ตอนที่ 499 เพราะเจ้ารวย
ถังเทียนใช้พลังงานมากมายและผลักดันให้ทุกคนสนใจ เขากำลังมีความสุขมาก หนุ่มชาวฟ้าสามารถดึงดูดสายตาคนมากมายในทุกที่ๆผ่านไป
เมื่อถังเทียนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังปรากฏตัวที่ร้านอาหาร ในร้านก็ตกอยู่ในความเงียบในช่วงเวลาสั้นๆทันที
สายตาของเขากวาดผ่านสายตาผู้คนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค้นหาเป้าหมายและเดินตรงไปที่คนสองคน
“ยินดีต้อนรับท่าน” ถงเก๋อยืนขึ้นและคำนับ
“?”
“เขาคือคนที่ต้องการซื้อแสงอรุณ?”
ในร้านอาหารที่เงียบ เสียงของถังเทียนสามารถได้ยินทุกที่ ทุกคนแปลกใจตอนแรก แต่แล้วก็แสดงความตื่นเต้นทันที จากนั้นพวกเขาจำได้ว่านั่นคือเดิมพันที่ชนะมา ก็คือแสงอรุณ
เพียงแค่ประโยคสั้นๆใครจะรู้ว่าหัวใจตึงเครียดมากแค่ไหน
แสงอรุณคือผลผลิตของสมาพันธ์ชาวยุทธ ในบรรดาการ์ดวิชาเซียนชั้นบรอนซ์ นอกจากแสงสางที่เหนือกว่าวิชานี้แล้ว ไม่มีวิชาอื่นที่เอาชนะได้นี่คือสุดยอดการ์ดวิชาจิตวิญญาณระดับบรอนซ์ ใครเล่าจะไม่ต้องการการ์ดวิชาจิตวิญญาณนั้น? สำหรับการ์ดวิชาจิตวิญญาณอย่างแสงอรุณนั้น คือสิ่งที่จะไม่มีทางปรากฏอยู่ในตลอด แม้แต่ในกลุ่มสมาพันธ์ชาวยุทธเองก็ตาม ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะได้รับ
ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสได้รับการ์ดวิชาจิตวิญญาณที่ทรงค่านั้น
ใครเล่าจะไม่ตื่นเต้น? คนที่กลัวมีแต่คนของสมาพันธ์ชาวยุทธ ทำให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิด ผลเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทนได้ แต่นอกจากกลุ่มคนบางกลุ่มแล้ว ไม่มีใครที่ไม่กลัวสมาพันธ์ชาวยุทธ
“ใช่” ถงเก๋อตอบอย่างมีความสุข
“ไว้แลกเปลี่ยนเท่านั้น ข้าไม่ขาย” ถังเทียนพูดตามตรง “ไม่ต้องคุยเรื่องเหรียญดาวกับข้า”
ถังเก๋อยิ้มขณะที่เขาดึงของออกมาสองชิ้น “นี่คือกระดูกเซียน ไม่เหมือนกับกระดูกหักที่ผู้เฒ่าหวีมี นี่มาจากเซียนกระบี่ชั้นเงินจ้าวจื่อเฟยจากกลุ่มดาวอควาเรียสเป็นกระดูกนิ้วกลางข้อที่สองของมือขวา จ้าวจื่อเฟยได้รับการยกย่องว่าเป็นมือกระบี่ตรวจสอบ กระดูกเซียนนี้เป็นของเขา นอกจากนั้นมันยังจะช่วยร่างวิญญาณของเจ้าให้เพิ่มค่าวิญญาณอย่างน้อย 10 จุด”
กระดูกเซียนประณีตเหมือนเครื่องเคลือบเหมือนหยกไม่มีตำหนิ มีร่องรอยประดับเงินจางๆ อยู่ข้างบน
“นี่คือด้ามร่มเป็นของที่ไม่ธรรมดาก่อนที่กลุ่มดาวราชสีห์โบราณจะล่มสลายเซียนผู้หนึ่งมีความคิดอยากจะได้ด้ามหอก แส้บรอนซ์กระดูกงูแห่งกลุ่มดาวคันชั่ง พื้นผิวไหมบรอนซ์ของผิวร่มของกลุ่มดาวแมงป่องได้สร้างเป็นสมบัติจิตวิญญาณชิ้นหนึ่ง ใครจะรู้ว่า เซียนผู้นี้โชคร้ายประสบภัยพิบัติเหลือแต่เพียงหอกบรอนซ์แห่งกลุ่มดาวราชสีห์ซึ่งปรับแต่งจนเป็นด้ามร่ม แม้ว่าสมบัติบรอนซ์นี้ยังอยู่ในรูปแบบของตัวอ่อน แต่หลังจากผ่านมายี่สิบปีก็ถูกปรับแต่งและหล่อเลี้ยงโดยสนามพลังวิญญาณและแกะสลักอย่างระมัดระวังมันกลายเป็นของที่ไม่ธรรมดา และไม่สามารถหาซื้อได้โดยทั่วไป”
ด้ามร่มแดงเข้มคล้ายกับปะการังสีแดงผสมของมันเป็นเหมือนราชสีห์พิโรธ มันมีปราณข่มขวัญกระจายออกมา
ทุกคนในร้านอาหารจับตามองสมบัติทั้งสองชิ้น พวกเขาไม่อาจละสายตาจากสมบัตินั้นได้ลมหายใจของพวกเขาหนักขึ้น
สมบัติชิ้นหนึ่งที่ถูกสร้างเป็นตัวอ่อนถูกปรับแต่งโดยสนามพลังวิญญาณและกลายเป็นสมบัติจิตวิญญาณ
สมบัติดวงดาวถือกำเนิดจากกลุ่มดาวและใช้กฎธรรมชาติเล็กน้อย พลังจิตวิญญาณเกิดจากพลังดวงดาว อาจถูกนำมาใช้โดยนักสู้ที่ไม่ใช่เซียนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่หลังจากผู้ใช้กลายเป็นเซียนแล้วได้ครอบครองสนามพลังวิญญาณ ก็สามารถเปลี่ยนได้โดยผ่านเตาหลอมจิตวิญญาณยุทธ
การขัดเกลาปรับแต่งสมบัติจิตวิญญาณยังเป็นทักษะที่ลึกซึ้งมาก ทุกคนต่างมีสนามพลังวิญญาณที่ต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง และนั่นหมายความว่าทุกเตาหลอมวิญญาณแตกต่างกัน ดังนั้นการเปลี่ยนสมบัติเป็นสมบัติจิตวิญญาณจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันตามธรรมชาติ
แต่ระบบวิทยายุทธของปัจจุบันมีการพัฒนาจนถึงบัดนี้ การปรับแต่งสมบัติจิตวิญญาณยังมีการพัฒนาออกไปได้สองสามวิธี และระบบของมันนั้นใหญ่มาก
ถังเทียนยังเป็นผู้ใหม่กับสิ่งต่างๆเหล่านี้ แต่... แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจแต่ฟังดูแล้วน่าประทับใจและทรงพลังดี...
“ยอมรับเขา”
เสียงทารกของเสี่ยวเอ้อดังขึ้นในใจของถังเทียน ทำให้เขาตื่นเต้น
ถังเทียนกำลังจะเอ่ยปากพูด ในทันใดมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ช้าก่อน!”
สายตาทุกคนในร้านอาหารถูกดึงดูดจากคนที่ตะโกน“เดี๋ยวก่อน” ทันที และจากนั้นทุกคนหันไปมองคนที่ด้านหลังถังเทียน ทุกคนเงียบลงทันที
น่าประทับใจจริงๆ นั่นคือหรงปัวและเย่เฉาเกอ!
“ผู้อาวุโสวิญญาณมืดจะซื้อแสงอรุณของเรา นั่นไม่เหมาะสมเอาเสียเลย” หรงปัวหัวเราะ ราวกับว่าเขาเป็นคนแก่ที่น่านับถือ
ทุกคนที่มีดวงตาที่โลภข่มความโลภทันที คนทั้งสองนี้ความจริงคือผู้อาวุโสขององค์การวิญญาณมืด! เมื่อคิดถึงวิธีที่พวกเขาต้องการจัดการกับผู้อาวุโสวิญญาณมืดทั้งสองคน หัวใจของพวกเขาก็เริ่มสั่นสะท้าน
ถังเทียนประหลาดใจเช่นกัน งั้นทั้งสองคนก็มาจากองค์การวิญญาณมืดสินะ แต่เขาไม่มีความรู้สึกอะไร ทุกคนมีความรู้สึกระแวงกลัวองค์การวิญญาณมืด แต่เขาไม่มีความรู้สึกอะไรต่อพวกเขา แค่ตื่นเต้นเล็กน้อย
ตามความคิดของพวกชอบใช้กำลังอำนาจพวกเขาต้องการชิงของทั้งสองชิ้นซึ่งเป็นสมบัติ!
แต่เพราะหรงปัวพาเย่เฉาเกอมาที่นี่ทำให้ถังเทียนระมัดระวังทันที หน้าของเขาเต็มไปด้วยความรอบคอบ ทั้งสองคนนี้กำลังวางแผนจะชิงสมบัติคืนหรือ?
เขามีแผนหลบหนีทันทีที่เห็นว่าบางอย่างไม่เข้าที
“ทุกคนก็รู้ว่าองค์การวิญญาณมืดสนใจเรื่องของสมาพันธ์ชาวยุทธ เอาวิชาแสงอรุณกลับไปศึกษาชั่วขณะใครจะรู้ว่าเราอาจเรียนวิชาแสงจิตวิญญาณได้บ้าง” บุรุษวัยกลางคนพูดโดยไม่ปิดบังหลีกเลี่ยงหัวข้อ เขาเชิดหน้าแค่นเสียง “อย่าบอกข้านะว่าผู้อาวุโสหรงนึกเสียใจแล้ว?”
“เสียใจ? หึหึ!” หรงปัวหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ผู้อาวุโสมู่กำลังดูถูกข้า แพ้ก็คือแพ้ ไม่มีอะไรเรื่องใหญ่ เมื่อข้าอายุยังน้อย ข้าก็แพ้มามาก ข้าสูญเสียเกือบหมดตัวเหมือนกัน”
ทันใดนั้นเขาหันไปหัวเราะให้กับถังเทียน “น้องชาย, ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เรื่องที่ข้าเป็นผู้อาวุโสจากสมาพันธ์ชาวยุทธ เห็นแก่หน้าข้าบ้างรับรองไม่ทำให้เจ้าเสียใจ”
“อย่างนั้นผู้อาวุโสหรงมาเพื่อดื่มชาที่นี่ใช่ไหม?” ผู้อาวุโสมู่กล่าวแดกดัน
“ฮ่าฮ่า ข้ามาที่นี่เพื่อป้องกันมิให้วิชาจิตวิญญาณข้าหลุดมือตกไปอยู่ในมือศัตรูของข้า” หรงปัวหัวเราะให้ถังเทียน “เนื่องจากผู้อาวุโสวิญญาณมืดตั้งราคามาเรียบร้อยแล้ว อย่างนั้นข้าในฐานผู้อาวุโสสมาพันธ์ชาวยุทธก็ตั้งราคาเสนอได้เช่นกัน”
โอวพระเจ้า, ถังเทียนมีความสุข “แน่นอน ท่านทำได้”
สู้มาเลย...สู้มาเลย...
เสี่ยวเอ้อได้ยินเสียงกระซิบของถังเทียนจึงอดกรอกตาไม่ได้ ผู้ดีอย่างข้าต้องมาคลุกคลีกับเจ้าเด็กบัดซบนี่ได้ยังไง?
ผู้อาวุโสหรงปัวหัวเราะ “ผู้อาวุโสมู่ยินดีใช้ทรัพย์ที่อดออมมาอย่างหนัก อย่างนั้นข้าจะไม่ทำเช่นนั้นเช่นกัน”
โอว...
ให้ราคามาสูงๆ.... ขอราคาสูงๆ....
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนในใจตื่นเต้นของถังเทียน เสี่ยวเอ้อกรอกตาอีกครั้ง เขาเริ่มคิดแล้วเขาล้มเหลวที่มาอยู่ในร่างของเจ้าคนงี่เง่านี่
“ข้ามีอยู่สิ่งเดียว จิตวิญญาณเซียน!” ผู้อาวุโสหรงทิ้งคำพูดช้าๆ
เสี่ยวเอ้อซึ่งกำลังกรอกตาทำสีหน้าหยิ่ง และตะโกนอย่างบ้าคลั่งทันที “ยอมรับเขาซะ!”
ถังเทียนไม่ได้ตกใจกับคำตอบของหรงปัว แต่สะดุ้งตกใจเพราะเสียงตะโกนของเสี่ยวเอ้อ “เฮ้, เสี่ยวเอ้อ, เจ้าจะอยู่ฝ่ายใครกันแน่?”
“รีบตกลงซะ!นั่นคือของดี!” เสี่ยวเอ้อตะโกนอย่างเหลืออด
ถังเทียนหัวเราะ “เสี่ยวเอ้อ เชื่อข้าเถอะน่า, คอยดูข้า”
ผู้อาวุโสมู่มองดูหรงปัวอย่างเหลือเชื่อและพูดอย่างเยือกเย็น “เจ้าบ้าไปแล้ว แสงอรุณจะเทียบกับจิตวิญญาณเซียนได้ยังไง?”
“มันไม่มีค่าสำหรับเจ้า แต่สำหรับข้ามีแน่” หรงปัวหัวเราะและโบกมือ “ข้าจะทำยังไงได้เล่า, ก็ข้ารวยมาก, แล้วข้าจะทำอะไรได้?”
ตาของถังเทียนเป็นประกาย มองดูหรงปัวด้วยนัยน์ตาที่หลงใหล ข้าชอบลูกค้าอย่างเจ้า!
“เอายังไง? น้องชาย” หลงปัวสังเกตเห็นนัยน์ที่หลงใหลของถังเทียน เขาไม่กล้าเชื่อว่าถังเทียนคือคนที่สามารถปฏิเสธข้อเสนอเช่นนั้นได้
“ข้าก็ชอบนะ, แต่.. ท่านต้องเพิ่มอย่างอื่นไปด้วย!” ถังเทียนพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงแน่นอน “ข้ายังคงต้องการสมบัติจิตวิญญาณชิ้นหนึ่ง”
หรงปัวอดขมวดคิ้วไม่ได้ “เจ้ารู้ไหมจิตวิญญาณเซียนใช้ทำอะไร?”
“ข้ายังไม่รู้ แต่ดูเหมือนมีพลังมาก!” ถังเทียนส่ายศีรษะตรงๆ
เป็นอย่างนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าข้าจะพบกับคนที่ไม่รู้อะไร ก็ดีเหมือนกัน ตราบใดที่เขารู้คุณค่าของจิตวิญญาณเซียน เขาจะไม่ปฏิเสธแน่นอน หรงปัวคลายหัวคิ้วและหัวเราะ “อันจิตวิญญาณเซียนนี้ก็คือสนามพลังวิญญาณที่เซียนคนหนึ่งทิ้งไว้นั่นเอง ประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คือสามารถเพิ่มค่าพลังวิญญาณของเจ้าได้ กระดูกเซียนของเขาสามารถเพิ่มค่าพลังวิญญาณได้ 10 หน่วย แต่จิตวิญญาณเซียนนี้สามารถเพิ่มค่าพลังวิญญาณของเจ้าได้อย่างน้อย 50 หน่วย ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง!” ถังเทียนตระหนักทราบและสร้างความประหลาดใจมากยิ่งขึ้น “แต่ท่านยังต้องให้ข้าเพิ่มอยู่ดี!”
หน้าของหรงปัวเขียวคล้ำ “น้องชาย คนเราต้องไม่โลภเกินไป ต้องรู้ว่าเมื่อใดควรหยุดและไม่ทำลายสัมพันธ์นั่นจึงจะถูก”
ถังเทียนชี้ไปที่ด้ามร่มและถามหรงปัว“จิตวิญญาณเซียนมีค่ามากกว่าด้ามร่มนั่นเท่าใด?”
“มากกว่าสิบเท่า!” หรงปัวกล่าวอย่างหยิ่งยโส
“ท่านให้ข้าได้มากถึงสิบเท่า ก็ยังให้ได้ ถ้าจะเพิ่มมาสักอีกหนึ่งชิ้นจะเป็นอะไรไป?” ถังเทียนพูดอย่างกล้าหาญราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นลูกหนี้เขาหรืออะไรทำนองนั้น
เสี่ยวเอ้อตะลึง...นี่ นี่... อย่างนี้ก็ใช้ได้ด้วย
“แค่เพื่อหนึ่งเท่า, เจ้าไม่ต้องการสิบเท่าแล้วใช่ไหม?” หน้าของหรงปัวสลด
“ท่านสามารถให้ข้าได้ถึงสิบเท่าในตอนนี้ ก็หมายความว่ามันมีค่ามากกว่าสิบเท่า” ถังเทียนส่ายศีรษะ “ตอนนี้ข้าไม่ต้องการแค่หนึ่งแล้ว ข้าต้องการเพิ่มอีกสาม!”
“น้องชาย, เจ้าคิดว่าสมาพันธ์ชาวยุทธจะข่มเหงกันได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?” หรงปัวพูดเย็นชา
ถังเทียนชูห้านิ้ว “ห้าชิ้น!”
หรงปัวจ้องถังเทียนอยู่ครึ่งค่อนวันและจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้น “ตกลง! น้องชายเข้าใจความตั้งใจของคนได้ชัดเจนดี น่าชื่นชม น่าชื่นชม! แต่ว่าเจ้าทำกับข้าอย่างนี้ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
ถังเทียนตอบด้วยความมั่นใจ “เป็นเพราะท่านรวยมากไงเล่า!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหรงปัวค้าง
ผู้อาวุโสมู่หัวเราะอย่างไม่ยั้งเสียงและเสียงหัวเราะของเขาเหมือนกับมีดบาดหัวใจหรงปัวยิ่งนัก
เย่เฉาเกอมองดูถังเทียนเงียบๆ เขาไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ประหลาดใจต่อท่าทีของอีกฝ่ายหนึ่ง
ในการต่อสู้ครั้งล่าสุด เขาใช้พลังที่ไม่ธรรมดาควบคุมพลังของเขา ดังนั้นเขารู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว
เมื่อเห็นการต่อรองประจักษ์กับตาตนเอง เขายิ่งมั่นใจแผนการลึกๆของอีกฝ่ายหนึ่งยิ่งขึ้น ผู้อาวุโสเอาจิตวิญญาณเซียนออกมา แต่ไม่เพียงไม่ทำให้อีกฝ่ายยอมรับเท่านั้น แต่ทำให้อีกฝ่ายใช้ความมั่นใจบีบบังคับผู้อาวุโสเพิ่มขึ้นทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฉาเกอเห็นผู้อาวุโสอยู่ในสถานะจนใจอย่างนี้ เมื่อความรู้เรื่องเจตนาบุคคลของผู้อาวุโสยังไม่ถึงที่ระดับที่น่าเชื่อถือ
เป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ
เสี่ยวเอ้อตะลึงสิ้นเชิงเขามองดูด้วยความตกใจ ขณะที่หรงปัวเอาสมบัติวิญญาณออกมาอีกชิ้นหนึ่ง และจากนั้นพาเย่เฉาเกอจากไป
มุมมองหลังของหรงปัวทำไมดูเหมือนยอมตามและหลบหนีเล่า? เสี่ยวเอ้อส่ายศีรษะในใจ เป็นไปไม่ได้... ผู้อาวุโสของสมาพันธ์ชาวยุทธล้วนแต่หยั่งไม่ถึง ทุกคนมีความฉลาดเหลือล้ำ...แล้วเขายอมหนีไปอย่างนั้นได้ยังไง...
ถังเทียนกำลังชื่นชมสมบัติวิญญาณในมือของเขา มันคือหัวหอกเล็กซึ่งเล็กกว่าฝ่ามือของเขามีสีดำและมีรูปร่างเหมือนจะงอยปากอีกา มันไม่มีเครื่องประดับอย่างอื่นและดูเหมือนจะมีคุณภาพสูงสุดบนส่วนที่ยื่นออกมามีอักษรว่า “ดาวผมเบเรนิซ”
ผู้อาวุโสมู่ที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าว “เขาไม่ได้โกงเจ้าหรอก นั่นคือหัวหอกแห่งกลุ่มดาวผมเบเรนิซเป็นของดี มันคือสมบัติวิญญาณ สมบัติจากกลุ่มดาวผมเบเรนิซ จุดแข็งของมันก็คือมันจะเบาบางดุจเส้นด้ายก็ได้ เป็นอาวุธรูปแบบแส้ และมีคุณภาพที่ดี มีแส้บรอนซ์นี้เป็นตัวหลักร้อยเข้ากับหอกอีกาแห่งกลุ่มดาวกา ก็จะกลายเป็นสมบัติจิตวิญญาณอย่างสมบูรณ์ นั่นคือสิ่งที่เจ้าสามารถใช้ได้ในตอนนี้ สมบัติของข้ายังไม่สมบูรณ์ แม้ว่าคุณภาพจะโดดเด่นมากก็ตาม แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะสามารถใช้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เลย”
เสียงของผู้อาวุโสมู่เต็มไปด้วยความยินดี สามารถเห็นศัตรูตัวฉกาจของเขาถูกกินรวบ ไม่มีอะไรทำให้เขายินดีมากกว่านั้นแล้ว