ตอนที่ 96 ของขวัญ (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 96 ของขวัญ
พวกเขามาถึงส่วนใต้ดินของปราสาทอีกครั้ง
“โอเค หลับตาก่อนฮะ” เขาบอกพ่อแม่ของเขา
พวกเขาต้องยอมหลับตาเพราะเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของลูกชาย หลังจากนั้น แม็กนัส ก็เดินไปข้างหน้าและเปิดห้องคลังสมบัติ ทันใดนั้นบรรดาทองคำและอัญมณีทั้งหมดก็ส่องประกายระยิบระยับตา แม็กนัสรู้สึกเกร็งในร่างกายทุกครั้งที่เห็นว่าเขารวยแค่ไหน มันบ้ามาก
“โอเค ลืมตาได้แล้วฮะ” เขาเอ่ย
และแล้ว ก็เป็นไปตามที่แม็กนัสคาดไว้ เกรซสูญเสียการทรงตัว อดัมไวพอที่จะคว้าจับเธอไว้ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะซีดขาวด้วยความตกใจก็ตาม
"อะ-อะ... ท-ทั้งหมดนี้เป็นของลูกเหรอ?" เกรซถามในขณะที่ตะกุกตะกัก
แม็กนัส ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "ใช่ฮะ ผมมีห้องนิรภัยอีกสองห้องซึ่งมีความมั่งคั่งรวมกันก็ใกล้เคียงกับที่นี่ แต่ที่นั่นยังมีหนังสือและอาวุธล้ำค่าด้วย ดังนั้นผมจึงชอบของที่โน่นมากกว่า"
จากนั้น แม็กนัสก็หยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขา “แม่จ๋า อันนี้ของขวัญจากผมฮะ”
เกรซเปิดกล่องอย่างสับสนและพบแหวน มันกลายเป็นแหวนเพชร ไม่ใช่แค่เพชรธรรมดา แต่เป็นเพชรสีแดงสดที่มีกระรัตผิวใส มีเพียงประมาณ 20 เม็ดในโลกเท่านั้น และไม่มีอันไหนกระจ่างใสเท่าแหวนวงนี้ แหวนวงนี้คงทำเงินได้หลายล้านปอนด์หากถูกประมูล
"นี่สำหรับแม่จ๋าที่ดีที่สุดในโลก มันคือเพชรสีแดง หายากมาก จะดีกว่าถ้าแม่จะบอกคนอื่นว่ามันเป็นแค่พลอยทับทิม อย่ากังวลกับราคาของมันนะฮะ ผมมีไม่รู้ตั้งกี่ร้อยชิ้นในห้องคลังสมบัตินี้ แต่ผมไม่รู้จำนวนมันในห้องนิรภัยกริงกอตส์เลย" แม็กนัสเปิดเผย
“ข-ข้างนอกราคาเท่าไหร่กันจ๊ะ?” เธอถาม
“อืม ประมาณสองสามล้านมั้งฮะ” แม็กนัสตอบ
สิ่งนี้ทำให้เกรซเริ่มสั่นในขณะที่ถือมันไว้ในมือ
"ฮ่าๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายนะฮะแม่ เพียงแค่สวมมันไว้ก็เหมือนแม่เป็นราชินีซึ่งเหมือนกับที่แม่เป็นอยู่ ตอนนี้สำหรับพ่อ ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบพวกเครื่องประดับมากนัก ผมเลยขอให้ก็อบลินทำบางอย่างให้ อย่างที่พ่อก็ทราบจากหนังสือนิทาน ก็อบลินคือช่างตีเหล็กที่เก่งที่สุด ดังนั้น พวกเขาจึงสร้างปืนพกกระบอกใหม่นี้ขึ้นมาเพื่อพ่อโดยเฉพาะ มันดูเหมือนกับปืนพกทั่วไป แต่มีเวทย์มนตร์อยู่ในนั้นฮะ
ความสามารถเบื้องต้นคือมีความทนทานสูง แล้วก็ความสามารถหลักๆ ของมันคือสามารถยิงกระสุนได้ทุกรูปแบบ ตราบใดที่มันไม่ใช่กระสุนไรเฟิลซุ่มยิง เพราะกระสุนสามารถทำให้ตัวมันเล็กลงหรือใหญ่ขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมมันสามารถลบล้างแรงถีบกลับด้วย เพิ่มความแม่นยำต่อเป้าหมาย" แม็กนัส เปิดเผยปืนพกที่มีตัวกระบอกสีดำและด้ามจับสีเงิน มันมีอักษรรูนที่ซ่อนอยู่และคาถาวิเศษของก็อบลินและอื่นๆ
อดัมชอบมันมากแล้วอยากลองยิงอย่างตื่นเต้น แน่นอนว่าตอนนี้มันไม่มีกระสุน
จากนั้น สายตาของแม็กนัสก็หันไปที่รักนาร์ที่ดูตื่นเต้นอย่างที่สุด *เฮ้อ* "ใช่ ฉันซื้อหม้อปรุงยาให้นาย"
“ใช่ นายเป็นพี่ชายที่เยี่ยมที่สุด” รักนาร์กระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น
แม็กนัสกลอกตาและเดินเข้าไปลึกเข้าไปในห้องคลังสมบัติในขณะที่พวกเขากำลังง่วนอยู่กับของขวัญวันคริสต์มาส
ห้องคลังสมบัติได้รับการจัดระเบียบมากขึ้นในขณะนี้เนื่องจาก มาร์ธาได้เข้ามาทำงานในนี้เต็มตัวแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างคัดถูกแยกออกจากกัน แม็กนัสไปที่แผนกเครื่องเพชรอัญมนีและหยิบเพชรสีน้ำเงินใสขนาดเท่ากำปั้น มันเป็นเพชรประเภทที่หายากเป็นอันดับสอง แม็กนัสตัดสินใจไม่ขายเพชรสีแดงเพราะมันมีค่าเกินไปและจะดูดีกว่าในมงกุฎของเขา
หลังจากนั้น เขาก็หยิบเหรียญทองสมัยศตวรรษที่ 10 ขึ้นมา มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ จากนั้น เขาก็หยิบดาบที่ไม่ได้ร่ายมนตร์ขึ้นมาแบบสุ่ม มันยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และด้ามชุบทองก็ยังดูสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นของใครแต่มันคงสำคัญ แล้วอาเธอร์อาจไม่เคยจดจำเกี่ยวกับศัตรูของเขาเลยเมื่อได้เอาชนะพวกมันได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงโยนสิ่งของทั้งหมดที่เขาชนะไปในห้องพระคลังของเขา
ทีนี้เขาก็ทำภารกิจสำเร็จแล้ว เขาพาพ่อแม่กลับไปที่ปราสาทหลักเพื่อทานอาหารเย็น ไม่มีอะไรให้ทำมากมายเมื่อคุณรู้ว่าซานต้าไม่มีจริงและของขวัญก็ได้รับไปแล้ว ในทางเทคนิค เวลาที่จะให้ของขวัญคือวันถัดไป แต่แม็กนัสจัดการมันในให้เสร็จในคืนนี้เลย
หลังจากนั้น แม็กนัสก็พาพ่อแม่ไปนอนในที่ที่เขาชอบที่สุด บนระเบียงที่สูงที่สุด ใต้ท้องฟ้าเปิดกว้าง แม็กนัสสร้างเตียงขนาดใหญ่ให้ตัวเอง ขณะที่พวกเขานอนลง พวกเขาก็เริ่มคุยกัน เขายังชวนคุณยายมาร์ธาให้เข้าร่วมด้วย
“ลูกวางแผนจะทำอะไรหลังเรียนจบจ๊ะ แม็กนัส?” เกรซถาม
แม็กนัสนอนอยู่ตรงกลางระหว่างอดัมและเกรซ รักนาร์อยู่อีกด้านหนึ่งของเกรซ เคียงข้างกับมาร์ธา
"อืมม... ผมจะเป็นพระราชาฮะ ดังนั้นผมจะพยายามทำให้ประเทศนี้ดีที่สุดในทุกด้าน แต่ในฐานะผู้สืบทอดของเมอร์ลิน ผมมีความรับผิดชอบที่ใหญ่กว่าในการรวมพ่อมดแม่มดให้เป็นหนึ่งเดียวและยุติการเลือกปฏิบัติจากโลกใบนี้ ผมแค่ต้องการทำให้โลกใบนี้น่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต" แม็กนัสเปิดเผย
“นั่นมีเรื่องที่ต้องทำมากมายเกินไปสำหรับเด็กหนุ่มอย่างลูกนะ” อดัมกล่าว
"ฮิฮิ... ก็พวกเราเป็นพ่อมดนี่ฮะมีอายุยืนยาวมาก ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาในการบรรลุความฝันนี้" แม็กนัสตอบโต้
"พวกเขามีชีวิตอยู่นานแค่ไหนหรอจ๊ะ?" เกรซถาม
“ก็คนปกติก็มีอายุถึง 150-200 ปีแน่นอนฮะ แล้วก็มีพวกบ้าๆ สองสามคนที่ใช้วิธีพิเศษเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ 600-700 ปี” แม็กนัสกล่าว
*ผิวปาก*
"พ่อมดช่างโชคดี คนธรรมดาอย่างเราๆ อายุไม่ถึง 90 ร๊อก” อดัมพูดติดตลก
เมื่อได้ยินเขา แม็กนัสรู้สึกเศร้าใจ เขาจับมือของเกรซและอดัม “ไม่ต้องกังวลฮะ พ่อกับแม่จะไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป พ่อแม่จะมีชีวิตอยู่อีกหลายร้อยปี”
"โอเคที่รัก เราจะรอให้การรักษาของลูกต้องไม่แก่ก่อนวัยนะจ๊ะ อืม... แล้วเธอล่ะจ๊ะรักนาร์? หลังเรียนจบอยากทำอะไรหรอจ๊ะ?” เธอถาม
รักนาร์มองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มอย่างผ่อนคลาย แขนทั้งสองของเขาสอดอยู่ใต้ศีรษะ
"ผ... ผมจะเป็นนักปรุงยาและช่างอักษรรูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เวทมนตร์ฮะ แน่นอนว่าหลังจากที่ผมล้างแค้นสำเร็จแล้ว” รักนาร์ตอบ
“ล้างแค้นหรอจ๊ะ? เธอหมายความไง?” เกรซถาม
"อาฮ่าฮ่า... เขากำลังพูดถึงส้มฮะ เขาอยากทำกล้วยไม้..." แม็กนัสพูดแทรกอย่างงุ่มง่าม
*ถอนหายใจ*
“ไม่เป็นไรหรอก แม็กนัส” รักนาร์พูดขึ้น จากนั้นในที่สุดเขาก็เล่าเรื่องของเขาเองแบบไม่ใช่บุคคลที่สาม แต่เป็นตัวเขาเอง รักนาร์คิดว่าถ้าเขาอยากจะอยู่กับพวกเขา ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องปิดบังเรื่องแบบนี้
ในตอนท้าย นัยน์ตาของรักนาร์มีหยาดน้ำ “แม่จ๋าผมเคยเล่าเรื่องราวของอัศวินและพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อย่างกษัตริย์อาเธอร์และเมอร์ลินให้ผมฟัง ผมเลยอยากเป็นอัศวินตัวน้อยของเธอ แต่พวกเขาพรากเธอไปจากผมก่อนที่ผมจะฝึกสำเร็จ”
เกรซก็มีน้ำตาคลอเบ้าเช่นกัน เพื่อให้รักนาร์ตัวน้อยผ่านมันไปให้ได้ มันคงเป็นเรื่องยาก เธอโอบกอดเขา จากนั้นคุณยายมาร์ธาก็ลูบใบหน้าของเขาเบาๆ จากอีกด้านหนึ่ง “เด็กน้อย คุณยายจะสอนวิชาปรุงยาจากนี้ไป ยายเก่งที่สุดเลยนะ”
*ผ่างงง*
ทันใดนั้นแม็กนัสก็กระโจนเข้าใส่พวกเขา กอดรัดรักนาร์ "และฉันจะเป็นพี่น้องของนาย และช่วยนายเอาชนะไอ้บะ... ฉันหมายถึงเด็กเลวนั่น"
รักนาร์หัวเราะเบาๆ "ขอบคุณนะฮะ ทุกคน"
"คนแปลกหน้าเท่านั้นที่กล่าวขอบคุณเพื่อนและครอบครัว นายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว รักนาร์" อดัมยังกระโดดเข้าไปใกล้และกอดรวบพวกเขาทั้งหมด
ดังนั้น พวกเขาจึงใช้เวลาคริสต์มาสอีฟอย่างดีสุขภาพแข็งแรง
...
แต่การกระทำที่ดีๆ ของแม็กนัสไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เขาส่งพัสดุคริสต์มาสพิเศษไปให้บ๊อบบี้ มันวางอยู่ที่ด้านล่างของต้นคริสต์มาสของครอบครัวแล้ว ภายในมีชิป Intel 8008 ที่ยังไม่เผยแพร่ โปรเซสเซอร์ 8 บิตตัวแรกที่ผลิตโดย Intel บ๊อบบี้กำลังจะบ้าไปกับมัน
...
โค้กเวิร์ธ ประเทศอังกฤษ
ลิลลี่ เอฟเวนส์ อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกับบ้านเก่าเซอเวรัสแต่ตำแหน่งที่หมู่บ้านของเธอตั้งอยู่ในทำเลที่ดีกว่ามาก เนื่องจากพื้นที่ของเธอมีผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ที่นั่น เมื่อเทียบกับที่ที่เซเวอรัสเคยอาศัยอยู่ สถานที่นั้นจึงถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเป็นวันคริสต์มาสอีฟ เซเวอรัสกำลังฉลองกับแม่ของเขา นับเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านหลังใหม่อย่างเป็นทางการ มันใหญ่กว่าบ้านที่สุดตรอกช่างปั่นฝ้ายมากและสะอาดกว่ามาก มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องทำอะไรนอกจากย้ายมาอาศัยอยู่ที่นั่น แม็กนัสทำให้ทุกอย่างจริงๆ
เซเวอรัสต้องการมอบของขวัญให้กับลิลี่ในฐานะเพื่อนบ้านคนใหม่ที่ค่อนข้างสนิทของเธอ แต่เขาไม่เจออะไรเลย อย่างไรก็ตาม แม่ของเขามาหาเขาและบอกเขาว่ามีคนส่งของมาส่งของให้เขาในเช้าวันนั้น
มันบอกว่า "จากพี่น้องนาย"
เขาเข้าใจทันทีว่าเป็นใคร เขาเปิดมันและพบจดหมายและกล่องเล็กๆ เขาอ่านจดหมายก่อน
"อยู่บ้านใหม่นายเป็นไงบ้างเซฟ หวังว่านายคงสบายดี อีกอย่าง ฉันรู้ว่านายตั้งหน้าตั้งตารอที่จะมอบของขวัญให้ลิลลี่ ดังนั้นฉันใช้โอกาสที่จะส่งสิ่งนี้ให้นาย ฮิฮิ... เราเป็นพี่น้องกัน ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเสมอ สุขสันต์วันคริสต์มาสแด่นายและน้านะ” เขาอ่านจดหมาย
เขาเปิดกล่องด้วยความขบขัน เพียงเพื่อจะพบสร้อยข้อมือสีทองที่มีหินสีเขียวและสีแดงในรูปของใบไม้และดอกกุหลาบ แล้วก็มีข้อความเล็กๆ น้อยๆ ว่า "
ไม่ต้องกังวลนะ มันค่อนข้างถูก ทำจากเหรียญแกลเลี่ยนกับซิกเกิ้ลผสมกัน สาบานว่าหินสีเขียวและสีแดงเป็นอัญมณีที่หาได้ทั่วไปไม่ได้มีค่ามาก หวังว่าเธอคงจะชอบมัน ไขว้นิ้วไว้แล้ว!"
เซเวอรัสยิ้มในขณะที่อ่าน จากนั้นมองไปที่สร้อยข้อมือเส้นเล็ก เขาสามารถจินตนาการได้ว่ามันดูดีกับเธอเพราะเธอมีดวงตาสีเขียวและผมสีแดงด้วย
~พรุ่งนี้เธอน่าจะมาที่ต้นไม้นั้น~ เขาเดาก็หลับไป
_____________________________
แหวนของเกรซ
สร้อยข้อมือของลิลลี่