บทที่ 18 โรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหาร
บทที่ 18 โรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหาร
"เทศกาลฉวนเหอ?"
ลู่อวิ๋นมองไปยังเก่อหลงตรงหน้า ความสงสัยฉายชัดในดวงตาของเขา ลู่อวิ๋นหันไปมองยู่หยิง ยู่หยิงมีใบหน้าว่างเปล่าเช่นเดียวกัน
"ว่านเฟิง เจ้ารู้จักเทศกาลฉวนเหอด้วยหรือไม่?"
ลู่อวิ๋นถามว่านเฟิงอีกครั้ง
“บ่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ว่านเฟิงส่ายหน้าของนางด้วย
"นายท่าน เทศกาลฉวนเหอเริ่มต้นเมื่อพันปีก่อน หลังจากนั้นทุกๆ หนึ่งร้อยปี เจ้าเมืองของเมืองใหญ่และเล็กหนึ่งพันเมืองของเฉวียนโจวจะไปที่แม่น้ำฉวนเหอ เพื่อสังเวยเทพเจ้าแม่น้ำ”
เก่อหลงอธิบาย "หนึ่งเดือนต่อจากนี้ จะเป็นช่วงเวลาครบหนึ่งร้อยปีนี้… ดังนั้นนายท่านจึงต้องไปที่ริมฝั่งแม่น้ำฉวนเหอใน 'เทศมณฑล(1)ฉวนสุ่ย' ในหนึ่งเดือน เพื่อที่จะสังเวยเทพเจ้าแม่น้ำ"
ลู่อวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าของเขาก็ค่อยคลายออก
"อย่างนั้นนั่นเอง… ก็ว่าทำไมพวกนั้นจึงเงียบ และไม่มายุ่งกับข้าเลย กลับกลายเป็นว่ารอข้าอยู่ที่ตรงนี้!”
ลู่อวิ๋นเข้าใจในทันที
ภายในเมืองเฉวียนโจว มีค่ายกลมังกรเก้าพิทักษ์ ถึงแม้ว่าเซียนจะมาเอง ก็จะยังถูกลู่อวิ๋นบดขยี้ แต่ถ้าออกนอกเมืองเฉวียนโจว จนสูญเสียการป้องกันจากค่ายกลมังกรเก้าพิทักษ์ ลู่อวิ๋นก็จะตกอยู่ในภาวะวิกฤตเช่นกัน
"เมื่อหนึ่งพันสองร้อยปีก่อน ไม่มีสิ่งที่เป็นเทศกาลฉวนเหอ"
ยู่หยิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "แม่น้ำฉวนเหอมีต้นกำเนิดมาจากสุสานเซียนโบราณในเฉวียนโจว ไหลเข้าสู่ทะเลเหนือ… ไม่เคยได้ยินว่ามีเทพเจ้าแม่น้ำใดๆ ในแม่น้ำฉวนเหอ "
"ในเมื่อเป็นเทศกาลครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็ต้องมีการสังเวย จะต้องสังเวยอะไร"
ยู่หยิงมองไปที่เก่อหลงแล้วถาม
"สิ่งที่ใช้สังเวยก็คือ… คนที่มีชีวิต"
เก่อหลงถอนหายใจ "เมื่อพันปีก่อน สุสานเซียนโบราณเกิดจลาจล วิญญาณหยินนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานออกจากสุสานเซียนโบราณ เข้าสู่แม่น้ำฉวนเหอตรงไปทะเลเหนือ ทำลาย’ด่านประตูน้ำ’ บนเส้นทางไปยังทะเลเหนือตลอดเส้นทาง ทหารสวรรค์เต่าดำที่ประจำการอยู่ในด่านประตูน้ำในตอนนั้นเสียชีวิตและบาดเจ็บจนหมดสิ้น"
"เผ่าพันธุ์ปีศาจผนึกกำลังกันกับวิญญาณหยินของสุสานเซียนโบราณ ทำให้เกิดความหายนะในเฉวียนโจว"
"ราชสำนักแดนสวรรค์หลางเสี๋ยไม่สนใจหรือ?”
ลู่อวิ๋นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เก่อหลงส่ายหน้าเล็กน้อย "ว่ากันว่า ราชสำนักแดนสวรรค์หลางเสี๋ยส่งเซียนทองคำสามสิบหกคนไปเพื่อกำราบความวุ่นวายนี้ ผลที่ตามมาคือมีวัตถุสังหารพุ่งออกจากสุสานเซียนโบราณ กัดกินเซียนทองคำทั้งหมดสามสิบหกคน ต่อมา เทพเจ้าแม่น้ำแม่น้ำฉวนเหอก็ปรากฏตัวขึ้น ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ได้ผนึกสุสานเซียนโบราณด้วยผนึกอันยิ่งใหญ่ที่สุด เอาชนะเผ่าพันธุ์ปีศาจทะเลเหนือ และได้รับการบันทึกไว้ในเฉวียนโจว”
ยู่หยิงเงียบ
ลู่อวิ๋นก็ไม่พูดอะไรเหมือนกัน
เหตุการณ์นี้แปลกมาก… เซียนทองคำของราชสำนักแดนสวรรค์หลางเสี๋ยถูกกินโดยสิ่งชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ แต่เทพเจ้าแม่น้ำที่โผล่ออกมาโดยไม่คาดคิดกลับสามารถระงับความวุ่นวายได้
"ผนึกสุสานเซียนโบราณ หลังจากเอาชนะเผ่าพันธุ์ปีศาจทะเลเหนือ เทพเจ้าแม่น้ำของแม่น้ำฉวนเหอก็สิ้นใจจากการหมดสิ้นเรี่ยวแรงเช่นกัน ก่อนที่เทพเจ้าแม่น้ำจะสิ้นใจ ได้ทิ้งวิธีการสังเวยสิ่งมีชีวิตเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับผนึก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเทศกาลฉวนเหอก็ได้รับการสืบต่อกันมาในเฉวียนโจว มีการสังเวยทุกๆ หนึ่งร้อยปี"
เก่อหลงกล่าวต่อ
"เทพเจ้าแม่น้ำนั้นไม่ใช่ผู้มีเจตนาดีเช่นกัน"
ลู่อวิ๋นเม้มริมฝีปาก
"สุสานเซียนโบราณที่เหนือกว่าระดับจักรพรรดิถูกผนึกงั้นหรือ?"
ยู่หยิงถามพร้อมขมวดคิ้ว
"ไม่ เฉพาะช่องที่นำไปสู่แม่น้ำฉวนเหอเท่านั้นที่ถูกปิดผนึก และนานๆ ครั้ง สุสานเซียนโบราณนั้นก็จะยังคงสร้างความโกลาหลอยู่”
เก่อหลงส่ายหน้า
"ไม่น่าแปลกใจที่กองทัพเต่าดำของตอนนี้ถึงอ่อนแอ ปรากฏว่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนกองทัพเต่าดำถูกสังหารโดยวิญญาณหยินและเผ่าพันธุ์ปีศาจทะเลเหนือ”
ยู่หยิงพูดพึมพำ
"เก่อหลง เจ้าคงไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น ใช่ไหม"
ลู่อวิ๋นเบี่ยงเบนหัวข้อการสนทนา
"แค่กๆๆ!"
เก่อหลงไอ จากนั้นเขาก็พูดว่า "นายท่าน ผู้นำตระกูลเก่อถูกพรากไป คนอื่นมองไม่เห็น แต่บ่าวเฒ่าในฐานะบ่าวรับใช้ของนายท่านสามารถมองเห็นความผิดปกของผู้นำตระกูลเก่อได้อย่างรวดเร็ว"
"เขาถูกลักพาตัวไปงั้นหรือ"
ลู่อวิ๋นและยู่หยิงมองหน้ากัน
"ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกชายของเขาเสียชีวิตในคืนนั้น แต่เขาไม่แม้แต่จะแสดงตัว"
"นายท่าน อันที่จริงแล้วบ่าวเฒ่ามาคราครั้งนี้ก็เพราะว่าได้รับคำสั่งให้ฆ่านายท่านขอรับ บ่าวเฒ่าได้รับการป้อนยาพิษจากผู้นำตระกูลเก่อคนปัจจุบัน ถ้าข้าไม่มาสังหารท่าน บ่าวเฒ่าคนนี้ก็จะต้องถูกพิษจนตาย”
เก่อหลงยิ้มอย่างขื่นขม
นี่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการส่งเก่อหลงไปตาย ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว เก่อหลงต้องตายอย่างแน่นอน หลังจากการตายของเก่อหลงแล้ว ตระกูลเก่อจะมีอะไรที่อยู่เบื้องหลังบ้างนั้น ลู่อวิ๋นย่อมไม่สามารถรับรู้
"เจ้ายังกลัวตายอีกหรือ"
ลู่อวิ๋นตบเก่อหลงอย่างไม่ใส่ใจ
หลุนๆ !
ศีรษะของเขาหลุดลงมาจากคอ
"เมื่อตอนที่เจ้าไร้หัว เจ้าก็ยังไม่ตาย เจ้ายังจะกลัวแค่ยาพิษอยู่อีกหรือ?"
ลู่อวิ๋นยกมุมปากขึ้น
เก่อหลงหยิบเอาศีรษะกลับมาวางไว้บนคอ แล้วยืนอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าพูด ยาพิษไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยจริงๆ
"เอาล่ะ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร ดังนั้นเจ้าก็เพียงอยู่กับข้า"
ลู่อวิ๋นกล่าวว่า "อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ายังกล้าที่จะมีความคิดอะไรกับว่านเฟิง ข้าจะสังหารเจ้า"
"มิกล้ามิกล้า!"
เก่อหลงสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว รีบส่ายหน้าของเขา
หลุนๆ !
เพราะใช้แรงมากเกินไป ศีรษะของเขาจึงหลุดออกมาอีกครั้ง
ว่านเฟิงมึนงงอยู่ตรงนั้น
"เจ้านาย เทศกาลฉวนเหอนี่… "
คิ้วของยู่หยิงขมวดมุ่น
"ไม่เป็นไร ทหารมาชักอาวุธสู้(2)“
ลู่อวิ๋นยิ้ม "อย่างแย่ที่สุด พ่อคนนี้ก็ออกนอกเมืองไปพร้อมกองทัพเต่าดำ"
มือของเขานั้นกำลังเล่นกับโอสถทองเก้าทวารที่ส่งมาโดยต้นตระกูลลู่
โอสถทองเก้าทวารนี้ได้รับการตรวจสอบจากยู่หยิง… และมีอาคมหุ่นกระบอกวางไว้บนนั้น หากลู่อวิ๋นกลืนยาเม็ดนี้เข้าไป จะถูกควบคุมทันที ตกอยู่ในความเมตตาของผู้ที่ใช้อาคมหุ่นกระบอก
สำหรับยานั้น… ยู่หยิงก็มียาด้วย
ทรัพย์สินทั้งหมดของยู่หยิง ถูกปิดผนึกในภาพทิวทัศน์การปรุงยา ภาพทิวทัศน์การปรุงยาเป็นสิ่งประดิษฐ์เซียนที่ทรงอำนาจ ยาอายุวัฒนะและวัตถุดิบเซียนถูกผนึกอยู่ในนั้น แม้หลังจากผ่านไปพันปี ยังคงเหมือนเดิม
"ว่าแต่ ยู่หยิง เช่นเดียวกับว่านเฟิง เรียกข้าว่าคุณชาย นายน้อยหรืออะไรก็ได้ อย่าเรียกข้าว่าเจ้านาย”
แม้ว่าเขาจะชอบให้เซียนเรียกตัวเองว่าเจ้านายมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ลู่อวิ๋นก็รู้สึกอึดอัดอยู่บ้างเช่นเดียวกัน
"… เจ้าค่ะ คุณชาย"
แววตาแปลกๆ วาบผ่านดวงตาของยู่หยิง
…
เมื่อต้นตระกูลลู่ส่งโอสถทองเก้าทวารมา ลู่อวิ๋นก็สามารถฝึกฝนได้อย่างโจ่งแจ้งเช่นกัน ถึงกับมีการประโคมข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง
ในมือของยู่หยิง ยาครอบจักรวาล โอสถวิญญาณต่างๆ แทบไม่มีหมด ระดับพลังยุทธ์ของลู่อวิ๋นก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
เพียงครึ่งเดือน เขาก็ได้ก้าวไปตั้งแต่ระดับก่อปราณเริ่มแรกสุดจนไปถึงจุดสูงสุดของระดับก่อปราณ
ห่างจากระดับหลอมปราณเพียงครึ่งก้าว
แม้ว่าจะเป็นระดับพลังยุทธ์ที่มาจากการใช้ยาก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติกับลู่อวิ๋น
มหาคัมภีร์เป็นตายในร่างกายของเขา แปลงพลังของยาทั้งหมดให้กลายเป็นปราณแท้ เหมือนกับลู่อวิ๋นฝึกฝนขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง
ยู่หยิงยังหลอมสร้างโอสถทองเก้าทวาร ให้ลู่อวิ๋นเปลี่ยนร่างกายของตนเอง เส้นชีพจรที่เคยเรียวและอ่อนแอแต่เดิมนั้นก็ขยายกว้างขึ้นเช่นกัน ภายใต้ฤทธิ์ยาอันรุนแรงเหล่านั้น ร่างของลู่อวิ๋นที่ถูกรุกรานโดยปราณหยินมาเป็นเวลานาน ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
อย่างน้อยความสามารถของผู้ชายก็กลับคืนมา
…
"ด้วยการกลืนยาเม็ดนี้ ข้าก็สามารถไปที่ระดับหลอมปราณ"
"เมื่อเข้าสู่ระดับหลอมปราณ ข้าก็จะได้รับอาคมเป็นตาย และรับทูตแห่งสังสารวัฏได้อีก"
ด้วยการรับทูตแห่งสังสารวัฏคนใหม่ ลู่อวิ๋นก็จะสามารถเข้าถึงประสบการณ์และความรู้ทั้งหมดของทูตแห่งสังสารวัฏ
ยู่หยิงเป็นผู้ปรุงยาอันดับต้นๆ ตามทฤษฎีแล้วลู่อวิ๋นตอนนี้ ก็จะเป็นผู้ปรุงยาอันดับต้นๆ ด้วย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้สนใจปรุงยามากนัก
เป้าหมายต่อไปของลู่อวิ๋น ก็คือการเป็นผู้เชี่ยวชาญค่ายกลชั้นนำ รับประสบการณ์และความรู้เต็มรูปแบบของผู้เชี่ยวชาญค่ายกล ซึ่งลู่อวิ๋นก็จะสามารถยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างฮวงจุ้ยกับค่ายกลได้ดียิ่งขึ้น
ยาอายุวัฒนะสีทองอ่อน กลายเป็นกระแสปราณและรวมเข้ากับร่างกายของลู่อวิ๋น
บูม—----
ร่างกายของลู่อวิ๋นสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้นระดับพลังยุทธ์ของเขาก็ทะลวงผ่านระดับ
ระดับหลอมปราณ
"อาคมเป็นตาย… โรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหารงั้นหรือ?"
ทันใดนั้น ลู่อวิ๋นก็ลืมตา สีหน้าของเขาตกตะลึงเล็กน้อย
"ไม่ใช่ว่านี่เป็นกลอุบายของคนหลอกลวงพวกนั้นบนโลกหรอกหรือ มีโรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหารจริงๆ งั้นหรือ?"
อาคมเป็นตาย โรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหาร
อัญเชิญเทพหยินจากสวรรค์มาสถิตในถั่วเหลือง จุติเป็นทหารเทพเกราะทองคำ
ทหารเทพเกราะทองคำมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับผู้อัญเชิญ ทหารเทพเกราะทองคำแต่ละคนอยู่ได้สองชั่วโมง สามารถอัญเชิญในเวลาเดียวกันได้สูงสุดสามสิบหกทหารเทพเกราะทองคำ
“นี่…”
ลู่อวิ๋นพูดกับตัวเองอย่างโง่งม "ถ้าข้ากลายเป็นจักรพรรดิเซียนในตำนาน จะเป็นไปได้ไหมที่จะอัญเชิญสามสิบหกจักรพรรดิเซียนออกมา?"
โรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหารนี้ มันฝ่าฝีนฟ้าดินยิ่งกว่าดินแดนหยินหยาง
—------------------------------------------
(1) ระบบการปกครองของจีน จากขนาดใหญ่ไปเล็ก มณฑล เทศมณฑล/นคร จังหวัด อำเภอ
(2) 兵来将挡 ทหารมาชักอาวุธสู้ สำนวน มาจากคำเต็ม 兵来将挡,水来土掩 หหารมาชักอาวุธสู้ น้ำมาก่อทำนบกั้น มีความหมายว่า ใช้มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์จริงในขณะนั้น