ตอนที่ 15-25 เก็บกดเป็นล้านล้านปี
เผชิญกับการโจมตีของเอลควิน แลร์มองต์เลือกหนีเพื่อชีวิตเป็นธรรมดา!
“ฮ่าฮ่า,เจ้าต้องการหนีหรือ?” เงาร่างลวงตานับร้อยเต็มอยู่ในอากาศ และเสียงหัวเราะของเอลควินดังออกมาจากร่างเงาทุกร่าง ทันใดนั้นเงาดำที่เกิดจากแส้อสรพิษแหวกอากาศพุ่งเข้าหาแลร์มองต์ซึ่งมีสีหน้าดุร้ายแทงกระบี่ออกอีกครั้ง
วิชาเดิม!
จุดดาว – ระเบิด!
เงาแส้สีแดงเข้มฉีกอากาศพุ่งเข้าหากระบี่ยาวอีกครั้ง
“บึ้มมม!”
มือขวาเอลควินสั่นสะท้าน และร่างของเขากระเด็นถอยหลังไปอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่แลร์มองต์เองบินถอยหลังอย่างเสียหลักก่อนจะฝืนตัวชะงักอยู่กลางอากาศได้อีกครั้ง หน้าของเขาซีด และเขาคำราม “เอลควิน, อย่าเหิมเกริมเกินไป!” แลร์มองต์ตรหนักได้ว่าในแง่ความเร็ว เขายังด้อยกว่าเอลควิน ไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
เอลควินมีสีหน้าน่ากลัวและแค่นเสียง “ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้ายังเหลือพลังจิตพอใช้โจมตีครั้งที่สองอีก อย่างไรก็ตามวิชาของเจ้าก็แค่ทำให้ข้าบาดเจ็บได้เท่านั้น ในแง่เคล็ดความรู้ลึกลับเจ้ายังอ่อนนักเมื่อเทียบกับข้า ข้าต้องการดูว่าเจ้าจะใช้มันออกมาได้กี่ครั้ง”
เห็นได้ชัดว่าเอลควินไม่ต้องการไว้ชีวิตเขา
เอลควินตะโกนด้วยความโกรธและต้องการหาที่ระบายอารมณ์ เขาจะปล่อยแลร์มองต์ไปได้ง่ายๆ ยังไงกัน?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากเห็นแล้วว่าศักยภาพในอนาคตของแลร์มองต์ไม่มีขีดจำกัด เอลควินยินดีที่จะฆ่าอัจฉริยะที่คล้ายกับเขาเป็นธรรมดา
“เจ้าต้องการให้ข้าตาย?”
แลร์มองต์สูดหายใจลึกยืนนิ่งในกลางอากาศพร้อมกับชูกระบี่ยาว เขาพูดอย่างไร้ความรู้สึกว่า “ถ้าเจ้าต้องการฆ่าข้า ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้คุณค่า!”
“ชดใช้คุณค่า?” เอลควินหัวเราะ เขาไม่รู้ว่าเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้มากี่ครั้งมาก่อนแล้ว หลายคนที่เขาฆ่าสัญญาว่าจะทำให้เขาชดใช้คุณค่า แต่น่าเสียดาย พวกเขาตาย ขณะที่เขา เอลควินยังมีชีวิตอย่างปกติสุข
แลร์มองต์ดูเหมือนจะใจเย็นมาก รัศมีทั่วตัวเขากลับเข้ามาในร่างและจ้องมองเอลควินอย่างเยือกเย็น
ทันใดนั้น...
ตาของแลร์มองต์เป็นประกายเจิดจ้าทันที จากนั้นเขาหลับตา
“ถือ?” เอลควินอดตะลึงมิได้
ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่ผู้สังเกตการณ์ข้างล่าง ลินลี่ย์และพวกก็รู้สึกตะลึง ช่วงเวลาที่วิกฤติในระหว่างการสู้รบ แลร์มองต์หลับตาได้จริงหรือนี่?
“เจ้าต้องการทำให้ข้ากลัวก่อนตายงั้นหรือ?เอลควินหัวเราะอย่างเย็นชาในใจ แส้ดำยาวในมือของเขาสะบัดออกอีกครา แม้ว่าในใจของเขา เขาจะรู้สึกเหยียดหยามก็จริง แต่เอลควินยังใช้พลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุด แส้ดำยาวเปลี่ยนเป็นสีแดงและกลายเป็นอสรพิษเก้าหัวอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นประกายกระบี่สีแดงเข้มปรากฏอยู่ต่อหน้าเอลควิน
สีหน้าของเอลควินเปลี่ยนไปทันที ไม่สามารถจะหลบได้แม้แต่น้อยทั้งหมดที่เขาทำก็คือใช้ฝ่ามือแดงเท่าพัดตบใส่โดยตรง
“ฉัวะ!”
กระบี่แดงเข้มแทงทะลุฝ่ามือและเข้าไปในร่างของเขาได้อย่างง่ายดายทันที
“อืออออ..อา.....” ตลอดทั้งร่างของเอลควินสั่นทันที และเปล่งรัศมีสีแดง
“บึ้ม!” ทั่วทั้งร่างของเอลควินระเบิด และประกายเทพชั้นสูงสองชิ้นและแหวนเก็บสมบัติร่วงลงมาจากกลางอากาศ
ลินลี่ย์และพวกอีกสองคนมองดูการต่อสู้นี้ ตะลึงกันหมดพร้อมกับแมวน้อยสีทองด้วย เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่นี้เอลควินยังได้เปรียบและแลร์มองต์ยังพยายามจะหนี แต่ใครจะนึกภาพออกกันเล่าว่าแลร์มองต์จะคว้าชัยชนะได้จากปากความพ่ายแพ้
“อะไรกัน? แลร์มองต์ชนะ?”
ลินลี่ย์ตกใจหนัก “และประกายกระบี่สีแดงเข้ม ไม่เพียงแต่แฝงไปด้วยพลังเทพวิถีทำลายล้าง แต่แฝงไปด้วยพลังเทพธาตุไฟ เห็นได้ชัดเลย” ลินลี่ย์งงอย่างสิ้นเชิง ก่อนนี้เมื่อแลร์มองต์โจมตี ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายวิถีทำลายล้าง และไม่รู้สึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟเลย
พลังศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟอ่อนมาก
อย่างไรก็ตาม ทำไมจู่ๆ เหตุตรงนี้ถึงเปลี่ยนไปได้?
“ฮ่าฮ่า....” แลร์มองต์เริ่มหัวเราะลั่นในกลางอากาศ “ในที่สุดข้าก็สำเร็จวิชานี้ได้ ฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าก็ใช้วิถีทำลายล้างและกฎธรรมชาติธาตุไฟได้ ความจริงเพียงแต่เมื่อพลังเทพทั้งสองสายหลอมรวมกันเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎก็หลอมรวมกันไปด้วย พลังก็จะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ในที่สุดก็ก็พัฒนาได้!” แลร์มองตื่นเต้นมาก
เมื่อได้ยินเสียงตื่นเต้นของแลร์มองต์ในกลางอากาศลินลี่ย์ก็เข้าใจ
“เขาบอกว่าเขาหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุสองสายต่างกันเข้าด้วยกัน?” ลินลี่ย์ตกตะลึง
เนื่องด้วยระดับฝึกฝนปัจจุบันของเขา ลินลี่ย์รู้ว่าเพราะตัวอย่างเคล็ดลึกลับหกอย่างของธาตุดินสามารถหลอมรวมกันได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยได้ยินเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุต่างสายธาตุจะสามารถหลอมรวมกันได้
แต่เมื่อได้ยินจากสิ่งที่แลร์มองต์กำลังพูด ดูเหมือนกับว่ากฎธาตุต่างสายธาตุเช่นกฎธาตุดินและกฎธาตุลมสามารถทำให้เคล็ดความรู้ลึกลับของกฎสายธาตุทั้งสองหลอมรวมกันได้เช่นกัน
“นี่ นี่เป็นไปได้ยังไง?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์ที่ประหลาดใจเท่านั้น คนอื่นๆ ที่ได้ยินเช่นบีบี เดเลีย และแมวน้อยสีทองก็ตกใจด้วยเช่นกัน
แลร์มองต์ก้มหน้าดูกลุ่มของลินลี่ย์ก็เข้าใจความมึนงงของเขา เขาหัวเราะและกล่าว “อย่าคิดมากไปเคล็ดความรู้ลึกลับแตกต่างกันสองสายธาตุสามารถหลอมรวมกันได้โดยคนแบบข้าซึ่งมีวิญญาณกลายพันธุ์ ไม่มีทางที่เจ้าจะหลอมรวมพลังเทพของเจ้าได้ และไม่มีทางพัฒนาพลังโจมตีแบบนี้”
ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ
พลังเทพและเคล็ดความรู้ลึกลับต้องมาคู่กัน
ตัวอย่างเช่นเมื่อใช้พลังเทพธาตุดินเพื่อเอามาใช้กับเคล็ดความรู้ลึกลับธาตุดิน พลังจะยิ่งใหญ่มาก ถ้าผู้ฝึกใช้พลังเทพธาตุลมแทนแม้ว่าเขายังจะสามารถใช้ได้ แต่พลังจะลดลงไปมาก
แต่การหลอมรวมพลังเทพ อย่างที่แลร์มองต์ทำ...
พลังเทพวิถีทำลายล้างและพลังเทพสายธาตุไฟ เมื่อหลอมรวมกัน...ถ้าสามารถใช้การหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับของวิถีมรณะและกฎธาตุไฟเข้าด้วยกันจะต้องมีพลังที่น่ากลัวมากมายมหาศาลเมื่อยามที่ใช้ออก
การหลอมรวมพลังเทพมีผลให้พลังเพิ่มขึ้นมากอยู่แล้ว เมื่อเคล็ดความรู้ลึกลับถูกหลอมรวมด้วย อย่างนั้นก็เหมาะกับการหลอมรวมพลังเทพได้ มิน่าเล่าแลร์มองต์ถึงฆ่าเอลควินได้!
“เฮ้อ”หน้าของแลร์มองต์ซีดขาว แต่ตาของเขายังเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ
ความจริงหลังจากสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เพิ่งเกิดขึ้นมานี้ พลังจิตของเขาแทบใช้ออกไปจนหมด ขณะที่พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตามขณะที่เขาเข้าสู่ขอบเขตพลังของอสูรเจ็ดดาวแลร์มองต์ดีใจอย่างเหลือเชื่อ “เมื่อข้ากลับไป ข้าจะรับภารกิจเจ็ดดาวทันที เมื่อเวลาผ่านไปข้าจะไปท้าทายเทพอสูร!”
“เมื่อครู่นี้เอลควินยังต้องการจะฆ่าข้าอยู่เลย แต่ตอนนี้....”
แลร์มองต์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ บางอย่างเป็นเรื่องยากจะทำนายได้ ความจริงถ้าเอลควินไม่กดดันเขาจนพริบตาที่จะตายทำให้เขาได้รับการรู้แจ้งความรู้ครั้งก่อนที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้จนนำไปสู่การบรรลุระดับใหม่ได้ในที่สุด?
“แหวนเก็บของของเอลควินผู้นี้คงจะมีสมบัติมากมายเก็บไว้” แลร์มองต์บินลงมาข้างล่าง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนโลภ แต่นี่คือสิ่งที่เป็นของคนที่เขาฆ่า เป็นสมบัติที่เขาสมควรได้รับ ปกติแลร์มองต์จะไม่ปฏิเสธสมบัติแบบนี้
ขณะนั้นเอง
แนวภูเขาไฟหายไปอย่างน่าประหลาดใจทันทีและแหวนมิติของเอลควินซึ่งอยู่บนแนวภูเขาไฟก็หายไปเช่นกัน
“เจ้าต้องการสมบัติของเอลควิน?” เสียงทุ้มแข็งๆ ดังขึ้น
แนวภูเขาไฟหายไป แต่มีคนอีกผู้หนึ่งปรากฏตัวแทน!
“เจ้าเป็นใคร?” แลร์มองต์หันไปดูคนที่มาใหม่ เขาอดตกใจไม่ได้ คนผู้นี้สูงสามเมตรและคลุมไปด้วยเกราะแดงเพลิง ผมยาวสีแดงเพลิงของเขาโบกกระพือ และลักษณะหยาบกร้านของเขาชัดเจนมาก เขาเป็นคนกำยำล่ำสันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ
บุรุษผมแดงเพลิงจ้องดูแลร์มองต์ จากนั้นพูดอย่างชัดเจน “ความจริง, ข้าต้องการขอบคุณเจ้า!”
“ขอบคุณข้า?” แลร์มองต์รู้สึกได้ว่าคนผู้นี้ทรงพลังมาก
บุรุษผมแดงเพลิงหัวเราะ “ใช่แล้ว ขอบคุณที่เจ้าช่วยฆ่านายของข้า!”
ขณะนั้นเองลินลี่ย์และอีกสองคนที่กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศตกใจ “ฆ่าเจ้านายเขา? หรือว่าเขาคือ...?” ลินลี่ย์หันไปมอง และแน่นอนว่าแมวน้อยสีทองหายไปแล้ว “เขาคือฟูโซ่! เขาคือเจ้าแมวน้อยสีทอง!”
“เขาคือฟูโซ่?” บีบีจ้องมองตาค้าง
“เขาคือฟูโซ่? แมวน้อยตัวนั้น? เป็นไปได้ยังไง?” เดเลียไม่อยากเชื่อเหมือนกัน ใครกันจะโยงความเกี่ยวข้องระหว่างแมวน้อยน่ารักกับบุรุษร่างใหญ่กำยำนี้ได้เล่า?
ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่แมวน้อยน่ารักจะแปลงเป็นบุรุษยักษ์ใหญ่กำยำเสียงดังราวกับฟ้าผ่าได้
“ขอบคุณเจ้าที่ฆ่าเจ้านายข้า และเจ้าก็ตายได้เช่นกัน” ฟูโซ่หัวเราะลั่น
แลร์มองต์สีหน้าเปลี่ยนทันที เขาพลิกมือปรากฏมุกวิญญาณทองในมือของแลร์มองต์และเขากลืนทันที มุกวิญญาณทองนี้ปลดปล่อยแก่นวิญญาณปริมาณมหาศาลสามารถหล่อเลี้ยงฟื้นฟูทั้งพลังกายและพลังวิญญาณ
ฟูโซ่ไม่รีบโจมตี
“เจ้าเสร็จหรือยัง?” ฟูโซ่หัวเราะอย่างใจเย็น
แลร์มองต์ตกใจอย่างหนัก หรือว่าฟูโซ่ผู้นี้เปิดโอกาสให้เขาได้ฟื้นฟูกำลัง? ระดับพลังปัจจุบันของเขาเทียบได้กับอสูรเจ็ดดาว
“ข้าพร้อมแล้ว” แลร์มองต์ตอบ
“งั้นตอนนี้เจ้าก็ตายได้” ในมือของฟูโซ่ปรากฏขวานที่ปลายยอดเป็นรูปภูเขาไฟ ทันใดนั้นฟูโซ่สับขวานลงทันทีและด้วยเสียงครืนครันเกิดแรงระเบิดเป็นชั้นๆตามมาสามารถได้ยินได้
ไม่ว่าขวานกวาดผ่านไปด้านใด มิติจะขาดแยกเปิดออก กำแพงมิติของแดนนรกดูเหมือนเบาบางเหมือนกระดาษ
เป็นพลังที่มิอาจต่อต้านได้!
แลร์มองต์หวาดกลัวและสีหน้าเปลี่ยนไปเขาใช้พลังกระบี่ที่ทรงพลังที่สุดโจมตี...
ประกายกระบี่สีแดงเข้มทำให้มิติระเบิดฉายวูบวาบผ่านมิติที่แตกกระจายไวราวกับสายฟ้าพุ่งเข้าหาพลังขวานหนักที่ยิงออกมาราวกับดาวตกจากฟากฟ้า
“ปัง!”
ขวานสั่นสะเทือนเล็กน้อย และพลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันภาพลวงตามากมายของขวานบินโจมตีเป็นระลอกเข้าหาแลร์มองต์
“ควั่บ!” แลร์มองต์หลังจากใช้พลังกระบี่โจมตีทั้งหมดแล้วก็ถอยหลังหลบทันทีและหนีไปด้วยความเร็วสูงขณะที่เขาเคลื่อนไหวเขากลายเป็นภาพมายาสีแดง แม้ว่าเขาถูกโจมตีโดยพลังขวานสองระลอก แต่แลร์มองต์ก็ยังหนีสุดฝีเท้า ในพริบตาแลร์มองต์หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฟูโซ่ถือขวานของเขาฝืนยิ้ม “เขาหนีได้เร็วจริงๆ เมื่อพลังเทพของเขาหลอมรวมกันแล้ว แม้แต่ความเร็วก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ขณะที่ข้าก็ยังช้ากว่าเล็กน้อย ต่างจากเอลควินเจ้าบัดซบนั่นที่เชี่ยวชาญความเร็ว มิฉะนั้น ข้าคงฆ่าเขาได้แล้ว...”
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว กลุ่มของลินลี่ย์พากันตะลึง
“เดเลีย บีบี ฟูโซ่ผู้นี้มีปัญหาอยู่บ้างเรารีบไปกันเถอะ” ลินลี่ย์ฟื้นคืนความรู้สึกและรีบนำเดเลียและบีบีหนีไป
“หือ? พวกเจ้าต้องการจะหนีด้วยหรือ?”
ฟูโซ่ไล่ตามกลุ่มลินลี่ย์ทันที ในแง่ความเร็วฟูโซ่ด้อยกว่าแลร์มองต์ แต่กลุ่มของลินลี่ย์ประกอบไปด้วยสมาชิกเทพแท้ทั้งนั้น พวกเขาจะหลบหนีไปได้ยังไง?
“ควั่บ!” ฟูโซ่ปรากฏอยู่ต่อหน้ากลุ่มของลินลี่ย์
เมื่อเห็นฟูโซ่อยู่ต่อหน้าพวกเขา กลุ่มของลินลี่ย์ได้แต่ชะงัก
ลินลี่ย์รู้สึกเป็นกังวล “ฟูโซ่ผู้นี้อารมณ์แปรปรวนคาดเดาไม่ได้ เขาทรงพลังมาก แต่ก่อนนี้เขาไม่เคยขัดขวาง และไม่เคยช่วยเหลือเจ้านายของเขา เจ้านายของเขาก็ยินดีจะปล่อยเราไป แต่ใครจะรู้กันว่าถ้าเป็นเขาเองเล่า” ลินลี่ย์ชักจะกระวนกระวาย
“ทำไมพวกเจ้าต้องหนีด้วยเล่า?” ฟูโซ่ดูเหมือนค่อนข้างไม่พอใจ
กลุ่มของลินลี่ย์ได้แต่หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ บีบีพึมพำ “ใครจะรู้เล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าทรงพลังมากจริงๆ!”
“ทรงพลัง?” ฟูโซ่เริ่มตะโกนอย่างโมโห “ทรงพลังกะผีอะไรเล่า?ข้าจะทรงได้มากกว่าสัญญานาย-บ่าวของข้าได้ไหมเล่า?”
กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง การผูกสัญญานาย-บ่าว?
นี่ทรงพลังขนาดนี้แล้วยังต้องทำสัญญานาย-บ่าวด้วยหรือนี่?
ฟูโซ่ตะโกน “เมื่อข้ายังเป็นแค่ระดับเซียน ข้าถูกเจ้าเอลควินผู้นี้บังคับ และทำสัญญานาย-บ่าว ข้าไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ปีนับไม่ถ้วนแล้วจนบัดนี้ เขาก้าวหน้าไปตามครรลองจากเทียมเทพไปเป็นอสูรเจ็ดดาว!”
“แต่ข้าทรงพลังมากกว่าเขา เคล็ดความรู้ลึกลับธาตุไฟหกอย่างข้าหลอมรวมได้ห้าอย่างแล้ว ข้าคือยักษ์ภูเขาไฟและมีพรสวรรค์ในด้านธาตุไฟ การฆ่าเขาเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดและแม้แต่จะกลายเป็นเทพอสูรก็ยังไม่เป็นปัญหา!”
ฟูโซ่คำรามด้วยความโกรธ “แต่ทรงพลังไปแล้วมันจะดียังไง? เขาเป็นเจ้านายข้า! ข้าไม่สามารถต่อต้านเขาได้ การผูกมัดด้วยสัญญานาย-บ่าวเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก!”
“แต่...”บีบีต้องการค้าน
“หุบปากซะ! ฟังข้าอย่างเดียว!” ฟูโซ่ตวาดอย่างไม่พอใจ
กลุ่มของลินลี่ย์หวาดผวา ฟูโซ่เป็นคนบ้าขนานแท้ ทุกคนได้แต่ฟัง
ฟูโซ่สาธยายต่อ “เจ้าเอลควินนี่ชอบแมว โคตรแม่มันเอ๊ย.. ข้าคือยักษ์ภูเขาไฟ ยักษ์ภูเขาไฟผู้ร้ายกาจ เขายังต้องการให้ข้าแปลงกายเป็นแมวเหมียวน้อยด้วยหรือ? และข้าต้องแปลงเป็นเหมียวน้อยสีทองน่ารักด้วยใช่ไหม? ในทุกๆ วันต้องอยู่ในอ้อมแขนให้เขาเลี้ยง?”
หน้าของบุรุษกำยำอย่างฟูโซ่กล้ามเนื้อกระตุก “อ๊าาาาาค... ข้าเกือบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว! แต่เขาดันเป็นเจ้านายของข้า ทั้งหมดที่ข้าทำได้ก็คืออดทน! แม่มันเอ๊ย... ข้าต้องทนลูกเดียว!” เสียงตะโกนนี้กึกก้องสะท้อนไปทั้งหุบเขา
กลุ่มของลินลี่ย์ติดอยู่ในระหว่างอารมณ์ตกใจกับหวาดผวา แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าฟูโซ่ผู้นี้น่าเห็นใจ
ความจริงเขาน่าสงสารมาก
ยักษ์ภูเขาไฟที่ทรงพลังเหี้ยมหาญต้องฝืนใจกลายเป็นแมวน้อยและให้คนอื่นอุ้มเขามาเป็นเวลาล้านล้านปี
“พวกเจ้ารู้ไหมว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง?” ฟูโซ่ถลึงตามองกลุ่มลินลี่ย์
กลุ่มของลินลี่ย์ทำได้แต่เพียงเงียบ
“แต่ข้าก็ยังต้องอดทน ข้าซ่อนพลังตัวเองไว้และเผยพลังตนเองเพียงหนึ่งในสิบของพลังที่แท้จริง” ฟูโซ่พูดอย่างใจเย็น “ข้ามักหวังว่าจะมีใครบางคนสามารถฆ่าเขาได้! แต่เขาเป็นคนขี้ขลาดอย่างแท้จริงแม้ขณะที่เขาเป็นอสูรเจ็ดดาว มีน้อยคนนักที่จะสามารถฆ่าเขาได้ ดังนั้นข้าไม่เคยได้โอกาสเลย แต่ครั้งนี้โอกาสมาถึงแล้ว!”
“เดิมทีข้าต้องการให้เขาฆ่าเจ้า บีบี”
ฟูโซ่ชี้บีบี “เมื่อเวลามาถึง ข้าจะปล่อยข้อมูลนี้ออกไป และเบรุตก็จะมาล้างแค้นและฆ่าเขา ถึงตอนนั้น ข้าจะเป็นอิสระ”
“เบรุต? ท่านรู้จักปู่เบรุตของข้าด้วยหรือ?” บีบีตกใจมาก เท่าที่บีบีรู้ ปู่เบรุตของเขาอยู่เป็นที่ในทวีปยูลาน
“ข้าไม่รู้จักเขา แต่ข้าเคยได้ยินชื่อของเขา แม่ง..เอ๊ย ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก ทำไมเจ้าต้องพูดสอดด้วยวะ?” ฟูโซ่เริ่มตะโกนใส่เขาอีกครั้ง
บีบีปิดปากเงียบทันที
“หมอนี่ บ้าแน่ๆ” บีบีพึมพำกับตนเอง “ข้า, บีบีไม่ทะเลาะกับคนบ้า”
ฟูโซ่พูดต่อ “แต่เอลควินขี้ขลาดจริงๆ เขาไม่กล้าฆ่าเจ้า เขาต้องการจะปล่อยเจ้าจริงๆ ดังนั้นข้าจึงจงใจนำแลร์มองต์เข้ามาจัดการกับเขา” ทันใดนั้นฟูโซ่เริ่มหัวเราะอย่างตื่นเต้น “ฮ่าฮ่าเดิมทีข้าไม่คาดว่าแลร์มองต์จะสามารถฆ่าเขาได้ แต่ใครจะทราบกันเล่าว่าแลร์มองต์ กลับฆ่าเขาได้จริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า...”
ฟูโซ่คว้าตัวบีบีทันที “เจ้ารู้ไหม? ข้านึกไม่ถึงเลยจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าแลร์มองต์จะฆ่าเขาได้จริงๆ” การคว้าจับของฟูโซ่ครั้งนี้ทรงพลัง โชคดีที่เป็นบีบี หากว่าเป็นเดเลียเป็นไปได้ว่าร่างของนางคงถูกฉีก
“อือ..ข้ารู้” บีบีรีบพยักหน้า
เขาค่อนข้างตกใจกับอาการคุ้มดีคุ้มร้ายของฟูโซ่นี้
ทันใดนั้นฟูโซ่แหงนหน้า “อ๊า........!” เสียงกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งไม่ได้แฝงด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับ เสียงกู่ร้องล้วนๆ เสียงกู่ร้องที่สะเทือนฟ้าเสียงกู่ร้องที่แฝงความโศกเศร้าและเก็บกด และแค้นมาหลายปีนับไม่ถ้วน
เก็บกดมาเป็นเวลาล้านๆ ปี
ความทรมานเช่นนี้เกือบทรมานจนเขาแทบตายและในแต่ละวันฟูโซ่ต้องแกล้งทำเสียง “เมี้ยวๆ” ให้ดูน่ารัก
“ข้า!”
“เกลียดดดดดด!”
“แมวววววว!”
หน้าของฟูโซ่ดุร้าย และเขาตะโกนใส่ฟ้า “ข้าจะไม่มีทางเป็นแมวอีก ไม่อย่างเด็ดขาด!!!” หลังจากตะโกนกู่ร้องอยู่นานทำให้เขาสงบใจลงได้ สีหน้าของฟูโซ่ค่อยๆ กลับคืนเป็นปกติจากนั้นสูดหายใจลึกและระบายลมหายใจยาว
เขาหันหน้าไปมองลินลี่ย์ เดเลีย และบีบี
ลินลี่ย์ เดเลีย และบีบียังคงตกตะลึง ไม่มีใครรู้ว่าคนเสียสติผู้นี้จะทำอะไรต่อไป
“เฮ่ย.. ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว” ฟูโซ่มองดูกลุ่มของลินลี่ย์
กลุ่มของลินลี่ย์อดงุนงงมิได้อย่างไรก็ตามลินลี่ย์สามารถเข้าใจได้ว่าความเก็บกดล้านๆ ปีนั้นน่ากลัวเพียงไหน
“พลังที่ถูกจำกัดด้วยสัญญานับว่าไร้เทียมทานจริงๆ” ลินลี่ย์พูดกับตัวเอง “แม้ว่าคนที่ทรงพลังอย่างฟูโซ่ผู้มีพลังเหนือกว่าเอลควินมากมายแต่ก็ยังต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแมวน้อย” เมื่อลินลี่ย์นึกภาพชีวิตของฟู่โซ่ที่ผ่านมา เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของฟูโซ่
มันเจ็บปวดเมื่อคิดถึง เขาสามารถเข้าใจได้เต็มที่ว่าเป็นความเก็บกดระดับไหนรวมทั้งความโศกเศร้าที่ฟูโซ่มีมาเป็นเวลาล้านๆ ปี
“ข้าไม่สามารถระบายความโกรธความเศร้าและความเก็บกดในใจข้าได้ เจ้าคงจะนึกภาพออกนะว่าจะรู้สึกยังไง?” ฟูโซ่ตอนนี้สงบและดูดีขึ้น “เอาละ,ตอนนี้ข้าเป็นอิสระจนได้แล้ว ข้าได้พูดทุกอย่างที่ข้าต้องการพูดไปแล้ว ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาก”
กลุ่มของลินลี่ย์พยักหน้า
“ฮ่าฮ่า...” ฟู่โซ่หัวเราะอย่างสดใส “ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระ ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระ!”
ฟูโซ่หันมามองกลุ่มของลินลี่ย์ “ขอบใจมาก,ที่อุตส่าห์ฟังข้าบ่นตั้งเยอะแยะ ความจริงแล้วข้ามักจะไม่ค่อยอยู่เฉยๆ จริงสิ เราฆ่าเทพแท้และเทพชั้นสูงไปมากมาย ข้าพอจะนึกภาพได้ว่าเทพชั้นสูงธรรมดาเหล่านี้คงไม่มีสมบัติติดตัวมาก ข้าจะยกให้พวกเจ้าทั้งหมด ถือเสียว่าเป็นค่าตอบแทนที่ฟังข้าบ่นก็แล้วกัน!”
แค่เพียงโบกมือ ฟูโซ่นำแหวนมิติเก็บของออกมาร้อยกว่าวง
ลินลี่ย์ เดเลีย และบีบีตะลึง
แต่จากนั้นแค่เพียงโบกมือลินลี่ย์เก็บแหวนเหล่านี้ไว้ทันที “ท่านฟูโซ่ นี่มัน..”
“ฮ่าฮ่า.. ในช่วงเวลาล้านๆ ปีเจ้าเป็นคนแรกที่เรียกข้าว่าท่านฟูโซ่” ฟู่โซ่ดีใจมาก “เอาแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเจ้าสามารถรับของเหล่านี้ไปได้เลย ไม่ต้องคิดอะไรมากเกินไป แหวนเหล่านี้ไม่มีสมบัติอยู่ภายในมากนักข้าจะเก็บแหวนสองวงที่มีค่ามากที่สุดเอาไว้คือของ เอลควินและอินนิโก”
“แล้วก็.. รักษาตัวให้ดีเล่า ข้า ฟูโซ่เป็นอิสระแล้ว ข้าไม่ต้องการอยู่ที่ใดที่หนึ่งแน่นอน ข้าจะไปท่องแดนนรก!” เสียงของเขากึกก้องอยู่ในอากาศ แต่ฟูโซ่หายไปแล้ว
ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีได้แต่มองหน้ากันเอง