ตอนที่แล้วตอนที่ 9 : เจ้าหญิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 : ตื่นรู้

ตอนที่ 10 : วิชาบ่มเพาะพลัง


*****ขอแก้ไขชื่อแม่ของดาวิส จาก แคล เป็น แคลร์ ครับ*****

=========================================

“แม่ขอโทษนะดาวิส แต่แม่ไม่มีทางตอนเจ้าบ่มเพาะวิญญาณได้เลยเพราะจุดเริ่มต้นของเรามันต่างกัน แม่จะช่วยได้ก็เมื่อเจ้าเป็นขั้นหมุนเวียนแก่นแท้”

“แต่เจ้าจะต้องพึ่งความเข้าใจเพื่อที่จะเรียนรู้วิธีการบ่มเพาะวิญญาณเจ้าโดยที่ไม่ต้องไปถึงขั้นหมุนเวียนแก่นแท้…”

แคลร์พูดด้วยใบหน้าหมดหนทาง

“ข้าเข้าใจ ท่านแม่”

ดาวิสเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่สัมผัสดวงวิญญาณไม่ได้ถ้าไม่มีพลังบ่มเพาะ แต่นั่นจะไม่หยุดเขาจากการก้าวไปข้างหน้า เขามั่นใจว่าเขาแค่ต้องก้าวเดินมากกว่าคนอื่นจนถึงจุดหนึ่งจนกว่าจะเริ่มบ่มเพาะดวงวิญญาณได้

“ท่านแม่ ข้าอยากได้ตำราบ่มเพาะวิญญาณในขั้นก่อวิญญาณของครอบครัวเราตอนนี้เลย…”

ดาวิสรู้ว่าควรจะเริ่มจากจุดไหน แต่เขาต้องการคำอนุญาตก่อนอย่างเคย

“ดาวิส เจ้าบ่มเพาะพลังไม่ได้จนกว่าจะอายุห้าขวบนะ!”

แคลร์เตือนด้วยสีหน้าแข็งกร้าว

“ข้ารู้ท่านแม่ ข้าแค่อยากจะอ่านหนังสือหาวิธีบ่มเพาะโดยไม่ต้องไปถึงขั้นหมุนเวียนแก่นแท้ ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่บ่มเพาะจนกระทั่งอายุห้าขวบ”

แคลร์ดูหม่นหมอง นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพยักหน้า

“เฮ่อ ข้าจะไปคุยกับพ่อเจ้าให้”

“งั้น เดี๋ยวข้าจะไปเล่นกับคลาร่านะ!”

ดาวิสพูดด้วยความตื่นเต้น

“ได้สิ! แต่คลาร่าสนใจลูกมากกว่าแม่แล้ว ลูกใช้เล่ห์กลอะไรกับน้องกันหา?”

แคลร์ถามพร้อมใบหน้าที่แกล้งโมโห

“ความลับ…”

ดาวิสฉีกยิ้มและวิ่งหนีไป

======

หกเดือนผ่านไป

หลังจากได้รับอนุญาตจากพ่อ เขาได้เรียนและสรุปตำราบ่มเพาะวิญญาณขั้นก่อวิญญาณไปมากมาย

ดาวิสพยายามอย่างหนักเพื่อหาทางที่เขาจะบ่มเพาะวิญญาณให้ได้

โลแกนเป็นคนสอนเขาเรื่องการบ่มเพาะทั้งสามประเภทด้วยตัวเอง โดยเฉพาะพื้นฐานของการบ่มเพาะวิญญาณ

หลังจากหกเดือน ดาวิสก็จับทางการบ่มเพาะวิญญาณตามปกติเมื่อถึงขั้นหมุนเวียนแก่นแท้ได้ แต่เขายังไม่มั่นใจว่าจะบ่มเพาะก่อนมีพลังขั้นนั้นได้อย่างไร

ที่จริงแล้วนั้นก็เป็นปาฏิหาริย์ที่เขาบรรลุขั้นก่อวิญญาณโดยไม่ได้บ่มเพาะจากตำราบ่มเพาะวิญญาณใจ และเมื่อดาวิสหาทางบ่มเพาะไม่ได้ เขาจึงถามหลายคนที่เขาเจอ

“สวัสดีครับเจ้าชาย”

บรรณารักษ์ทักดาวิส

“สวัสดีครับคุณออกซ์ฟอร์ด”

ดาวิสตอบกลับ

คุณออกซ์ฟอร์ดนั้นเป็นบรรณารักษ์ในราชปราสาท เขาสูง 181 เซนติเมตรมาพร้อมกับใบหน้าอ่อนโยนแบบผู้ชาย แต่เขาดูค่อนข้างมีอายุที่เมื่อดูตามมาตรฐานของคนทั่วไปแล้วน่าจะอยู่ที่ 50 ปี อายุจริงของเขานั้นดาวิสยังไม่รู้ แต่เขารู้ว่าเขาจะได้คำตอบเมื่อเขาถาม

“เจ้าชายของเราขยันเรียนยิ่งนัก อาณาจักรของเราจะต้องมั่นคงเข้มแข็งไปอีกนานแน่นอน”

ออกซ์ฟอร์ดชื่นชมด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“ขอบคุณครับคุณออกซ์ฟอร์ด”

ดาวิสตอบรับด้วยรอยยิ้มกับสีหน้าไร้เดียงสา

“ข้าขอถามอะไรได้ไหม?”

“ท่านจะถามข้ารึ? ข้าจะพยายามตอบนะ”

“คุณออกซ์ฟอร์ดอยู่ในระบบบ่มเพาะรวมแก่นแท้ขั้นใดรึ?”

ดาวิสถามด้วยใบหน้าสงสัย

“ข้าอยู่ในขั้นหมุนเวียนแก่นแท้ แต่ก็เทียบกับองค์จักรพรรดิพ่อของท่านไม่ได้ เขาเพิ่งจะไปถึงขั้นเมล็ดกฎเกณฑ์ก่อนที่การกบฏจะจบลง”

“จริงเหรอ? พ่อข้าบรรลุขั้นเมล็ดกฎเกณฑ์แล้วเหรอ!?”

ดาวิสอึ้ง

ดาวิสอ่านเรื่องพื้นฐานการบ่มเพาะพลังจบแล้ว เขาจึงรู้ลำดับของขั้นบ่มเพาะจนถึงห้าขั้นของระบบบ่มเพาะทั้งสาม

“ถูกต้องแล้ว!”

คุณออกซ์ฟอร์ดตอบด้วยรอยยิ้มภูมิใจ บางทีเขาอาจจะภาคภูมิใจในตัวจักรพรรดิอายุน้อยของอาณาจักร

ขั้นเมล็ดกฎเกณฑ์นั้นคือขั้นที่ห้าของระบบบ่มเพาะรวมแก่นแท้ มันยากที่จะมีพลังไปถึงหากไร้ซึ่งทรัพยากรและความเข้าใจ มีเพียงผู้ทรงอำนาจในทวีปเท่านั้นที่จะมีคนในขั้นเมล็ดกฎเกณฑ์ จักรพรรดิองค์ก่อนผู้เป็นพ่อของโลแกนนั้นก็เคยเป็นยอดฝีมือขั้นเมล็ดกฎเกณฑ์มาก่อน แต่เขาก็เสียชีวิตไป ทำให้เกิดการเริ่มต้นกบฏ

“แล้วการบ่มเพาะวิญญาณของพ่อข้าล่ะ?”

“โอ๊ะ โอ ท่านกำลังรีบเรียนรู้เรื่องพ่อตัวเองอยู่หรือ?”

ออกซ์ฟอร์ดแหย่แต่ก็พูดต่อ

“องค์จักรพรรดิอยู่ในระดับสุดยอดของขั้นวิญญาณอ่อน ซึ่งเป็นขั้นที่สามของการบ่มเพาะวิญญาณ ส่วนข้าเป็นเพียงแค่ขั้นก่อวิญญาณระดับสุดยอด”

ออกซ์ฟอร์ดถอนหายใจ

“แค่ขั้นสามงั้นรึ? และคุณออกซ์ฟอร์ดก็ทำได้แค่ระดับขั้นสุดของขั้นแรกในการบ่มเพาะวิญญาณเหรอ?”

ดาวิสตกใจกับความเชื่องช้าในการบ่มเพาะวิญญาณของพวกเขา

ขั้นวิญญาณอ่อนนั้นเป็นขั้นที่สามของการบ่มเพาะวิญญาณ

“โอ้ มันไม่ง่ายที่จะบ่มเพาะวิญญาณนะเจ้าชาย ฝ่าบาทต้องใช้ทรัพยากรมากมายเพื่อปรับและชำระล้างดวงวิญญาณ นอกจากนั้นท่านต้องรู้สึกถึงพลังของฟ้าดินและตอบรับกับมันเพื่อเข้าถึงปริศนาที่ต้องใช้ในการเข้าสู่ขั้นต่อไป”

“ถ้าหากไม่มีสิ่งเหล่านั้น ท่านก็ก้าวหน้าได้อย่างเชื่องช้าไม่ต่างกับหอยทาก ฝึกวิญญาณน่ะรึ?”

ออกซ์ฟอร์ดราวกับเสียใจที่เขามิอาจบ่มเพาะวิญญาณได้อย่างมั่นคง

“มันยากมากเลยล่ะ”

“ข้าเข้าใจ ไว้เจอกันนะ”

ดาวิสพยักหน้าและเดินจากไป

ดาวิสเดินอย่างเหม่อลอยคิดถึงวิธีการแก้ปัญหาที่กำลังเจอในตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะคิดเท่าใดเขาก็คิดถึงวิธีแก้ไขปัญหาด้วยความรู้ที่มีตอนนี้ไม่ออก

‘ช่างเถอะ เดี๋ยวข้าก็เจอวิธีปรับวิญญาณเอง!’

ดาวิสยอมแพ้ไปชั่วครามและเดินไปเล่นกับแม่และน้องสาว

คลาร่าในตอนนี้สร้างประโยค 3 ถึง 4 คำพูดได้แล้ว เขาใช้เวลาเล่นและดูแลน้องสาวตัวน้อยและก็มีครั้งที่พลาดทำน้องร้องไห้ ซึ่งแคลร์ก็ตีก้นเขาอย่างแรง

ในชีวิตสูงส่งที่ดูไม่เหมือนกับชีวิตของราชวงศ์ เขาอยู่อย่างอิสระไร้ซึ่งภาระใดในชีวิตนอกเหนือจากการเรียนรู้ธรรมเนียมในราชปราสาทและวิชาอื่นจากอาจารย์

นอกจากไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากราชปราสาทแล้วเขาก็มีอิสระที่จะไปที่ใดและรบกวนใครก็ได้ตราบเท่าที่เขาไม่ใช่จักรพรรดิและราชินี แน่นอนว่าพวกเขามักจะไม่ปฏิเสธนอกเหนือจากว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่

======

แปดเดือนต่อมา

ดาวิสได้มาถึงวันเกิดปีที่ห้าและมีอิสระในการบ่มเพาะอย่างเป็นทางการ เขาเรียนรู้เรื่องระบบบ่มเพาะทั้งสามมากขึ้นและได้ตำราบ่มเพาะทั้งสามระบบมาตั้งแต่หกเดือนก่อน

ตำราบ่มเพาะพลังทั้งสามนี้มาจากห้องสมุดราชวงศ์และล้วนเป็นวิชาชั้นนภา

วิชาชั้นนภานั้นถูกเก็บไว้โดยคนของราชวงศ์ที่สร้างคุณประโยชน์อย่างมากต่ออาณาจักรลอเรต วิชาบ่มเพาะชั้นนภานั้นไม่ได้หาได้ง่ายในทวีป พวกมันมิใช่แค่หายากแต่วิชาชั้นนภาทั้งหมดยังอยู่ในมือของมหาอำนาจในทวีปมหาสมุทรด้วย ไม่มีโรงประมูลระดับกลางที่กล้าขายมันด้วยซ้ำไป และอย่างมากก็มีแต่คนทรงอำนาจเท่านั้นที่กล้าเอามันออกมาขาย

วิชาบ่มเพาะที่เขาเลือกนั้นมาจากความช่วยเหลือของพ่อและแม่ที่ชื่อ เคล็ดร่างทรราช พิพากษาสายฟ้าดับสูญ และหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์

เคล็ดร่างทรราชนั้นเป็นตำราชั้นนภาระดับกลาง เป็นตำราบ่มเพาะร่างกาย มันมีอยู่ห้าชั้นและแต่ละชั้นจะสื่อถึงขั้นของระบบบ่มเพาะ

ชั้นแรกนั้นคือความเข้าใจในการเข้าสู่ขั้นแรก ชั้นที่สองคือความเข้าใจการเข้าสู่ขั้นที่สอง และเป็นเช่นนี้เรื่อยไป

พิพากษาสายฟ้าดับสูญเองก็เป็นตำราชั้นนภาระดับกลาง มันคือตำราบ่มเพาะรวมแก่นแท้ มันมีห้าชั้นเช่นกัน

หมอกแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตำราชั้นนภาระดับกลาง มันคือวิชาบ่มเพาะวิญญาณและมีห้าชั้นเช่นเดียวกัน

ไม่มีกลุ่มอำนาจใดในทวีปนี้ที่มีวิชาบ่มเพาะวิญญาณชั้นนภา อย่างน้อยก็อย่างที่รู้กันทั่วไป และมีเพียงอาณาจักรลอเรตที่ผูกขาดมันไว้ผู้เดียว แต่ก็มีบ้างกลุ่มที่แอบถือครองวิชาบ่มเพาะวิญญาณชั้นนภาอยู่แต่ก็มิอาจบ่มเพาะทายาทที่ดีออกมาได้

อาณาจักรลอเรตนั้นมีวิชาบ่มเพาะวิญญาณชั้นนภาถึงสามเล่ม เป็นระดับต่ำสองเล่มและระดับกลางหนึ่งเล่ม

เมื่อได้ตำราบ่มเพาะที่ต้องการมาแล้ว พ่อของเขาก็สอนเขาเรื่องตำราบ่มเพาะทั้งสาม มันเพิ่มความเข้าใจของดาวิสไปจนถึงขั้นสองของระบบบ่มเพาะทั้งสาม

“ท่านพ่อ ข้ายังไม่รู้วิธีการบ่มเพาะวิญญาณเลย”

แต่ดาวิสยังคงเศร้าหมอง เขานั้นเข้าใจพื้นฐานได้กระทั่งขั้นสองของการบ่มเพาะวิญญาณแต่ก็ไม่เห็นทางว่าเขาจะบ่มเพาะวิญญาณได้อย่างไร

“อย่ารีบร้อน ลูกยังเป็นแค่เด็กห้าขวบ ลูกมีโอกาสมากมายที่จะลองความคิดในอนาคต”

“แต่…”

“ไม่มีแต่ เจ้าต้องตั้งใจกับระบบบ่มเพาะอีกสองระบบไปก่อน…”

“หืม?”

โลแกนสังเกตเห็นบางอย่างและเริ่มก้าวเท้ายาว ๆ

“เอ๋? ท่านพ่อ? จะไปไหนน่ะ?”

ดาวิสงุนงงเพราะการพูดคุยของพวกเขายังไม่จบ

“ถึงเวลาที่ข้าจะเพิ่มพลังไปต่อแล้ว!”

โลแกนฉีกยิ้มด้วยความตื่นเต้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด