ตอนที่ 499 - หยกสุบิน
แต่ละวันผ่านไปเช่นนี้ เย่ว์หยางจะกลายเป็นครูฝึกให้กับสาวขี้เมาในช่วงกลางวัน ซึ่งเขามักจะหยอกล้อนางอยู่เสมอ
และช่วงเวลาค่ำ เขาจะมุ่งเน้นให้ความสนใจกับงานสร้างตุ๊กตาหุ่นรบ
ด้วยบันทึกในสารานุกรมหุ่นที่ภูตอัจฉริยะเย่ว์กงบันทึกถึงตุ๊กตาหุ่นรบโบราณสามตัวอายุหกพันปีที่ครอบครองโดยราชาเฮยอวี้นั้น เย่ว์หยางใช้เป็นพื้นฐานทำให้เขามีความก้าวหน้ารวดเร็วเนื่องจากส่วนประกอบทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว
เย่ว์หยางได้เปิดตุ๊กตาหุ่นรบโบราณทั้งสามมาแล้ว เขาได้พื้นฐานความลับของราชาเฮยอวี้และเรียนรู้ได้มากมายหลายเท่า
ตุ๊กตาหุ่นรบโบราณไม่มีเพศ แต่ร่างของพวกมันถูกสร้างออกมาให้มีลักษณะเพศหญิง บางทีนี่อาจทำเพื่อให้คนสับสนก็เป็นได้ ใครเล่าจะสงสัยกันว่าสาวงามที่แท้จริงกลับกลายเป็นหุ่นไปได้? นอกจากนี้เย่ว์หยางยังตระหนักว่าชิ้นส่วนภายในของตุ๊กตาหุ่นรบคล้ายกับไฉ่อีมาก สำหรับตุ๊กตาหุ่นรบอีกสองตัวชื่อเฮยอีและไป๋อีมีรูปร่างส่วนสูงต่างกันเล็กน้อย ถ้าลอกผิวเทียมออกก็จะดูคล้ายกันมาก
สำหรับตุ๊กตาหุ่นรบโบราณในโลงทองเมื่อเทียบกันแล้ว ตุ๊กตารบทั้งสามนี้ยังแค่อยู่ในระดับปานกลาง
หุ่นรบแปลงร่างได้ที่เย่ว์กงสร้างขึ้นทั้งหมดมีระดับที่ต่ำกว่านี้ หรือโดยเฉลี่ยแล้วถือว่าระดับต่ำ เนื่องจากติดข้อจำกัดบางอย่าง
เนื่องจากช่วงเวลาตกทอดและการขาดหายไปของเทคโนโลยี ทักษะรบที่เคยทำให้พวกมันอยู่เหนือหุ่นรบโดยทั่วไปจึงสาบสูญไปด้วย
ตุ๊กตาหุ่นรบที่จะมีสติและอารมณ์เป็นของมันเอง สร้างโดยเย่ว์กงผลิตออกมาได้คุณภาพดีที่สุดคล้ายกับแบบพิมพ์เขียวที่พบในโลงทอง ในภาพวาดนั้น มีอยู่สองสามจุดระบุว่ามีตุ๊กตาหุ่นรบระดับสุดยอดมีอยู่จริงในยุคโบราณ ตุ๊กตาหุ่นรบเหล่านี้สามารถสลับกลับไปมาระหว่างร่างมนุษย์และร่างตุ๊กตาหุ่นรบและมีบุคลิกอยู่สองอย่างระหว่างความเป็นมนุษย์และตุ๊กตาหุ่นรบ ไม่เพียงแต่พวกเขายังมีชีวิตเท่านั้น แต่มีสติอารมณ์ความคิด และพวกเขามีวิญญาณ
หุ่นรบระดับสุดยอดนี้มีอยู่แต่ในตำนาน การคงอยู่ของพวกเขาคล้ายๆ กับสุดยอดอาวุธระดับเทพ
และตุ๊กตาหุ่นรบในโลงทองคล้ายกันกับแบบของเย่ว์กง
เมื่อพวกเขาสร้างได้สำเร็จ นี่จะกลายเป็นตุ๊กตาหุ่นรบระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย
มันจะกลายเป็นอาวุธเทพในร่างมนุษย์ได้
สำหรับไฉ่อี, เฮยอีและไป๋อีซึ่งเป็นตุ๊กตาหุ่นรบรุ่นโบราณ ทั้งหมดน่าจะเป็นหุ่นในระดับแพลตตินัม ถ้าเย่ว์หยางสามารถคิดหาวิธีการพัฒนายกระดับให้พวกมันได้ ด้วยพลังอักษรรูน บางทีทั้งหมดอาจยกระดับกลายเป็นตุ๊กตาหุ่นรบแพลตตินัมระดับสูงก็ได้
แน่นอนว่า ยังเป็นไปไม่ได้ที่ตุ๊กตาหุ่นรบทั้งสามจะยกระดับกลายเป็นตุ๊กตาหุ่นรบระดับศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังชีวิตเหมือนกับนางฟ้านักรบ
ยิ่งกว่านั้น ถ้าเย่ว์หยางสามารถทำเช่นนั้นได้ เขาจะยกระดับดาบจันทร์เสี้ยวและดาบวิเศษฮุยจินขึ้นเป็นอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ นี่เป็นการยกระดับพลังอาวุธของเขาอย่างน้อยที่สุด
ยังคงมีความเป็นไปได้มากสำหรับดาบวิเศษฮุยจินเช่นกัน เนื่องจากเย่ว์หยางยังมีเลือดไตตัน ถ้าเย่ว์หยางสามารถผสานแก่นหลอมเหลวของจ้าวอัคคีและผลึกของมังกรปีศาจได้ ควบคู่ไปกับมุกปีศาจจากอสุรกายดำชั้นทองและมุกวิญญาณเงินจากปีศาจทอง ส่วนประกอบทั้งห้านี้ถ้าผสานรวมกันได้สมบูรณ์และเพิ่มด้วยอักษรรูนลงไป ก็คงไม่มีปัญหาในการยกระดับเป็นอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้เย่ว์หยางมีความทะเยอทะยานจะสร้างอาวุธชั้นเทพให้ได้ เขาคาดว่ายังขาดองค์ประกอบบางอย่างแน่นอน
เลือดเทพ, น้ำทิพย์, เทพเหล็กไหลดาวตก, หัวใจไตตัน, ซากมนุษย์แก้วผลึกและหยกสุบิน เขายังคงเก็บสมบัติล้ำค่าทั้งหมดนี้ไว้เพื่อเติมปณิธานข้อสุดท้ายของเย่ว์กงให้เต็ม ดังนั้นเย่ว์หยางตัดสินใจเลื่อนการยกระดับดาบฮุยจินของเขาออกไปก่อน
ประการแรก เขายังมีส่วนประกอบไม่เพียงพอ
ประการที่สอง เนื่องจากเขามีกริชสังหารเทพไว้ใช้แล้ว เขาจึงมีอาวุธใช้งานเพียงพอ
และประการที่สาม เนื่องจากราชาเฮยอวี้ยังไม่ลงมือโจมตีด้วยตนเอง จึงนับว่ายังไม่สายเกินไปที่เย่ว์หยางจะยกระดับดาบวิเศษฮุยจินเมื่อสงครามเริ่มก็ได้
“เสี่ยวซาน ช้าลงหน่อยก็ได้ มันจะไม่ดีต่อร่างกายของเจ้าที่เสียเลือดมากเกินไปนะ” เย่ว์หวี่ปวดร้าวใจที่เห็นเย่ว์หยางทำงานอย่างบ้าคลั่งเช่นนั้น
“ไม่เป็นไร” เย่ว์หยางใช้กริชสังหารเทพกรีดฝ่ามือและหลั่งเลือดออกมามาก แต่ร่างกายของเขาฟื้นสภาพได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นแผลเขาจึงหายได้เองจนมองดูได้ด้วยตาเปล่า แม้ว่าบาดแผลจะใหญ่ขนาดนี้ แต่เลือดก็หยุดไหลหลังจากนั้น ทำให้เย่ว์หยางต้องกรีดเปิดเส้นเลือดของเขาซ้ำๆ เพื่อให้เลือดเปื้อนแท่งเสาแก้วผลึก เย่ว์หวี่เจ็บปวดหัวใจเพราะเย่ว์หยางทำมากขนาดนั้นจนนางร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเองโดยไม่ต้องทำใจทำอารมณ์เพื่อให้หลั่งน้ำตา
เย่ว์หยางเปลี่ยนเสาแก้วผลึกที่ตัดออกมาทั้งหมดให้เป็นรูปที่เขาปรารถนาได้และผสานมันเข้ากับซากมนุษย์แก้วผลึกที่ได้มาจากหุบเขาแก้วผลึก
เขากลั่นและชำระส่วนประกอบด้วยเพลิงอมฤตและใช้มันสร้างร่างตุ๊กตาหุ่นรบตามความปรารถนาข้อที่สามของเย่ว์กง แม้ว่าเขาใช้แก้วผลึกของเขาจนหมดและต้องยืมแก้วผลึกเป็นจำนวนมากมาจากคลังหลวงของอาณาจักรเทียนหลัว เย่ว์หยางก็แค่แยกผลึกบริสุทธิ์ออกมาได้เพียงขนาดผลแตงโมเท่านั้น
คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมันให้เป็นร่างผู้ใหญ่ แต่ก็พอทนได้ถ้าจะสร้างให้เป็นร่างของเด็ก
ส่วนที่ดีที่สุดจะใช้สร้างเป็นร่างกายของมัน
สำหรับแก่นผลึกที่ไม่บริสุทธิ์นิดหน่อย อาจจะใช้สร้างเป็นตุ๊กตาผลึกร่างสอง เพราะตามพิมพ์เขียวโบราณที่อยู่ในโลงทอง ตุ๊กตาหุ่นรบนี้มีสามร่าง ร่างแรกจะเป็นร่างธรรมดา ร่างที่สองจะเป็นร่างฝึกฝน และร่างที่สามเป็นร่างสำหรับต่อสู้
เย่ว์หยางจะเพิ่มโลหะอย่างเช่นเทพเหล็กไหลดาวตกและโลหะเงินลับและผสานเข้าด้วยกันเพื่อใช้สร้างเป็นร่างที่สาม โลหะทั้งหมดนี้จะสร้างเป็นเกราะให้นาง ดังนั้นร่างแบบสำเร็จของนางฟ้าสงครามจะอยู่ในชุดเกราะ
น่าเสียดายที่เย่ว์หยางไม่รู้วิธีเปลี่ยนตุ๊กตาแก้วผลึกให้เป็นร่างมนุษย์ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงพยายามสร้างสุดยอดอาวุธเทพ นางฟ้าสงครามจากยุคโบราณได้อย่างแน่นอน
เลือดเทพถูกเพลิงอมฤตของเย่ว์หยางกลั่นชำระจนบริสุทธิ์ เย่ว์หยางเคยใช้เลือดของเขาผสมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเลือดชนิดใหม่ เรื่องนี้ตอนแรกคงเป็นไปไม่ได้ที่เลือดของเทพจะหลอมรวมเข้ากับเลือดชนิดอื่น แต่เย่ว์หยางกล้าที่จะท้าพิสูจน์ว่ามันผิด ปรากฏว่าสำเร็จได้อย่างคาดไม่ถึง เลือดเทพใหม่หยดใหญ่จะเป็นต้นกำเนิดชีวิตของตุ๊กตาแก้วผลึก สำหรับเลือดของตุ๊กตาแก้วผลึก จะมีส่วนผสมเลือดของเย่ว์หวี่, อู๋เหินและเจ้าเมืองโล่วฮัว แม้ว่าเลือดของพวกนางจะเข้ากันไม่ได้มากนัก แต่เย่ว์หยางก็ทำได้สำเร็จอีกครั้งหลังจากผสมน้ำทิพย์และเลือดเทพชนิดใหม่ แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่ายังไม่เพียงพอ ถ้าเขาต้องการจะสร้างตุ๊กตาแก้วผลึกที่คล้ายกับเด็กมนุษย์ เขาจำเป็นต้องได้เลือดสตรีเพิ่ม
ไม่ใช่แค่เย่ว์ปิง, อี้หนานและพี่สาวขี้เมาเท่านั้น แม้แต่ซวงเอ๋อและหนูน้อยแพนด้าหนิวหนิวก็บริจาคเลือดคนละเล็กน้อยจนกระทั่งได้เลือดใหม่
มีแต่เพียงแม่สี่ที่ปฏิเสธโดยตรง นางไม่ยอมให้เย่ว์หยางได้รู้จักเลือดของนาง
เรื่องนี้สร้างความงุนงงให้กับเย่ว์หยางมากและทำให้เขารู้สึกว่านางยิ่งลึกลับมากขึ้นอีก
เย่ว์หยางยืนยันรายชื่อไว้ในรายการแล้ว ไม่สำคัญว่าเลือดจะบริสุทธิ์พอหรือไม่ ยังคงมีนางเซียนหงส์ฟ้า, เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ถ้ายังคงไม่พอใช้ เย่ว์หยางจะขอบริจาคจากมารเคราะห์ฟ้า, จักรพรรดินีราตรีและจื้อจุน บางทีพวกนางอาจยินดีบริจาคเลือดให้บางส่วน
และนอกจากนี้ สาวมังกรเจี้ยงอิงที่เกือบเหมือนหญิงสาวมนุษย์อื่นๆ เลือดของหลิวเย่, เซี่ยอีและสาวลูกครึ่งเอลฟ์ก็ยังถูกสำรองไว้เช่นกัน
ยังไม่ต้องพูดถึงอสูรของเขาเอง อสูรน้อยเสี่ยวเหวินหลี, นางพญากระหายเลือดอาหง, นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่ว, โคเงาอาหมันก็สามารถเพิ่มได้ในที่สุด แน่นอนว่าส่วนเพิ่มเติมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน คำถามที่ยากที่สุดที่เย่ว์หยางกำลังเผชิญก็คงเป็นเรื่องวิธีหลอมผสานเทพเหล็กไหลดาวตกและหัวใจไตตันให้เข้ากันสมบูรณ์ เทพเหล็กไหลดาวตกเป็นของสำคัญและจำเป็น เนื่องจากมันเป็นสมบัติระดับเทพที่สามารถเติบโตและพัฒนาการร่วมกับตุ๊กตาแก้วผลึกได้ และยังเชื่อมต่อกับเกราะและอาวุธในร่างของมันได้ หากปราศจากเทพเหล็กไหลดาวตก ตุ๊กตาแก้วผลึกจะไม่มีร่างที่สาม
และจะทำโดยปราศจากหัวใจไตตันไม่ได้เช่นกัน เพราะมันจะให้พลังงานที่น่ากลัวกับตุ๊กตาแก้วผลึก
หัวใจไตตันย่อมจะดีกว่าผลึกมังกรทุกอย่าง เพราะเย่ว์หยางไม่เคยเห็นมังกรยักษ์ตัวใดอยู่ในระดับนักรบสวรรค์มาก่อน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หัวใจของไตตัน ได้มาจากไตตันโบราณนามว่าอูซูผู้บาดเจ็บ และเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับหนึ่ง หลังจากเย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตชำระ เขายังรักษาแก่นของพลังไตตันโบราณไว้ และขนาดที่เล็กลงมาก เหมาะจะใช้เป็นหัวใจของนางฟ้าสงครามซึ่งจะเป็นแหล่งพลังงานร่างกายทั้งหมดของมัน
เย่ว์หยางยังคิดหาวิธีที่ดีที่สุดในการรวมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันไม่ได้
แต่ตามภาพแบบ เย่ว์หยางเข้าใจว่าเขาสามารถติดตั้งหัวใจไตตันไว้ในร่างที่สองและใช้เทพเหล็กไหลดาวตกเชื่อมร่างที่สองและร่างที่สามเข้าด้วยกัน
เขาจะผสานทั้งสองอย่างให้สมบูรณ์ได้อย่างไร?
เขาจะมั่นใจว่าเขาจะประสบผลสำเร็จได้อย่างไร?
เย่ว์หยางยังคงจมอยู่กับความคิด..
“ความจริงยังคงมีทางหนึ่ง นั่นก็คือใช้หยกสุบิน” เจ้าเมืองโล่วฮัวแนะนำทางออกให้เย่ว์หยาง
“เสี่ยงเกินไป ข้ารู้สึกว่าฝันของเจ้าผู้นี้จะต้องเกี่ยวข้องกับผู้หญิงทั้งนั้น ฉะนั้นล้มเหลวแน่นอน” สาวขี้เมาคัดค้านรุนแรง เนื่องจากนางไม่คิดว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผล
หยกสุบิน: หยกสุบินถูกกล่าวขานกันว่าเป็นหนึ่งในสมบัติที่มอบความปรารถนาให้ซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดในหอทงเทียนคู่เคียงกับกระเช้าสมปรารถนา มันสามารถรู้ความฝันของเจ้าของ ไม่ว่าจะฝันเรื่องอะไรก็ตาม มันก็จะรู้ความปรารถนาของเจ้าของ จากดินแดนแห่งความฝัน ความปรารถนาทั้งหมดจะถูกจำกัดโดยรหัสโบราณ ถ้าความฝันอยู่นอกขอบเขตจำกัดของรหัสโบราณ และไม่สามารถรู้ได้ หยกสุบินจะแตกและหายไปตลอดกาล
เย่ว์หยางรู้ความสามารถการทำงานของสมบัตินี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่เขาไม่กล้าจะใช้มัน
อาจกล่าวได้ว่านี่คือสมบัติที่ดีที่สุดในโลก
นอกจากนี้อาจเป็นสมบัติที่แย่ที่สุดในโลกก็ได้… ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ถ้าเขาเป็นคนบ้านึกปรารถนาจะพิชิตโลกหรือกลายเป็นเทพเจ้า อย่างนั้นมันก็คงทำลายตัวเองและสลายหายไปแน่นอน ถ้าเขาอยู่ในถิ่นที่ดีปรารถนาจะเปลี่ยนหินให้กลายเป็นทอง อย่างนั้นความปรารถนานี้มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นจริงได้ เนื่องจากหอทงเทียนในยุคโบราณ มีนักรบประเภทนั้นอยู่จริง สามารถใช้สัตว์อสูรควบคุมความฝันได้ พวกเขาเป็นที่รู้จักกันในนามผู้อัญเชิญที่ควบคุมฝัน พวกเขาเชี่ยวชาญในการรู้ความฝันของคนอื่น แต่อาชีพนี้ก็สาบสูญไปเมื่อแปดพันปีที่แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะหนังสือโบราณที่สาวขี้เมายืมมาจากจักรพรรดิเทียนหลัว และหอสมุดหัวซิ่ว เย่ว์หยางคงไม่รู้จักอาชีพเช่นนั้น
เย่ว์หยางฝันถึงอะไรกันแน่?
เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพศตรงข้ามทั้งหมดหรือไม่?
แน่นอนว่าไม่!
เหตุผลที่เย่ว์หยางไม่กล้าใช้มัน เพราะปกติเขาจะเข้าไปฝึกฝนกับเทพธิดากระบี่ในช่วงที่เขาฝันเป็นปกติ
ถ้าความฝันนี้ส่งผลเป็นความจริง เขาได้ตายแน่ถ้าโล่วฮัว, เย่ว์หวี่และคนที่เหลือรู้ความลับของเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่กล้าใช้หยกสุบิน เขากลัวว่าสิ่งมหัศจรรย์นี้จะเปิดเผยความลับทั้งหมดของเขา
“น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าคงช่วยเจ้าได้บ้าง” แม่สี่ถอนหายใจเสียดาย
“อะไรนะ?” เย่ว์หยางลอบตกใจ
เป็นไปได้ไหมว่าอาชีพของแม่สี่ก็คือ นักอัญเชิญผู้ควบคุมความฝัน อาชีพที่สาบสูญมานานแปดพันปีแล้ว?
ถ้านางไม่ดีพอ นางคงไม่ยื่นข้อเสนออะไรแบบนี้ ถ้านางรู้วิธีควบคุมความฝัน แม้ว่านางจะไม่ใช่ผู้อัญเชิญที่ควบคุมความฝัน นางคงนับได้ว่าเป็นคนพิเศษคนหนึ่ง คนธรรมดาคงไม่สามารถควบคุมฝันของตัวเองได้ ด้วยพลังของแม่สี่ นางอาจควบคุมความฝันได้จริงๆ.. นี่ดูเหมือนชักจะน่าสงสัย…
แน่นอนว่าเย่ว์หยางไม่กล้าจะพูดโดยตรง เขาคงได้แต่รอและสังเกต
“เจ้าสามารถลองด้วยตัวเองก็ได้, ซานเอ๋อ, พลังจิตของเจ้าเพียงพอจะควบคุมความฝันของเจ้าได้” แม่สี่ดูเหมือนจะมีบางอย่างในใจนางและต้องการจะสอนบางอย่างกับเย่ว์หยาง แต่นางก็ไม่พูดในที่สุด นางจูงซวงเอ๋อและหนิวหนิวออกมา เหมือนกับว่านางไม่ได้พูดอะไรและกลับคืนไปเป็นแม่บ้านธรรมดาอีกครั้ง เย่ว์หยางต้องการเรียนรู้จากนางมาก แต่เขาไม่สามารถบังคับได้ มันไม่ใช่เรื่องเจ็บปวดที่จะลองดู
ถ้าหยกสุบินนี้แตกสลาย อย่างแย่ที่สุดก็ต้องทุ่มเงินมหาศาลซื้ออีกชิ้นหนึ่งมาจากหอทงเทียนชั้นหก
เย่ว์หวี่ก็สนับสนุนเย่ว์หยางเช่นกัน “เสี่ยวซาน, ลองดูก็ได้, ข้าคิดว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จแน่นอน”
*******************