ตอนที่ 101 แม็กนัสผู้โชคร้าย (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 101 แม็กนัสผู้โชคร้าย
แม็กนัสกลับมาที่โรงแรมหลังจากประสบความสำเร็จในคุยธุรกิจและเซ็นสัญญา เขามีความสุขมากกับผลลัพธ์นี้
วันนี้เขาจะไปเที่ยวรอบๆ เมืองกับครอบครัวเพราะเขามีเวลาเหลือไม่มากนัก วันรุ่งขึ้นจะมีการประมูลและเขาจะต้องกลับอังกฤษก่อนวันที่ 2 มกราคม เนื่องจากเขาต้องกลับไปที่ฮอกวอตส์ในวันนั้น
"โอเคฮะพ่อแม่...ไปรีบกันเถอะฮะ เราจะไปดูอูฐกัน" แม็กนัสเปล่งเสียง
และแล้ววันหยุดพักผ่อนสั้นๆ ของพวกเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาไปดูอูฐ แล้วก็เล่นกีฬาผาดโผน หลังจากนั้นในตอนเย็นพวกเขาก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อทานอาหารเย็นแบบท้องถิ่น
จากนั้นแมกนัสก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับวันถัดไป
“คนที่คุณจ้างมาน่ะไว้ใจได้หรือเปล่า?” แม็กนัสถาม
“แน่นอนครับ เขาเป็นมักเกิ้ลที่มาจากอังกฤษ ผมเองก็รู้จักเขามาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่ต้องกังวลครับ” เท็ดสร้างความมั่นใจให้แม็กนัส
แม็กนัสวางแผนที่จะเพิ่มการเสนอราคาอย่างมีกลยุทธ์เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกว่าจำเป็น เขาต้องการใช้ประโยชน์จากเพชรเม็ดใหญ่นั้นให้ได้มากที่สุด
“หวังว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีนะ” แม็กนัสพึมพำและหลับไป
...
ในขณะที่เขาหลับ บางคนตื่นขึ้น ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาเหม็ดเจ้าของบริษัทประมูล ทันทีที่เขาเห็นเพชร เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องบอกกลุ่มคนไม่กี่คนที่น่าจะคลั่งไคล้เพชรเม็ดนี้และอยากจะได้มันมาครอบครอง
ท้ายที่สุดแล้วไม่มีเพชรอื่นใดที่เหมือนเม็ดนี้และตระกูลที่ร่ำรวยบางตระกูลต้องการมีมันเป็นมรดกสืบทอดประจำตระกูลด้วยซ้ำไป
แต่ก่อนอื่น เขาจำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ของประเทศที่เขาอาศัยอยู่ก่อน ดังนั้นเขาจึงรีบไปที่พระราชวัง ที่นั่น เขาสามารถโชว์ภาพที่คนของเขาหยิบเพชรขึ้นมาได้ แม็กนัสไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาดูแลเพราะเขาไม่เชื่อใจพวกเขา
ไม่เพียงเท่านั้นอาเหม็ดยังส่งภาพถ่ายให้เหล่าคนรวยหลายคนจากเครื่องบินโดยตรงจากคนของเขา หากพวกเขาสนใจก็สามารถเสนอราคาได้เช่นกัน ยิ่งมีการแข่งขันมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น
เขาเองก็เป็นคนมีหน้ามีตาพอสมควรและได้รับสั่งให้เข้าเฝ้ากษัตริย์ได้เร็วพอสมควร นอกจากนี้ เขาบอกกับท่านราชเลขาว่านี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
เขาเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีฟัยศ็อล บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด ผู้ปกครองประเทศคนปัจจุบันและโชว์ภาพถ่ายด้วยความเคารพนอบน้อม
“ข้าแต่ฝ่าพระบาท นี่เป็นของจริงพะย่ะค่ะ กระหม่อมได้เห็นกับตาและถือไว้ในมือของกระหม่อมเอง อีกทั้งยังมีใบรับรองความถูกต้องและคุณภาพ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ใหญ่และดีที่สุดในโลกจริงๆ พะย่ะค่ะ มันจะถูกประมูลในวันพรุ่งนี้” อาเหม็ดถวายคำ
กษัตริย์ผู้ชรามองภาพด้วยความชื่นชม มันดูสวยงามมากจากในภาพนี้ พระองค์นึกไม่ออกเลยว่ามันจะดูเป็นอย่างไรในชีวิตจริง
"ใครเป็นคนขาย" กษัตริย์ตรัสถาม
อาเหม็ดตอบตามจริง การซ่อนเรื่องพวกนี้ต่อหน้ากษัตริย์เป็นเรื่องโง่เขลา "
เป็นเด็กผู้ชายพะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าเป็นเด็กนะ อายุแค่ 11 ขวบ ชื่อของเขาคือ แม็กนัส แกรนท์ เป็นชาวอังกฤษ กระหม่อมไม่ทราบว่าเขาได้เพชรมาจากไหน แต่ที่รู้ๆ กันคือเขาเป็นเจ้าของบริษัทโฮลดิ้งที่มีมูลค่านับหลายล้านพะย่ะค่ะ"
พระราชาทรงพระสลวรและสนพระทัยในตัวลูกเศรษฐีคนนี้มากขึ้น
*ก๊อกก๊อก*
ทันใดนั้น ประตูห้องทรงงานก็เปิดออก และอับดุลลาห์ บิน ไฟซาล อัล ซาอุด พระราชโอรสองค์โตของกษัตริย์เดินเข้ามา พระองค์ไม่สนใจอาหมัดและเดินตรงไปหาเสด็จพ่อของเขา เขาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะแล้วกระซิบบางอย่างที่พระกรรณของกษัตริย์ ทำให้ตาของราชาชราเบิกกว้างด้วยความตกพระทัย
กษัตริย์ทรงเปิดแฟ้มบนโต๊ะและอ่านอย่างมีสมาธิ พระองค์ทอดพระเนตรภาพและเอกสารบางอย่าง
*เฮ้อ*
พระองค์ทรงหันกลับมามองอาเหม็ด "อย่าได้เรียกเขาว่าเด็ก เจ้าหนู หรือสรรพนามอื่นใดก็ตามที่ไม่สุภาพ ต่อให้เธออยู่คนเดียว ผู้ที่มีสายเลือดที่ลึกซึ้งและยาวนานเช่นนี้สมควรได้รับความเคารพ เธอออกไปได้แล้ว พรุ่งนี้เราจะไปงานประมูล"
เมื่อได้ยินคำเตือนที่เข้มงวดของกษัตริย์ อาเหม็ดถึงกับเหงื่อซึม เขาถวายบังคมลาแล้วจากไป เมื่อออกมาจากพระราชวัง เขาสงสัยว่าเบื้องหลังของเด็กชายคนนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ ถึงได้รับความเคารพจากกษัตริย์
แต่เขารีบปล่อยวางมันไว้ที่ด้านหลัง เพราะได้เวลาหาเงินแล้ว
...
*หาว...*
แม็กนัสตื่นขึ้นมาในเพนต์เฮาส์ เขามองไปรอบๆ พลันรู้สึกงงๆ จากสภาพแวดล้อมรอบตัว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็รู้ตัวว่าเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน
~อ่า... ช่างเป็นความฝันที่ดีจริงๆ ฉันว่ายน้ำในแอ่งน้ำยานำโชค~ เขาพึมพำกับตัวเอง
นอกหน้าต่างเป็นวันที่แดดจ้า เขารีบแปรงฟันและแต่งตัว ในห้องนั่งเล่น เขาเห็นพ่อแม่ของเขาแต่งตัวภูมิฐานอยู่เหมือนกัน
อดัมและเกรซดูดีไม่น้อยไปกว่าดาราหนังฮอลลิวูดที่มีใบหน้างดงามและหุ่นที่สมส่วน รักนาร์ไม่มีชุดสูทสไตล์มักเกิ้ลสมัยใหม่ ดังนั้นเกรซต้องรีบหาซื้อให้เขา
"ไปรวยกันเล้ยย" เขาทักทายพวกเขาเสียงดัง
*โป๊ก*
"อย่าโลภมาก" เกรซเคาะหัวเขาเบาๆ
“อ๊อย...ผมเป็นเด็กดีที่ชอบกินแพนเค้กก็เท่านั้นแหละฮะ” แม็กนัสตอบอย่างไร้เดียงสา
“ถึงยังไง ลูกก็ยังโลภมากอยู่ดีเมื่อเป็นเรื่องของแพนเค้ก ไปกันเถอะ รถคงรอเราอยู่” อดัมมาช่วยเขา
พวกเขาออกจากโรงแรมและมาถึงงานประมูล สถานที่นี้ได้รับการตกแต่งราวกับว่ากำลังจะจัดงานฉลองสมรสพระราชทานที่นั่น
ในทางเทคนิคแล้ว หลังจากการจบการประมูลจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ครั้งใหญ่ที่จะดำเนินไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
พวกเขามาถึงประตูหลักของอาคารซึ่งปูพรมสีแดงไว้ มีบางคนมาเปิดประตูรถให้ และทันทีที่พวกเขาออกไปก็ได้พบกับผู้จัดการที่ทางเข้า เขามีรายชื่อแขกอยู่แล้ว
“ยินดีต้อนรับครับ คุณแกรนท์” เขาทักทายแม็กนัสก่อนด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง
"กล่องวีไอพีถูกจัดสรรให้กับคุณและครอบครัวแล้วครับ โปรดตามเจ้าหน้าที่ของเราไปได้เลยครับ" เขาบอกพวกเขาด้วยความเคารพ
แม็กนัสตามมาในขณะที่คิดว่าการดูแลเป็นพิเศษนี้ต้องเกิดจากการที่เขาขายเพชรเม็ดใหญ่เบ้ง
กล่องวีไอพีอยู่ที่ชั้นบนของห้องประมูล มันก็เป็นห้องทรงกล่องจริงๆ นั่นแหละ มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองทะลุลงไปที่เวที จากนั้นยังมีโทรศัพท์อยู่ในห้องเพื่อพูดเสนอราคา
หลังจากนั่งกันหมดแล้ว พวกเขาได้รับแคตตาล็อกของรายการทั้งหมดที่จะมีประมูลในวันนี้ แม็กนัสเปิดมันดูด้วยความสนใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่หน้าแรกทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพชรที่มีขนาด น้ำหนัก สภาพ และรูปภาพคุณภาพสูง เป็นไฮไลท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของค่ำคืนนี้อย่างแน่นอน
“อ่า พวกเขามีรถประมูลหลายคันเลยแฮะ” อดัมเปล่งเสียง
แม็กนัสก็ดูพวกมันอยู่เหมือนกันและแน่นอนว่ามีของสะสมน่าสนใจมากมาย เขารู้ว่ารถเหล่านี้เป็นรถเก่าคลาสสิกมีอายุพอตัวมันก็เหมือนไวน์รสเลิศ มูลค่าของพวกมันมักจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
"บางทีผมอาจจะประมูลรถบางคัน" เขาตัดสินใจ
"ทำไมล่ะจ๊ะ? เรามีรถอยู่ที่บ้านแล้วนี่ลูก" เกรซถาม
แม็กนัสอธิบายให้เธอฟังว่า "แม่ฮะ พวกนี้มันของสะสมนะฮะ มูลค่าของพวกมันจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา อันที่จริง ในอนาคต พวกมันจะยิ่งมีค่ามาก เพราะพวกมันจะกลายมาเป็นของกษัตริย์แห่งอังกฤษ"
เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ อะไรก็ตามที่เป็นของกษัตริย์จะกลายเป็นของสะสมพิเศษระดับโลก เพราะมันจะมีเรื่องราวพิเศษอยู่เบื้องหลัง
พวกเขารอให้การประมูลเริ่มขึ้น ที่นั่งปกติในห้องโถงใหญ่ใกล้เต็มในไม่ช้า ไม่กี่นาที ห้องโถงก็แน่นขนัด แม็กนัสกำลังเพลิดเพลินกับตัวเองในกล่องวีไอพีพร้อมบริการอาหารพิเศษ เขาและรักนาร์จิบน้ำแอปเปิ้ลในขณะที่พวกผู้ใหญ่ดื่มวิสกี้เจือจาง
"ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่การประมูลครั้งยิ่งใหญ่สิ้นปีคร้าบ..." ลำโพงเริ่มส่งเสียงดัง
แม็กนัสมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกบนเวที ผู้ประกาศการประมูลกำลังร่ายตามบทจากบนเวที
"ผมหวังว่าทุกคนจะนั่งลงที่ที่นั่งและถือแก้วเครื่องดื่มในมือให้พร้อม ทำตัวให้สบาย เพราะนี่คือค่ำคืนที่น่าตื่นเต้น"
"เอาล่ะครับ มาดูของชิ้นแรกของวันนี้คือคำภีร์… มีแค่ 4 เล่มในโลก ไม่มีเล่มไหนสภาพดีเท่านี้อีกแล้ว..."
แม็กนัสมองดูการประมูลที่เกิดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย ไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขา และโดยปกติแล้ว สินค้าเริ่มต้นจะเป็นของที่ถูกที่สุด จากนั้นเมื่อการประมูลมาถึงช่วงกลาง ตอนนั้นแหละ รถยนต์ถึงจะเริ่มจัดแสดง
แม็กนัสเอาแต่จ้องรถที่เขาชอบแค่ 3 คันเท่านั้น ถามพ่อแล้วได้ความว่าของพวกนี้เป็นของสะสมชั้นสูง
"และคันต่อไปก็เรียกได้ว่าไม่เพียงแค่สวยงามงดแถมยังเป็นสัตว์ร้ายในร่างเดียวอีกด้วย มันคือ ดูเซนเบิร์ก SSJ ปี 1935 รถที่มีทั้งความหรูหราและความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ จากอัตราเร่ง 0 ถึง 100 ใน 9 วินาที ด้วยเครื่องยนต์ 400 แรงม้า สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3 แสนดอลลาร์" ผู้ประกาศแนะนำรถ มันถูกนำขึ้นเวทีด้วย
แม็กนัสต้องการมัน เขายังติดใจการออกแบบสไตล์โบราณอีกด้วย พวกเขาไม่ได้ผลิตรถนี้แล้วในปัจจุบัน
~เอาล่ะ มาลองกันเถอะ~
อันดับแรก แม็กนัสรอให้การประมูลสงบลงสักหน่อยเพราะเขาไม่ต้องการให้ใครมาขัดจังหวะเขา สุดท้ายก็มาถึงราคาสองเท่าจากราคาเริ่มต้น หกแสนดอลลาร์ เหลือเพียงผู้ประมูลแค่รายเดียว
"หกแสน ครั้บที่หนึ่ง... มีผู้เข้าร่วมประมูลอีกไหมครับ? มิฉะนั้นสิ่งนี้จะหลุดจากมือท่านไปตลอดกาลนะครับ” ผู้จัดงานประมูลพยายามให้กำลังใจผู้คน
แม็กนัสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดอย่างใจเย็น ทันใดนั้นหูฟังบนหัวของผู้ประมูลก็เตือนเขา
"เราได้ราคาประมูลใหม่แล้วครับ แปดแสน" เขาคำราม
แต่ทันใดนั้นชายที่เคยเสนอราคา 6 แสนก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง
“เก้าแสนครับ มีท่านใดจะประมูลอีกไหม?” โฆษกประมูลถาม
แม็กนัสเกลียดการสูญเสียเงิน เขากัดฟันและเสนอราคาอีกครั้งทางโทรศัพท์
"หนึ่งล้านดอลลาร์... มีท่านใดจะประมูลเพิ่มอีกไหมครับ"
นี่เป็นวันโชคร้ายของแม็กนัส ชายคนนั้นยกมืออีกครั้งและเสนอราคา 1.1 ล้าน สิ่งนี้ดำเนินไประยะหนึ่ง ในที่สุด แม็กนัสก็ได้รถราคา 1.3 ล้านดอลลาร์
"อ๊ากก... ฉันเสียเยอะเกินไปแล้ว!" เขาคร่ำครวญกับตัวเอง
แต่ทันใด รักนาร์ก็กระแทกศอกไปที่สีข้างของเขา "นายโง่หรอ แม็กนัส? นายลืมอาวุธเด็ดที่ฉันให้นายไปแล้วหรือไงฮะ? ของขวัญที่ฉันให้น่ะ"
แม็กนัสมองไปที่ใบหน้าของ รักนาร์และแล้วมันก็คลิกในใจของเขา
"อ๊ะ!... โอ้!... ฉันมันโง่จริงๆ เล้ย!... จริงสิ ฉันได้น้ำยานำโชค! ฮิฮิ... มาดูกันว่าใครจะทำให้ฉันเสียเงินอีก" เขาหัวเราะอย่างชั่วร้ายพลางดื่มน้ำยาที่เขามักจะเก็บไว้ในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
_____________________________
ดูเซนเบิร์ก SSJ ปี 1935