ตอนที่ 15-15 ข่าวของโอลิเวอร์
หลังจากใช้เวลาสิบแปดวันในที่สุดลินลี่ย์ก็สำเร็จวิชานี้ซึ่งเขาไตร่ตรองมาเป็นเวลานานมาก วิชาเงาพิศวงนี้นับว่าเป็นพลังโจมตีธาตุหยาบที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ หลังจากพัฒนาวิชาเงาพิศวง ลินลี่ย์เริ่มเข้ามาสมทบกับเดเลียและบีบีด้วยใจที่ผ่อนคลาย
หลังจากอสูรโลหะรออยู่นอกเมืองอิลลานอยู่ราวๆหนึ่งเดือน ชายชราเขาขาวกลับมาพร้อมกับอสูรรับจ้างในที่สุดในไม่ช้าอสูรเกือบร้อยคนก็ติดตามชายชราชุดขาวออกมา
“อย่างนั้นก็มีอสูรอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว” อสูรที่จ้างใหม่เมื่อเห็นกลุ่มของลินลี่ย์อดหัวเราะและคุยกันไม่ได้
“แต่มีคนน้อยมาก รวมกันทั้งหมดไม่ถึงยี่สิบคน”
“เป็นไปได้ว่าภารกิจนี้คงจะอันตรายอย่างที่อ้างจริงๆ”
“อันตราย? ถ้าพวกเขาตายระหว่างภารกิจ ทั้งหมดพูดได้ว่าพวกเขาไร้ประโยชน์!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สามพี่น้องเอ็ดเวิร์ด,แลร์มองต์และอสูรที่อยู่ก่อนหัวเราะในใจอย่างใจเย็นทุกคน...
“น้อยมากหรือ? พวกเจ้าจะรู้ไหมว่าเมื่อแรกเริ่มภารกิจเรามีกันเท่าไหร่, เรามีอยู่กันเกินร้อยคน”
“ไร้ประโยชน์? มาดูกันว่าพวกเจ้าจะเหลือรอดเท่าไหร่ดีกว่า”
ลินลี่ย์และคนอื่นๆรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาสามารถเห็นภาพที่พวกอสูรเหล่านี้ถูกฆ่าแล้ว
ชายชราเขาขาวหัวเราะ “ทุกท่านรอกันเป็นเวลานานแล้ว ขึ้นยานกันเถอะ เราจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้”
ทันใดนั้นกลุ่มผู้คนมาจากทั่วทุกมุมเดินเข้าไปในอสูรโลหะรวมทั้งลินลี่ย์ เดเลีย บีบี นีซและซาโลมอนเดินมาด้วยกัน
“จ้างไว้มากนักหรือ?” บีบีพึมพำ “อสูรร้อยสิบคน หนึ่งร้อยคนเป็นระดับเทพ อีกสิบคนเป็นระดับเทพชั้นสูง ทำไมเชิญระดับเทพแท้มาเยอะ? จะให้มาเป็นกระสุนมนุษย์หรือไง?”
เมื่อได้ยินคำพูดของบีบีลินลี่ย์อดรำพึงกับตนเองไม่ได้ “กระสุนมนุษย์? ไม่, มีแนวโน้มว่าด้วยการปรากฏตัวของอสูรยิ่งมากก็ยิ่งปกปิดสถานะของซาโลมอนได้ง่าย”
ทันใดนั้นลินลี่ย์นึกย้อนไปถึงคำสนทนาที่เขากับลินลี่ย์ได้พูดคุยก่อนหน้านั้น
ระหว่างการสนทนานั้นซาโลมอนตั้งใจจะทำให้ดูลึกลับและบอกว่าภารกิจคุ้มกันครั้งนี้เสี่ยงมาก และจุดเริ่มต้นของภารกิจความจริงแล้วไม่ใช่เมืองรอยัลวิง เขาบอกว่าถ้าภารกิจนี้ตกอยู่ในอันตรายเมื่อใด ลินลี่ย์ควรจะหนีทันทีและพยายามเอาตัวเองให้รอด เวลานั้นลินลี่ย์รู้สึกขอบคุณซาโลมอน
แต่หลังจากนั้นลินลี่ย์ก็ได้เรียนรู้..
ว่า..ภารกิจคุ้มกันหลักครั้งนี้ก็คือซาโลมอนจริงๆ!
“เป็นไปได้ไหมว่าเขาจงใจแพร่ข่าวลือเช่นนั้นด้วย” ลินลี่ย์บอกกับตนเอง “เมื่ออันตรายมาถึง ถ้าพวกอสูรกระจัดกระจายไปทุกที่เขาเองพอมีโอกาสก็หนีเช่นกัน ตอนนั้นหลายคนหนีไปรวมกลุ่มกับเขา คนอื่นๆเพียงแต่คอยระมัดระวังชายชราเขาขาว ไม่มีใครคอยจัดการกับเขา”
ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าซาโลมอนคิดไว้ล่วงหน้าจริงๆ
จ้างอสูรเอาไว้มากๆก็แค่เป็นฉากหน้าปิดบังความจริง
“จะดีที่สุดให้ระมัดระวังเมื่อรับมือคนอย่างเขา มิฉะนั้นข้าอาจจะโดนเขาเอาเปรียบได้โดยไม่รู้ตัว” ลินลี่ย์อดรู้สึกระแวดระวังซาโลมอนไม่ได้
อสูรโลหะอยู่นอกเมืองอิลลานอยู่นานหนึ่งเดือนและตอนนี้มุ่งหน้าเดินทางอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้อสูรโลหะเปลี่ยนขนาดอีกครั้งหนึ่งตั้งแต่ออกมาจากเมืองรอยัลวิง ภายในอสูรโลหะดูคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
ในอสูรโลหะห้องของลินลี่ย์และเดเลีย
เดเลียขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังคิดบางอย่าง จากนั้นนางหันมามองลินลี่ย์และกล่าว “ลินลี่ย์! มีบางอย่างที่ข้าต้องการบอกเจ้า”
“หืม...มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์หันหน้าไปมองเดเลีย ดูจากสีหน้านางดูเหมือนเป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญ
เดเลียขมวดคิ้ว “ลินลี่ย์, ตอนแรกเมื่อเรารับภารกิจนี้ เราคิดว่าจะช่วยให้เราได้เดินทางอยู่ในเส้นทางของเรา แต่ข้ามีความรู้สึกภารกิจนี้มีอันตรายมากเกินไป เจ้าไม่รู้หรือว่าเรากำลังคุ้มครองใคร? หนึ่งในตระกูลเก่าแก่ของแดนนรกและมีสมบัติสั่งสมมาเป็นเวลานานนับปีไม่ถ้วน! เราถูกโจมตีมาสองครั้งแล้ว ข้าเกรงว่าจะต้องมีครั้งที่สาม เป็นไปได้ว่าการโจมตีครั้งที่สามจะอันตรายยิ่งกว่าสองครั้งแรก แม้ว่าเราจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับการท้าทายในแดนนรกแต่...เราไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายอย่างนั้น เราอาจตายได้ทุกเมื่อ”
ลินลี่ย์พยักหน้า
ระหว่างการเดินทางครั้งนี้พวกเขาเผชิญกับโจรโจมตีก่อนในครั้งแรกซึ่งเป็นเพียงข้อพิสูจน์หนึ่งเท่านั้น การโจมตีครั้งที่สองภายในปราสาททรายก็เต็มไปด้วยอันตราย ถ้ามีการโจมตีครั้งที่สามจะเป็นอันตรายมากมายขนาดไหน?
ลินลี่ย์เหยียดแขนและโอบเดเลียไว้ในอ้อมแขน เขากล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “เดเลีย! ข้ารู้, อย่างไรก็ตาม เรายอมรับภารกิจนี้มาแล้ว สิ่งที่เราควรจะทำ จะเพิกถอนได้ยังไง? ดูอสูรอื่นที่รอดชีวิตอยู่สิเจ้าเห็นคนไหนถอนตัวบ้าง?”
ถ้าพวกเขาฉวยโอกาสหนีระหว่างการสู้รบที่วุ่นวาย พวกเขาอย่างน้อยก็มีข้ออ้างพูดได้ว่าพวกเขาหนีด้วยความกลัวและแยกย้ายกระจายไป
แต่การตั้งใจถอนตัว....
เมื่อเรื่องนี้จะถูกบันทึกลงในบันทึกภารกิจของปราสาทอสูรเมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป พวกเขาจะต้องเสียหน้า! ในแดนนรก ความกล้าหาญจะได้รับการเชิดชู ขณะที่ความขลาดเขลาจะถูกประณาม! นอกจากนี้ในแดนนรกเป็นที่อันตรายตั้งแต่แรก ทุกคนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับอันตราย
“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เดเลียรีบกล่าว “ข้าเข้าใจว่าเราถอนตัวไม่ได้ ทันทีที่ข่าวแพร่กระจายไปถึงแคว้นอินดิโกและบรรพบุรุษของเจ้าพบเข้า...เราไม่อาจเสียหน้าเพราะเรื่องนั้นได้ ทั้งหมดที่ข้าต้องการพูดก็คือเมื่อเรามาถึงเมืองบลูเมเปิลแคว้นเรนโบว์ เราจำเป็นต้องเลือกภารกิจให้ดี ให้งานง่ายขึ้นกว่านี้”
“ข้าเข้าใจ”
ลินลี่ย์พยักหน้าจากนั้นปลอบโยนนาง “ไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้เราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว รออีกสักเล็กน้อย”
“เดเลียไม่ชอบอันตราย” ลินลี่ย์พูดกับตนเองเงียบๆ ความจริงขณะจวนเจียนจะตาย เมื่อต้องสู้เพื่อชีวิตเมื่อชีวิตแขวนอยู่บนคมดาบ เมื่อต้องเผชิญความตาย ลินลี่ย์รู้สึกว่าเลือดสูบฉีดแรง เขาไม่กลัวแต่อย่างใด
ในทางตรงกันข้ามลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขากลับไปสู่ที่เทือกเขาอสูรวิเศษเมื่อยามเยาว์วัย
นี่คือความรู้สึกที่ตื่นเต้นมาก
“แอ๊ดดดด” เขาปิดประตู จากนั้นเดินไปที่ห้องโถงใหญ่
เพราะมีอสูรอยู่หลายคนห้องโถงใหญ่ภายในอสูรโลหะจึงดูเหมือนมีผู้คนมาก มีคนอยู่เจ็ดหรือแปดคนนั่งดื่มนั่งคุยกัน และมีสองคนที่ลินลี่ย์จำได้ หลายเดือนผ่านไปนับตั้งแต่พวกเขาออกจากเมืองอิลลาน ลินลี่ย์ก็รู้จักคนเหล่านี้
“เฮ้, ลินลี่ย์!” ทันใดนั้นอสูรคนหนึ่งทักทายลินลี่ย์แต่ไกล
ลินลี่ย์ยิ้มและโบกมือทักทาย จากนั้นนั่งลงที่โต๊ะกลมปกติเขาจะสั่งอาหารสองอย่างและเหล้า จากนั้นเริ่มดื่มกินคนเดียว
ขณะนั้นเองบุรุษกำยำคนหนึ่งสูงสองเมตรผมสีทองเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางค่อนข้างประหลาดใจ เขามองดูลินลี่ย์อย่างระมัดระวัง จากนั้นพูดเบาๆ “เจ้า... คือลินลี่ย์?”
ลินลี่ย์งงงวยชำเลืองมองดูเขา “ใช่แล้ว ข้าชื่อลินลี่ย์”
“เจ้าคือลินลี่ย์ บาลุคใช่ไหม?” บุรุษผมทองถามทันที
ลินลี่ย์ตกใจหนักมีบางคนรู้จักชื่อเต็มของเขา “ท่านคือ?” บุรุษผมทองเห็นสีหน้าของลินลี่ย์แล้ว เขาหัวเราะและนั่งลง “ลินลี่ย์, ไม่ต้องกังวลข้าแค่ได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อนก็เท่านั้นเอง”
“ได้ยินชื่อของข้ามาก่อน?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
ในแดนนรกเขาไม่มีชื่อเสียงเท่าใดนัก แล้วคนแปลกหน้าจะรู้จักเขาได้ยังไง?
“ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน ข้าชื่อบาชเลอร์ เหตุผลที่ข้ารู้จักเจ้าก็เพราะ โอลิเวอร์,เจ้ารู้จักเขาใช่ไหม?” บุรุษผู้นั้นหัวเราะ
ลินลี่ย์ตกใจ “บาชเลอร์ ท่านรู้จักโอลิเวอร์?”
หลังจากอยู่ในแดนนรกมาเป็นเวลานานมากแล้วจู่ๆ เมื่อได้ยินชื่อของโอลิเวอร์ใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ที่สำคัญ นี่คือคนจากบ้านเกิดเดียวกันกับเขา พิภพยูลาน
“แน่นอนข้ารู้จักเขา” บาชเลอร์ถือแก้วเหล้าหัวเราะ “โอลิเวอร์และข้าเคยมีประวัติความเป็นมาร่วมกันเรามาถึงแดนนรกในกลุ่มเดียวกัน และจากนั้นก็ถูกพวกกองทัพเรดบุดจับโยนรวมกัน ดังนั้นเราจึงพักอาศัยในเผ่าพันธุ์ใกล้เคียงกัน”
ลินลี่ย์พยักหน้านี่คือประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาด้วยเช่นกัน
“เวลานั้น ข้ายังเป็นเทพแท้คนหนึ่ง ขณะที่โอลิเวอร์เป็นเทียมเทพ อย่างไรก็ตามความเร็วในการฝึกฝนของเขารวดเร็วมาก หลังจากผ่านไปห้าสิบปีเขาก็เข้าถึงระดับเทพแท้ในกฎแสงสว่าง” บาชเลอร์ถอนหายใจ “และจากนั้น,เราเดินทางมาเมืองอิลลานด้วยกันเพื่อเข้าร่วมสอบเป็นอสูร เราทั้งสองประสบความสำเร็จสอบเป็นอสูรหนึ่งดาวได้!”
ลินลี่ย์มีรอยยิ้มบนใบหน้า
ดูเหมือนว่าบาชเลอร์และโอลิเวอร์ไม่ได้มีความสัมพันธ์ผิวเผิน
“แล้วโอลิเวอร์ไปไหนแล้ว?” ลินลี่ย์ถาม
บาชเลอร์ส่ายศีรษะอย่างจนใจ “หลังจากกลายเป็นอสูรหนึ่งดาว เรารับภารกิจสองดาว อย่างไรก็ตามเราพบกับอันตรายในภารกิจนั้น ไม่สามารถรับมืออันตรายนั้นได้ เราทั้งหมดหนีกระจายไปในทุกทิศ ข้ากับเพื่อนหนีกลับมาเมืองอิลลานได้ สำหรับโอลิเวอร์ ข้าหาเขาไม่เจอ”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
“บางทีโอลิเวอร์ยังมีชีวิตอยู่ ใครจะรู้?” บาชเลอร์เงยหน้า และกระดกแก้วเหล้าในมือจากนั้นวางลงและถอนหายใจ “ภารกิจอสูรเต็มไปด้วยอันตรายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าเจ้าถึงคราวตาย เจ้าก็ตายอยู่ดี”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ในแดนนรกความตายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ทุกคนจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจ
“เมื่อโอลิเวอร์และข้าอยู่ในชนเผ่าด้วยกันเขาเคยพูดถึงเรื่องเจ้าให้ข้าฟังมาก่อน เจ้าสร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างลึกซึ้ง” บาชเลอร์ถอนหายใจ “เมื่อตอนที่ข้าชื่นชมเขาที่สามารถกลายเป็นเทพแท้ได้อย่างรวดเร็ว เขาพูดว่าเจ้าก็น่าจะถึงระดับนี้ด้วยเช่นกัน และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ!”
ลินลี่ย์ระบายลมหายใจยาว
ขณะที่พวกเขาอยู่ในทวีปยูลาน เขากับโอลิเวอร์ถูกมองว่าเท่าเทียมกันและถูกผู้อื่นพูดถึง ทั้งสองถูกมองว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ของทวีปยูลานเท่าที่เคยมีมาในรอบหมื่นปี อย่างไรก็ตามภายในแดนนรกที่กว้างขวางไร้ขอบเขตลินลี่ย์และโอลิเวอร์เป็นคนที่ธรรมดามาก
“ข้าหวังว่าโอลิเวอร์จะมีชีวิตรอด” ลินลี่ย์ภาวนาในใจให้สหายบ้านเดียวกันกับเขา
“ข้าสามารถพบกับอัจฉริยะจากแดนโลกธาตุเดียวกันถึงสองคนนี่นับเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่ง มา...ดื่มกันเถอะ” บาชเลอร์ยิ้มขณะกล่าว
ลินลี่ย์มีความประทับใจที่ดีต่อบาชเลอร์เช่นกันดังนั้นเขาหัวเราะและชูแก้วเหล้าเช่นกัน
ลินลี่ย์เริ่มพูดคุยขณะดื่มกันกับบาชเลอร์ เมื่อลินลี่ย์พูดถึงการสู้รบที่ปราสาทจันทราบาชเลอร์ก็แบ่งปันประสบการณ์การสอบเป็นอสูรของเขาเอง อย่างไรก็ตามครั้งนี้ ทั้งลินลี่ย์ทั้งบาชเลอร์ไม่ทันสังเกตว่าอสูรโลหะกำลังบินผ่านพื้นที่ดินแดนภูเขาไฟ
“ตามแผนที่ควรจะเป็นเทือกเขาธรรมดาที่อยู่ใต้เรา ทำไมถึงกลายเป็นแนวภูเขาไฟได้เล่า?”
อสูรสองคนที่อยู่ริมหน้าต่างคุยกัน
ความจริงแนวภูเขาไฟนี้เคลื่อนไหวมาที่นี่ไม่นานนัก!
ลินลี่ย์และบาชเลอร์ยังคุยกันอย่างสบายใจ
“ลินลี่ย์ เจ้าไม่รู้หรอก แม้ว่าข้าคิดว่าข้าจะต้องตายแน่ ขณะนั้นเสียงฉัวะดังขึ้นโอลิเวอร์มาอยู่ด้านหลังศัตรูจากนั้นแทงเข้าที่หลังศีรษะของเขาฆ่าเขาในกระบี่เดียว นั่นคือเหตุผลที่ข้ายังรอดอยู่”บาชเลอร์พูดอย่างตื่นเต้น
ขณะนั้นเอง....
“วืด..” “วืด...” “วืด...”
เสียงวัตถุแหวกอากาศดังขึ้นกะทันหันขณะเดียวกันอสูรโลหะแตกกระจายพร้อมกับเสียงระเบิดบึ้ม หินสีแดงนับไม่ถ้วนพุ่งตรงกระแทกใส่อสูรโลหะที่พวกนักสู้อสูรใช้โดยสาร ทุกอย่างกลายเป็นภาพยุ่งเหยิง
“บึ้ม!”อสูรคนหนึ่งกำลังดื่มกินอยู่ในห้องโถงใหญ่ไม่ไกลจากพวกเขาถูกหินเพลิงยิงใส่ร่างของเขาถูกกระแทกเละ และศีรษะของเขาแตกกระจาย ประกายเทพร่วงลงจากอากาศ
หินเพลิงลูกใหญ่พุ่งบดขยี้ใส่ลินลี่ย์ที่พุ่งหลบทันที แต่หินเพลิงเลี้ยวโค้งในกลางอากาศ
“ปัง!”มันกระแทกอย่างหนักใส่ร่างลินลี่ย์
ร่างของลินลี่ย์สั่นอย่างรุนแรงและเกราะชีพจรคุ้มกันบนร่างของเขาก็สั่นด้วยเช่นกัน “โชคดีที่เกราะชีพจรคุ้มกันนี้แข็งแกร่งเพียงพอ!” ลินลี่ย์ลอบดีใจกับตนเอง “แย่แล้ว, เดเลีย” ลินลี่ย์ต้องการบินไปหาเดเลียทันที
แต่หินเพลิงจำนวนมากยังรุมล้อมเล่นงานเขา
ลินลี่ย์พบว่าบาชเลอร์ตอนนี้เผชิญกับการโจมตีของหินเพลิง บาชเลอร์คำรามด้วยความโกรธใช้ดาบใหญ่ในมือฟันใส่หินเพลิงที่กระแทกเข้ามาอย่างรุนแรงจนแตกเป็นสอง
อย่างไรก็ตามหินที่ขาดเป็นสองส่วนยังคงพุ่งเข้าหาบาชเลอร์
หน้าของบาชเลอร์ถึงกับเปลี่ยนไป
“วืดดด” กระบี่สีม่วงพร่าเลือนปรากฏทันที เงากระบี่ม่วงรวดเร็วเหมือนสายฟ้า แต่ดูช้าในความรู้สึก ที่ใดก็ตามที่เงากระบี่ผ่านไป มิติจะสั่นสะเทือนเงากระบี่ม่วงปะทะเข้ากับก้อนหินเพลิงทั้งสองซึ่งแตกกระจายเป็นก้อนกรวดจำนวนมากทันที
บาชเลอร์ระบายลมหายใจโล่งอกและชำเลืองมองลินลี่ย์ด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ระวัง!” สีหน้าลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
“บึ้ม!”
หินเพลิงที่อยู่ใกล้เปลี่ยนตำแหน่งโจมตีคนอื่นทันทีและพุ่งกระแทกใส่ศีรษะของบาชเลอร์“ปัง” ศีรษะของบาชเลอร์ระเบิด ประกายศักดิ์สิทธิ์ร่วงตกจากกลางอากาศ