ตอนที่แล้วตอนที่ 15-28 แก่นธาตุไฟ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-29 เทือกเขาอะเมทิสต์

ตอนที่ 15-30 ทะเลหมอก


อสูรโลหะเดินทางได้เร็วเหมือนแสงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก

ภายในห้องนั่งเล่นของอสูรโลหะลินลี่ย์และเดเลียหันหน้าเข้าหากัน ขณะที่บีบีและเจนกินนั่งประจันหน้ากัน ทุกคนพูดคุยกันตามปกติ

“บ้านเกิดข้าน่ะหรือ? เป็นที่ละเอียดซับซ้อนกว่าพวกเจ้ามาก” หน้าของเจนกินเต็มไปด้วยรอยยิ้มในตอนนี้ แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่น่ากลัวตอนเขาหนีหรือเดินทาง“นอกจากนี้ในทวีปบ้านเกิดของข้ายังค่อนข้างใหญ่ จากเหนือจรดใต้ยาวอย่างน้อยแสนกิโลเมตร”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย ทวีปยูลานจากเหนือถึงใต้ยาวสองหมื่นหรือสามหมื่นกิโลเมตรบ้านเกิดเจนกินใหญ่กว่าทวีปยูลานมากมายแน่นอน

“ที่ของเราแบ่งออกเป็นสามกลุ่มพลังใหญ่ๆ  กลุ่มแรกรวมทั้งสังคมมนุษย์, กลุ่มที่สองเป็นพวกมนุษย์อสูรและกลุ่มสุดท้ายเป็นพวกเผ่าพันธุ์อาศัยในน้ำ!  มีทุกประเภทความเชื่อศาสนาอยู่ที่นั่น  ฮ่าฮ่าข้ากลัวพวกเจ้าจะหัวเราะเยาะข้าเมื่อข้าพูดเรื่องนี้  แต่ข้าก็มีศาสนจักรเป็นของตนเองอยู่ในกลุ่มของมนุษย์อสูร!”

เจนกินหัวเราะ “มนุษย์อสูรเหล่านั้นไม่รู้ว่าพวกเทพที่พวกเขาบูชาเป็นมนุษย์คนหนึ่งจริงๆ”

ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีกำลังเบื่อจากการเดินทางดังนั้นพวกเขาจึงมีความสุขที่ได้ฟังเจนกินได้เล่าเรื่องแดนโลกธาตุบ้านเกิดของเขาให้ฟัง ต้องกล่าวกันว่าดินแดนโลกธาตุบ้านเกิดของเจนกินแม้ว่าจะไม่มีความลับซับซ้อน  ขณะที่ทวีปยูลานมีผู้คน เซียนและศาสนามากทั้งหมดต่างต่อสู้แย่งชิงกัน ขณะที่เผ่าพันธุ์ต่างๆ ก็ทำสงครามกะกันและกัน

“โอว! ข้าไม่รู้เลยนะ” บีบีหัวเราะ  “งั้นในแดนโลกธาตุของเจ้าเจ้าก็ต้องเป็นคนที่น่าทึ่งมาก”

เรื่องของเจนกินค่อนข้างจะให้ความรู้สึกที่เป็นตำนานแน่นอน

“อนิจจา” เจนกินถอนหายใจ “เมื่อคนเรายืนอยู่ในจุดสูงสุดของดินแดน เขาจะรู้สึกเดียวดาย!”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

ความจริงยอดฝีมือส่วนใหญ่ผู้ที่ออกจากดินแดนโลกธาตุมายังพิภพชั้นสูงก็ล้วนแต่รู้สึกเดียวดายทั้งนั้น!

“ข้ารู้ดีว่าในแดนนรกอันตรายแค่ไหนแต่ข้าเลือกจะมา อย่างไรก็ตามระดับความอันตรายในแดนนรกแห่งนี้มากกว่าที่ข้าคาดเอาไว้”  เจนกินพูดด้วยความซาบซึ้ง “ถ้าไม่ได้พวกท่านทั้งสามช่วยเหลือข้าคงไม่สามารถรวบรวมห้าพันศิลาดำได้แน่”

เจนกินไม่สามารถขอยืมห้าพันศิลาดำได้  แต่สำหรับกลุ่มลินลี่ย์ห้าพันศิลาดำไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วง ขณะที่คุยกับเขา กลุ่มของลินลี่ย์รู้สึกว่าเจนกินเป็นคนดีคนหนึ่งดังนั้นบีบีเห็นด้วยที่จะช่วยเหลือเจนกินจ่ายค่าธรรมเนียมห้าพันศิลาดำ

ผ่านระยะทางหลายสิบล้านกิโลเมตรโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวๆหนึ่งเดือนต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงเทือกเขาอะเมทิสต์ตามตำนาน!

“นี่คือเทือกเขาอะเมทิสต์หรือ?”  ลินลี่ย์ยืนอยู่หน้าอสูรโลหะ มองผ่านหน้าต่างใสของอสูรโลหะ  เขาเห็นภูเขาอะเมทิสต์ที่กว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างชัดเจน

ภูเขาอะเมทิสต์ปกคลุมไปด้วยแผ่นดินกว้างใหญ่ มีพื้นที่เส้นรอบวงหลายแสนกิโลเมตร ในแดนนรกเส้นรอบวงหลายแสนกิโลเมตรไม่นับว่าเป็นแผ่นดินที่กว้างใหญ่นัก  แต่มองออกไปไกลเท่าที่ตาเปล่าเห็นได้สายตาคนธรรมดาเห็นได้แต่เพียงภูเขากว้างไกลไม่สิ้นสุดขยายออกไปสุดสายตา

ขณะเดียวกัน หมอกขาวลอยอยู่เหนือภูเขาอะเมทิสต์

สิ่งที่แปลกก็คือมองเห็นแต่เพียงหมอกแต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นภูเขาอะเมทิสต์

“ความจริงเหมือนอย่างที่บอกไว้ในหนังสือ  แม้ว่าจะดูเป็นเทือกเขาเดียวก็ตามแต่ก็ยังรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าทะเลหมอก  มองจากด้านนอก ไม่ว่าใครก็มองเห็นภูเขาได้ไม่มาก ทั้งหมดที่มองเห็นก็เป็นเพียงหมอกขาวมากมายมหาศาลไม่มีที่สิ้นสุด”  ลินลี่ย์ถอนหายใจกล่าว  ขณะที่เจนกิน เดเลียและบีบีที่อยู่ใกล้ๆพากันจ้องดูและเคลิบเคลิ้มดื่มด่ำกับฉากภาพที่สวยงาม

พื้นที่หลายแสนตารางกิโลมตรถูกปกคลุมไปด้วยหมอกแสงพระอาทิตย์สีเลือดส่องผ่านท้องฟ้าเข้าไปในในหมอกสีขาวเกิดเป็นภาพสีสันงดงามชวนมอง

“แปลกจริง” เดเลียถอนหายใจประหลาดใจ “เทือกเขาใหญ่ขนาดนี้เป็นแสนๆตารางกิโลเมตรอย่างนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกขาวหนาแน่นนับไม่ถ้วน หมอกเหล่านี้มีอยู่ชั่วนาตาปีเป็นเรื่องแปลกจริงๆ” เดเลียไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

ลินลี่ย์เดเลียและบีบีอย่างน้อยยังได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับภูเขาอะเมทิสต์มาจากหนังสือ

สำหรับเจนกิน เขาไม่มีความรู้อะไรเลย

“นี่คือเทือกเขาอะเมทิสต์หรือ?”  เจนกินยังไม่อยากเชื่อเลยว่าหมอกที่คลุมพื้นที่นี้จะเป็นเทือกเขาอะเมทิสต์

“ไปกันเถอะ เราลงไปดูกัน” พอลินลี่ย์คิดอสูรโลหะหายไปในอากาศ ลินลี่ย์เดเลียและบีบีทุกคนบินลงมาขณะที่เจนกินส์ในตอนแรกไม่ทันตั้งตัว  แต่จากนั้นเขาก็ตั้งหลักได้และรีบลอยตัวตามลงมา

พื้นผิวของภูเขาอะเมทิสต์คลุมไปด้วยทะเลหมอก

อย่างไรก็ตามด้านนอกแนวภูเขาอะเมทิสต์ยังมีกระแสผู้คนหลั่งไหลเข้ามา  จำนวนมากมายอย่างน่าประหลาดคือสูงมากจนน่าตกตะลึง  เทพหลายคนรั้งอยู่นอกเขตแดนทะเลหมอกหวังว่าจะมีโชคพอได้พบกับอะเมทิสต์

บนพื้นผิวด้านนอกของภูเขาอะเมทิสต์ภายในสายตาของลินลี่ย์มีปราสาทโบราณอย่างน้อยสามแห่ง

ขณะที่กลุ่มลินลี่ย์สี่คนเข้าไปใกล้มีบุรุษวัยกลางคนสวมเครื่องแบบสีดำสองคนเข้ามาหาทันทีพวกเขาอดมองเดเลียอย่างประหลาดใจมิได้ เห็นได้ชัดว่านางเป็นอสูรเทพชั้นสูง  ในใจพวกเขางุนงง “อสูรเทพชั้นสูงก็มาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ด้วยหรือ?”

อสูรชั้นสูงเมื่อทำหน้าที่คุ้มกันจะได้รับทรัพย์มากกว่าที่พวกเขาได้จากการทำเหมืองอะเมทิสต์มาก  กล่าวโดยทั่วไปมีแต่เทียมเทพและเทพแท้ที่จะเข้ามาเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์

หลังจากรู้ว่าเดเลียเป็นอสูรเทพชั้นสูง ทั้งสองคนเปลี่ยนท่าทีที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  บุรุษวัยกลางผมทองคนหนึ่งยิ้มและกล่าว  “ขอถาม เหตุใดพวกท่านถึงมาที่นี่?”

บีบีหัวเราะและกล่าว “เราสามคนแค่มาเที่ยว ส่วนเด็กคนนี้จะมาทำงานเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์”

“โอว?”  บุรุษผมทองพยักหน้า  “ภูเขาอะเมทิสต์ควบคุมดูแลโดยสิบแปดตระกูลร่วมกัน  แต่แน่นอนว่าเราไม่ห้ามคนนอกให้เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือคนทำเหมืองทุกคนจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมห้าพันศิลาดำ”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย กฎการจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าห้าพันศิลาดำเป็นกฎที่ตั้งมานานนับปีไม่ถ้วนแล้ว  แม้แต่ในหนังสือก็บันทึกไว้เช่นนี้

“จะเป็นยังไงถ้าท่านไม่มีเงิน?”  เจนกินถามทันที

“ไม่มีใช่ไหม?” บุรุษวัยกลางคนชำเลืองมองเขาจากนั้นหัวเราะลั่น “ถ้าเจ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เรายังให้เจ้าเข้าก็ได้ แต่เราจะไม่ยอมให้เจ้าออกมา.. เจ้าจะต้องจ่ายอะเมทิสต์ให้เราสามชิ้น!”

“ค่าเบิกทางน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์เลิกคิ้ว

บุรุษผมทองพยักหน้า “ถูกแล้ว ทุกคนที่จ่ายค่าธรรมเนียมจะได้รับใบเบิกทาง  เมื่อท่านออกมาตราบใดที่ท่านคืนใบเบิกทางกับเรา ท่านก็สามารถจากไปได้”

กลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจแล้วในตอนนี้

“ถ้าท่านต้องการจ่ายห้าพันศิลาดำโปรดมาที่ทำการทางเข้ากลาง” บุรุษผมทองชี้ไปที่ไกลๆ ที่ประตูทางเข้าปราสาท

ความจริง เทือกเขาอะเมทิสต์กว้างใหญ่มาก ใครๆก็สามารถผ่านเข้าทางอากาศหรือภาคพื้นดินก็ได้

“โปรดจำให้ดี ใบผ่านทางที่ท่านได้รับจะต้องส่งคืนถ้าพวกเจ้าต้องการหนี...” บุรุษวัยกลางคนยิ้ม “อย่างนั้นพวกท่านจะต้องทนทุกข์กับการโจมตีของสิบแปดตระกูลของเรา  หึหึ เป็นแค่คำเตือนเท่านั้นเอง”

ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ขอบคุณ”

ทันใดนั้นเขานำเดเลีย บีบีและเจนกินตรงไปที่ทางเข้านั้น

“พี่ใหญ่!  เจ้าผู้นั้นดูเหมือนจะค่อนข้างหยิ่งเหลือเกิน  เขาเอาแต่พูดว่า ‘สิบแปดตระกูล’ อย่างนั้นอย่างนี้”  บีบีบ่น

“บีบี!  อย่าไปสนใจเขา”  ลินลี่ย์รู้ดีว่าสิบแปดตระกูลนี้ทรงพลังมากขนาดไหน  “ทวีปเรดบุดมีพื้นที่ทำเหมืองอะเมทิสต์เพียงแห่งเดียว  นี่เป็นเขตขุดสมบัติที่น่าทึ่ง  เจ้ารู้ไหมว่าอะเมทิสต์มีค่ามากขนาดไหน เจ้าคาดว่าเทือกเขาอะเมทิสต์จะผลิตอะเมทิสต์ได้มากมายขนาดไหน?”

บีบีตกใจ

อะเมทิสต์?  ปราสาทเรดบุดแต่ละแห่งและปราสาททรายดำจะมีอะเมทิสต์มากมายเอาไว้ขาย  มีมากมายจนนับไม่ถ้วน

“ภูเขาอะเมทิสต์ซึ่งใช้ผลิตอัญมณีมากมายนับไม่ถ้วนเป็นขุมสมบัติอย่างแท้จริง! สมบัติของสิบแปดตระกูลมากมายกว่าของตระกูลบอยด์ยิ่งนัก”  ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างทึ่ง  “สำหรับสิบแปดตระกูลสามารถผูกขาดพื้นที่ขุมสมบัติภูเขาอะเมทิสต์ก็ต้องหมายความว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากเทพอสูร  และสิ่งที่ยิ่งกว่านั้นอาจจะมีเทพอสูรมากกว่าหนึ่งอยู่เบื้องหลังพวกเขา”

เทือกเขาอะเมทิสต์เป็นเพียงเขตผลิตอะเมทิสต์แห่งเดียวในทวีปเรดบุดแต่ทวีปเรดบุดมีพื้นที่เกือบยี่สิบแคว้น ซึ่งก็หมายความว่ามีเทพอสูรหนุนอยู่เกือบยี่สิบ

ถ้าทุกคนแค่ใช้เวลาคิดสักนิดเขาจะเข้าใจว่าอำนาจของสิบแปดตระกูลเหล่านี้ยิ่งใหญ่มากที่แม้แต่อสูรเจ็ดดาวอย่างเอลควินก็มีค่าไม่ต่างอะไรกับเทพชั้นสูงธรรมดาหากกล้าไปตอแยพวกเขา!

ทางเข้าภูเขาอะเมทิสต์

“ตกลงสองหมื่นศิลาดำ!”  เพียงพลิกมือลินลี่ย์ก็ดึงแท่งอะซูไรท์ออกมาวาง

สุภาพสตรีในเครื่องแบบสีดำเอาตราระบุสถานะให้กลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนตามปกติ

“ขอบคุณ, ท่านลินลี่ย์” เจนกินพูดอย่างซาบซึ้ง  ความจริงในตอนที่เดินทางด้วยอสูรโลหะเจนกินพบว่าในกลุ่มของลินลี่ย์คนที่ทำการตัดสินใจไม่ใช่เทพชั้นสูงอย่างเดเลีย แต่ค่อนข้างจะเป็นลินลี่ย์

“ไปกันเถอะ”

ลินลี่ย์บินขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเดเลียและบีบีตรงไปยังทะเลหมอก

แสงอาทิตย์สีเลือดเบาบางฉายผ่านทะเลหมอกดูนวลตาเกิดเป็นภาพหลากสีสันและงดงามภาพแล้วภาพเล่า

“สวยงามจริงๆ” เดเลียหัวเราะอย่างมีความสุข “ลินลี่ย์ดูนั่นสิ!”  เดเลียชี้ลึกเข้าไปในหมอกที่ซึ่งกลุ่มหมอกขาวภายใต้แสงอาทิตย์ก่อตัวเป็นรูปม้าเพกาซัสในอากาศ

“กว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด...ดูแล้วสบายตาสบายใจจริงๆ” ลินลี่ย์หัวเราะ “ไปดูข้างในกันเถอะ”

ขณะที่เขาพูด ลินลี่ย์เริ่มบินลึกเข้าไป  แต่ขณะนั้นเอง...

“พวกเจ้าทั้งสี่คน หยุดเดี๋ยวนี้”  เสียงหนึ่งดังขึ้น

กลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนชะงักเท้างุนงง พวกเขาหันไปเห็นเด็กหนุ่มในเครื่องแบบสวมเกราะชุดดำบินเข้ามาหา “พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าทะเลหมอกนี้อันตรายแค่ไหน?  ทำไมพวกเจ้าถึงได้วิ่งทื่อเข้าไปหาทะเลหมอก?”

“อันตราย?” ลินลี่ย์มึนงงและชี้ไปที่อื่นไกลๆ “ก็มีคนอยู่ในทะเลหมอกอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”

ขณะที่ดูอยู่นั้น ถ้าคนอื่นสามารถเข้าไปได้ อย่างนั้นเขาก็ควรเข้าไปได้อย่างไม่เป็นอันตรายไม่ใช่หรือ? นอกจากนี้ตามหนังสือที่เขาซื้อมาก็มีคำอธิบายไว้เกี่ยวกับภูเขาอะเมทิสต์สั้นๆ  แต่แน่นอน หนังสือเหล่านั้นไม่ค่อยหนาและพวกเขาให้ข้อมูลแต่ละแคว้นไม่มากนัก

“ข้าขอเตือนพวกเจ้า” เด็กหนุ่มพูดอย่างเคร่งขรึม “ทะเลหมอกแห่งภูเขาอะเมทิสต์แปลกประหลาดมาก ทัศนวิสัยข้างในนั้นต่ำมากกล่าวโดยทั่วไปก็คือเทพแท้สามารถเห็นได้ร้อยเมตรเป็นอย่างมาก แน่นอนไม่ว่ายังไงภายในทะเลหมอกทุกคนจะต้องอยู่ในระดับที่ออกมาถึงด้านนอกได้  ถ้าพวกเจ้าเป็นแค่เทพแท้พวกเจ้าไม่อาจเข้าไปได้เกินกว่าร้อยเมตร!”

กลุ่มของลินลี่ย์เริ่มฟังอย่างระมัดระวัง

เด็กหนุ่มพูดอย่างจริงจัง “ทุกคนที่เข้าลึกเกินไป ลึกจนพวกเขามองไม่เห็นด้านนอกจะไม่มีทางออกมาข้างนอกได้อีก!”

กลุ่มของลินลี่ย์ตกใจหนัก

“ไม่สามารถออกมาข้างนอกได้?”  บีบีร้องขึ้นอย่างประหลาดใจ  “เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?ก็แค่หมอกขาวที่ทำให้มีทัศนวิสัยแย่ ถ้าเราบินเป็นเส้นตรงจากภายใน ทำไมเราจะบินออกมาไม่ได้?”

“เจ้าจะไม่สามารถบินออกมาได้!”  เด็กหนุ่มพูดจริงจัง  “ตราบเท่าที่เจ้าเข้าไปในระยะที่มองเห็นโลกภายนอกได้  เจ้าก็สามารถบินออกมาได้  แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถเห็นโลกภายนอกได้  เจ้าก็จบกัน แน่นอน เจ้าต้องระวังด้วยเมื่อทำเหมืองอะเมทิสต์!”

“แม้ว่าจะมีอะเมทิสต์อยู่ห่างข้างหน้าเจ้าแค่สิบเมตรไม่ว่ายังไงก็ตามอย่าผ่านเข้าไปในพื้นที่อันตราย!  ทันทีที่เจ้าเข้าไป เจ้าจะไม่สามารถจากไปได้

เด็กหนุ่มพูดจริงจัง

ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะมองดูพวกเทพจำนวนมากที่โฉบลอยตัวอยู่ที่ขอบสายหมอกและเขาเริ่มเข้าใจทันที  “จริงด้วยถ้าทะเลหมอกไม่อันตราย อย่างนั้นเทพเหล่านี้คงบุกลึกเข้าไปหาอะเมทิสต์นานแล้ว  ทำไมพวกเขาถึงยอมอยู่ที่ชายขอบด้วยเล่า?”

ตอนนี้ลินลี่ย์แน่ใจแล้วว่าทะเลหมอกมีอันตรายอยู่ภายในแน่อน

“จำไว้ให้ดีทุกครั้งพวกเจ้าต้องแน่ใจว่าไม่เข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามต่อให้มีอะเมทิสต์บินลอยล่อตาล่อใจอยู่ข้างหน้าเจ้าก็ตาม  ก็อย่าเข้าไปเด็ดขาด”  เด็กหนุ่มพูดจบก็ออกไป

ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีมองหน้ากันเองพวกเขารู้สึกทึ่งกับความน่าพิศวงของธรรมชาติไม่ได้

“เดเลีย! เราไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ก็แค่เดินดูรอบๆ  มาเถอะไปดูที่ด้านอื่น”  ลินลี่ย์ไม่สนใจมากเกินไป เขาพาเดเลียและบีบีบินไปที่ชายขอบหมอกขาวทันที  ขณะที่เจนกินติดตามกลุ่มของลินลี่ย์ไปชั่วคราว

กลุ่มของลินลี่ย์เดินต่อไปชั่วขณะ

“หัวหน้าโชคไม่เลวเลย ความจริงเขาเพิ่งพบอะเมทิสต์หลายชิ้น ข้าอยู่ที่นี่มายี่สิบปีแล้วแต่ข้ายังไม่พบเลยแม้แต่ชิ้นเดียวเฮ้..โอลิเวอร์! เจ้าได้อะไรบ้างหรือเปล่า?”  ขณะนั้นเองมีกลุ่มคนเล็กๆราวสิบคนเดินมาด้วยกัน

ผมของเขาสีดำแซมขาว และชุดของเขาเป็นสีเทาเขาคือโอลิเวอร์ผู้มาจากทวีปยูลาน

โอลิเวอร์ส่ายศีรษะ “โชคไม่ดี”

“อย่าท้อใจไปเลย มาเถอะ มาดื่มเหล้าสักหน่อยข้าเลี้ยงเอง” หัวหน้าของเขาพูดพลางหัวเราะ

ทั้งกลุ่มบินออกมาบริเวณรอบนอกทะเลหมอก  ใกล้ๆ ทางเข้ามีร้านอาหารตั้งอยู่หลายร้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด