ตอนที่ 493 เม็ดถั่วน้อย
ขณะที่หิมะหนาวเยือกเย็นตกไม่มีเสียงอะไรสักอย่าง
หนึ่งคนตัวเล็กกับคนตัวใหญ่ตกตะลึงมองหน้ากัน
“ทำไมมันกลายเป็นอย่างนั้น?” เสี่ยวเอ้อพึมพำกับตนเอง สายตาของเขายังคงว่างเปล่า แต่เสียงเหมือนเด็กทารกทำให้คำพูดของเขาฟังดูไร้เดียงสาเหมือนกับเด็กน้อยมีความสงสัยต่อโลก
ถังเทียนค่อยรู้สึกตัว เขาตื่นเต้นและนั่งคุกเข่า ใบหน้าบ่งบอกถึงความตื่นเต้น“หวา... เสี่ยวเอ้อ...เจ้าพูดได้ด้วย!”
“เสี่ยว.....เอ้อ.... (เจ้าโง่น้อย)”
เสี่ยวเอ้อดูเหมือนเพิ่งจะตื่นจากฝันร้ายหนังตาของเขากระตุก ความโกรธพลุ่งขึ้นมาจากอก แต่เสียงที่เหมือนกับเด็กหัดตั้งไข่น่ารักจนบอกไม่ถูกเหมือนเด็กที่กำลังโกรธ
และ...ข้าอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าโง่นี่เพียงเมื่อเขาหมอบลง...
เป็นเรื่องที่น่าอับอายนักทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว เขากัดฟันแน่นเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา “บัด...ซบ”
ปิงปรากฏตัวในเวลานั้น เมื่อได้ยินเสี่ยวเอ้อพูด ตาเขาเป็นประกายเหมือนกับว่าได้พบโลกใหม่ “เสี่ยวเอ้อพูดได้หรือนี่?”
เขาวิ่งเข้ามาและนั่งยองๆทั้งดึง ผลัก จับเสี่ยวเอ้อหมุนเล่นอยู่ครึ่งค่อนวัน ก่อนจะบ่นพึมพำ “ต้องมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปสำหรับเขาแน่นอน”
เสี่ยวเอ้อมึนงงจนลืมโต้ตอบ
ทันใดนั้นเสี่ยวเอ้อที่มัวตะลึงอยู่รู้สึกว่าท่อนล่างของเขาเย็นวาบเนื่องจากมีมือชั่วร้ายข้างหนึ่งถอดกางเกงเขา ปิงมองดูและหัวเราะก๊าก “เฮ.. เม็ดถั่วน้อยยังงอกไม่เท่าไหร่เลย”
เสี่ยวเอ้อรู้สึกเหมือนกับถูกฟ้าผ่า แข็งค้างไปทั้งตัว ใจของเขาว่างเปล่า
เม็ด...ถั่ว..น้อย...
ข้า..นึก...ไม่..ถึงเลย
เขาลืมไปอย่างสิ้นเชิงว่าปิงและคนที่เหลือคุยอะไรกันอยู่ ถ้าเขาสามารถได้ยินเขาคงเสียใจแน่ว่าทำไมถึงได้เสียเวลาฟังคนพวกนี้
หยาหยาปรากฏตัวเช่นกันและปิงตะโกนเรียกทันที “หยาหยามาเร้ว..มาดูถั่วน้อยของเสี่ยวเอ้อน้องชายของเจ้า”
หยาหยาตาเป็นประกาย ควั่บมันปรากฏตัวอยู่หน้าเสี่ยวเอ้อ ยืดคอมองดูและจากนั้นมันมีสีหน้าประหลาดใจจากนั้นก้มดูของมันเอง มันอดเกาหัวไม่ได้
“ยี้ ย้า ยี้ ย้า!”
หยาหยาควัก(ถั่วน้อย)ของมันออกมาและวิ่งไปอวดต่อหน้าเสี่ยวเอ้อ
“ดูเหมือนถั่วน้อยของหยาหยาจะใหญ่กว่าเล็กน้อย” ปิงลูบคางใช้ท่าทางเหมือนมืออาชีพตัดสิน
“ใช่, ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ” ถังเทียนชื่นชม จากนั้นลูบหัวของเสี่ยวเอ้อ “เสี่ยวเอ้อ, อย่าเสียใจไปเลย เจ้าจะค่อยๆ เติบโตขึ้น!”
หยาหยาแสดงสีหน้ามีความสุข ตีลังตามประสามัน
เสียใจ..... เม็ดถั่วน้อย....บัดซบเอ๊ย...
“เอ.. ทำไมเสี่ยวเอ้อถึงสั่นเล่า?” ปิงประหลาดใจ
“ตอนนี้เขากำลังสั่นเช่นกัน เป็นเพราะข้าเพิ่งทุบตีเขามาอย่างดุเดือดรอบหนึ่งกระมัง?” ถังเทียนพึมพำ
“เสี่ยวเอ้อน่ารักมาก ทำไมเจ้าถึงทุบตีเขา?” ปิงโต้แย้ง
“ถ้าข้าไม่ทำ,แล้วท่านคิดว่าเขาจะพูดได้หรือ?” ความคิดของถังเทียนแตกต่างจากคนอื่น และเขาพูดด้วยความมั่นใจ “เป็นเพราะข้าทุบตีเขาไง จึงทำให้เขาเชิดหน้ายืดอกได้ตรงไง!”
“อ้อ...เป็นอย่างนั้นนั่นเอง แล้วทำไมเขาถึงสั่นเล่า?”
“โอว หรือว่ามีตรงไหนที่ยังไม่ตรงอีก?” ถังเทียนพึมพำ จากนั้นคว้าขาของเสี่ยวเอ้อและกระแทกกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง
ปัง ปัง ปัง!
หยาหยามองดูอย่างหวาดผวาและหายวับไปทันที แม้ว่าพวกเขาจะไม่ตายก็จริง แต่เห็นได้ว่ามันเจ็บมาก
เสี่ยวเอ้อยังไม่ทันฟื้นจากอาการตกตะลึงและตระหนักไดว่าโลกของเขาหมุนและจากนั้นก็กระแทกพื้นอย่างต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า จนฝุ่นกระจาย และความสิ้นหวังท่วมท้นในใจของเขา
โลกนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่...
“ดูสิ... เขายังสั่นไม่หยุดเลย!” ถังเทียนแสดงเสี่ยวเอ้อด้วยความภูมิใจ
เสี่ยวเอ้อหมดสติไปแล้ว
“ดีมาก!” ปิงยกย่องจริงจังและจากนั้นก็เริ่มเดินจากไปก่อนที่จะพูด “พวกเจ้าเล่นกันต่อไปเถอะ”
หลังจากนั้นสามวินาที เสี่ยวเอ้อก็ฟื้นขึ้น หน้าของมึนซึมขณะที่คลานออกมาจากทราย
โธ่เว้ย!
แม้ว่าเขาจะนอนหลับอยู่ในร่างเดียวกัน แต่สำหรับเขา เจ้าเด็กโง่เพิ่งจะโชคดีเล็กน้อยและค่อนข้างป่าเถื่อนและเขาเป็นเจ้าของร่างที่แท้จริง
เขาอยู่ในสภาพจำศีลเพื่อประโยชน์ของพวกเขาเพื่อประโยชน์ในการจัดการอนาคตของพวกเขา เพื่อประโยชน์ไม่ดึงดูดความสนใจของคนที่น่ากลัว เขาไม่เคยรู้สึกว่าเจ้าเด็กโง่จะแข็งแกร่งมากกว่าเขา แต่เขาไม่เคยคิดว่าเจ้าเด็กโง่นี้จะควบคุมร่างได้อย่างแท้จริง
เขาโง่มาก และเขาจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?
แม้เมื่อเขาตื่นขึ้น ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาทำให้เขาตะลึง เขาไม่อยากเชื่อและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือฝันร้ายต่อเนื่อง ไม่มันคือฝันร้ายที่น่ากลัวมากยิ่งขึ้น
อัปยศอดสูยิ่งนัก!
คนชั้นสูงผู้ฉลาดเยือกเย็นและหยิ่งภูมิใจอย่างเขา ต้องมารับความอัปยศอดสูอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อใด?
รังสีฆ่าฟันพลุ่งขึ้นมาในอกของเขา เขาต้องการฆ่าเจ้าพวกบัดซบน่ารังเกียจพวกนี้ทั้งหมด เพื่อล้างความอัปยศเช่นนี้เสียรังสีฆ่าฟันที่รุนแรงทำให้เขาไม่สามารถใส่ใจเรื่องต้นกำเนิดของตัวเขาเองและเจ้าเด็กโง่นี่ได้ มันทำให้เขาละเลยแผนยืดยาวและลึกซึ้งที่เตรียมไว้ตั้งแต่ในอดีตซึ่งทำให้เขาสามารถละเว้นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่เมื่อรังสีฆ่าฟันเพิ่มขึ้นในอกของเขา...
ถังเทียนรู้สึกได้ทันที “เอ่.. ตอนนี้พอเจ้าพูดได้เจ้าก็ต้องการทรยศข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าเคยว่านอนสอนง่ายนี่นา!”
ถังเทียนไม่พูดอะไรสักคำ เขายื่นมือออกมาจับเสี่ยวเอ้อ
รังสีฆ่าฟันในตัวเสี่ยวเอ้อลดลง เจ้า เจ้าเด็กโง่ เจ้าคิดว่าด้วยพลังน้อยนิดของเจ้าจะสามารถสู้กับข้าได้อย่างนั้นหรือ? ไปลงนรกซะ!ไอ้ตัวแสบ!
แต่....
เสี่ยวเอ้อพบด้วยความประหลาดใจว่าในร่างของเขาไม่อาจควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง เขาเบิกตากว้าง ตาของเขารู้สึกกลัวขณะที่เขามองดูรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของถังเทียน
“เจ้ากล้าต่อต้านคัดค้านใช่ไหม..หึ หึ หึ หึ หึ!”
เสี่ยวเอ้อหมุนคว้างในอากาศถูกจับยกและกระแทกเป็นกระสอบทรายอีกครั้งปัง ปัง ปัง เขาพุ่งจมลงไปในฝุ่นอีกครั้ง
ผ่านไปสิบนาที
เสี่ยวเอ้อตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน หน้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นสกปรก และใบหน้าเล็กๆมีรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยาม กล้าหาญมากจนเขาดูเหมือนว่าเขาพร้อมจะตายเพื่อผลประโยชน์ที่ดีเขาพูดเสียงเด็กทารก “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำให้ข้ายอมจำนนด้วยการกระทำอย่างนั้นหรือ?”
โธ่เว้ย ไอ้เสียงนี่...
“เจ้ายังไม่ยอมแพ้จริงๆ หรือ?” ถังเทียนนั่งยองๆ และถามอย่างสงสัย
“ไม่ยอมแน่นอน!” เสี่ยวเอ้อพูดด้วยเสียงทารก
“อย่างนั้นข้าคงได้แต่ให้ทุกคนได้เห็นเม็ดถั่วน้อยของเจ้า” ถังเทียนยิ้มกว้างจนเห็นฟันทุกซี่ “โอว..เรามีแก๊งสาวแสบ นางชื่อเซรีน เจ้าต้องรู้จักนางแน่ นางชอบเด็กผู้ชายตัวน้อยที่สวยงามและน่ารักเป็นที่สุด!”
เสี่ยวเอ้อมองดูถังเทียนเหมือนกับว่าเขากำลังตอบรับถังเทียนอีกครั้ง
เจ้าเด็กโง่นี่กล้า...กล้าทำอย่างนี้...
“น่ารังเกียจ!” เสียงเด็กทารกดังรอดไรฟันของเขาออกมา เสี่ยวเอ้อโกรธจัดจนตัวสั่น
“หึหึ!” ถังเทียนยินดีมาก เขาตระหนักได้ว่าเสี่ยวเอ้อจะมีปฏิกิริยารุนแรงเมื่อพูดว่าจะให้คนอื่นดูถั่วน้อยของเขา เนื่องจากไม่สามารถทำให้เขายอมแพ้ได้ข้าจะลองดูอีกครั้ง “ข้ายังมีสาวร่วมแก๊งอีกหลายคนโอว.. โส่วจินมีน้องสาวอยู่คนหนึ่งชื่อเสี่ยวจื๋อจือ...”
“เจ้า เจ้า เจ้า...เจ้าไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กน้อย...” เสี่ยวเอ้อชี้หน้าถังเทียน เขากำลังสั่นหนักยิ่งขึ้น จะด่าประณามด้วยเสียงเด็กอย่างนั้น... มันแย่จริงๆ!
“ใช่แล้ว, ข้าเกือบลืมไปอีกคนหนึ่ง” ถังเทียนพูดอย่างสบายอารมณ์ “แอนเดรียนา! แอนเดรียนาแห่งกลุ่มดาวอันโดรเมดา นางสวยนะ...”
อะ..อะ..แอนเดรียนา!
ใจของเสี่ยวเอ้อนึกถึงร่างที่งดงามเด็กสาวขี้อาย เขาไม่ใช่คนโง่และรู้ว่าแอนเดรียนามีความรู้สึกต่อเขา แต่นั่นก็แค่ว่าเขาเป็นคนสงบใจเย็นและไม่เคยใส่ใจถึงแอนเดรียนามาก่อน และทำกับนางเหมือนกับเป็นหมากตัวหนึ่ง
แต่...แต่....
เมื่อความคิดว่าแอนเดรียนามองเห็นถั่วน้อยปรากฏอยู่ในใจของเขา เขารู้สึกเหมือนกับว่าโลกถล่มทลายลงในทันใด เขาตัวสั่นด้วยความกลัว มันน่ากลัวเกินไป! ความคิดต่อต้านทั้งหมดหายไปโดยไม่เหลือร่องรอย ความโกรธในตัวเขาเหมือนกับโดนน้ำเย็นราดใส่
มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในใจของเขา
ต้องไม่ปล่อยให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น!
เสี่ยวเอ้อกำหมัดน้อยที่น่ารักไว้แน่น หน้าของเขาโกรธอย่างเห็นได้ชัดขณะที่ถลึงตาใส่ถังเทียนอย่างดุเดือด
งี่เง่า, เศษสวะ, ขี้โกง, เจ้าวายร้าย!
เสี่ยวเอ้อเคยรู้สึกแต่ในอดีตว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานทางอารมณ์ไร้อารมณ์และทำยังไงก็ได้เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายโดยใช้เหยื่อล่อหรือโกงก็ตาม แต่จนกระทั่งถึงวันนี้ เขาจึงตระหนักว่าเจ้าเด็กโง่ที่อยู่ต่อหน้าเขาเลวยิ่งกว่าเขา
“เสี่ยวเอ้อ เจ้าคิดให้ดีๆ นะ เมื่อทุกคนรู้ว่าถั่วน้อยของเจ้าใหญ่ไม่เท่าของหยาหยานั่นจะทำให้เจ้าเจ็บใจเหมือนเคย!”
ถังเทียนมีสีหน้าพอใจสำหรับเขาเสี่ยวเอ้อคือเด็กอายุ 2-3 ขวบ เด็กน้อยรับมือได้ง่ายไม่มีความหมายอะไร พวกเขาอ่อนไหวต่อเรื่องไร้สาระ
เขาลืมไปอย่างสิ้นเชิงว่าในร่างของเสี่ยวเอ้อที่น่ารักนั้นความจริงมีจิตสำนึกของมนุษย์ที่เติบโตแล้ว อันตรายและชั่วร้าย
“เออ เจ้าชนะ” เสี่ยวเอ้อร้องออกมาด้วยเสียงเหมือนเด็ก เหมือนกับเด็กน้อยที่เห็นแก่ของเล่นหรือขนมหวาน ก็ยอมเลิกทะเลาะด้วย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!ตอนนี้ถังเทียนดีใจจริงๆ เด็กน้อยหลอกได้ง่าย เป็นเพราะสติปัญญาของข้าเอง....ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ สติปัญญาของหนุ่มชาวฟ้านี้ฉลาดแท้ แข็งแกร่ง โอวมากกว่าอาโมรี่เยอะแยะ!”
คิ้วของถังเทียนคลายขณะที่เขาขยี้ผมของเสี่ยวเอ้อจนกระเซิง
ภายในเงื้อมมือที่ใหญ่ เสี่ยวเอ้อก้มหน้าแน่น ดวงตาของเขามีแววคลุมเคลือ
นี่คือความอัปยศ....
เจ้างี่เง่า รอก่อนเถอะข้าจะกลับมาควบคุมร่างกายได้อย่างแน่นอน!
เสี่ยวเอ้อสาบานในใจ
ถังเทียนไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้เขาอารมณ์ดีขึ้น เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขามีพลังมากเช่นกัน หลังจากจัดการเสี่ยวเอ้อแล้ว เขาโบกมือแสดงอำนาจ “ไปกันเถอะ!เสี่ยวเอ้อ เราจะออกไปฝึกข้างนอกกัน”
ในหิมะภายใต้แสงจันทร์
เพราะกลัวจะมีคนจำหน้าเขาได้ ถังเทียนเปลี่ยนสภาพร่างกายอีกครั้งและเปลี่ยนลักษณะจากนั้นพาเสี่ยวเอ้อออกไป
ถังเทียนบินเข้าไปในทะเลเมฆซึ่งทำให้เขารู้สึกอิสระจนพูดไม่ออก เขารู้สึกเหมือนเป็นปลาที่กำลังแหวกว่าย เขาไม่เคยมีประสบการณ์บินมาก่อนและรู้สึกทึ่งเช่นกัน!
“หวา หวา หวาหวา นี่.. ข้ามาแล้ว อ๊า... ดูสิข้าบินได้.....”
เมื่อได้ยินถังเทียนตะโกนเหมือนเด็กปัญญาอ่อนแล้ว หน้าของเสี่ยวเอ้อยิ่งดูหงุดหงิดยิ่งขึ้นเพราะเขาตระหนักว่า ร่างของเขาไม่สามารถขัดขืนความตั้งใจของถังเทียนได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ถังเทียนคิดจะให้เสี่ยวเอ้อทำอะไร ร่างของเขาก็จะทำตาม
มีแต่พวกโง่และงี่เง่าอย่างเขาเท่านั้นที่ส่งเสียงร้องโวยวายอย่างนั้น...
จากนั้นเมื่อคิดถึงว่าเขาจะต้องถูกเจ้าเด็กโง่คอยบังคับแล้วยังต้องมาทนฟังเสียงตะโกนบ้าๆจากเจ้าเด็กงี่เง่านี่อีกด้วย
เสี่ยวเอ้อรู้สึกเจ็บใจ
นี่...มันช่าง...ขายหน้าเสียจริง....
(อูหวังไห่,หรืออีกวิญญาณหนึ่งซึ่งจำศีลอยู่ในร่างของถังเทียน)