อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 188 เปิดตัวสถานีลาสเวกัส
*ฝากกดติดตาม : SleepTsl ด้วยนะครับจะมีประกาศอะไรบางอย่างเร็วๆ นี้*
ตอนที่ 188 เปิดตัวสถานีลาสเวกัส
หนังสือพิมพ์ 'โกลบอลไทมส์' ได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่ฮาร์ดี้ก็ยังไม่ได้เริ่มทันทีเพราะมันยังมีปัญหาอะไรบางอย่างอยู่
ซึ่งเขาก็พาแอนดี้และมาร์คคีนกลับไปที่ลาสเวกัสแทน
…
ในโรงแรมของฮาร์ดี้ เขาเรียกให้อิริน่ามาพบเขาคนเดียว
"บอส การก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก โคลินเฟิร์ธคนนี้ไม่เลวเลย เขาพูดจามีอารมณ์ขันและเหมาะที่จะมีรายการเป็นของตัวเอง ฉันเลยบอกให้เขาเอาคนไปบันทึกรายการด้วยตัวเองได้เลย"
อิริน่ารายงาน
"โอ้ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูในภายหลัง แต่ตอนนี้ฉันมีอะไรจะมอบให้เธอ" ฮาร์ดี้พูดและส่งเอกสารทั้งสองให้กับอิริน่า
'ข้อตกลงการแบ่งปัน'
'ข้อตกลงองค์กร'
อิริน่ารู้สึกประหลาดใจหลังจากที่ได้อ่านมัน
ซึ่งเธอรู้ว่าฮาร์ดี้นั้นได้จัดตั้งบริษัทหนังสือพิมพ์ขึ้นมา และในข้อตกลงอันนี้ก็ระบุว่าเธอมีหุ้นอยู่ 2% ใน 'โกลบอลไทมส์'
จากนั้นมันก็ยังบอกอีกว่า 'โกลบอลไทมส์' เป็นของเธอ…
"บอส ทำไมมันถึงบอกว่าฉันเป็นเจ้าของมันล่ะ?" อิริน่าถามด้วยความประหลาดใจ
ฮาร์ดี้ผายมือและพูดอย่างหมดหนทางว่า "กฎหมายของสหรัฐกำหนดว่าคนคนหนึ่งจะไม่สามารถเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์ในเวลาเดียวกันได้ และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต แอนดี้ก็เลยแนะนำให้ฉันหาคนอื่นมารับหน้าที่แทน ซึ่งบางทีคนคนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องถือหุ้นของบริษัทก็ได้"
"แล้วทำไมบอสถึงให้หุ้นกับฉันละคะ?"
ฮาร์ดี้เพิ่งบอกเธอว่า 'โกลบอลไทมส์' กำลังจะกลายเป็นหนังสือพิมพ์ใหญ่ยักษ์ใหญ่อย่าง 'นิวยอร์กไทมส์' และ 'ลอสแองเจลิสไทมส์' ในไม่ช้า
ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้นั้นมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ และแม้ว่าตรงนี้จะเขียนไว้แค่ 2% แต่มูลค่ามันก็อยู่ที่ 300,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว
มันไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย...
เพราะเงินเดือนของอิริน่านั้นแค่ 500 ดอลลาร์ต่อเดือนรวมโบนัสหมดแล้ว
ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเงินเดือนที่สูงมากเช่นกัน และถ้าอยากมีเงินให้ได้สามแสนดอลลาร์ เธออาจจะต้องใช้เวลาถึง 30 ปีสำหรับเงินเดือนจำนวนนี้
แล้วถ้าเทียบกับในอนาคตมันก็เหมือนหัวหน้าให้หุ้นมูลค่า 20-30 ล้านดอลลาร์ให้กับคุณมาเฉยๆ นั่นแหละ...
ฮาร์ดี้เอื้อมมือออกไปสัมผัสใบหน้าของอิริน่าและพูดเบาว่าๆ "ฉันจำได้ว่าอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดเธอแล้วใช่ไหม? ถือซะว่านี่เป็นของขวัญให้เธอละกัน"
อิริน่าเกือบเป็นลมไปเลย!
…
เมื่ออิริน่าไปที่ออฟฟิศ เธอก็ได้พบกันแอนดี้และมาร์คคีน พร้อมกับที่เธอได้ลงนามข้อตกลงสำหรับการถือหุ้น
ทำให้ในเวลานี้เธอได้กลายเป็นเจ้าของโกลบอลไทมส์แล้ว...
ส่วนหุ้นที่เหลืออยู่ของโกลบอลไทมส์นั้น แอนดี้ได้ซ่อนมันไว้โดยใช้บริษัทหลายแห่งที่บอสมีอยู่เป็นผู้ถือหุ้น
หลังจากนั้น
ฮาร์ดี้ก็พามาร์คคีนไปพบโดนัลด์ซัทเธอร์แลนด์หัวหน้าบรรณาธิการของลาสเวกัสนิว
ลาสเวกัสนิวส์นั้นเป็นบริษัทหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่ถูกซื้อกิจการ และถูกรวมกับอยู่โกลบอลไทมส์นับจากวันนี้
ซึ่งฮาร์ดี้ก็ไม่สนใจที่งานที่เหลือ และปล่อยให้มาร์คคีนดูแลตัวเอง
ยังไงจุดประสงค์ในการจ้างคนอื่นมาก็เพื่อให้พวกเขามาทำงานให้ตัวเอง ถ้าคุณยังมาทำงานด้วยตัวเองทั้งๆ ที่จ้างคนแล้ว ถึงคุณจะมีพลังงานแค่ไหนคุณก็จะหมดแรงไปอยู่ดี…
หลังจากเสร็จเรื่องสัญญาฮาร์ดี้ก็พาอิริน่าและแอนดี้ไปที่สถานีโทรทัศน์ลาสเวกัส เวลานี้ทีมงานกำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอุปกรณ์ และทีมตัดต่อก็กำลังแก้ไขสิ่งที่ถ่ายทำเมื่อไม่กี่วันก่อนอยู่ มันจึงเป็นฉากที่วุ่นวายอย่างมาก
ซึ่งเขาก็คาดการณ์เวลาที่สถานีนี้พร้อมใช้น่าจะราวๆ 10 วัน ส่วนรายการที่จะนำมาออกเวลานี้อิริน่าก็บอกว่ามีอยู่ราวๆ 100 ชั่วโมงและเนื้อหาก็มีอยู่ครบครั พร้อมนำมาฉายซ้ำได้
รายการใหม่ๆ ก็กำลังดำเนินการถ่ายทำอยู่ เขาเลยไม่ต้องห่วงเรื่องรายการที่จะออกไปฉายสักเท่าไหร่
"บอส แล้วการเดิมพันที่บอสพูดไว้เราจะทำมันยังไง?" อิริน่าถาม
ฮาร์ดี้บอกเธอว่าสถานีโทรทัศน์จะออกอากาศให้เดิมพันลอตเตอรี่ผ่านสถานีโทรทัศน์ โดยจะเปิดรับให้คนอื่นโทรเข้ามาเดิมพันได้
แต่การเริ่มธุรกิจนี้จะต้องมีการเตรียมพร้อมอะไรหลายอย่างมากๆ
ฮาร์ดี้อธิบาย
"ฉันได้ก่อตั้งบริษัทแยกออกมาที่หนึ่งแล้ว บริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจการพนันอยู่บ้างแล้ว ส่วนคนที่รับผิดชอบจะเป็นคนของบิลและไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นของบริษัทนี้ ผลประโยชน์กำไรต่างๆ จะเป็นของบริษัทแอลเอ ซึ่งตอนนี้พวกเขาพร้อมทำงานแล้วโดยมีพนักงานอยู่ 200 คนที่พร้อมดำเนินงาน"
"ส่วนคนที่จะเข้ามาเดิมพันกับเราพวกเขาต้องโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทรับพนันของเราก่อน บัญชีนั้นจะเป็นของธนาคารเวลส์ฟาร์โก มันสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้และก็โอนเงินไปที่ธนาคารอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย"
"เมื่อมีบัญชีกับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บ 5% ทุกๆ การเดิมพัน และใครที่ต้องการลงพนันก็แค่โทรเข้ามาที่บริษัทและบอกมาว่าจะเดิมพันเท่าไหร่ ทางบริษัทก็จะหักเงินจากบัญชีออกไป"
"ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการเดิมพันมีเพียงค่าคอมมิชชั่นของคาสิโนและภาษีรายได้ต่างๆ ที่กำหนดโดยกฎหมาย แต่ผู้วางเดิมพันต้องมารับเงินรางวัลที่ลาสเวกัสด้วยตัวเอง แน่นอนว่าคุณสามารถบอกให้บริษัทรับพนันรับเงินรางวัลแทนได้ แต่ตราบใดที่มีเงินเข้าบัญชีของบริษัทเราก็จะหัก 5% เป็นค่าบริการโดยอัตโนมัติ"
"ซึ่งกฎหมายสหรัฐไม่อนุญาตให้มีการขายลอตเตอรี่ แต่บริษัทของเราเป็นบริษัทรับพนันในคาสิโน ดังนั้นมันไม่ใช่การขายลอตเตอรี่อย่างแน่นอน"
"ถึงแม้บริษัทรับพนันจะถูกเฝ้ามอง มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฮาร์ดี้โฮเทลเลยสักนิดเพราะมันเป็นลอตเตอรี่ของคาสิโน และใครที่มาเดิมพันกับเรา…เราก็ไม่ได้มีหน้าที่ไปตรวจสอบอยู่แล้ว ถ้าเรื่องแย่ที่สุดก็แค่ปล่อยให้พวกเขาตามจับคนที่มาเดิมพันเอาเอง"
อิริน่าอึ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
มันมีวิธีการแบบนี้ด้วยเหรอ?
เพราะขั้นตอนดำเนินงานทุกอย่างนั้นได้หลีกเลี่ยงการโดนสอบสวนทางกฎหมายหมดแล้ว
ฮาร์ดี้โฮเทลไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ถ้ามันมีความผิดพวกเขาก็แค่หาแพะมารับโทษและจับโยนเข้าคุกแค่นี้เรื่องก็ยุติลงแล้ว
ฮาร์ดี้พูดต่ออีก
"บริษัทรับพนันจะเปิดให้เดิมพันขั้นต่ำที่ 100 ดอลลาร์ และสถานีโทรทัศน์ของเราก็รับพนันทั่วประเทศ ลองคิดง่ายๆ หากมีคนเข้าร่วม 10,000 คนก็เท่ากับว่าบริษัทรับพนันมีเงินทุนถึง 1 ล้านดอลลาร์"
"ซึ่งค่าธรรมเนียมที่เราจะได้รับก็คือ 50,000 ดอลลาร์ หากมีคนเข้าร่วม 100,000 คน เงินเดิมพันก็จะอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์และค่าธรรมที่เราได้ก็จะอยู่ที่ 500,000 ดอลลาร์"
"จะมีคนมาใช้บริการกับเราเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?" อิริน่าถาม
ฮาร์ดี้ยิ้มเล็กน้อย "เอาแค่ในอเมริกาเธอรู้ไหมว่ามีกี่คนที่เล่นการพนันใต้ดินของลอสแอนเจลิส? ฮ่าๆ ทุกๆ ปี มีคนมากกว่า 100,000 ที่เล่นใต้ดิน และเธอรู้ไหมว่ามีกี่คนในนิวยอร์กที่เล่นการพนันใต้ดิน? มันมากกว่าลอสแอนเจลิสซะอีก"
ซึ่งวงการพนันใต้ดินในลอสแอนเจลิสนั้นถูกควบคุมโดยฮาร์ดี้ และครอบครัวคอร์เลโอเนก็เป็นเจ้ามือการพนันใต้ดินของนิวยอร์ก
ดังนั้นฮาร์ดี้จึงพูดได้อย่างเต็มปากเพราะเขารู้ข้อมูลดี
การที่เขาสามารถถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศได้เขาก็จะได้เงินเยอะขึ้น
"แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ค่าธรรมเนียม การเดิมพันลอตเตอรี่ที่เราเปิดให้คนทั้งประเทศเล่นนั้นก็เพื่อจะได้โปรโมทฮาร์ดี้โฮเทล และแน่นอนว่ามันจะต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในคาสิโนอีกในอนาคต"
"ปริมาณคนเดิมพันก็จะมากขึ้น จำนวนเงินที่เราได้รับก็จะเพิ่มขึ้นตามและยิ่งเรากระตุ้นผู้คนให้ติดใจกลับมาเล่นได้ มันก็จะได้มากขึ้นไปอีก"
"หากเฉลี่ยเกมละ 20,000 ดอลลาร์ 10 เกมต่อวันก็ 200,000 ดอลลาร์ และคาสิโนของเราก็หัก 15% ก่อนหักภาษีหลังจากชนะพนัน ซึ่งเราก็จะได้ราวๆ 30,000 ดอลลาร์และรายได้อันนี้เพียงอย่างเดียวอาจสูงถึงหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทุกปี"
อิริน่าแทบกัดลิ้นตัวเอง
รายได้หลายสิบล้านดอลลาร์?
ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าบอสเติบโตมาได้ยังไง?
เขามักจะคิดหาวิธีหาเงินที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ และทั้งหมดก็ดันได้กำไรมหาศาลด้วย
…
ในตอนเย็น
ฮาร์ดี้ อิริน่าและแอนดี้กลับไปที่คฤหาสน์
บิลก็มาหาหลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ ซึ่งแอนดี้กับบิลก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทั้งสองก็ทักทายกันด้วยรอยยิ้ม
ส่วนอิริน่านั้นเคยได้ยินชื่อบิลมาเหมือนกันแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอบิล
ฮาร์ดี้เลยแนะนำบิลให้รู้จักกับอิริน่า
อิริน่ามองไปที่บิลและก็คิดในใจว่า 'นี่คืออันธพาลที่ใหญ่ที่สุดในลอสแอนเจลิส เมื่ออยู่ต่อหน้าบอสของเธอเขาจะดูยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ยังมีความเกรงใจอยู่เหมือนกัน'
หลังจากอาหารเย็นพวกเขาก็นั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น ฮาร์ดี้ถามบิลว่า
"การดำเนินการเปิดบริษัทรับพนันตอนนี้ถึงไหนแล้ว?"
"ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะคุยเรื่องนี้แหละ เวลานี้ฉันซื้อโรงแรมใกล้ๆ คาสิโนเปลี่ยนให้มันเป็นบริษัทเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับกำลังฝึกสาวสวย 200 คนไปด้วย พวกเธอจะสลับกันเข้างานทุกๆ 10 ชั่วโมง"
"ยังมีนักบัญชีและนักจดบันทึกที่เก่งกาจมากกว่าหนึ่งโหลประจำการอยู่ที่นี่ และพวกเราจะเปิดให้เดิมพันเป็นเวลา 1.30 ชั่วโมงก่อนการจับรางวัล แต่ละครั้งจะจดบันทึกให้ทันภายในครึ่งชั่วโมงก่อนจะส่งให้คาสิโนเพื่อเอาไปจับสลาก"
ฮาร์ดี้พูดเสริมเข้าไปว่า "นี่คือบริษัทถูกกฎหมาย บัญชีทุกอย่างต้องชัดเจนและโปร่งใส ภาษีต้องเสียให้ถูกต้องอย่าให้สำนักงานภาษีหาช่องโหว่จากเราไปได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็หาเหตุผลอื่นมาให้ทนายแก้ต่างในศาลเอา"
บิลพยักหน้า "ฉันรู้ว่าจะต้องจัดการกับภาษี ฉันเลยหาคนมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะแล้ว"
ตกเย็น
ฮาร์ดี้ก็พักอยู่ในห้องของอิริน่า
ใช่แล้ว
นี่คือห้องของอิริน่า
โดยก่อนที่คาสิโนจะเปิด ผู้หญิงของเขาก็มาที่ลาสเวกัสเพื่ออาศัยอยู่ที่นี่และได้รับห้องไปคนละห้อง
ซึ่งห้องเหล่านี้จะไม่ให้ใครเข้ามาอยู่ตราบที่พวกเธอยังอยู่กับเขา และห้องเหล่านี้ก็เป็นห้องที่พิเศษที่สุดเพราะมันได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งหมด
หากผู้หญิงของเขาวางของอะไรไว้ที่นี่ เช่นตุ๊กตาตัวโปรด หมอนใบโปรดหรือจะฟูกตัวโปรด เหล่าแม่บ้านก็จะเก็บไว้ที่เดิมและไม่มีใครจะย้ายมันไปไหนได้
…
ซึ่งตั้งแต่อิริน่ามาที่ลาสเวกัส เธอก็มาอาศัยอยู่ในห้องคฤหาสน์ของตัวเอง
แต่มันก็รู้สึกแปลกๆ บางอย่าง...เหมือนกับว่าเธอจะกลายเป็นหนึ่งในภรรยาของฮาร์ดี้ไปแล้ว
หนึ่งในภรรยา?
อิริน่ารู้สึกแปลกมากจริงๆ
วันต่อมาแอนดี้ก็กลับไปลอสแองเจลิส เพราะมันยังมีงานมากมายสำหรับการก่อตั้ง 'ฮาร์ดี้กรุ๊ป' และตอนนี้แอนดี้ก็ยุ่งกว่าคนอื่นมาก
โดยฮาร์ดี้จะอยู่ที่เดิมเพื่อให้คำแนะนำการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนคนหรือเสบียง แค่เขาโทรศัพท์มันก็จะถูกส่งมาทันที
ในที่สุด
20 วันต่อมาการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ลาสเวกัสก็ได้เสร็จสมบูรณ์
โดยหลังจากทดลองดำเนินการมาทั้งวัน วันนี้ก็เป็นการดำเนินงานอย่างเป็นทางการ
ซึ่งการเชื่อมต่อกับเครือข่ายสัญญาณโทรทัศน์แห่งชาติ ฮาร์ดี้ได้เป็นคนกดปุ่มเปิด-ปิดด้วยตัวเอง
สถานีโทรทัศน์ลาสเวกัสได้แพร่ภาพเป็นครั้งแรกโดยมีโลโก้ขึ้นมาก่อนภาพจะเปลี่ยนไปเป็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันสวยงามของคาสิโนที่มีแสงไฟสว่างไสวและมีแสงนีออนกะพริบอยู่ทุกที่
กล้องแพนเข้าไปในฮาร์ดี้โฮเทล
ฉากห้องโถงการพนันที่มีชีวิตชีวาและเสียงดังครื้นเครงก็ปรากฏออกมา พร้อมกับรอยยิ้มของคนที่ชนะเงินรางวัล
ในเวลานี้เสียงพากย์ก็ดังขึ้น "ลาสเวกัสคือเมืองหลวงแห่งความบันเทิง เมืองนี้ไม่มีการหลับใหล และยินดีต้อนรับสู่ลาสเวกัส"
จากนั้นพิธีกรโคลินก็ปรากฏตัวออกมาด้วยรอยยิ้มและพูดกับกล้องว่า "จากนี้ไปผมจะเป็นคนนำทางให้พวกคุณเห็นส่วนลึกของลาสเวกัส และพวกคุณก็อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าเราจะได้ดูอะไรในจุดแรก?"
โคลินยิ้ม
"โชว์ระบำเปลื้องผ้าดีไหม…อะไรนะ? คุณสนใจงั้นเหรอ? งั้นก็มากับผมสิ" เขาหัวเราะออกมาก่อนจะเดินนำหน้ากล้องไป
ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่รูปแบบรายการนี้ปรากฏบนโทรทัศน์ และผู้ที่ชมอยู่ก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินทางไปด้วยกันกับพวกเขา
ผ่านทางเดินสีชมพูจนถึงห้องโถงที่ขณะนี้มีผู้คนหลายสิบคนนั่งล้อมหน้าเวที พร้อมกับที่เสียงดนตรีดังขึ้นก่อนนักเต้นสาวสวยที่นุ่งน้อยห่มน้อยจะค่อยๆ เดินขึ้นไปบนเวทีและอวดเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบของผู้หญิง...
แน่นอน
หญิงสาวเหล่านี้สวมอะไรบางอย่างอยู่ แต่มันก็เปิดเผยเล็กน้อยให้อยู่ในขอบเขตของการออกอากาศทางโทรทัศน์
โคลินหยิบโบรชัวร์ออกมาจากชั้นวางข้างๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณได้อ่านใบโบรชัวร์นี้เหรอยัง? มันมีรูปถ่ายของนักเต้นทุกคนอยู่บนนั้นและยังมีส่วนสูง น้ำหนัก ชื่อของพวกเธอให้พร้อม โดยคนที่เต้นอยู่บนเวทีตอนนี้ก็คือเจนนี่ ดอกไม้แห่งรัตติกาลของลาสเวกัส"
พูดจบกล้องก็หันไปที่เวทีอีกครั้ง
หลังจากดูสาวๆ อยู่สักพักโคลินก็มองไปที่นาฬิกา ก่อนจะพูดอย่างกระวนกระวายว่า "อ่า! ใกล้จะได้เวลาจับสลากแล้ว ผมต้องรีบไปลงพนันให้ทัน เพราะถ้าผมชนะผมก็จะรวยแน่ๆ"
กล้องตามโคลินไปที่ห้องโถงคาสิโน ซึ่งมีจุดเดิมพันตั้งอยู่ที่นี่
เขาเข้าไปแลกตั๋วชิงโชคโดยใช้เงินแค่ 2 ดอลลาร์หรือเขาจะใช้ชิปที่มีมูลค่าสองดอลลาร์ก็ได้...
โคลินยัดตั๋วชิงโชคเข้าไปในกล่องกระจกใสขนาดใหญ่
จากนั้นเขาก็พูดกับกล้องว่า
"คุณอยากรู้ไหมว่าเกมนี้เล่นยังไง? ผมจะบอกคุณเองก่อนที่เวลาการจับสลากจะเริ่ม"
จากนั้นโคลินก็เริ่มแนะนำกฎการเล่นลอตเตอรี่คาสิโนให้กับผู้ชม
โดยมันก็แค่เดินเข้ามาซื้อหมายเลขเพื่อเดิมพันและนั่งรอจับฉลากทุกๆ 2 ชั่วโมง และถ้าชนะก็ได้รับเงินไปทันที
สิบนาทีต่อมาการจับสลากก็เริ่มขึ้น ตั๋วลอตเตอรี่ม้วนอยู่ในกล่องแก้วใบใหญ่ ในที่สุดบางส่วนก็ถูกดูดขึ้นไปและจะเข้าสู่รอบต่อไปนั่นก็คือการเลือกมาหนึ่งอัน
ซึ่งขณะนี้ก็มีผู้คนหลายร้อยคนมารวมกันเกมลอตเตอรี่ และพวกเขาก็กำลังเฝ้ารอการจับสลากอยู่
พิธีกรมองไปที่หมายเลขและตะโกนใส่ไมโครโฟนว่า "ขอแสดงความยินดีกับลูกค้าคนนี้ เขาจะได้รับเงินรางวัลไปถึง 9,880 ดอลลาร์ หมายเลขก็คือ..."
ทันใดนั้นเสียงกลองก็ดังขึ้น บรรยากาศรอบๆ ก็ดูตื่นเต้นขึ้นไปอีก
"ผู้ได้รับรางวัลคือหมายเลข 579 ครับ!"
เวลานี้ชายวัยกลางคนในฝูงชนก็กระโดดไปมาและตะโกนอย่างตื่นเต้น "อ้า! ฉันได้รับรางวัล! ฉันได้รับรางวัล!"
ขณะที่เขาตะโกน เขาก็วิ่งขึ้นเวทีไปด้วย
"คุณมีหมายเลข 579 ใช่ไหม?"
"ใช่ๆ ผมมี ผมมี!" ขณะที่พูดอยู่เขาก็ยื่นลอตเตอรี่ไปข้างหน้า
และหลังจากตรวจสอบแล้วพิธีกรก็ยิ้มออกมา พร้อมกับพูดแสดงความยินดีว่า "ยินดีด้วยที่ได้รับรางวัลใหญ่นะครับ"
เขาพูดอยู่ไม่กี่คำก่อนจะมอบเงินให้ชายวัยกลางคน
"เงินรางวัลก่อนนี้เราได้ทำการหักภาษีและค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเงินก้อนที่เหลือนี้จะเป็นของคุณทั้งหมด" พิธีกรยิ้ม
เมื่อชายวัยกลางคนได้รับเงินมาอยู่ในมือ เขาก็น้ำตาไหลออกมาทันที
"ตอนนี้ฉันกำลังตกงาน และไม่ได้งานใหม่มา 2 เดือนแล้ว ฉันไม่มีภรรยาและบ้านเป็นของตัวเอง แถมยังมีเงินติดตัวแค่ 20 ดอลลาร์ และก็ได้เห็นโฆษณาว่าที่นี่เป็นสถานที่สร้างปาฏิหาริย์ ฉันก็เลยขึ้นรถบัสมาที่นี่"
"ตอนแรกฉันคิดว่าถ้าฉันเสียเงินทั้งหมด ฉันจะหาที่ฆ่าตัวตาย ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเงินมาเลย"
เมื่อพูดจบเขาก็มองไปที่กองเงินในมือและพูดอีกครั้งด้วยเสียงสะอื้นว่า "ในที่สุดเทพีแห่งโชคก็เข้าข้างฉัน…มันต้องขอบคุณเธอจริงๆ ที่ให้โอกาสเกิดใหม่กับฉันอีก"
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก พิธีกรหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วถามว่า "คุณจะทำอะไรหลังจากได้เงินรางวัลไปแล้วครับ?"
"ความฝันของฉันคือการเป็นเกษตรกร ฉันวางแผนที่จะใช้เงินซื้อฟาร์มขนาดเล็ก ทำอาหาร ปลูกผัก เลี้ยงวัว เลี้ยงแกะอยู่ที่นั่น ซึ่งมันเป็นชีวิตที่ฉันปรารถนามานานแล้ว"
พิธีกรยิ้มและก็ตบไหล่ของชายวัยกลางคน "ยินดีด้วยนะครับ ด้วยเงินในมือของคุณ มันน่าจะซื้อฟาร์มขนาด 200 เอเคอร์ได้เลย"
ฮาร์ดี้มองไปที่ฉากที่ฉายอยู่และก็หันไปมองอิริน่าพร้อมกับพูดว่า "มันไม่ดูเกินจริงไปหน่อยเหรอ? ที่เขาแสดงออกขนาดนี้"
อิริน่าหัวเราะเบาๆ "บอสนี่ไม่ใช่นักแสดงแต่เป็นลูกค้าจริงๆ ซึ่งเราได้บันทึกชื่อกับข้อมูลการติดต่อของเขาไว้แล้ว โดยเราจะกลับไปเยี่ยมในอีกไม่กี่วันนี้ เพื่อไปดูฟาร์มของเขาและเก็บภาพผลลัพธ์กลับมา"
ฮาร์ดี้ไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นลูกค้า มันทำให้เขาประหลาดใจอยู่เหมือนกัน
แต่ที่อิริน่าพูดว่าจะกลับไปเยี่ยมชมฟาร์ม ฮาร์ดี้ก็คิดว่าเป็นความคิดที่ดีมาก
เพราะมันคือการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของคนคนหนึ่ง ซึ่งมันจะให้การประชาสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับคาสิโน
ฮาร์ดี้มองไปที่อิริน่าด้วยความชื่นชม
การจับสลากสิ้นสุดลงแล้ว
โคลินยังคงแนะนำกล้องต่อไปว่า "นี่คือการจับสลากของเกมลอตเตอรี่ที่ฮาร์ดี้โฮเทล มันน่าสนใจดีใช่ไหมครับ? ผมยินดีต้อนรับทุกคนที่จะมาเล่นที่ฮาร์ดี้โฮเทล เพราะคุณก็อาจจะเป็นคนโชคดีคนนั้นด้วย"
"ตอนนี้เราไปกันต่อเถอะ ยังมีสถานีที่สนุกๆ อีกเพียบที่รอเราอยู่"
รายการยังดำเนินต่อไป
ฮาร์ดี้พยักหน้าและคิดว่ามันค่อนข้างดี
ซึ่งโคลินเฟิร์ธคนนี้ก็มีพรสวรรค์จริงๆ เขานั้นเหมาะกับรายการโทรทัศน์ที่ผ่อนคลายแบบนี้มาก
"นี่เป็นรายการทั้งหมดที่บันทึกไว้เมื่อสองสามวันก่อน และบอสเมื่อเราบันทึกรายการอันต่อไป ฉันคิดว่าเราสามารถแนะนำบริษัทรับเดิมพันลอตเตอรี่เข้าไปได้" อิริน่ากล่าว
ฮาร์ดี้โบกมือ
"ไม่ อย่าแนะนำมันบนโทรทัศน์ เพราะสถานีโทรทัศน์เป็นของเรา ถ้าเราแนะนำมันตรงๆ พวกเขาก็จะคิดว่ามันเป็นธุรกิจของเรา มันจะกลายเป็นหลักฐานชั้นดี ตอนนี้ฉันสั่งให้บิลปล่อยโฆษณาไปตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ แล้ว ถึงแม้มันจะมีปัญหา คาสิโนก็จะลอยตัวและถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับคาสิโน"
อิริน่ามองไปที่ฮาร์ดี้และเธอก็คิดว่าบอสมีไหวพริบมากจริงๆ