ตอนที่ 15-14 ภูเขาไฟ
กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงอยู่นอกเมืองอิลลาน ขณะที่ห่างจากเมืองอิลลานไปทางตะวันออกเกือบร้อยกิโลเมตร มีกลุ่มภูเขาไฟขนาดมหึมา
กลุ่มภูเขาไฟขนาดมหึมากินพื้นที่หลายพันตารางกิโลเมตร ภายในพื้นที่พันกิโลเมตรนี้เป็นพื้นที่ภูเขาไฟทั้งหมด และทั่วทั้งพื้นที่เป็นสีแดงหม่น
“แครก!” หมอกขาวพ่นออกมาจากใจกลางเทือกเขา กลิ่นของกำมะถันหนาแน่นรู้สึกได้แต่ไกลและมีโครงกระดูกมนุษย์ มนุษย์อสูรและเผ่าพันธุ์อื่นมากมายกองเกลื่อนกล่นอยู่ทั่วภูเขา ที่นี่ไม่มีชีวิต ไม่มีต้นหญ้าแม้แต่ต้นเดียว นี่คือดินแดนมรณะที่มีชื่อเสียงที่สุดในแดนนรก....
เทือกเขาไฟบิส!
ร่างมนุษย์หลายสิบคนกำลังบินอยู่เหนือแนวภูเขาไฟบิส ดูจากลักษณะของพวกเขาดูเหมือนพวกเขาเป็นคนค่อนข้างหยาบ
“แดนนรกวุ่นวายยุ่งเหยิงจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะหาสถานที่สงบใช้ชีวิตได้เลย” ผู้นำสบถอย่างโกรธเกรี้ยว
“พี่ใหญ่รีบหาสถานที่ให้เราตั้งหลักกันก่อนเถอะ” บุรุษร่างกำยำด้านหลังของเขาพูดเบาๆ “ลองค้นหาสถานที่ซึ่งเราสร้างอำนาจได้และจากนั้นค่อยกังวลเรื่องอื่น ในแดนนรกมีอันตรายมากเกินไป”
“ใช่แล้ว” ผู้นำพยักหน้า
แต่ขณะนั้นเอง....
“บึ้ม!” “บึ้ม!” “บึ้ม!” “บึ้ม!” “บึ้ม!”
จากผิวของแนวภูเขาไฟบิส หินนับพันแฝงไปด้วยเปลวเพลิงเริ่มพุ่งสู่อากาศด้วยความเร็วที่น่ากลัวทันใดนั้นร่างทั้งสิบสองนั้นเริ่มหนีอย่างหวาดผวา แต่ศิลานับพันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีของพวกมันได้
“โครม!” “โครม!”
ในพริบตาเดียวพวกเทพนับสิบนี้ศีรษะถูกกระแทกแหลก ประกายเทพของพวกเขาปลิวกระเด็น วิญญาณของพวกเขาสูญสลาย ร่างทุกคนร่วงจากกลางอากาศ
ศพของพวกเขากระทบพื้นระดับของภูเขา
“แครก...” แนวภูเขาไฟเหมือนกับสิ่งมีชีวิต มันกลืนศพทั้งหมด แหวนมิติเก็บของประกายเทพ และสมบัติเทพ
แนวภูเขาไฟบิสกลายเป็นสถานที่สงบเหมือนเมื่อก่อน นอกจากความจริงที่ว่าบนผิวภูเขาไฟตอนนี้มีศพเพิ่มอีกสองสามศพแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
แนวภูเขาไฟบิสเป็นพื้นที่อันตราย แต่สำหรับหลายคนผู้ไม่เคยอ่านหนังสือหรือผู้ไม่มีประสบการณ์ พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าที่นี่เป็นเขตพื้นที่อันตราย? ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มของลินลี่ย์รู้จักพื้นที่อันตรายบางที่เพราะพวกเขาได้ซื้อหนังสืออ่านบางส่วน
และนอกจากนี้...
พื้นที่อันตรายหลายแห่งในแดนนรกเพิ่งก่อตัวขึ้นใหม่ไม่มีการบันทึกไว้ในหนังสือ
พื้นที่อันตรายมีคลาคล่ำอยู่ไปทั่วทุกที่ เพราะว่านี่คือแดนนรก!
อสูรโลหะกำลังบินตรงสู่แนวภูเขาไฟบิสด้วยความเร็วสูง ห่างจากแนวภูเขาไฟบิสไม่กี่สิบกิโลเมตรอสูรโลหะลงจอดบนภาคพื้น จากภายในนั้นมีร่างคนสามคนออกมาจากพาหนะ เป็นอินนิโกและบริวารทั้งสองคน
“คุณชาย, เราจะหยุดตรงนี้หรือ? ทำไมเราไม่บินเข้าไปในแนวภูเขาไฟเล่า?” หนึ่งในบริวารของเขาที่เป็นเทพชั้นสูงถามด้วยความสงสัย
อินนิโกชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา “ฮึ่ม... ในแนวภูเขาไฟนี่น่ะหรือ? เจ้ากำลังวอนหาเรื่องตาย แนวภูเขาไฟบิสเป็นหนึ่งในแดนมรณะของแดนนรกไม่ง่ายที่เจ้าจะจินตนาการออกนักหรอก! ตามข้ามา” ขณะที่เขาพูด อินนิโกก้าวเท้าด้วยความเร็วสูงเข้าสู่แนวภูเขาไฟ
“แนวภูเขาไฟบิสอันตรายขนาดไหนกันแน่?” เทพชั้นสูงสองคนที่อยู่ด้านหลังของเขาสงสัย
พวกเขาเป็นเทพชั้นสูง มีพื้นที่มากมายซึ่งสามารถคุกคามพวกเขาได้
“ถ้าเจ้าไม่อยากตายงั้นอย่าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้า” อินนิโกแค่นเสียง “ในที่แห่งนี้ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้”
แม้ว่าอินนิโกกำลังเดินอยู่บนพื้น เขาสามารถไปได้หลายสิบกิโลเมตรในช่วงเวลาสั้นๆอินนิโกพาบริวารทั้งสองมาถึงด้านนอกแนวภูเขาไฟบิส เมื่อเห็นไอน้ำสีขาวและพื้นที่แห้งแล้งไร้ชีวิต แนวภูเขาไฟเต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถัน อินนิโกอดกระแอมในลำคอมิได้
“ท่านเอลควิน ข้าคุณชายรองอินนิโกแห่งตระกูลเบย์ฟิลด์แห่งแคว้นโคล์ดคาล์ม ข้าอยากจะขอความกรุณาท่านเอลควินช่วยออกมาพบข้าด้วยเถิด!” อินนิโกคำนับขณะพูดด้วยความเคารพ
หลังจากพูดจบอินนิโกยังคงอยู่ในท่าโค้งคำนับรอคอยคำตอบรับเงียบๆ
“มีคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในแนวภูเขาไฟนี่ด้วยหรือ?” เทพชั้นสูงทั้งสองคนด้านหลังอินนิโกประหลาดใจทั้งคู่
พวกเขาได้ยินมาเช่นกันว่าแนวภูเขาไฟบิสเป็นพื้นที่อันตราย แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าแนวภูเขาไฟบิสจะมีผู้คนอยู่ในนั้น
“ตระกูลเบย์ฟิลด์?” เสียงทุ้มดังออกมาจากภายในแนวภูเขาไฟทำให้แนวภูเขาไฟทั้งหมดสั่นสะเทือนเล็กน้อย “งั้นก็เข้ามา”
และจากนั้นผิวภูเขาไฟแยกออกปรากฏอุโมงค์สายหนึ่งข้างหน้า
อินนิโกสูดหายใจลึกจากนั้นเดินไปตามทาง เทพชั้นสูงทั้งสองที่อยู่ด้านหลังประหลาดใจ
“รีบๆ ตามเข้ามา” อินนิโกตะคอก
“ขอรับ, คุณชาย” ทั้งสองคนเดินตามอินนิโกเข้าไปในทางเดินทันที
ตามกฎของแดนนรกเมื่อนักสู้กลายเป็นอสูรเจ็ดดาว เขามีสิทธิ์จะท้าเทพอสูรสู้ เพียงแต่เอาชนะเทพอสูรได้ก็จะได้รับตำแหน่ง เทพอสูรคนเก่าจะตายในการสู้รบหรือไม่ก็รอดตายและสูญเสียตำแหน่งไป หลังจากท้าทายต่อสู้มามากมายนับไม่ถ้วน แดนนรกในตอนนี้มียอดฝีมือถือสันโดษอยู่มากมายเป็นธรรมดา
ยอดฝีมือถือสันโดษนี้อาจเป็นอดีตเทพอสูรก็ได้หรือพวกเขาอาจเป็นอสูรเจ็ดดาวหรือบางทีเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมากซึ่งไม่สนใจการต่อสู้เพื่อตำแหน่งเทพอสูร
อย่างไรก็ตามไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะมีพลังน่ากลัวกันทุกคน
คนทั่วไปของแดนนรกไม่รู้ว่ามีพวกเขาคงอยู่ แต่พวกตระกูลเก่าแก่บางตระกูลรู้เรื่องยอดฝีมือถือสันโดษเหล่านี้ไม่อาจล่วงเกินได้
บริวารทั้งสองของอินนิโกเข้าใจทันที “เป็นไปได้ว่าแนวภูเขาไฟบิสนี้จะมีสุดยอดฝีมืออาศัยอยู่ข้างใน”
ในเส้นทางเดินมืดมิดร่างทั้งสามเดินลึกเข้าไปในพื้น
ทันใดนั้น...
“แครก...” ผนังหินด้านข้างทางเดินแตกออกเป็นก้อนกรวดนับไม่ถ้วนเคลื่อนไปข้างหน้าทันที
“อ๊า!” “อ๊า!”
เทพชั้นสูงสองคนถูกก้อนกรวดนับไม่ถ้วนนั้นยิงทะลุและแม้แต่ประกายเทพก็ถูกยิงใส่หลายครั้งครา วิญญาณของพวกเขาแตกสลายไปทันที!
แต่หน้าของอินนิโกไม่เปลี่ยน เขาคิดด้วยตัวเองว่า“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากผ่านมาหลายปีสัตว์เลี้ยงของท่านเอลควินก็ยังทำตัวเหมือนอย่างที่บิดาเขาพูด ฮึ่ม...เจ้าสองคนนี้กลายเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงของเอลควิน!”
ครู่ต่อมา...
อินนิโกเดินเข้าไปจนสุดทางเดินที่ซึ่งมีแม่น้ำลาวาไหลผ่าน อินนิโกมาถึงที่ใจกลางแนวภูเขาไฟแล้ว ใจกลางพื้นที่นี้เป็นถ้ำกว้างขวางว่างเปล่า ในใจกลางถ้ำมีบ่อแม็กม่าสีทองร้อนแรง
“ไม่นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีสิ่งแปลกประหลาดแบบนี้ในถ้ำด้วย” หน้าของอินนิโกเปลี่ยน
“ปุด..ปุด...” แม็กมาสีทองยังคงเดือด
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของของอินนิโกกระตุกแล้วจากนั้นเขาเดินตรงไปที่ทางเดินอีกทางเข้ามาถึงตำหนักใต้ดินร่างหนึ่งในชุดดำนั่งอยู่กับที่ขณะที่ในอ้อมแขนมีลูกแมวทองตัวหนึ่ง
อินนิโกคำนับและกล่าวทันที “อินนิโก เบย์ฟิลด์ขอคารวะท่านเอลควินและขอส่งความปรารถนาดีแทนบิดาของข้าด้วย”
“อืม” ร่างในชุดดำตอบเขาอย่างใจเย็น “อินนิโก, ข้าเคยได้ยินพ่อเจ้าพูดถึงเจ้ามาก่อน ทำไมเจ้าถึงมาหาข้า?”
รอยยิ้มปรากฏอยู่ในใบหน้าของอินนิโก “ท่านเอลควิน ความจริง,ความจริงข้าใช้เวลายาวนานมากและพาเทพชั้นสูงมาเป็นร้อยเพื่อเตรียมทำงานใหญ่ แต่ในที่สุดแม้จะใช้เงินไปมากมาย บริวารของข้าตายจนหมด เราก็ยังล้มเหลว”
“เจ้าต้องการอะไรกันแน่ พูดออกมาให้ชัด!” ร่างชุดดำแค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจ
อินนิโกรีบกล่าว“ขอรับ, ข้าจะพูดให้ชัด เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลบอยด์ได้ถูกทำลายลงแต่บ่าวสองคนของตระกูลได้เอามรดกสมบัติที่ตระกูลบอยด์สั่งสมมานานนับปีไม่ถ้วนหนีไป ข้าได้ตามค้นหาพวกเขามาตลอดเวลาและไล่ตามพวกวเขามาจนถึงที่นี่ตั้งแต่ทวีปเจดโฟลท ในที่สุดข้าก็พบพวกเขา!”
“ตระกูลบอยด์?”
บุรุษชุดดำตกใจในที่สุด “เจ้าหมายถึงตระกูลบอยด์ที่มีชื่อเสียงพอๆกับตระกูลเบย์ฟิลด์ของเจ้าน่ะหรือ?”
“ขอรับ” อินนิโกกล่าว
บุรุษชุดดำหัวเราะเบาๆสองสามครา “หึหึ อินนิโกสมบัติของตระกูลบอยด์มีจำนวนมากมายน่าประหลาดใจ เจ้ามาแจ้งให้ข้าทราบแค่เพียงเหตุการณ์เกี่ยวมรดกสมบัตินั้นเท่านั้นเองหรือ? ทำไมเจ้าไม่หาสมาชิกจากตระกูลเบย์ฟิลด์ของเจ้า? ข้าชักสงสัยว่าเจ้ามีความต้องการอะไรกันแน่”
อินนิโกรีบกล่าว “ท่านเอลควิน มีสองเหตุผลหลังที่ข้าไม่สามารถไปที่ตระกูลของข้าได้”
“ประการแรก ถ้าข้ามองหายอดฝีมือภายในตระกูล อย่างน้อยข้าจะต้องกลับไปที่แคว้นโคล์ดคาล์มในทวีปเจดโฟลท ระยะทางห่างไกลไพศาลมาก และก็ยากจะพูดได้ว่าอาจมีเหตุแปรเปลี่ยนเกิดขึ้นได้หรือไม่ซึ่งจะเป็นเหตุให้ข้าสูญเสียร่องรอยของพวกเขา” อินนิโกรีบกล่าว “สำหรับเหตุผลที่สองข้าเกรงว่าท่านเอลควินจะหัวเราะเยาะข้า”
อินนิโกหัวเราะเยาะเย้ยตนเอง “ท่านเอลควิน! ท่านควรจะรู้ว่าพี่ใหญ่ของข้าคือบุตรคนโตของประมุขตระกูล ในอนาคต เขาจะต้องเป็นผู้รับสืบทอดตำแหน่งประมุขตระกูล สำหรับข้าในอนาคตเป็นไปได้ว่าจะถูกส่งไปในพื้นที่ห่างไกล อำนาจของข้าบางทีอาจด้อยกว่าในระดับปัจจุบันด้วยซ้ำ”
บุรุษชุดดำหัวเราะอยู่สองครา “เจ้าเป็นเด็กฉลาด ก็ได้, ลองพูดขยายความสมบัติตระกูลบอยด์หน่อยซิถ้าข้าได้รับสมบัตินี้ได้ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
แม้ว่าเขาจะทรงพลังอำนาจมาก แต่สมบัติของตระกูลใหญ่เหล่านี้ก็เพียงพอทำให้เขาเกิดความโลภได้
“เอ่อ.. นี่...” อินนิโกพึมพำ
บุรุษชุดดำหัวเราะ “เด็กน้อย,เจ้านึกหรือว่าข้าไม่สามารถบอกได้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร? ก็ได้ งั้นเจ้ากับข้ามาทำสัญญาจอมเทพ ถ้าข้าได้สมบัติตระกูลบอยด์ ข้าจะแบ่งให้เจ้าหนึ่งในสิบ เจ้าจะว่ายังไง?”
พลังของสัญญานั้นยิ่งใหญ่มาก
เหมือนกับสัญญาเสมอภาคหรือสัญญานายบ่าวระหว่างมนุษย์กับอสูร เมื่อสิ่งมีชีวิตโลหะอยู่ภายใต้สัญญากับอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ด้วยสัญญาประเภทนี้
สำหรับสัญญาจอมเทพเป็นสัญญารุนแรงเด็ดขาดรูปแบบหนึ่ง
“ก็ได้” อินนิโกดีใจทันที หนึ่งในสิบของสมบัติทั้งหมด
ถ้าเขาให้ข้อมูลนี้กับตระกูลเขา ตระกูลจะให้รางวัลเขาอย่างหนักแต่ว่าจะมากสักเพียงไหน? นี่เป็นสมบัติทั้งหมดของตระกูลบอยด์ ถ้าตระกูลของเขาเองให้เขาหนึ่งในร้อย นั่นก็นับว่าดีแล้ว พวกเขาจะให้เขาหนึ่งในสิบได้ยังไง?
อินนิโกและคนชุดดำร่างสัญญาจอมเทพ
“แครก...”
รังสีแสงสีดำลอยออกมาจากหน้าผากของอินนิโกและบุรุษชุดดำซึมเข้าไปในประกายเทพของพวกเขา
อินนิโกตอนนี้มีความดีใจ เขาหัวเราะทันที “ท่านเอลควิน การเดินทางครั้งนี้มองโดยผิวเผินจะเห็นว่าบ่าวชราสองคนเป็นผู้ว่าจ้างอสูร และบ่าวชราคนหนึ่งตายไปแล้ว เหลืออยู่เพียงคนเดียว”
“ดังนั้นสมบัติจะอยู่กับสองบ่าวชรานี่หรือเปล่า?” บุรุษชุดดำกล่าว
อินนิโกกลับพูด “ไม่..แน่นอน ท่านเอลควิน ข้าเห็นคนผู้หนึ่งอยู่ในกลุ่มของอสูรมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลบอยด์ ข้าสังสัยว่า... สมบัติมรดกตอนนี้คงจะอยู่กับเขา
“เขาเข้าร่วมกับอสูรใช่ไหม?” บุรุษชุดดำพยักหน้าเล็กน้อย
“ท่านเอลควินไม่ต้องห่วง เมื่อถึงเวลาข้าจะตามท่านไปและชี้ให้ท่านดูทันที”
บุรุษชุดดำพูดอย่างใจเย็น “เอาอย่างนี้เป็นไง อินนิโก เจ้าจัดการทุกอย่างทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือแจ้งข้า” อินนิโกคำนับด้วยความเคารพ จากนั้นล่าถอยไป
หลังจากอินนิโกออกมาแล้วบุรุษชุดดำลุกขึ้นยืนทันที ตอนนี้เขาเผยให้เห็นสีหน้าสีเทาซีด รอยยิ้มปรากฏที่มุมปกของเอลควิน เจ้าเด็กนี่ไม่กล้าโกหกข้า อย่างนั้นการเดินทางครั้งนี้ก็นับว่าคุ้มแล้ว”
เอลควินกังวลว่าอินนิโกจะเล่นไม่ซื่อแต่ตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นแล้ว
“ฟูโซ่ ไปเตรียมตัวกันเถอะ” เอลควินลูบขนลูกแมวน้อยในมือของเขา
“เมี้ยว” ลูกแมวน้อยสีทองร้องขึ้น
ภายนอกเมืองอิลลานอสูรโลหะยังคงจอดนิ่งอยู่กับที่ในนอกเมือง สามพี่น้องเอ็ดเวิร์ดและอสูรคนอื่นๆ รอคอยอยู่นอกเมืองเงียบๆ
“เจ้าเด็กนั่นฝึกหนักจริงๆ เขายังคงฝึกอยู่เรื่อย”
“เป็นไปได้ว่าเพราะเขาเผชิญอันตรายมามากมาย เขาก็เลยกลัวตาย”
สามพี่น้องเอ็ดเวิร์ดพูดคุยหัวเราะกันเองเงียบๆ ขณะเดียวกันมองดูลินลี่ย์ที่อยู่ข้างทางออกไปห่างๆ ลินลี่ย์กำลังฝึกวิชากระบี่ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาฝึกฝนไม่หยุดหย่อนมาเป็นเวลาสิบแปดวันเต็ม ช่วงเวลาสิบแปดกว่าวันนี้ลินลี่ย์ยังคงฝึกขณะที่มีการแก้ไขและปรับปรุงวิชาที่ฝึก
ตามทฤษฎีและการฝึกฝนไม่เหมือนกัน มักจะมีข้อแตกต่างกันอยู่บางข้อ
ลินลี่ย์สะบัดกระบี่เลือดม่วงครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ฟันดาบออกไปทันทีเงากระบี่จะเลือนรางเหมือนกับว่าถึงขีดจำกัดความเร็วราวกับความเร็วของตัวสล็อธ ความรู้สึกแบบนี้สับสน ขณะที่ประกายกระบี่ผ่านไประลอกคมกระบี่จะปรากฎขึ้น
“แครก..” โลกถูกผ่าแบ่ง
นี่เป็นเหตุให้เกิดระลอกมิติเท่านั้น
“มาลองกันอีก” ตายของลินลี่ย์เป็นประกาย เพื่อการทดสอบลินลี่ย์เพียงแต่ใช้พลังหนึ่งในสิบแต่พลังโจมตีก็ทรงพลังน่าทึ่ง
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าลินลี่ย์ “เป็นอย่างนี้นี่เอง พลังโจมตีเงาพิศวงในที่สุดก็ฝึกได้สำเร็จ! ถ้าข้าโจมตีเต็มกำลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้คู่กับพลังและความเร็วที่แข็งแกร่งของร่างแปลงมังกรพลังโจมตีนี้จะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ถึงหลายสิบเท่า!”