ตอนที่ 106 ลางร้าย (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 106 ลางร้าย
ความทรงจำเริ่มต้นจากวัยเด็กของชายคนนั้น
“เรเวนคลอ!”
ชื่อของเขาคือโธมัส และเขาถูกจัดอยู่บ้านเรเวนคลอ เป็นพ่อมดเลือดผสม
“คุณผ่านการสอบมือปราบมารแล้ว และตอนนี้จะอยู่ในช่วงทดลองงาน...” นี่คือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้เขาได้เลื่อนขั้นเป็นมือปราบมารอาวุโสแล้ว
"ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายมาก กำจัดผู้ก่อการร้าย พวกเขามุ่งเป้าไปที่พ่อมดทั่วไปและเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของเรา ถูกกำหนดแล้ว" นี่เป็นคำสั่งที่เขาได้รับจากรุ่นพี่
ดังนั้น เมื่อเขาเข้าไปสืบสวนคดีผู้เสพความตาย เขาก็พบกับผู้เสพความตายที่กำลังถอดหน้ากากอยู่ และสิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาตกใจ มันเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาเอง
“แต่ท่านครับ ผมเห็นกับตาแล้ว ผมให้ความทรงจำกับท่านก็ได้” เขาเปิดเผยให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
"เขาเป็นมือปราบมาร ลืมสิ่งที่คุณเห็นไปซะ" เขาได้รับคำแนะนำ
“แต่ท่านครับ เขาฆ่าครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวผู้บริสุทธิ์ กับเด็ก...” โธมัสแย้ง
*เปรี้ยง*
"พอได้แล้ว... บางครั้ง การเสียสละก็เป็นสิ่งจำเป็นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ออกไปเดี๋ยวนี้" เขาได้รับคำสั่ง
โธมัสออกจากกระทรวงด้วยความโกรธกลับไปที่บ้านของเขา เขาอยากทำอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เขาไม่มีพันธมิตรหรือเส้นสายใหญ่ๆ เขาคงจะไปหามู้ดดี้แล้ว ถ้าชายคนนั้นไม่ติดภารกิจบางอย่างอยู่
เพื่อให้ตัวเองเย็นลง เขาตัดสินใจลางานและใช้เวลากับครอบครัว น่าแปลกที่การลาของเขาได้รับการอนุมัติทันทีแม้ว่าจะมีงานมากมายในแผนกบังคับใช้กฎหมายเวทมนตร์ก็ตาม
แต่ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่เขาหลับอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากชั้นล่างของบ้าน
*ตู้มม*
"โธมัส เชลบี!... ไสหัวออกมาซะ แกไอ้พวกทรยศต่อเลือด..." เสียงตะโกนดังมาจากชั้นล่าง
ทันทีที่เขาได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้ว่าใครมาอยู่ที่ประตูบ้านของเขา เขารู้ว่าเขาถูกขายแล้ว กระทรวงต้องถูกบุกรุกแล้วแน่นอนเพราะประวัติเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานของมือปราบมารต้องเป็นความลับระดับสูง เขามองไปที่ภรรยาของเขาและลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวอยู่
"ไปซะ! รีบหายตัวไปที่ฮอกส์มี้ดแล้วไปที่ฮอกวอตส์ ผมจะไปพบกับพวกคุณที่นั่น" เขาแนะนำพวกเขา เขาห่วงชีวิตของพวกเขามากกว่าตัวเขาเอง
เมื่อเห็นความสงสัยบนใบหน้าของพวกเขา เขาตะโกน "ไปเดี๋ยวนี้! ได้โปรด..."
ในที่สุดภรรยาของเขาก็พยักหน้าและแยกทางไปกับลูกสาวของพวกเขา
จากนั้นโธมัสก็เดินหน้าเพื่อต่อสู้กับพวกมัน แต่สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้และโดนคาถาแทงเข้าที่ท้อง ขณะที่เขากำลังล้มลง เขาใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อขึ้นไปบนรถไฟด่วนฮอกวอตส์
หลังจากนั้นก็หยุดรถไฟและเข้ามาในเวลาพลบค่ำ
แม็กนัสดึงตัวเองออกจากความคิดของโธมัส
“รักกนาร์ ให้ยาเติมเลือดแก่เขา เขาถูกคาถาแทงเข้าที่ท้อง แน่นอนว่าเป็นพวกผู้เสพความตาย” แม็กนัสออกคำสั่ง
เมื่อรู้เรื่องนี้ รักนาร์รู้สึกสบายใจขึ้นและรีบหยิบขวดออกมาจากกระเป๋าของเขา
แม็กนัสก้าวไปข้างหน้าและตบไหล่โธมัส "ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมแน่ใจว่าภรรยาและลูกสาวของคุณสบายดี ผมจะพาคุณไปหาดัมเบิลดอร์ในภายหลัง”
“ข-ขอบพระทัย...ฝ่าบาท...” โธมัสคร่ำครวญ
“ตอนนี้นั่งบนที่นั่งก่อน คุณได้รับบาดเจ็บ ดื่มยานี้เพื่อให้ดีขึ้น” เด็กชายช่วยเขา ขณะที่คิดอยู่ในใจ
~ไม่แปลกใจที่รัฐมนตรียูจีเนียทำอะไรไม่ได้ เธอไม่มีอำนาจเหนือพวกกระทรวง~ เขาคิด
*แคกๆ*
ทันใดนั้นเอ็มม่าก็กระเอ้มในลำคอ เธอมองแม็กนัสด้วยสายตาเต็มไปด้วยความวิ้งวับ "นายเจ๋งโคตร!"
แม็กนัสส่ายหัว "โตได้แล้ว ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ร้ายแรง กระทรวงถูกบุกรุก หมายความว่าไม่มีใครปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมักเกิ้ล ลูกครึ่ง หรือพวกเลือดบริสุทธิ์ หากเธอไม่ติดตามพวกมัน พวกมันก็จะปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงมาติดตามเธอแทน”
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาทั้งหมดกลายรู้สึกจริงจังขึ้นเล็กน้อย เจมส์กล่าวด้วยความกังวลอย่างรวดเร็วว่า "ฉันต้องบอกพ่อแม่ของฉันก่อน..."
"ไม่! อย่าส่งทางไปรษณีย์ธรรมดา ซัมเมอร์จะส่งมันให้ อย่าไว้ใจองค์กรช่วยเหลือของกระทรวงใดๆ ทั้งสิ้น พวกเขาอาจจะสอดแนมพวกเราอยู่ก็ได้” แม็กนัสเตือนพวกเขา
ซิเรียสยังคงใจเย็น “อืม... ฉันไม่มีใครให้คุยด้วยเลย มันอาจเป็นครอบครัวของฉันตั้งแต่แรกที่อยู่เบื้องหลังความยุ่งเหยิงนี้ พวกเขาคอยยัดเงินให้กระทรวงมาระยะหนึ่งแล้ว นายก็น่าจะพอรู้ว่าปู่ของฉันได้รับเหรียญตราเมอร์ลินชั้นหนึ่งมาได้ยังไง”
แม็กนัสถอนหายใจด้วยความผิดหวัง "ระดับการคอรัปชั่นในกระทรวงบ้าไปแล้ว เจ้าหน้าที่ในกระทรวงทั้งหมดจำเป็นต้องได้รับการชำระให้บริสุทธิ์และสร้างขึ้นใหม่ตั้งแต่ฐานรากเลย”
เขาหันไปหาโธมัสเพื่อถามคำถามเพิ่มเติม แต่เห็นเขาหลับอยู่จึงตัดสินใจถามในภายหลัง ประการแรก การพาเขาไปให้ถึงฮอกวอตส์อย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานีฮอกส์มี้ด นักเรียนทุกคนลงจากรถและไปโรงเรียนด้วยรถม้าที่ลากโดยเธสตรอล
พวกมันเป็นสายพันธุ์ของม้ามีปีกที่มีร่างกายเป็นโครงกระดูก มีใบหน้าคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน และมีปีกกว้างคล้ายหนังของค้างคาว พวกเขาดูสวยไปอีกแบบหนึ่ง เฉพาะคนที่เคยเห็นความตายมาแล้วเท่านั้นที่จะเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้
ดังนั้นแม็กนัสกับรักนาร์จึงสามารถเห็นพวกเขาได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่มีใครในกลุ่มเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อีก
แม็กนัสเดินไปข้างหน้าและลูบหัวมันเบาๆ และเดินทางไปฮอกวอตส์ จนถึงตอนนี้ ทุกสิ่งถูกทำขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จึงไม่มีใครสามารถห้ามโธมัสไม่ให้มากับพวกเขาได้
แต่เมื่อพวกเขามาถึงประตู ศาสตราจารย์ฟลิตวิคก็หยุดพวกเขาไว้อย่างรวดเร็ว
“ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ควรมาพบเขาครับ เขาเป็นอดีตมือปราบมาร” แม็กนัสบอกเขาอย่างจริงจัง
ฟลิตวิคสอนวิชาคาถาและแม็กนัสก็เป็นนักเรียนที่ดีที่สุดของเขา แน่นอนว่าเขาไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือ นอกจากนี้ แม็กนัสไม่มีเหตุผลที่จะทำอะไรไม่ดี
“คุณเข้าไปก่อน ฉันจะพาเขาไปหาศาสตราจารย์ใหญ่หลังจากปิดประตูเอง” ศาสตราจารย์ฟลิตวิคพูด
แม็กนัสตกลงตามนี้ "คุณตามเขาไปนะครับ ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะดีเอง ดัมเบิลดอร์จะพบครอบครัวของคุณในไม่ช้า หรือไม่ใครจะไปรู้ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่ในโรงเรียนแล้วก็ได้”
โธมัสขอบคุณเขาก้าวไปหาศาสตราจารย์ฟลิตวิค
เมื่อเสร็จสิ้นสถานการณ์ แม็กนัสไปที่หอพักก่อนเพื่อปล่อยแชดและซัมเมอร์ให้เป็นอิสระ
"วันหยุดนี้นายทำอะไรบ้าง เซฟ?" แม็กนัสถาม
“ก็ฝึกปรุงยาที่ดีขึ้นแล้วก็ฝึกคาถา แล้วนายล่ะ?” เซเวอรัสถามกลับ
แม็กนัสยิ้มอย่างกับนายทุนตัวจริง "ฉันขายเพชรได้ 486 ล้านดอลลาร์ ส่วนรักนาร์ก็น้ำหนักขึ้น"
สเนปอ้าปากค้าง "ใช้เงินมากมายเพื่อซื้อเพชรเนี่ยนะ ทำไมล่ะ?"
"ฮ่าฮ่า เวทมนตร์ไง..." แม็กนัสตอบและมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อทานอาหารเย็น
...
ในขณะเดียวกัน ฟลิตวิคก็พาโธมัส เชลบีไปหาดัมเบิลดอร์ โชคดีที่ชายชราอนุญาตให้มีการพบปะพูดคุยกัน
โธมัสเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว แถมดัมเบิลดอร์ยังใช้การพินิจใจกับเขาด้วย แต่เขาไม่ได้ลงลึกนัก และเขาใช้มันเพื่อดูความคิดผิวเผินเท่านั้น
"ฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของเธอแล้ว พวกเขาเพิ่งมาถึงฮอกส์มี้ดได้ไม่นาน พวกเขาไปพักที่บ้านน้องชายของฉันไม่ต้องห่วง พวกเขาปลอดภัยแล้ว” ดัมเบิลดอร์เผย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โธมัสก็ถอนหายใจโล่งอก "ข-ขอบคุณครับ อาจารย์ช่วยผมปกป้องครอบครัวของผมจากพวกมันได้ไหมครับศาสตราจารย์?"
โธมัสเป็นกันเองกับดัมเบิลดอร์ง่ายกว่าคนอื่น เพราะตอนที่เขาอยู่ที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์เป็นเพียงศาสตราจารย์และที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าเด็กนักเรียน
ดัมเบิลดอร์ลูบเครายาวของเขา นั่นเป็นสัญญาณว่าเขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่
สักพักเขาก็ตอบ "ฉันขอโทษนะ แต่ฉันผูกมัดกับตำแหน่งที่ฉันอยู่ ฉันเป็นแค่อาจารย์ใหญ่โธมัส ถ้ามันเป็นกระทรวงที่ติดตามเธออยู่ บางทีเธออาจต้องหาคนที่กระทรวงไม่สามารถทำอะไรได้ คนที่เคยจัดการกับพวกเขามาแล้วอย่างน้อยครั้งหนึ่ง แต่เชื่อฉันเถอะ ฉันจะทำให้ครอบครัวของเธอปลอดภัย"
ไหล่ของโธมัสทรุดลง เขาคิดว่าดัมเบิลดอร์ ผู้พิชิตเจ้าแห่งศาสตร์มืดคนก่อนจะช่วยเขาได้
~เดี๋ยวนะ!~
เขาหยุดคิดในแง่ลบทันทีและใช้สมองของเขาประมวลคำพูด ~คนที่กระทรวงทำอะไรไม่ได้? คนที่ลงโทษกระทรวงและพวกเลือดบริสุทธิ์งั้นหรอ? แน่นอนว่าต้องเป็นเขา~
ตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณ "ได้ครับ ศาสตราจารย์ ผมจะกลับไปหาครอบครัวแล้วครับ"
...
*ฮ้าดดด ชิ้ววว*
แม็กนัสจามเสียงดัง ทำให้รักนาร์ตกใจและทำไก่ย่างที่กำลังกินตก
"ไอ้บ้า แม็ก หยุดแพร่เชื้อแถวนี้นะเฟ้ย" รักนาร์บ่นด้วยความโกรธ
แม็กนัสยกมุมเสื้อคลุมของรักนาร์ขึ้นแล้วเช็ดจมูก "อ่า... นายได้ศึกษาหนังสือชีววิทยาของพวกมักเกิ้ลที่ฉันให้ไปแล้วงั้นเหรอ? แต่ปกติฉันก็ไม่ค่อยจามนะ ฉันหวังว่ามันจะไม่ใช่ลางร้าย"
"ฉันจะโชว์ลางร้ายให้นายเห็นเอง..." รักนาร์ตะโกนทันทีเมื่อเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แม็กนัสหัวเราะและลุกขึ้นเพื่อวิ่งกลับหอพัก
“หยุดนะ! ไม่งั้นฉันจะเอาเสื้อคลุมนายเช็ดตูดเดี๋ยวนี้แหละ...” รักนาร์วิ่งไล่ตามเขา และนั่นคือวันเปิดเทอมใหม่ของพวกเขา
...
ในขณะที่เรื่องพวกนี้กำลังเกิดขึ้น เท็ดก็ยุ่งอยู่กับการทำธุรกิจของแม็กนัสในสหรัฐอเมริกา
"เดี๋ยวนะคะ... คุณต้องการซื้อบริษัทนี้งั้นเหรอ? ฮ่าๆ... อย่ามาล้อเล่นกันสิคะ" พนักงานต้อนรับหัวเราะ
แต่ใบหน้าของเท็ดยังคงนิ่งอยู่ เขาใส่สูทราคาแพงขนาดนี้แต่ผู้หญิงคนนี้กลับคิดว่าเขาไม่จริงจัง “เปล่า อันที่จริงแล้วผมได้ซื้อหุ้นส่วนใหญ่ไว้แล้ว ผมแค่จะประกาศตอนนี้ กรุณาเรียกคณะกรรมการไปที่ห้องประชุมด้วยครับ”
เท็ดตอบและไปที่ชั้นบนของอาคาร พนักงานต้อนรับล้มลงบนเก้าอี้ของเธอพร้อมกับหน้าซีดเหมือนผี
และนั่นเป็นวิธีที่ แม็กนัสเข้าใกล้การเปลี่ยนแปลงโลกของวิทยาศาสตร์การแพทย์ไปอีกก้าวหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่ามีอีกคนที่กำลังก่อร่างสร้างมันอยู่ คนที่อยู่ใกล้ชิดกับแม็กนัสมากเสียด้วย
_____________________________
โธมัส เชลบี