Chapter 77 : ย่าง – เสียง
ราวครึ่งชั่วโมงให้หลังพวกเขาก็พบเข้ากับชายร่างกำยำผมทอง ซึ่งเป็นชายผิวขาวใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นและรองเท้าหนังกวาง
ชายหนุ่มผมทองร่างกำยำผู้สวมเสื้อยืดผู้นี้เผยให้เห็นแขนหนาๆทั้งสองข้างของเขาแต่อีกฝ่ายกลับดูไม่หนาวเลยซักนิด บนแผ่นหลังของเขาสะพายธนูยาวด้ามหนึ่งเอาไว้ เมื่อเขาเห็นโจวเฉินและคนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปเขาก็รีบซอยเท้าเดินเข้ามาหาทันที
“โอ้! จิตวิญญาณศักสิทธิ์! ผู้อพยพทั้งสามเช่นพวกเจ้าจะต้องหนาวเป็นแน่! มาที่บ้านของข้าเพื่ออบอุ่นร่างกายเสียหน่อยเถิด!”
ชายร่างกำยำผู้นี้ดูแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นคนโอบอ้อมอารี ทันทีที่เข้ามาใกล้โจวเฉินและคนอื่นๆอีกฝ่ายก็เปิดปากชวนพวกเขาไปที่บ้านโดยไม่ลังเล
โจวเฉินและคนอื่นๆหันมองกัน ในหัวก็คิดไปพลางว่าแม้พวกตนจะไม่ได้สวมใส่เสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายหรือเสื้อกันหนาวติดแบรนด์แต่ก็ยังแต่งตัวดีกว่าชนพื้นเมืองอย่างนายอยู่ดี แล้วทำไมถึงรู้ว่าพวกเราเป็นผู้อพยพทั้งๆที่พึ่งเห็นกันล่ะ? เรื่องนี้คงต้องให้เครดิตกับระบบเพียงอย่างเดียว
คนทั้งสามตัดสินใจไปยังบ้านของชายหนุ่มผมทองร่างกำยำอย่างไม่ลังเลให้มากความ
“สหายพวกเจ้าบอกได้ไหมว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด?”
ชายหนุ่มผมทองร่างงกำยำที่เดินนำทางอยู่นั้นเอ่ยถามกลุ่มของโจวเฉิน
“พวกเรามาจากทางทิศตะวันออกอันแสนไกล”
ชายหนุ่มท่าทางสุภาพตอบกลับทันทีพร้อมรอยยิ้ม
“ตะวันตก? ไม่แปลกใจ...ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นเกิดสงครามขึ้นอย่างรุนแรง...”
ชายผมทองพยักหน้ารับราวกับคิดว่าเหตุผลนี้ฟังดูแล้วสมเหตุสมผลดี
“อย่าได้กังวล พวกเราพี่น้องแห่งแดนเหนือนั้นตราบใดที่พวกเจ้าไม่ขัดต่อพระประสงค์ของจิตวิญญาณศักสิทธิ์ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”
“ดูนั่นสิ! นั่นแหละคือที่ที่ข้าอาศัยอยู่ - เมืองซีดาร์”
ชายหนุ่มผมทองร่างกำยำนำโจวเฉินและคนอื่นๆไปยังสะพานหินและชี้ไปที่บ้านทรงยุโรปโบราณที่ทำจากหินมากมายซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปนัก
บ้านหินพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นบ้านชั้นเดียวขณะที่มีไม่กี่หลังเท่านั้นที่เป็นบ้านสองชั้น พวกมันมองดูแล้วเรียบง่ายแต่ก็แข็งแรงและดูเป็นเอกลักษณ์ยิ่งนักเมื่ออยู่ท่ามกลางหิมะ
“ที่นี่ดูเหมือนจะมีแค่ไม่กี่ร้อยครัวเรือนเองนะ ทำไมถึงเรียกว่าเมืองล่ะ?”
โจวเฉินสังเกตสังกาอยู่อย่างเงียบๆและเอ่ยออกมาในใจ
แม้ว่าคนทั้งสามจะดูสงบแต่พวกเขาก็ลอบสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอยู่อย่างเงียบๆและคอยระมัดระวังสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ยังไงก็ตามภายใต้การสังเกตของพวกเขาทำให้พวกเขาพบว่าเมืองที่ชื่อว่าเมืองซีดาร์แห่งนี้ดูสงบสุขยิ่งนัก บนถนนที่ไม่ได้กว้างนักมีหญิงสาวในชุดคลุมขนสัตว์เดินไปมา นอกจากนี้ยังมีเด็กเล่นกันอยู่ท่ามกลางหิมะ ส่วนผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชายนั้นเท่าที่เห็นมียืนคุยกันอยู่บริเวณหน้าประตูบ้านของพวกเขาเมื่อเห็นคนทั้งสามแต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เอาสั้นๆง่ายๆเลยก็คือที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีการวางแผนตลบหลัง ดูเป็นหมู่บ้านกลางภูเขาที่สงบเงียบแห่งหนึ่ง
“เดฟเจ้าพาผู้อพยพมาที่นี่อีกแล้วรึ?”
ในเวลานี้เองชายหนุ่มหูยาวที่ผ่าฟืนอยู่ก็มองไปที่ชายผมทองร่างกำยำที่เดินนำกลุ่มคนทั้งสามและขมวดคิ้ว
“นี่เป็นเจตจำนงค์ของจิตวิญญาณศักสิทธิ์”
ชายหนุ่มผมทองที่ชื่อเดฟมองไปที่คนผู้นั้นด้วยสายตาจริงตังก่อนจะเดินผ่านอีกฝ่ายไปพร้อมกับโจวเฉินและคนอื่นๆ
“โง่เขลานัก...ไม่ช้าเจ้าจะเสียใจ”
เสียงของชายหนุ่มหูยาวดังไล่หลังมา
เดฟเมินไม่สนใจและรีบพาโจวเฉินกับคนอื่นๆมุ่งหน้าไปยังบ้านสองชั้นหลังหนึ่งที่อยู่ใจกลางหมู่บ้านก่อนจะยื่นมือออกไปเคาะประตู
“ที่รัก! ข้ากลับมาแล้ว!”
เสียงของเขาดังมาก ไม่นานนักคนผู้หนึ่งก็เดินมาเปิดประตู คนที่เดินมาเปิดประตูผู้นี้เป็นหญิงสาวผมทองที่ดูดีมากแต่ก็ดูเหมือนจะเหนื่อยมากเช่นกัน
“โอ้เดฟ! เจ้าพาคนกลับมากินข้าวฟรีอีกแล้วรึ? แล้วเรื่องอาหารล่ะ?”
หญิงสาวเพียงแค่ปรายตามองคนที่อยู่ด้านนอกเท่านั้นก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก
“ที่่รักเชื่อข้าเถิด นี่คือพระประสงค์ของจิตวิญญาณศักสิทธิ์ เดี๋ยวข้าจะออกไปล่าอะไรมาเดี๋ยวนี้นี่แหละ!”
เดฟมองไปที่คนทั้งสามก่อนจะเอ่ยขอโทษขอโพยภรรยา
“นี่คือภรรยาของข้านางจะคอยดูแลพวกเจ้าเอง แล้วเจอกันนะ!”
หลังจากกล่าวจบเดฟก็บอกลาคนทั้งสาม
โจวเฉินและคนอื่นๆมองกันไปมาด้วยแววตาสับสน พวกเขายืนอยู่หน้าประตูบ้านของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย
“พวกเจ้าทั้งสามคนเข้ามาเถอะ!”
ภรรยาของเดฟลังเลอยู่ซักพักเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จากนั้นเจ้าหล่อนก็ดึงประตูออกและกล่าวต้อนรับโจวเฉินกับคนอื่นๆ
ไม่นานนักหลังจากที่คนทั้งสามเข้ามาภายในบ้านนางก็จัดแจงที่นั่งให้พวกเขาใกล้กับกองไฟภายในห้องและวางมันฝรั่งสามหัวลงในกองขี้เถ้าข้างกองไฟ
“พวกเจ้าทุกคนรับมันฝรั่งไปคนละหัวเถิด ระวังอย่าให้โดนแย่งไปได้เล่า”
เจ้าหล่อนกล่าวจบก็หมุนกายเดินจากไป
โจวเฉินไม่สนใจมันฝรั่งเหล่านี้แต่ลอบสังเกตคนอื่นๆที่นั่งอยู่ข้างกองไฟแทน
นอกจากคนทั้งสามแล้วยังมีคนอยู่อีกแปดคนที่สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ ในบรรดาพวกเขามีชายชรา หญิงชรา ชายวัยกลางคน ชายหนุ่มสามคน หญิงสาวและสาวน้อยที่ดูมีอายุราวๆหกถึงเจ็ดขวบอีกคนหนึ่ง
เสื้อผ้าของพวกเขาไม่เพียงแต่เรียบง่ายเท่านั้นแต่ยังขาดลุ่ยเล็กน้อยอีกด้วย ดูคล้ายกับว่าพวกเขาหลบหนีมาจากหายนะอะไรบางอย่าง
“นี่พวกเราเข้ามาในแคมป์ผู้อพยพขนาดย่อมๆรึเปล่าเนี่ย?”
หลังจากเงียบไปซักครู่ชายหนุ่มท่าทางสุภาพก็กล่าวกับโจวเฉินและหญิงสาวร่างสูงด้วยภาษาของจักรวรรดิมังกร
“ก็เหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น...”
โจวเฉินพยักหน้ารับคำ
“แต่ฉันรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ทุกอย่างมันราบลื่นเกินไปหน่อย จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เจออันตรายอะไรที่ซ่อนอยู่เลย”
เขาค่อนข้างสับสนกับภารกิจเซอร์ไววัลหนนี้ยิ่งนัก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาถูกส่งมายังภารกิจระดับทองแดงขั้นกลางแต่เขากลับรู้สึกว่าระดับความยากของมันยังสูงไม่เท่ากับภารกิจระดับทองแดงขั้นต่ำเลยด้วยซ้ำ มันทั้งเรียบง่ายและราบลื่นยิ่ง
“ฮี่ๆ อย่าพึ่งรีบสรุปไป การแสดงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้านี่แหละ”
ชายหนุ่มท่าทางสุภาพยิ้มและดูมีท่าทีสงบยิ่งนัก
“พี่ชายช่วยแบ่งมันฝรั่งให้หนูหน่อยได้ไหมคะ?”
ในเวลานี้เองเด็กสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มคนทั้งแปดที่นั่งอยู่รอบกองไฟก็พลันเดินเข้ามาหาชายหนุ่มท่าทางสุภาพและเอ่ยถามเขาขึ้นมา
เนื่องจากระบบได้มอบพื้นฐานภาษาท้องถิ่นมาให้กับพวกเขา โจวเฉินและคนอื่นๆจึงสามารถเข้าใจคำพูดของชนพื้นเมืองที่นี่ได้ ชายหนุ่มท่าทางสุภาพมองไปที่สาวน้อยในชุดผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเย็บปะก่อนจะยิ้มและเอ่ยตอบด้วยภาษาถิ่น
“ได้สิถ้ามันสุกแล้วพี่จะแบ่งให้หนูครึ่งนึง”
“ขอบคุณมากเลยค่ะพี่ชาย!”
สาวน้อยคนนั้นดูเหมือนจะมีความสุขยิ่งนักหลังจากได้รับคำสัญญา รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าน่ารักๆนั่นจนเต็มล้น
“อีกไม่นานด้านนอกก็คงจะมืดแล้ว คืนนี้พวกเราอยู่ที่นี่ก่อนแล้วค่อยออกไปตรวจสอบรอบๆตอนเช้าดีกว่า”
โจวเฉินคิดอยู่ซักพักก่อนจะกล่าวออกมาด้วยภาษาของจักรวรรดิมังกร
“อืม...เคราะห์ดีที่พวกเราโชคดีเจอที่นี่เข้า ไม่อย่างนั้นแล้วคงต้องใช้เวลาทั้งคืนอยู่แบบหนาวๆข้างนอกนั่นแน่ๆ”
ชายหนุ่มท่าทางสุภาพพยักหน้ารับคำ
“ฉันได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ”
หญิงสาวผมยาวเงียบที่นิ่งเงียบมาตลอดจู่ๆก็เอ่ยขัดขึ้นมา
“ที่ไหน?”
“เสียงอะไร?”
โจวเฉินและชายหนุ่มท่าทางสุภาพตื่นตัวขึ้นมาทันที
“จากข้างนอกแถมยังใกล้มากด้วย”