฮ้ เฮ้เจ้าพวกสมาพันธ์ชาวยุทธงี่เง่าก็คือศัตรูหลักของเราข้าสามารถกลืนกินสนามพลังวิญญาณของเจ้าได้ แต่ข้าไม่สามารถชิงร่างของเจ้าได้”
“เจ้าจะไม่ได้กลืนกินใครทั้งนั้น” ร่างเยือกเย็นร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดที่ว่างเปล่าด้วยชุดสูทลินินสีฟ้าที่สวมอยู่ในร่างที่ผอมสูง เขายืนตรงแสดงท่าทางที่ห้าวหาญ ยิ่งกว่าใบหน้าที่เยือกเย็น
ถังเทียนสะดุ้งคนผู้นั้นมองดูเหมือนกับเขาจริงๆ มีเพียงอย่างเดียวที่แตกต่าง สีหน้าของเขาเย็นชา แต่เขาตระหนักอะไรบางอย่างได้ทันที และโพล่งออกมา “เสี่ยวเอ้อ! เสี่ยวเอ้อ!ทำไมเจ้าถึงโตไวนักเล่า?”
เสี่ยว…เอ้อ...
ข้าควรจะบอกสถานะที่แท้จริงของข้าดีไหม?
แต่...ข้าอยากใช้กระบี่ข้าฟันเจ้าเด็กโง่นี่ให้ขาดเป็นสองท่อน!
บุรุษหนุ่มไม่ยอมเหลือบมองถังเทียนผู้โง่เขลา
วิลเลียมผิวปากและหัวเราะ “ดูเหมือนสมาพันธ์ชาวยุทธงี่เง่าจะไปตอแยคนฝีมือดีเข้าให้แล้ว
ถังเทียนผู้ถือกระบี่(เสี่ยวเอ้อ) พูดอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ มารโลหิตวิลเลียม”
“อา อา อ๊า.. เสี่ยวเอ้อ, เจ้ารู้จักเขาจริงๆด้วย! เจ้ารู้จักเขาได้ยังไง? ทำไมเจ้าจำเขาได้ล่ะ? เขาดังหรือเปล่า? ทำไมข้าไม่รู้จักเขา?”
ถังเทียนผู้ถือกระบี่หันควับกลับมา เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป “หุบปาก!”
ถังเทียนโกรธ“เฮ้เสี่ยวเอ้อ อย่าคิดว่าพอเจ้าโตขึ้นก็ก่อกบฏข้าได้นะ! มาเลย เจ้าต้องการสู้ใช่ไหม ถ้าวันนี้ข้าไม่ดูแลเจ้าให้ดี ข้าจะยกนามสกุลให้เจ้าเลย
วิลเลียมหัวเราะ “ข้าจะเป็นกรรมการให้”
เอานามสกุลข้าไปใช้...
ถังเทียนคนที่ถือกระบี่ในมือไม่พูดอะไร เขารู้ว่าถ้าเขายังคงทะเลาะกับเจ้าเด็กงี่เง่าต่อไปเรื่องก็คงไม่จบง่ายๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับเจ้าเด็กโง่ เขาค่อยๆ ดึงกระบี่เซียนปราบสมุทรออกมาจากมิติว่าง เพลิงสีดำไหลเวียนอยู่ตามใบกระบี่เหมือนกับว่ามีชีวิต และเขาพูดอย่างเยือกเย็น “เรื่องยุ่งยากทั้งหมดนี้ ข้าก็แค่ฆ่าเจ้า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนสะดุ้ง เขาหันหน้าไปทางวิลเลียมและผงกศีรษะให้เขา “เมื่อเสี่ยวเอ้อพูดเช่นนั้น ข้าคิดว่าเขาพูดถูก ดูเหมือนเจ้าจะเป็นคนไม่ดี”
วิลเลียมยกมือทั้งสองประท้วง “เฮ้ เฮ้ เฮ้ ทำไมพวกเจ้าไม่ฟังข้อตกลงของข้าก่อน? ข้าไม่มีอันตรายจริงๆ”
“คนไม่ดีจะพูดอะไรก็ตามแต่ก็ยังเป็นคนไม่ดีเหมือนเดิม” ถังเทียนเถียงอย่างมั่นใจ
วิลเลียมรู้สึกท้อแท้เมื่อเห็นทั้งสองใกล้เข้ามาหาเขา เขาเริ่มพึมพำกับตัวเอง “เป็นไปตามคาด...พวกสมาพันธ์ชาวยุทธที่งี่เง่าส่งข้าไปอยู่ในเงื้อมมือเจ้าจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ น่าสนใจมาก ข้าชักกระตือรือร้นเรื่องนี้แล้ว”
เขาส่ายศีรษะและหัวเราะ “ก็ได้,ร่างของข้ายังตกอยู่ในเงื้อมมือของสมาพันธ์ชาวยุทธ จำไว้..ช่วยข้าตามหาด้วยถ้าไม่ช่วยฝังก็ช่วยเผาให้ด้วย ข้าอยากเห็นสีหน้าของสมาพันธ์ชาวยุทธนักเมื่อพวกมันรู้ว่าพวกเจ้าเป็นใครฮ่าฮ่าฮ่า....”
พร้อมกับเสียหัวเราะที่จงใจและประมาทของเขา วิลเลียมกางแขนออกทันทีและร่างของเขาเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงสีดำและเข้าไปอยู่ในร่างของเสี่ยวเอ้อทันที
มิติว่างรอบๆพวกเขาหายไปทันที ทันใดนั้นถังเทียนลืมตาและตระหนักได้ว่าถังเทียนอีกคนที่เหมือนเขามีขนาดเล็กลงอย่างรวดเร็วอยู่ต่อหน้าเขาและกลายเป็นเสี่ยวเอ้อตุ๊กตาผู้น่ารัก
“หวา เสี่ยวเอ้อเจ้ามีขนาดเล็กเหมือนเดิมอีกแล้ว! เท่มาก!” ถังเทียนปากอ้าค้างด้วยความทึ่ง
เสี่ยวเอ้อกำหมัดแน่นหน้าของเขาเขียวคล้ำ
ข้ากลายเป็นตัวเล็กลงต่อหน้าเจ้าเด็กโง่นี่จริงๆ...
และทำไม....ความรู้สึกอัปยศนี้มาจากไหน...
เสี่ยวเอ้อรู้สึกสลดยิ่งนัก และหมุนตัวและลอยไปที่มุมห้อง
“เสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อ, เจ้าลึกลับมากจริงๆ สามารถเปลี่ยนขนาดก็ได้” ถังเทียนติดตามเขาพลางตะโกน
เสี่ยวเอ้อยังคงลอยตัวต่อไป ศีรษะเขาตกขณะครุ่นคิด เขาคร่ำครวญในใจ ถ้าพวกเขาสามารถต่อสู้กันได้และเจ้าเด็กโง่จะต้องบาดเจ็บแน่นอน และข้าจะได้โอกาสควบคุมร่างนี้ แต่ใครกันจะรู้ว่า มันจะจบลงแบบนี้
เจ้าคือมารโลหิตวิลเลียมตัวจริงหรือเปล่า?
เจ้าเคยเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนไปเกินกว่าพันคน!
ทำไมเจ้าถึงยอมแพ้ง่ายๆแบบนั้น?
แล้วเจ้าจะใช้ชื่อของเจ้าต่อไปได้อย่างไร?
โง่เขลาจริงๆ...และข้าต้องถูกเจ้าเด็กโง่เปลี่ยนขนาดอีกจนได้... บัดซบจริงๆ...
เสี่ยวเอ้อลอยอยู่เงียบๆพร้อมกับความหนาวเหน็บและทุกข์ทนของเขา ค่าวิญญาณในปัจจุบันของเขาสูงถึง 80 อย่างน่าประหลาดใจ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้
มารโลหิตวิลเลียมคือคนชั่วร้ายที่มีชื่อเสียงอื้อฉาวเขาฆ่าคนมามากมายในชีวิตของเขาซึ่งเขาไม่รู้วามากมายเท่าใด ประวัติของเขาลึกลับมาก ไม่มีใครู้ว่าเขาเป็นเซียนระดับใด และเขาทำอะไรมา แต่หลังจากที่เขากลายเป็นเซียนสิ่งแรกที่เขาทำก็คือเขย่าขวัญสวรรค์วิถี
ด้วยหอกกับม้าตัวหนึ่งเขาฆ่าตลอดทางเข้าไปในแผนกหนึ่งของสมาพันธ์ชาวยุทธ ฆ่ากวาดล้างไปทั้งแผนก
หลังจากนั้นเขาบุกกลุ่มดาวขนาดใหญ่และฆ่านักสู้ของสมาพันธ์ชาวยุทธหลายคนอย่างต่อเนื่อง เขามีความเจ้าเล่ห์มาก เมื่อยอดฝีมือสมาพันธ์ชาวยุทธวางกับดัก เขาสามารถหลบหนีออกไปได้
ลักษณะที่สะดุดตาที่สุดของวิลเลียมก็คือผมสีแดงของเขาและเขาเจ้าเล่ห์โหดร้ายและชั่วร้ายเหมือนปีศาจและนั่นเองเขาจึงได้ฉายาว่า จอมมารโลหิต
เขามีชื่อเสียงในฐานะฆาตกรระดับเซียนขณะที่มีนักสู้ธรรมดาไม่มากนักที่รู้เรื่องของเขา
ถังเทียนไม่เคยได้ยินชื่อของมารโลหิตมาก่อน ดังนั้นจึงทำให้เขาไม่มีความเครียดใดๆ ขณะที่เสี่ยวเอ้อยังคงใจเย็นและทำท่าดุร้าย แต่แรงกดดันและความเครียดในหัวใจของเขาหนักหน่วงจริงๆ
สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธเอาจิตวิญญาณเซียนของวิลเลียมออกมาและไม่ใช้ด้วยตนเองนั่นแสดงให้เห็นถึงลักษณะที่ทรงอำนาจของวิลเลียม แต่ให้สมาพันธ์ชาวยุทธเองก็ยังไม่กล้าผ่อนผัน เสี่ยวเอ้อเตรียมการไว้แล้วแต่เขาคิดไม่ถึงว่าวิลเลียมจะยอมแพ้และไม่ต่อต้านและหันมาช่วยพวกเขาแทน
เหตุการณ์กลับกลายอย่างนั้นมันแปลกมาก หรือว่า....จะมีกับดักบางอย่าง?
เสี่ยวเอ้อไม่สามารถวางใจได้ แต่เขาไม่กล้าดูแคลนวิลเลียม ยอดฝีมือทุกคนที่มีชื่อเสียงมาหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซียนผู้อื้อฉาวผู้มีชีวิตมาหลายปี ไม่ง่ายจะรับมือแน่นอน
“เอ่... นี่อะไร?”
ถังเทียนที่อยู่ด้านหลังเขาพบอะไรใหม่ๆบางอย่าง และเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
เสี่ยวเอ้อหันมาดูอย่างเฉยเมย เจ้าเด็กโง่นี่จะทำอะไรอีก? เมื่อสายตาเขาเห็นฝ่ามือของถังเทียน เขาตะลึง
ในฝ่ามือของถังเทียนมีตราประทับสีแดงคล้ายเปลวเพลิง
ดวงตาของเสี่ยวเอ้อขยายกว้าง นั่นคือ... เครื่องหมายของวิลเลียม!
เสี่ยวเอ้อมาปรากฏตัวต่อหน้าถังเทียนใบหน้าที่น่ารักเขียวคล้ำ เขาตรวจสอบร่างกายของถังเทียนอย่างละเอียดและรวดเร็ว สีหน้าของเขาแปลกประหลาด
นี่คือเครื่องหมายของวิลเลียมชัดๆ แต่ไม่มีปราณของวิลเลียมอยู่เลย นี่มันชัดเจนแล้ว!
นี่....ไม่ธรรมดาเสียแล้ว!
ถังเทียนกำลังจ้องมองอยู่รู้สึกทึ่ง เขาตระหนักอยู่ในตราประทับนั้นเก็บข้อความเอาไว้ซึ่งลึกลับและลึกซึ้ง เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความรุนแรงและเย็นยะเยือกได้อย่างเลือนราง แต่ยากจะอธิบายได้ เพราะมันไม่มีร่องรอยของพลังงาน
ถังเทียนเริ่มไตร่ตรอง
ทันใดนั้นเขาแบมือ และบอลเปลวเพลิงลอยออกมาจากตราประทับและวนรอบมือเขาอย่างรวดเร็ว ในพริบตาฝ่ามือของถังเทียนก็ครอบคลุมไปด้วยเปลวเพลิง
ตาของเสี่ยวเอ้อมองดูตรงๆและเขาโพล่งออกมาว่า “เพลิงปีศาจ!”
“เพลิงปีศาจ?” ถังเทียนสงสัย แม้ว่าฝ่ามือของเขาจะมีเพลิงครอบคลุม แต่เขาไม่รู้สึกร้อนแต่อย่างใด
“เพลิงปีศาจคือวิชาพลังวิญญาณที่วิลเลียมสร้างขึ้นมาด้วยชื่อเสียงของตนเอง” เสี่ยวเอ้อแนะนำ “เปลวเพลิงนี้มีความพิเศษอย่างมากสามารถเผาอะไรก็ได้ และกล่าวกันว่าเมื่อมันอยู่ในระดับสูงก็สามารถเผาได้กระทั่งมิติ”
“ทรงพลังมาก!” ถังเทียนกระโดดด้วยความตกใจ
“แต่มันยังไม่เป็นของเจ้า...” สีหน้าของเสี่ยวเอ้อประหลาดเนื่องจากเขาบ่นกับตัวเอง “เจ้ามีร่างซึ่งมีพลังกายเป็นศูนย์”
ทันใดนั้นเสี่ยวเอ้อดูเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ เนื่องจากเขายังพูดกับตัวเองต่อไป “ใช่แล้ว เจ้ามีร่างกายพลังเป็นศูนย์...”
“เป็นไปได้...” นัยน์ตาเขาเป็นประกาย “ลองอย่างนี้!”
หลังจากกินกระดูกเซียนครั้งล่าสุดมันยังมีตราประทับที่พลังอ่อนแอมาก ตราประทับที่พลังอ่อนแอมาก แต่เสี่ยวเอ้อตระหนักได้ มันมีระดับพลังที่สูงมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ จึงยากที่จะทำความเข้าใจ
ใจของเขาลองคาดเดา และถ้าพิสูจน์...
เสี่ยวเอ้อใช้มือน้อยกดที่คอของถังเทียนโดยไม่พูดอะไรสักคำ รอยประทับอ่อนแอถูกกดเข้าไปในร่างของถังเทียน