ตอนที่ 15-20 เครื่องราง
“ปุด ปุด” บ่อแมกม่าทองยังคงปล่อยฟองเดือดต่อเนื่อง มือทองเหล่านั้นพยายามจับเทพชั้นสูงสามคนที่ยังเหลือ
มีผู้โชคดีที่รอดตายเหลืออยู่สามคน
“ซาโลมอนเจ้าบัดซบ ต่อให้เราตาย เราก็ต้องให้เขาตายไปพร้อมกับเรา” สเปอรี่ย์ส่งสำนึกเทพไปยังเทพชั้นสูงที่เหลืออีกสองคน
“ใช่แล้ว ทำให้เขาตายพร้อมกับเรา!”
อสูรของแดนนรกทุกคนเตรียมทำใจว่าจะต้องตาย เพียงแต่พวกเขาไม่ต้องการตาย และต่อให้พวกเขาต้องตาย พวกเขาจะไม่ยอมให้ศัตรูของพวกเขาเอาเปรียบได้ง่ายๆ!
“ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!”
อสูรเทพชั้นสูงสามคนพุ่งเข้าหาซาโลมอนพร้อมกัน แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาใกล้เขา มือทองแมกม่าตบเข้าหาพวกเขาอีก ‘ปัง!’ กะโหลกของหนึ่งในอสูรเทพชั้นสูงถูกกระแทกศีรษะแตกกระจาย
“เอลควิน!” อสูรเทพชั้นสูงอีกสองคนตกใจ
เห็นได้ชัดว่าเอลควินผู้นี้ไม่ยอมให้พวกเขาได้ฆ่าซาโลมอน!
“ฆ่าน้องสาวเขา!” สเปอรี่ย์และอสูรเทพชั้นสูงอื่นรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว ด้วยความโกรธของพวกเขาพวกเขาตัดสินใจฆ่าใครก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้ อสูรทั้งสองแค่หลบหลีกมือทองยักษ์จากนั้นบุกตรงเข้าหานีซที่ลอยนิ่งอยู่ในกลางอากาศ
ขณะนั้นเอง บีบีลอยนิ่งอยู่ในกลางอากาศไม่ขยับ เมื่อเขาเห็นว่าลินลี่ย์และเดเลียถูกลากลงไปในบ่อแมกม่าทอง เขาตะลึง แต่จากนั้น.....
“พี่ใหญ่...ยังไม่ตาย!” ตาของบีบีเต็มไปด้วยความประหลาดใจปนดีใจ “ข้ายังรู้สึกได้ถึงวิญญาณของพี่ใหญ่!”
ทั้งสองเชื่อมโยงทางวิญญาณ ตราบใดที่ลินลี่ย์ยังมีชีวิต บีบียังรู้สึกถึงเขาได้เป็นเรื่องธรรมดา
บ่อแมกม่าทองมีขนาดใหญ่มาก ด้วยความเร็วของอสูรเทพชั้นสูงเหล่านี้ นีซเคลื่อนไหวได้เล็กน้อยก่อนที่อสูรเทพชั้นสูงจะมาอยู่ต่อหน้านาง เงาดาบฟันลงอย่างฉับพลัน นีซหน้าพลันซีดขาว
“แคล้ง!” เสียงโลหะได้ยินชัดเจน
นีซรู้สึกว่านางถูกกอดไว้แน่น และเมื่อนางลืมตาตกใจ “บีบี!” เป็นบีบีที่กอดนางและรับการโจมตีครั้งนี้แทนนางไว้
“อ๊า...” เพราะแรงสะท้อนจากการฟันนี้ อสูรเทพชั้นสูงนั้นจึงถูกมือทองยักษ์จับได้ แม้ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างแตกตื่น แต่ในที่สุด เขาก็ยังถูกมือทองยักษ์ลากลงไปในบ่อแมกม่าทอง และไม่มีร่องรอยชีวิตเหลืออยู่จากนั้น
“แครก....”
มือทองยักษ์คลี่ขยายเหมือนกลีบดอกไม้และกลืนสเปอรี่ย์อสูรเทพชั้นสูงคนสุดท้าย จากนั้นลากเขาลงไปในบ่อแมกม่าทอง
“บีบี, ปลอดภัยหรือเปล่า?” นีซพูดอย่างกังวล แต่ทันทีที่นางพูดจบ นางรู้สึกตัวได้ทันที นางตระหนักได้ว่าลินลี่ย์อาจเป็นคนเปิดเผยความลับพี่ชายนาง และว่าบีบีนี้มีแนวโน้มว่าจงใจตีสนิทกับนาง
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าบัดซบนั่นใช้แม้กระทั่งพลังโจมตีวิญญาณ” บีบีหน้าค่อนข้างซีด แต่จากนั้นเขาตะลึงเช่นกัน เมื่อสังเกตเห็นสีหน้านีซ
บีบีฝืนหัวเราะ จากนั้นค่อยๆ ปล่อยนีซ
ขณะที่นีซออกจากอ้อมกอดเขา เพราะเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
บีบีลูบจมูกของเขา “ข้าผิดเองที่คิดว่าได้ความรักกลับคืนมา” นีซได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกทุกข์ทรมานใจ แต่เรื่องที่ว่าความลับของนางถูกเปิดเผยเป็นเหมือนหนามยอกอกนาง “แต่ เดี๋ยวก่อน, ถ้าบีบีโกหกข้าจริงๆ เขาคงไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยข้า”
“รักษาตัวเองด้วยนะ นินนี่” เสียงนั้นดังอยู่ข้างหูนาง แล้วจากนั้น....ซูมมม!
ถึงตอนนี้นีซถึงได้ตระหนักว่าบีบีกระโดดลงไปในบ่อแมกม่าแล้ว นีซตะลึงทันที! ในใจนาง นางยังเห็นเด็กหนุ่มเสียงดัง ร่าเริงที่มักสวมหมวกฟางอยู่เสมอ
“บีบี...ตายแล้วหรือ?” นีซรู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางถูกเชือดเฉือน
“นีซ! เจ้าจะทำอะไร?!” ซาโลมอนตะโกน ขณะเดียวกันเขาลอยตัวมาอยู่ข้างนีซ
“พี่ใหญ่, บีบี, เขา.....” ตาของนีซเริ่มพร่ามัว
ซาโลมอนตะโกน “เจ้ากำลังคิดอะไร? บีบีนั่นเสแสร้งทำ ร่างกายของเขาแข็งทนทาน ดังนั้นเขารู้ว่าเขาสามารถรับพลังโจมตีนั้นได้ เขาจงใจทำเช่นนั้น เพราะนั่นไม่สามารถคุกคามเขาได้! เจ้าต้องจำเอาไว้ ลินลี่ย์คือศัตรูของเรา เขาตายได้ก็ดีแล้ว เพราะมิฉะนั้น....”
ใจของซาโลมอนเต็มไปด้วยความเกลียด
“แต่, แต่ถ้าบีบีไม่สนใจข้า เขาไม่ต้องช่วยข้าก็ได้” นีซค้าน
“นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เจ้าคิด” ซาโลมอนพูดเย็นชา “นีซ! บีบีผู้นั้นฉลาดและเจ้าเล่ห์มาก”
เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น ผนังหินของถ้ำทั้งสี่ด้านเปิดออก และพื้นที่ถ้ำขยายออกไปอีกครั้ง เอลควินอุ้มแมวน้อยสีทองลงมายืนกับพื้นราบ และซาโลมอนฉุดดึงน้องสาวเข้ามาเช่นกัน
ที่ก้นบึ้งบ่อแมกม่าทอง มีที่ซึ่งแมกม่าเปิดช่องอยู่เป็นช่องว่างอย่างแท้จริง ลินลี่ย์และเดเลียกอดกันและกันอยู่กับที่
“อะไรกันนี่...เกิดอะไรขึ้น?” ลินลี่ย์กับเดเลียตื่นขึ้นทั้งคู่
เดเลียใช้พลังเทพของนางฟื้นฟูร่างกาย ขณะที่มองดูลินลี่ย์ ลินลี่ย์ก็ส่ายศีรษะเช่นกัน “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
และจากนั้นลินลี่ย์กับเดเลียเริ่มหัวเราะทั้งคู่
“ลินลี่ย์ ข้าคิดว่าข้าตายไปแล้ว” เดเลียพูดอย่างนุ่มนวล
“ข้าก็เหมือนกัน ข้าคิดว่าข้ากำลังจะตาย” ลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ มีภรรยาอย่างนี้ในชีวิตเขา เขายังจะต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีก?
หลังจากผ่านความจริงระหว่างเป็นและตายแล้ว ครั้งนี้ลินลี่ย์เชื่อจริงๆ ว่าเขาตายแน่ แต่ใครจะคาดคิดว่าเขายังรอดชีวิตได้? ความรู้สึกนี้แปลกประหลาดและสั่นสะท้านวิญญษณ
“ลินลี่ย์” เดเลียที่อยู่ในอ้อมแขนลินลี่ย์เงยหน้ามองลินลี่ย์ “หลังจากประสบการณ์ครั้งนี้หัวใจของข้าสงบนัก ลินลี่ย์! แม้ว่าแดนนรกจะเป็นดินแดนที่อันตรายมาก แต่ตราบใดที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างข้า ข้าไม่กลัวทั้งนั้นไม่ว่าจะไปที่ใด”
ลินลี่ย์กอดเดเลียไว้ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความดีใจและปีติ เขาพูดอะไรไม่ออก
“พวกเจ้าสองสามีภรรยาช่างมีความสุขหวานแหววกันเสียจริง” เสียงทุ้มดังขึ้นในใจของลินลี่ย์และเดเลีย
ลินลี่ย์กับเดเลียตกใจทั้งคู่
“ท่านคือ...?” ลินลี่ย์กล่าว
“คนอื่นๆ ทุกคนที่เข้ามาในบ่อเพลิงทองนี้ตายกันหมด นอกจากพวกเจ้าทั้งสองคน ต่อให้เป็นเทพชั้นสูงก็ต้องตาย” เสียงลึกทุ้มยังคงดังต่อ
ลินลี่ย์กับเดเลียเข้าใจได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือใคร
“ท่านคือยักษ์ภูเขาไฟหรือ?” ลินลี่ย์กล่าว
“ถูกแล้ว, เจ้าอาจเรียกข้าว่าฟูโซ่ก็ได้” เสียงทุ้มลึกดังขึ้น
“ฟูโซ่?” ลินลี่ย์นึกย้อนถึงตอนที่บุรุษชุดดำเอลควินอุ้มแมวน้อยสีทองอยู่ในอ้อมแขน เอลควินดูเหมือนจะเรียกแมวน้อยว่าฟูโซ่
“เจ้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลสี่อสูรเทพศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับบีบีลึกซึ้งมาก ดังนั้นนายท่านจึงสั่งให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าเมื่อนั้นเจ้าถูกดึงลงมาในบ่อเพลิงทอง เพื่อหลอกเจ้าซาโลมอนนั้นชั่วคราว”
“ตอนนี้พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ไปก่อน ข้าจะไม่เอาชีวิตน้อยๆ ของพวกเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าก็รู้ว่าข้าสามารถฆ่าพวกเจ้าได้ทุกเมื่อ อย่าออกไปเสียล่ะ”
และจากนั้น เสียงนั้นจางลงไป
ลินลี่ย์กับเดเลียมองกันเอง, จากนั้นหัวเราะ เดเลียกล่าว “ลินลี่ย์! ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าเอลควินกลัวจะลงมือกับบีบี เขาต้องการไว้ชีวิตบีบี ข้ายังสงสัยอยู่... ทำไมเขาไม่ละเว้นเรา? ดังนั้นความจริงก็คือ เอลควินมีแผนมาตลอดนั่นเอง”
ลินลี่ย์หัวเราะเช่นกัน
ความจริงคนอื่นๆ ที่เข้ามาในบ่อเพลิงทองล้วนตายกันหมด เพื่อหลอกซาโลมอนให้เข้าใจผิด.ว่าคนที่เข้าไปในบ่อแมกมาทองจะต้องตาย
ความจริงบ่อแมกมาทองอยู่ภายใต้การควบคุมของฟูโซ่ ถ้าเขาไม่ต้องการให้ใครตาย แน่นอนว่าคนผู้นั้นก็จะไม่ตาย
“พลังของฟูโซ่ผู้นี้น่ากลัวจริงๆ” ลินลี่ย์ลอบตกใจ พลังจิตขนาดนั้นสามารถผ่านจุดอ่อนของพลังป้องกันวิญญาณของเขาได้ ลินลี่ย์รู้มาตลอดว่าเทพชั้นสูงที่ทรงพลังก็สามารถทำเช่นนี้ได้
แต่ตอนนี้ เขานับว่าได้เผชิญจริงๆ แล้ว
“ซูมมม”
ทันใดนั้นร่างหนึ่งพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูงลงมาตามบ่อ จากนั้นตรงมาที่เขา ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ถึงระลอกพลังวิญญาณนั้น “บีบี, เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” บีบีรีบดำดิ่งตรงมาที่ตำแหน่งนี้
“พี่ใหญ่, งั้นท่านก็ไม่เป็นอะไรจริงๆ ด้วย!” บีบีพอเห็นลินลี่ย์กับเดเลีย เขารู้สึกดีใจทันที
“เจ้าหาเรื่องเจ็บตัวจริงๆ!” เสียงของฟูโซ่ดังขึ้นในใจของทั้งสามคนอีกครั้ง
“เขาเป็นใคร?” หน้าของบีบีเปลี่ยน
ลินลี่ย์อธิบาย “เขาคือยักษ์ภูเขาไฟ ฟูโซ่”
“ฟูโซ่? หรือว่าเขาจะเป็นเจ้าเหมียวหน้อย?” บีบีตาเป็นประกาย
“อย่ามาเรียกข้าว่าเหมียวน้อยนะเฟ้ย!!!” เสียงของฟูโซ่โวยวายด้วยความโกรธ “พอเถอะ, พวกเจ้าทั้งสามจงอยู่ในที่นี้แต่โดยดี และอย่าออกไปข้างนอก เสียงจากข้างนอกจะได้ยินเข้ามาถึงที่นี่ ไม่ต้องกังวลไป เสียงของพวกเจ้าจะไม่ได้ยินออกไปข้างนอก”
ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีอยู่ที่ก้นบ่อแมกม่าทอง ความจริงเขาได้ยินเสียงจากด้านนอก
เอลควินอุ้มแมวน้อยสีทอง หัวเราะอย่างใจเย็นขณะมองดูซาโลมอน “ซาโลมอน, ตอนนี้พวกเขาตายหมดแล้ว ข้าเห็นแก่หน้าเจ้า เจ้าก็ควรมอบสมบัติตระกูลเจ้ากับข้าไม่ใช่หรือ? มันอยู่กับเจ้าหรืออยู่ที่อื่น?”
นีซค่อนข้างกังวล
ซาโลมอนหัวเราะอย่างใจเย็น “ใช่แล้ว ข้ายอมรับว่าข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลบอยด์ แต่ท่านเอลควิน ข้ามีอะไรบางอย่างจะบอกท่าน”
“พูดไป” เอลควินขมวดคิ้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“สมบัติจำนวนมากที่ข้ามีอยู่ ความจริงแล้วรวมกับสมบัติทั้งหมดที่มีอยู่รวมกันแล้วไม่ถึงหมื่นล้านศิลาดำ!” ซาโลมอนหัวเราะอย่างใจเย็น
หมื่นล้านศิลาดำสำหรับเทพชั้นสูงธรรมดาเป็นจำนวนมหาศาล แต่สำหรับเอลควินเท่ากับไม่ได้อะไรเลย สำหรับตระกูลบอยด์เงินขนาดนี้เทียบได้กับขนเส้นหนึ่งของวัวเก้าตัว
“เจ้ากำลังเล่นตลกหลอกข้าใช่หรือเปล่า?” หน้าของเอลควินเปลี่ยน
ซาโลมอนรีบกล่าว “ไม่, ไม่ ข้าไม่ได้ล้อท่านเล่น ขอบอกท่านตามตรง บ่าวชราสองคนของข้าความจริงนำสมบัติมากมายมาให้ข้า แต่.. ข้าได้มอบสมบัติข้าให้กับคนอื่นไปแล้ว!”
“ให้ใคร?” เอลควินขมวดคิ้ว “เจ้าอย่าโกหกข้าเป็นดีที่สุด”
“ให้ท่านไอเคน!” ซาโลมอนตอบ
หน้าของเอลควินเปลี่ยน “ไอเคน?” เอลควินอดโกรธไม่ได้ และเขาตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “ซาโลมอน, ท่านไอเคนทรงพลังอำนาจแน่นอน และข้าเอลควินไม่กล้าล่วงเกินเขา, แต่... เจ้าคิดหรือว่าแค่เพราะเจ้าอ้างชื่อมาขู่ข้าสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วจะทำให้ข้ายอมรามือ? ทำไมเจ้าไม่พูดถึงเบรุตเลยเล่า? ทำไมเจ้าไม่อ้างเลยว่าเจ้ามอบให้มหาเทพผู้ทรงพลานุภาพผู้ปกครองทวีปเรดบุเลยเล่า? ชื่อที่ใครก็อ้างขึ้นมาได้!”
แค่เพียงพลิกมือซาโลมอนแสดงเครื่องรางสีดำซึ่งคลุมไปด้วยอักษรรูน
“ท่านควรจะรู้จักสิ่งนี้” ซาโลมอนกล่าว
“หืม?”
เอลควินหน้าเปลี่ยน และเขาพูดไม่ออกทันที เขาจำมันได้ นี่คือเครื่องรางของท่านไอเคน เนื่องจากซาโลมอนมีเครื่องรางนี้ อย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาและไอเคนต้องไม่ธรรมดา... หรือบางที...ไอเคนคงสั่งการเขาบางอย่าง
ไอเคนไม่ต้องสงสัย ที่เป็นผู้ทรงพลังที่สุดในทวีปเรดบุด บางคนสงสัยว่าเขาน่าจะถึงระดับพารากอน (สุดยอดเทพชั้นสูงรองจากมหาเทพ) แล้ว
ก่อนนี้เขาเป็นเทพอสูร (Asura เป็นการเรียกทับศัพท์ภาษาสันสกฤต) แต่เขาเต็มใจก้าวลงจากตำแหน่งและให้อสูรเจ็ดดาวอื่นรับตำแหน่งแทน ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นเพราะไอเคนไม่แข็งแกร่งพอ ทุกคนรู้ว่าไอเคนน่ากลัวเพียงไหน! แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเทพอสูรอีกต่อไป แต่พลังของเขายังยิ่งกว่าเทพอสูรทั้งหมด
ไอเคนแห่งทวีปรีบุด เบรุตแห่งทวีปบลัดริจ พวกเขาคือตำนานแห่งความรุ่งเรือง
“ปุด.. ปุด..” แมกมาทองในถ้ำยังคงเดือดพ่นฟอง นอกนั้นก็เป็นความเงียบ
“อินนิโก, เจ้าจะว่ายังไง? เราควรจะทำยังไงดี?” เอลควินหันไปจ้องด้านหลังของเขา ทันใดนั้นอุโมงค์ปรากฏบนผนังหิน และมีคนผู้หนึ่งเดินออกมา เป็นอินนิโก
อินนิโกก้าวออกมา เขาได้ยินคำพูดมาตลอด
“แม้ว่าซาโลมอนนี้จะมีเครื่องรางของท่านไอเคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีสมบัติประจำตระกูลอยู่กับเขา” อินนิโกกล่าว
“เจ้าคือ...” ซาโลมอนและนีซจ้องมองเขา
“ข้าเคยเห็นเจ้าที่ปราสาททรายมาก่อน” นีซร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ
อินนิโกตกใจเล็กน้อย จริงสิ เมื่อปราสาททรายพังทลายอินนิโกและคนอื่นก็ถูกพบเห็นด้วยเช่นกัน
จากนั้นอินนิโกยิ้มเล็กน้อย “ใช่แล้ว, ซาโลมอน ข้าเป็นคนที่ไล่ล่าและโจมตีเจ้า แล้วไงเล่า?”
“ตอนนั้นน่ะหรือ?” ซาโลมอนเริ่มเข้าใจ
“ใช่แล้ว ข้าคือคนที่บอกท่านเอลควินถึงสถานะของเจ้า” อินนิโกหัวเราะเบาๆ “ฮืม.. เมื่อเจ้าอยู่ในแคว้นโคล์ดคาล์ม เจ้าโดนขับไล่ออกจากตระกูลบอยด์ แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เวลานั้นบังเอิญข้าสังเกตเรื่องที่เกิดขึ้นได้”
ซาโลมอนตะลึง
“น่าสงสารเจ้าเด็กชื่อลินลี่ย์ เขาถูกเจ้ากล่าวหาอย่างไร้ความเป็นธรรมจริงๆ” อินนิโกเริ่มหัวเราะ