ตอนที่ 3 วันแรกในโคโนฮะ 2
ซาสึเกะมองเด็กตรงหน้าด้วยความเซ็ง เพราะแม้ว่าเขาจะแกล้งทำเป็นไม่อยากยุ่งอะไรกับเขา แต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนมากมายนอกจากอิทาจิ พี่ชายของเขา แต่คนในตระกูลก็ไม่เข้าใกล้เขา ด้วยความเคารพและเกรงกลัวต่อพ่อของอิทาจิ หัวหน้าตระกูลไม่ต้องการให้ลูกๆทำตัวไม่ดีกับซาสึเกะและทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเขา และตระกูลอื่นๆ ในหมู่บ้านยังคงสงสัยพวกเขาโจมตีหมู่บ้านด้วยพลังของเก้าหางและหนีไปอยู่ห่างจากกลางเมืองเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของผู้อาวุโสสูงสุด
ดังนั้นในขณะที่ซาสึเกะกำลังฝึกอยู่ เขาก็จะเหลือบมองบาโคริโอ้เป็นระยะๆ และเห็นว่าเขาเก่งขึ้นทำให้ซาสึเกะพอใจและฝึกต่อไปด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความแม่นยำของบาโคริโอเพิ่มขึ้น ใบหน้าของเขาเริ่มเครียดทีละเล็กทีละน้อยจนถึง 1 ชั่วโมงต่อมา เขาก็ลืมเรื่องการฝึกฝนของเขาไปและเอาแต่จ้องมองไปที่บาโคริโอ้ด้วยพัฒนาการอย่างรวดเร็วของเขา
“ไง” เสียงของซาสึเกะ ทำให้บาโคริโอ้มองไปที่ต้นตอของเสียงก่อนที่จะยังไม่ทันได้พูดอะไร
“นี่นายพัฒนาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”
*การขว้าง: เลเวล 10 (ค่าประสบการ์ณ 5% ) สามารถโจมตีเป้าหมายที่ไม่เคลื่อนที่ด้วยความแม่นยำ 100%*
'ยังมีหนทางอีกยาวไกลแฮะ จากเป้าหมายที่เคลื่อนที่ง่ายๆไปจนถึงเป้าหมายที่เคลื่อนที่แบบสุ่ม ไปจนถึงการเปลี่ยนทิศทางของดาวกระจาย ในขณะที่ยังมีเป้าหมายอย่างอิทาจิด้วย ฉันเดาว่าฉันต้องไปถึงเลเวล 40 จาก 50 เป็นอย่างต่ำ ซึ่งจะใช้เวลานานเมื่อเลเวลสูงขึ้น'
ในขณะเดียวกัน ซาสึเกะก็ไม่พอใจคำตอบของฉันและพูดว่า "อืม ไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจ"
'นายมันซึนเดเระชะมัด' ฉันคิดไปแบบนั้น "นายชื่ออะไรนะ" ฉันถามเขา
เขามองมาที่ฉันจากหางตาแล้วพูดว่า "ฉันชื่อ อุจิวะ ซาสึเกะ"
เมื่อมองดูพฤติกรรมแบบเด็กๆของเขาแล้ว ฉันเพียงแค่ยื่นมือไปจับมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม " ฉันคืออุจิวะ บาโคริโอ้ เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ"
ฉันเห็นแววตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย แต่เขาพยายามซ่อนมันและจับมือฉัน และฉันก็พูดว่า "อืม ฉันจะพักสักหน่อย นายควรฝึกต่อไปนะ เพราะนายดูฉันมากกว่าที่นายฝึกซะอีก ฮ่ะๆ" ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
ซาสึเกะรู้สึกอาย เขาจึงตะคอกและหันกลับมาเพื่อฝึกต่อครั้งนี้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
'เฮ้อ ดีจัง ฉันรู้วิธีจัดการกับเด็กคนนี้ได้ง่ายๆเลย' ฉันคิดก่อนที่จะนั่งลงใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งและปล่อยให้เงาของมันคลุมตัวฉัน
- เควส - ฉันพูดในหัวของฉันแล้วแผงที่มีเควสนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นตรงหน้าฉัน และฉันสามารถเลือกได้ตามสถานที่ ความยากง่าย และความสำเร็จลุล่วง ซึ่งฉันเลือกไปที่สำเร็จแล้วและฉันพบว่ามีบางอย่างที่ฉันทำสำเร็จไปแล้ว
ภารกิจเพื่อนของตัวเอก 1: ผูกมิตรกับหนึ่งในตัวละครหลักในโลกนี้: รับรางวัล 100 แต้ม + รางวัลเพิ่มเติม (ขึ้นอยู่กับตัวละครที่เป็นเพื่อนด้วย) (เสร็จสิ้น)
ภารกิจการขว้างขั้น 1: ไปถึงระดับ 10 ด้วยการขว้างของคุณ: รางวัล: 30 แต้ม + ดาวกระจายแบบสุ่มหนึ่งอัน (เสร็จสมบูรณ์)
ภารกิจเพิ่มประสิทธิภาพของสายเลือดขั้น 1 : เพิ่มหนึ่งในสายเลือดของคุณเป็น 10%: รับรางวัล 50 แต้ม+ ยาปลุกพลังสายเลือด (เสร็จสิ้น)
ฉันรับรางวัลทั้งหมดอย่างรวดเร็วและตอนนี้ฉันได้รับการแจ้งเตือนแล้ว
* คุณได้รับ +180 แต้ม, ยาปลุกพลังสายเลือด, คาถาดาวกระจายเลื้อย , จักระของอินดรา*
คาถาดาวกระจายเลื้อย, : เพิ่มพลังให้กับดาวกระจายด้วยจักกระลมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับศัตรูในอากาศหลังจากขว้างออกไป ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ความสามารถก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
จักระของอินดรา : ใช้ได้เฉพาะกับสายเลือดอุจิวะที่มีความบริสุทธิ์อย่างน้อย 70% เท่านั้น เสริมความแกร่งของคาถา(พลังดวงตา) และลดผลข้างเคียงและเพิ่มจิตวิญญาณและจักกระของผู้ใช้อย่างมาก
'น่าทึ่งมาก ด้วยวิธีนี้ฉันสามารถเบิกเนตรของฉันได้ค่อนข้างเร็วแม้ว่าสายเลือดของฉันจะน้อยเพียงใดก็ตาม' แล้วฉันเพิ่งเรียนสกิลการขว้างปาแบบเลื้อยเขาจึงเก็บไอเทมอีก2อย่างไว้ใช้ช่องเก็บของ
ฉันรู้สึกว่ามีข้อมูลมากมายเข้ามาในหัวของฉันเกี่ยวกับวิธีจัดการกับจักกระของฉันเพื่อเปลี่ยนให้เป็นจักระลม
เมื่อพอใจกับสกิลใหม่แล้ว ฉันหันไปที่ซาสึเกะดูว่าเขาฝึกฝนอย่างไร ฉันตัดสินใจแบ่งเวลาที่เหลือด้วยการให้คำแนะนำเขาเป็นระยะๆ ซึ่งเขาก็ตอบรับด้วยความยินดี
11:45 น. บาโคริโอ้ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตรงมาทางพวกเขาทั้งสองคน จนกระทั่งปรากฏร่างหญิงสาวสวยในชุดแม่บ้านปรากฏต่อหน้า เธอมีผิวที่ขาวนวลมาก ตัดกับผมยาวสีมะเกลือของเธอที่มัดรวบเป็นกรอบใบหน้า ดวงตาของเธอเป็นสีดำ เธอสวมเสื้อสีม่วงเข้มและกระโปรงยาวสีแดงเลือดหมู เธอคือ อุจิวะ มิโคโตะ แม่ของซาสึเกะ
'ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เธอคงมาชวนซาสึเกะกลับละมั้ง' และฉันก็เดาถูกเพราะไม่นานเธอก็พูดขึ้น
"ฮือ ซาสึเกะ นี่เพื่อนลูกหรอ?" เธอมองมาที่บาโคริโอ้ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ขณะที่ซาสึเกะรีบวิ่งเข้าไปกอดเธอด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ซึ่งเปลี่ยนเป็นท่าทางน่ารักกวนๆ แล้วพูดว่า "ฮึ่ ไม่"
'ช่างเป็นเด็กเนรคุณเสียจริง' บาโคริโอ้คิดแต่ไม่ได้แสดงอารมณ์ออกไป บาโคริโอ้แค่ยิ้มและพูดว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ อุจิวะ บาโคริโอ้ ซาสึเกะกับผมเพิ่งเป็นเพื่อนกัน ผมไม่รู้ว่าเขามีแม่ที่สวยขนาดนี้"
มิโคโตะรู้สึกมีความสุขจากคำชมของบาโคริโอ้และรู้ว่าในที่สุดลูกของเธอก็มีเพื่อน เธอจึงตัดสินใจชวนบาโคริโอ้ไปทานอาหารกลางวันกับพวกเขา เธอจึงจับมือซาสึเกะและมองมาที่บาโคริโอ้ด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า
“เป็นเด็กที่มารยาทดีอะไรอย่างนี้ มากินข้าวเที่ยงกับฉันกับซาสึเกะไหม”
และบาโคริโอ้ก็ตอบอย่างมีความสุขว่า "ครับ" ตรงกันข้ามกับใบหน้าที่หงุดหงิดของซาสึเกะ
มิโคโตะดีใจที่บาโคริโอ้ตอบรับ เธอจึงจับมือฉันด้วยมืออีกข้างแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะจ้ะ"
ซาสึเกะทำหน้าอิจฉาใส่ฉัน และฉันก็หัวเราะเยาะเขา และในขณะที่เรากำลังเดินไปบ้านของพวกเขา มิโคโตะก็พูดขึ้นทันทีว่า "โอ้ ฉันตื่นเต้นมากจยลืมไปเลย ไม่ได้ถามพ่อแม่ของหนูว่าจะโอเคไหมที่ฉันจะชวนไปทานข้าวที่บ้านด้วย" เธอรู้สึกอาย เพราะลืมคิดว่าพ่อแม่ของบาโคริโอ้จะรออยู่หรือเปล่า
รอยยิ้มของบาโคริโอ้จางหายไปแล้วก็พูดด้วยท่าทางเศร้าๆว่า "ผมไม่มีพ่อแม่หรอกครับ"
ตอนนี้มิโคโตะรู้สึกแย่กับสิ่งที่เธอพูด เธอรีบคุกเข่าและกอดบาโคริโอ้พร้อมกับพูดว่า "ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่รู้"
บาโคริโอ้รู้สึกถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเธอ แต่สำหรับเธอแล้วดูเหมือนว่าฉันยังคงดูเศร้าอยู่ แต่ฉันก็ขจัดความกังวลของเธอและพูดว่า
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชินแล้ว" เธอมีแต่จะเศร้ามากขึ้นและสัญญาว่าจะดูแลเพื่อนใหม่ของลูกเธอ ในขณะที่ซาสึเกะไม่พูดอะไรและไม่แสดงอาการหึงหวงให้บาโคริโอ้เห็นอีก 'อย่างน้อยนายก็รู้วิธีอ่านสถานการณ์เบื้องหน้านะ' บาโคริโอ้คิด
ไม่นานนักเราก็มาถึงบ้านญี่ปุ่นหลังใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงที่มีสัญลักษณ์ประจำตระกูลอุจิวะ บาโคริโอ้คิดว่า 'นี่สมกับเป็นบ้านของผู้นำตระกูลจริงๆ' และแทบรอไม่ไหวที่จะได้ลิ้มลองอาหารที่เหมาะสมกับผู้นำตระกูลแบบนี้