ตอนที่ 14 การเข้าใจผิดของโฮคาเงะและความคืบหน้า
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับมื้อกลางวันกับมิโคโตะและซาสึเกะ ที่แห่งหนึ่งในโคโนฮะ ชายชราสวมหมวกและชุดคคลุมสีแดงยาวเต็มตัวที่ผูกด้วยผ้าคาดเอวสีขาวกำลังเดินไปที่ร้านอาหารที่เรียบง่ายแต่เป็นที่นิยมที่ชื่อ 'อิชิราคุ ราเม็ง' ขณะที่ถือไปป์อยู่ข้างๆ เขาเดินเคียงข้างเด็กน้อยผมบลอนด์ และดูจากใบหน้าของเขา เหมือนว่าเขาจะอารมณ์ไม่ดีด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าหลายคนๆนั้นจะมีความสุขกับการเดินข้างชายชราผู้นี้ก็ตาม
ทั้งคู่นั่งลงที่หน้าร้าน และฮิรุเซ็นพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น "นานเลยนะที่ฉันไม่ได้พานายออกไปกินราเมง นารูโตะ วันนี้นายเป็นยังไงบ้าง?"
นารูโตะไม่แม้แต่จะหันมามองเขาและพูดว่า "ผมสบายดี"
ฮิรุเซ็นดูประหลาดใจเพราะเจ้าเด็กหน้าเศร้าคนนี้ที่เคยดูสนิทกับเขามากกลับห่างเหินไป เขาจึงพูดว่า "เอาล่ะ สั่งก่อนเถอะ" พวกเขาจึงสั่งราเม็งไป พลางคิดว่าหลังจากนารูโตะได้เห็นอาหารแล้วอารมณ์ของเขาจะดีขึ้น แต่เนื่องจากราเม็งถูกจัดเตรียมอย่างรวดเร็ว โดยเทอุจิผู้ชำนาญได้เสิร์ฟต่อหน้าพวกเขา ทำให้นารูโตะยังคงอารมณ์ไม่ดีเช่นเดิม ทำให้ฮิรุเซ็นขมวดคิ้วอย่างลับๆ จึงถามว่า "ดูเหมือนนายจะอารมณ์ไม่ดีนะ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?"
นารูโตะที่กำลังจะเริ่มกินก็ชะงักกึกและพูดพร้อมกับจ้องไปที่ฮิรุเซ็น "ใช่น่ะสิ เพื่อนของผมป่วยและผมก็กำลังจะไปเยี่ยมเขาพร้อมกับซาสึเกะ แต่ท่านก็โผล่มาพอดี ท่านตามผมมาหรือยังไงกัน?"
ดวงตาของฮิรุเซ็นเป็นประกายโตกับคำตอบนั้นและคิดว่า 'แน่นอนว่าฉันจะไม่ปล่อยให้นายเข้าไปในบริเวณตระกูลอุจิวะเพียงคนเดียวแน่'
ฮิรุเซ็นสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและพูดด้วยท่าทางขอโทษ "อา ฉันขอโทษละกัน ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนของนายป่วย นายพอจะรู้บ้างไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?" 'อย่างน้อยเขาจะต้องรู้เรื่องเด็กอุจิวะคนนั้นไม่มากก็น้อยแน่ๆ' ฮิรุเซ็นคิด
นารูโตะเสียใจมากและพูดว่า "ผมไม่รู้ แม้แต่ซาสึเกะเองก็ไม่รู้ เมื่อวานตอนที่แม่ของซาสึเกะไปเยี่ยมเขา เธอพบว่าเขาหมดสติในบ้านและซาสึเกะบอกว่าหมอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร วันนี้ซาสึเกะเลยออกไปซื้อยาให้บาโคริโอะ และผมก็กำลังจะไปกับเขาเหมือนกัน"
'ดูเหมือนว่านี่คงไม่ได้เป็นวางแผนที่จะล่อเก้าหางเข้าไปในบริเวณของพวกเขา บางทีเราอาจแค่คิดมากเกินไป แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า' ฮิรุเซ็นคิดและพูดว่า "ฉันเข้าใจ ฉันหวังว่าเขาจะสบายดี ดูเหมือนว่านายจะชอบเพื่อนกลุ่มนี้จริงๆนะ"
ในขณะเดียวกันภายในผนึกของนารูโตะคุชินะก็โกรธมากที่ ฮิรุเซ็น ซักถามนารูโตะอย่างโจ่งแจ้งโดยตีหน้าซื่อเป็นชายชราที่ไม่มีพิษมีภัย ในขณะที่มินาโตะพยายามทำให้เธอสงบลงด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
นารูโตะพูดด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง "ใช่ ผมชอบคุยบาโคริโอะ ส่วนซาสึเกะเรหอ อืม เขาแค่เป็นคนที่ดูน่ารำคาญ"
ฮิรุเซ็นกล่าวว่า "โอ้ ดูเหมือนว่าบาโคริโอะคนนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่นายชอบเขามากขนาดนี้"
ดวงตาของนารุโตะเป็นประกายก่อนจะหรี่ลงอีกครั้ง และในขณะที่กินเขาก็พูดว่า "ใช่ บาโคริโอะเป็นคนที่ดีที่สุดที่ผมรู้จัก ผมแค่หวังว่าเขาจะไม่หมกมุ่นเรื่องเงิน เพราะเขามีพรสวรรค์มากกว่าซาสึเกะ"
'โอ้ เป็นข่าวดีที่รู้ว่าจะไม่มีอัจฉริยะคนอื่นๆจากตระกูลอุจิวะโผล่มาอีก เพราะการจัดการกับชิซุยและอิทาจิก็ยากพอแรงแล้ว' ฮิรุเซ็นคิดแต่เขาก็ตะหงิดใจกับคำแปลกๆ และถาม "นายหมายถึงอะไรที่บอกว่าหมกมุ่นอยู่กับเงิน"
นารูโตะยัดราเม็งเข้าปากอีกครั้งเพื่อซ่อนสีหน้าของเขาตามที่พ่อเขาสั่งและพูดว่า "เอาล่ะ *งั่ม งั่ม* เขามักจะพูดว่าความฝันของเขาคือการเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก"
ในตอนนั้น ฮิรุเซ็นก็จำได้ว่าเด็กคนนั้นมีร้านขนมอยู่แล้วและคิดว่า 'เขาเป็นแค่คนที่ต้องการทำงานหาเงิน บางทีเขาอาจจะเป็นนักธุรกิจถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวล' และเขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะเขาได้รู้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว
“เอาล่ะได้เวลาแล้ว ฉันคงต้องไปแล้วล่ะเพราะฉันมีงานที่ต้องทำ ลาก่อนนะนารูโตะ ขอให้เพื่อนของนายปลอดภัยนะ” ฮิรุเซ็นพูดแล้วจ่ายเงินค่าราเม็งที่พวกเขากินและออกไปในขณะที่สูบยาเส้นจากไปป์ของเขา
“แกน่ะแหละที่ต้องระวังตัวเอาไว้ ไอ้แก่สกปรก!” คุชินะกรีดร้องและพูดด้วยท่าทางโกรธจัด "บาโคริโอะพูดถูก โฮคาเงะไม่สนใจนารูโตะลูกของเราจริงๆ" มินาโตะพยักหน้าเห็นด้วยกับเธอและเธอก็พูดว่า "ฉันบอกคุณแล้วว่ามันไม่คุ้มที่จะเสียสละตัวเองและปล่อยให้นารูโตะอยู่คนเดียวกับคนพวกนี้เลย"
มินาโตะมองเธออย่างรู้สึกผิดและพูดว่า "ฉันขอโทษคุชินะที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ หวังว่าบาโคริโอะคุงจะช่วยสร้างร่างใหม่ให้เราจริงๆ เพื่อที่เราจะได้ดูแลนารูโตะได้อย่างเต็มที่"
คุชินะพยักหน้าด้วยสายตาที่คาดหวัง และถามมินาโตะว่า "คุณตั้งใจทำงานให้เขาจริงๆเหรอ"
มินาโตะพยักหน้า "ฉันตกลงกับเขาเอาไว้แล้ว และเราเป็นหนี้บุญคุณเขามากที่ให้โอกาสเราได้ดูแลนารูโตะในผนึกแห่งนี้ ตราบใดที่เขาไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ฉันจะช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาต้องการ"
คุชินะมองไปที่มินาโตะอย่างเห็นด้วยและพูดว่า "ใช่ เราเป็นหนี้บุญคุณเขาจริงๆ มาดูกันว่าเขาต้องการอะไรเมื่อพวกเราพบเขาในครั้งต่อไป" มินาโตะพยักหน้าให้เธอก่อนที่จะเริ่มคุยกับนารูโตะเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ...
----------
ตัดภาพกลับมาที่บ้านบริเวณของตระกูลอุจิวะ
ในที่สุดบาโคริโอะก็กลับมาอยู่คนเดียวในห้องที่เขาตื่นขึ้นมาและมีเวลาตรวจสอบความคืบหน้าของเขา ดังนั้นเขาจึงคิดในใจว่า ค่าสถานะ
ชื่อ :อุจิวะ บาโคริโอะ
พลังชีวิต: 7800 (+100/นาที)
จักกระ: 11800 (+160/นาที)
ความแข็งแรง 3000 (+40/นาที)
คุณสมบัติ: ค่าโจมตีพื้นฐาน 120 / ความว่องไว 100 / ร่างกาย 200 / พละกำลัง 250 / ความแข็งแกร่ง 300 / จิตวิญญาณ 400
สกิล : การขว้างเลเวล 37 การขว้างแบบเลื้อยเลเวล 19 การต่อสู้ระยะประชิดเลเวล 61 คาถาน้ำกระสุนน้ำเลเวล 15 คาถาแยกร่างเลเวล 1 คาถาแปลงร่างเลเวล 1 คาถาแยกเงาพันร่างเลเวล 1 การทำอาหารเลเวล 21 การควบคุมจักระเลเวล 19 การทำสมาธิเลเวล 21
ความสามารถ: บันทึกและโหลด , แผนที่
สายเลือด: อุจิวะ 50%
พรสวรรค์ : จักระระดับขั้นสูง ร่างกายระดับขั้นสูง การทำอาหารระดับเซียน การปิดผนึกขั้นเซียน
เขารู้สึกประหลาดใจที่คุณสมบัติของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าเขาจะมีความว่องไวสูงแต่มีพลังโจมตีระดับทั่วไป เขาก็ยังแข็งแกร่งพอๆกับลีในการสอบจูนิน แต่ด้วยพลังโจมตีและความว่องไวที่สูง เขาน่าจะสามารถจัดการกับนินจาระดับโจนินพิเศษได้ในตอนนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็คงเป็นแค่เครื่องจักรสังหารในสงครามถ้าเกิดมีการสู้รบเกิดขึ้น แต่ถ้าเขาเพิ่มประสาทสัมผัสและความเร็วในการตอบสนองของเขาเข้าไปด้วยล่ะจะเป็นอย่างไร... ในตอนนี้เขายังประเมินไม่ได้ว่าตอนนี้เขาแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะการต่อสู้ไม่ได้ใช้เพียงแค่พลังโจมตีเท่านั้นในโลกของนินจา เว้นแต่เขาจะมีการป้องกันที่สมบูรณ์แบบอย่างซูซาโนโอะหรืออะไรทำนองนั้น มันจะทำให้การต่อสู้นั้นง่ายขึ้นอย่างมาก
เขายังสังเกตเห็นว่าเขามีพลังชีวิตและจักระมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะจักระเพิ่มตามความสามารถในร่างกายของเขาที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้เขาคิดว่าจักระของเขาอยู่ในระดับโจนิน ตอนนี้เขาขาดแค่การฝึกฝนการควบคุมการใช้งานจักกระและคาถานินจาเจ๋งๆ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องง่ายที่จะฝึกมันจากร่างกายของเขาในตอนนี้
เขาพอใจกับความก้าวหน้าของเขาและเริ่มคิดว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไป 'เรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากมินาโตะและคุชินะ เนื่องจากฉันยังขาดวิชานินจาและวิชาผนึกอยู่มาก ในขณะที่การฝึกฝนร่างกายของเขาต้องให้ไปถึงระดับโจนินด้วยหรือต้องสูงกว่านั้นหากเป็นไปได้ แน่นอนว่าฉันอยากมีพลังให้เท่ากับหนึ่งในสองคนที่มีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาในตระกูลอุจิวะ อุจิวะ ชิซุย'