ตอนที่ 15-18 ความโกรธของซาโลมอน
หน้าของซาโลมอนดุร้ายและความโกรธในใจของเขากำลังเดือดทะลัก
เขาซาโลมอนเป็นบุตรนอกสมรสของตระกูลบอยด์ เขาถูกไล่ออกจากบ้านหลังจากเข้าตระกูลได้วันเดียว! โดดเดี่ยวเดียวดายและไม่มีแรงสนับสนุนเขาถูกพาตัวไปยังสำนักอาจารย์ยอดฝีมือที่ยอมรับเขาเป็นศิษย์เพราะเห็นแก่หน้าบิดาของเขา
อย่างไรก็ตามอาจารย์ของเขาเป็นคนที่มีนิสัยวิปริตแปลกประหลาดมาก
“ข้าต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกไล่ออกจากตระกูล และชีวิตของข้าต้องทนทุกข์ทรมานต้องใช้ชีวิตอย่างอดทนกับอาจารย์ ข้าฝันว่าสักวันจะยืนอยู่ที่จุดสุดยอดของแดนนรกและเหยียบย่ำเจ้าพวกบัดซบที่ดูถูกดูแคลนข้า ทุกอย่างทำไปเพื่อเป้าหมายนี้!” ซาโลมอนนึกย้อนกลับไปถึงหลายปีในอดีต
เขาอดทนมาตลอดเวลา
หลังจากเขาได้รับข่าวจากบ่าวทาสเก่าแก่ว่าตระกูลบอยด์ถูกทำลายแล้ว และเหลือสายเลือดตระกูลบอยด์อยู่เพียงคนเดียวก็คือเขา เขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังใจสลายแต่กลับดีใจแทบคลั่ง
ถ้าพวกมันตายไปก็ดีแล้ว! พวกบัดซบที่สมควรตาย!
โอกาสของเขามาถึงแล้ว!
เพราะบ่าวรับใช้ทั้งสองคนนำมรดกจำนวนมหาศาลมากับเขาด้วยตามแผนการที่บิดาของเขาได้วางไว้ก่อนตาย ซาโลมอนทายาทลับที่ยังเหลือได้อยู่กับอาจารย์ของเขามาเป็นเวลานาน หลังจากฝึกฝนสำเร็จ เขาพาบ่าวทั้งสองคนและน้องสาวที่ไม่รู้อะไรเดินทางมุ่งหน้าสู่ทวีปเจดโฟลท!
การเดินทางครั้งนี้ซาโลมอนวางแผนสยายปีกและกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน!
แผนการของเขาสมบูรณ์แบบมาก
คนใช้ทั้งสองคนเป็นหมากสองตัวที่เขาเตรียมเสียสละมาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อตอนแรกที่เขาเห็นลินลี่ย์แปลงกาย ซาโลมอนคาดเดาสถานะของลินลี่ย์ เพื่อตีสนิทใกล้ชิดกับลินลี่ย์เขาเปิดเผยสถานะตัวเอง ครั้งนั้นเขาคิดว่าลินลี่ย์จะไม่รู้สถานะจริงของเขาทันที
ที่สำคัญก็แค่ตัวละครตัวเดียว
ซาโลมอนคิดว่าในอนาคตหลังจากลินลี่ย์รู้เรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมของตระกูลบอยด์ เขาจะรู้สึกว่าซาโลมอนประพฤติตัวจริงใจต่อเขามาก ซาโลมอนตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้นและยังเปิดเผยสถานะของเขา! การกระทำนี้เสี่ยงไปบ้าง แต่เพื่อเป้าหมายเอาชนะใจลินลี่ย์ ก็นับว่าคุ้มค่า
ที่สำคัญมากกว่า...
ตอนแรกเขารู้สึกว่าลินลี่ย์จะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลบอยด์ทันที
ประการที่สองเขาสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์เป็นคนแบบไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากวิธีที่ลินลี่ย์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยน้องสาวของซาโลมอน นี่ทำให้เขาเข้าใจว่าลินลี่ย์ไม่น่าจะเป็นคนที่หลอกลวงเพื่อสมบัติของสหาย ที่สำคัญลินลี่ย์ยินดีเสี่ยงชีวิตเพื่อน้องสาวของซาโลมอน เขาจะสนใจกับเงินเล็กน้อยเชียวหรือ?
การคำนวณของซาโลมอนชัดเจนมาก
อย่างไรก็ตามใครจะคิดกันว่าเหตุการณ์ที่ปราสาททรายทำให้กิจการของตระกูลบอยด์ถูกเปิดเผย ลินลี่ย์และบีบีอดสงสัยซาโลมอนไม่ได้ เพื่อลดความสงสัยของพวกเขา ซาโลมอนบอกสถานะที่แท้จริงกับลินลี่ย์
ที่สำคัญก็คือนิสัยของลินลี่ย์ เขาไม่ควรจะเป็นคนเปิดเผยเรื่องนี้ได้
ประการที่สองลินลี่ย์รั้งอยู่ในอสูรโลหะมาตลอด เขาไม่ควรจะมีโอกาสเปิดเผยได้
แต่ตอนนี้...
บุรุษชุดดำสามารถรู้จักเขาได้ในทันที
“ตระกูลบอยด์ถูกทำลายไปแล้ว และคนใช้เก่าแก่สองคนก็ตายไปแล้วเช่นกันยังจะมีใครอื่นในทั่วทั้งแดนนรกที่รู้ว่าข้าเป็นใคร? ต้องเป็นลินลี่ย์ ใช่แล้ว เป็นลินลี่ย์ เป็นลินลี่ย์ที่ส่งข่าวให้คนอื่นในเมืองอิลลานผ่านสำนึกเทพเปิดเผยความลับข้า ต้องเป็นเช่นนั้นแน่”
ซาโลมอนท้อแท้ใจ
“เจ้าบัดซบลินลี่ย์ เขาแสดงละครได้ดีจริงๆ แม้แต่ข้าก็ยังถูกเขาหลอก ข้ามองเขาผิดไป!” ใจของซาโลมอนเต็มไปด้วยความเกลียด ขณะที่เขาถลึงตามองลินลี่ย์ ดวงตาของเขาเหมือนกับต้องการจะกลืนกินและฉีกกระชากชีวิตของลินลี่ย์
ฝันของเขา!
เป้าหมายของเขาที่เพียรพยายามมาหลายปีนับไม่ถ้วน
มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะลินลี่ย์เป็นต้นเหตุให้สูญเปล่า!
เขาจะไม่เกลียดลินลี่ย์ได้ยังไง?
ตอนนี้ลินลี่ย์อึดอัดใจ ซาโลมอนกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาชิงชัง แต่เขาไม่ได้เป็นคนเปิดเผยสถานะของซาโลมอน!
“ลินลี่ย์,,, เจ้า.... วิเศษมาก!” ซาโลมอนขบฟัน ตาของเขาแดง
“ข้า...”ลินลี่ย์รู้สึกว่าถูกเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง
เขาคาดว่าซาโลมอนผู้นี้เชื่อถืออย่างแน่วแน่ว่าเป็นเพราะเขาลินลี่ย์เป็นคนเปิดเผยความลับ แต่เขาไม่เคยพูดอะไร
“ซาโลมอน” ลินลี่ย์ต้องการพูด
“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว!” สายตาของซาโลมอนดุร้าย นีซที่อยู่ข้างเขาคุ้นเคยกับเขารู้สึกว่าใจสั่นสะท้าน นี่คือพี่ชายที่อบอุ่นและเป็นเมิตรของนางหรือ?
“ซาโลมอน!ทำไมเจ้าจ้องหน้าพี่ใหญ่ข้าอย่างนั้น? นั่นมันท่าทีอะไรกัน? คิดยังไงกันแน่?” บีบีตะโกนลั่นด้วยความโกรธ ในใจของบีบี ลินลี่ย์เหมือนกับพ่อแม่ของเขาหรือไม่ก็คล้ายกับพี่ชายของเขา เขาไม่ยอมให้ใครทำกับลินลี่ย์แบบนี้ต่อให้เป็นพี่ชายของหญิงสาวที่เขาชอบพอก็ตาม”
ภายในถ้ำแมกม่าทองยังคงเดือดปุดๆ
แต่กลิ่นอายของมันตอนนี้ดูแปลกประหลาด
“เจ้าเด็กตระกูลบอยด์ อย่าถ่วงเวลาข้ามีความอดทนจำกัด” เอลควินอุ้มแมวน้อยสีทองหัวเราะขณะพูดอย่างใจเย็น
ซาโลมอนหันหน้ามาจ้องเขาทันที
“เจ้าต้องการสมบัติตระกูลบอยด์ของข้าน่ะหรือ ข้าขอบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง...” หน้าซาโลมอนดุร้าย “ข้าไม่มีมัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเอลควินหายไปเหลือไว้แต่สีหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึก เขาจ้องซาโลอนอย่างเย็นชา “ดูเหมือนเจ้าต้องการจะตายสินะ”
“ต่อให้เจ้าฆ่าข้า ข้าก็ยังไม่มีอยู่ดี” ซาโลมอนเชิดศีรษะ
“ฮื่ม!”
เอลควินแค่นเสียงเย็นชาและจากนั้นดูเหมือนเขาจะเทเลพอร์ตได้ทันทีกลายเป็นเงาดำเลือนรางมาปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา เอลควินเองมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าซาโลมอนและใช้ฝ่ามือตบใส่ซาโลมอน
ด้วยมือข้างที่มีสีเหลืองซึ่งสวมถุงมือโปร่งแสง
ตาของซาโลมอนดุร้าย เขาถอยด้วยความเร็ว ขณะเดียวกันขณะเดียวกันระเบิดแสงสีดำยิงออกมาจากมือของเขา “ครืนนน....” อากาศหดตัวและแสงสีดำยิงออกมาทางขวาดูเหมือนช้าแต่ความจริงเร็วอย่างเหลือเชื่อ
“ปัง?”
เสียงดังนุ่มนวลมือขวาของเอลควินสั่นสะท้าน จากนั้นเขารู้สึกตัวได้เร็ว มือขวาของเขายังมีสีเหลือง แต่เขาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
“เจ้า...นี่คือ...? บอกข้ามา ใครคืออาจารย์ของเจ้า?” เอลควินมีสีหน้าประหลาดใจ
ซาโลมอนถอยจนไปอยู่ที่สุดขอบถ้ำแค่นเสียง “ทำไมท่านต้องถามถึงอาจารย์ข้าด้วย? หรือว่าท่านกลัวหลังจากข้าใช้วิชาเพียงเล็กน้อยเท่านี้?”
ร่องรอยความโกรธปรากฏอยู่ในใบหน้าที่ซีดของเอลควิน เขาแค่นเสียงเย็นชา“ข้าให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง แต่เจ้าไม่รับเอาไว้” มือขวาของเอลควินเหยียดออกช้าๆ และค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง ขนาดก็ยืดขยายออกเช่นกัน
มือขวาทั้งหมดตอนนี้ใหญ่กว่าหัวของคนธรรมดาเสียอีก และมีสีแดงเหมือนกับหยดเลือด
เอลควินวางแมวน้อยสีทองในมือของเขาลง จากนั้นหันไปจ้องซาโลมอน “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถคุกคามข้าได้ด้วยลูกเล่นเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ?” ขณะที่เขาพูดเอลควินเปลี่ยนเป็นร้อยร่างเต็มพื้นที่ถ้ำในทันใด
กฎแห่งธาตุมืด– วิชาร่างเงาร่างมายา!
“ข้าถูกบังคับให้ต้องใช้วิชานั้นจริงๆหรือนี่?” ซาโลมอนลังเล
ทันใดนั้นฝ่ามือสีเลือดขนาดพัดตะปบลงมาที่ศีรษะของเขา อากาศโดยรอบฝ่ามือโลหิตบิดเบี้ยวเหมือนกับมีพลังหมุนวน ขณะเดียวกันวังวนมิติโดยรอบดูเหมือนคล้ายมีควันสีดำ
หน้าของซาโลมอนเปลี่ยนไปทันทีและจากนั้นเปลี่ยนเป็นดุร้าย เขายิงพลังออกจากมือมือทั้งคู่ แสงสีดำคลุมมือข้างขวาของเขาซึ่งกระแทกตรงใส่ฝ่ามือโลหิต
“ปัง!” ถ้ำสั่นสะเทือน
ซาโลมอนถูกกระแทกปลิวถอยหลังเหมือนกับกระสอบทราย“โครม...” กระดูกแขนของเขาแตกหักขณะที่เลือดและกระดูกกระเด็นกระจายไปทั่ว ซาโลมอนเองกระแทกกับผนังถ้ำ และกระอักโลหิตเต็มปากร่วงลงกองกับพื้น
“พี่ใหญ่!” นีซร้องเรียกอย่างตื่นตกใจ
ลินลี่ย์,เดเลียและบีบีขมวดคิ้วกันทุกคน
“ลินลี่ย์! ทำไมซาโลมอนทำท่าแบบนั้นกับเจ้า?หรือว่าเป็นเพราะสถานะของเขา เขาคิดว่าเจ้าเปิดเผยสถานะของเขา?” เดเลียถามผ่านสำนึกเทพของนาง
ลินลี่ย์รู้สึกอึดอัดใจและเขาตอบกลับไป “คงจะเป็นอย่างนั้น, แต่ข้า...”
“ข้ารู้” แน่นอนว่าเดเลียรู้ว่าลินลี่ย์ไม่ใช่คนเปิดเผยความลับ ที่สำคัญในแดนนรกลินลี่ย์จะรู้จักคนสักกี่คน? ต่อให้ต้องการส่งข้อมูลให้ใคร เขาก็ไม่มีความสามารถทำได้
ลินลี่ย์มองดูซาโลมอนที่บาดเจ็บสาหัส ทั้งหมดที่เขาทำได้คือลอบส่ายหน้าเป็นไปได้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ซาโลมอนก็คงไม่เชื่อเขา
“อย่าฆ่าข้า” ซาโลมอนยืนขึ้นและรีบตะโกน
“โอว, ตอนนี้เจ้าไม่อยากตายแล้วหรือ?” เอลควินแค่นเสียงเยาะเย้ย ขณะเดียวกันแค่เพียงเขาโบกมือแมวน้อยสีทองก็กลับเข้ามาในอ้อมแขนของเขาขณะที่มือโลหิตของเขากลับคืนสู่สภาพปกติ “อะไรกันหรือว่าเจ้าเตรียมจะยกสมบัติตระกูลบอยด์ให้ข้าแล้วใช่ไหม?”
เอลควินกังวลใจเช่นกัน กังวลว่าซาโลมอนจะไม่ได้นำสมบัติติดตัวมากับเขานี่คือเหตุผลที่เอลควินไม่ต้องการฆ่าซาโลมอนโดยตรงเช่นกัน
“อาจารย์ของข้าชื่ออีเล็คตรา” ซาโลมอนรีบตอบ
เอลควินขมวดคิ้วสีหน้าที่น่าเกลียดปรากฏบนใบหน้าของเขา “อย่างนั้นก็เป็นเจ้าตัวประหลาดอีเล็คตราจริงๆ เมื่อข้าเห็นแสงทำลายล้างที่เจ้าสร้างขึ้นมาข้าก็รู้แล้ว เจ้าเด็กตระกูลบอยด์ เพราะเจ้าเป็นศิษย์ของเขาก็หมายความว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่อดทนมาก” เอลควินหัวเราะหึหึ
หน้าของซาโลมอนหมอง เขานึกย้อนไปถึงเวลาที่เขายังอยู่กับอาจารย์ของเขาซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดจริงๆ
“สมบัติตระกูลบอยด์เล่า? มันอยู่ไหน?” เอลควินถามต่อ
ซาโลมอนหน้าตึงทันที ตอนนี้เขาหวังว่าเมื่อได้ยินชื่อของอาจารย์ของเขาคนผู้นี้จะยอมยกเลิก อย่างไรก็ตาม..ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะไม่สนใจอาจารย์ของเขาเท่าใด
เอลควินมองดูสีหน้าของซาโลมอนก็เข้าใจ เขาหัวเราะเย็นชากล่าวว่า “อะไรกันเจ้านึกหรือว่าแค่เพราะอ้างชื่ออาจารย์ของเจ้าแล้วข้าจะกลัว? ที่สำคัญคือไม่ต้องพูดถึงอารมณ์ของอาจารย์ของเจ้า ต่อให้เจ้าตาย เขาก็ไม่มาล้างแค้นให้เจ้า นอกจากนี้ต่อให้อาจารย์เจ้ามา ข้า..เอลควินก็ไม่กลัวตัวประหลาดเฒ่านั่น!”
ซาโลมอนลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหน้าของเอลควินค่อยๆ ดูน่ากลัวขึ้น เขารีบกล่าว “ท่านเอลควิน,โปรดให้เวลาข้าสักนิด”
“ก็ได้” เอลควินพยักหน้าเล็กน้อย
เขาไม่ต้องการบีบบังคับซาโลมอนมากเกินไป ที่สำคัญคือใครจะรู้ว่าซาโลมอนเก็บสมบัติไว้ในที่อื่น
ตอนนี้ภายในถ้ำนอกจากกลุ่มของลินลี่ย์แล้วยังมีอสูรเทพชั้นสูงอีกหลายกลุ่มผู้ยังคงอยู่อย่างเงียบๆ อสูรเทพชั้นสูงเหล่านี้เมื่อได้ยินการสนทนาระหว่างซาโลมอนและเอลควินก็สามารถคาดเดาได้ว่าสมบัติอะไรที่พวกเขากำลังรับหน้าที่คุ้มกัน
“งั้นเจ้าผู้นี้ก็เป็นสมาชิกตระกูลบอยด์จริงๆ” อสูรเทพชั้นสูงเหล่านั้นมองดูซาโลมอน
แต่ซาโลมอนเองกำลังถลึงตามองลินลี่ย์ เขาพูดเสียงเบาๆ “ลินลี่ย์,เจ้ารู้ไหมว่าข้ารอวันนี้มากี่ปีแล้ว?”
“ซาโลมอน, ข้าเปล่า...”
“ไม่ต้องพูด” ซาโลมอนตวาดเสียงเย็นชาและกวาดสายตามองลินลี่ย์ด้วยแววตาที่โกรธดุร้าย “ลินลี่ย์, เพื่อให้มีวันนี้ ข้าฝึกฝนมาเกินล้านปี! หนึ่งล้านปี! เจ้ารู้ไหมว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเพียงไหน? นอกจากนี้ข้ายังต้องทนทรมานจากเจ้าเฒ่าประหลาดอีเล็คตรา!”
ตาของเอลควินมีร่องรอยขำ “ล้านปีหรือ? ความอดทนของสหายน้อยนี่แข็งแกร่งมากจริงๆ”
ตาของซาโลมอนเปลี่ยนเป็นสีแดง “ข้าอดทนมาตลอดเวลาในช่วงนี้ รอคอย! ความหวังสุดท้ายของตระกูลบอยด์ความหวังสุดท้ายของข้าเอง ซาโลมอน! ข้า, ซาโลมอนเชื่อใจเจ้าและบอกสถานะตัวเองต่อเจ้า แต่..ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเปิดเผยมันออกไป! เจ้า, ลินลี่ย์ เจ้าทำลายความหวังเดียวของข้า”
“ข้ามองเจ้าผิดไป!”
ซาโลมอนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เจ้าคือสุนัขป่าจอมโลภ ข้าสำคัญเจ้าผิดไป!!!”
ซาโลมอนหันไปจ้องเอลควิน “ท่านเอลควิน ข้าทึ่งจริงๆที่ท่านสามารถส่งคนสอดแนมอย่างลินลี่ย์เข้ามาในภารกิจคุ้มกันภัยของหน่วยอสูรได้ ข้านับถือท่านจริงๆ ข้าชื่นชมท่านมากและอยากคารวะท่าน!” ทุกคำพูดของซาโลมอนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
เอลควินเลิกคิ้ว จากนั้นหัวเราะ เขาไม่ปฏิเสธ
เสียงหัวเราะของเอลควินเมื่อซาโลมอนเห็น นั่นเป็นเสียงหัวเราะดีใจกับตัวเอง เขายิ่งโกรธมากขึ้น
“พี่ลินลี่ย์, เป็นท่านจริงๆ หรือ?” ถึงตอนนี้นีซเริ่มเข้าใจ นางจ้องมองลินลี่ย์อย่างเหลือเชื่อ “ท่านเป็นคนฝ่ายเอลควินจริงๆ หรือ? ท่านเป็นคนเผยสถานะของพี่ใหญ่ข้าจริงๆหรือ?” นีซไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายรู้สถานะของพี่ชายนางได้ยังไง
แต่ตอนนี้นางเข้าใจแล้ว
ลินลี่ย์รู้สึกเจ็บปวดใจ เขาพูด “ซาโลมอน, นีซ,ถ้าข้าบอกพวกเจ้าว่าไม่ใช่ข้าที่เป็นคนเปิดเผย พวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่?”
“นินนี่!”ใบหน้าที่คมสัน ละเอียดอ่อนของบีบีเต็มไปด้วยความโกรธ “พี่ใหญ่ของข้าบอกว่าไม่ได้เปิดเผยก็หมายความว่าเขาไม่ได้เปิดเผยมัน นอกจากนี้ เราไม่รู้จักบุรุษชุดดำผู้นี้! ข้ารับรองได้ด้วยชีวิตของข้า นินนี่ หรือว่าเจ้าไม่เชื่อข้า”
“แต่พี่ชายข้า..เขา..” นีซรู้ดีว่าพี่ใหญ่นางลำบากมามากเพียงไหน
เมื่อเขาประสบความสำเร็จในกิจการนี้ พี่ชายนางจะขึ้นสู่สวรรค์ตามลำพัง
“เหลวไหล” ซาโลมอนมองบีบีอย่างเย็นชา “นินนี่, เจ้าอาจพูดได้ไหมว่าบีบีเตีสนิทกับเจ้าอาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการก็ได้?”เมื่อได้ยินเช่นนี้หน้าของนีซซีดขาวอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากโซโลมอนพูดแล้ว เขาหันไปทางเอลควิน “ท่านเอลควิน ข้ารู้ว่าลินลี่ย์อยู่ฝ่ายท่านแต่.. ข้าหวังว่าท่านจะฆ่าเขาซะ! มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะได้สมบัติของตระกูลเรา!”