ตอนที่แล้วตอนที่ 484 พญาหมีพิโรธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 486 เสี่ยวเอ้อกางร่ม

ตอนที่ 485 คลื่นพลังเย็น


“ถ้าอย่างนั้นข้าจะนำทัพใหญ่บุกตะลุยกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์!”

ปิงย้อนคำพูดของถังเทียน  “หึหึ อำนาจล้นฟ้าจริงๆ นะ พวกที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าเรามาจากสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาได้  ฟังนะ นี่คือการกวาดล้างโลก ใครคล้อยตามข้า.รอด  ใครขวางข้า..ตาย!”

ถังเทียนเอียงหัวฟังลุงปิงเทศนา  เขาสงบใจได้แล้ว  จากนั้นก็ตระหนักถึงความหุนหันพลันแล่นของตนเอง

“ตอนนี้มีแผนอะไร?  อา.. เราสิ้นเปลืองความพยายามไปมากมายสำหรับแผนและตอนนี้มันพังปี้ป่นไปแล้ว สิ้นเปลืองพลังงานมากมาย แต่เจ้าทำงามหน้าจริงๆ ถึงกับกำจัดลูกชาวบ้านตรงๆ! ถ้าเรารู้เร็วกว่านี้ เราคงนำกองทัพมาแล้วอย่างไรก็ตามเจ้ามันมือพิฆาตมนุษย์อยู่แล้ว ไม่ได้มีชื่อเสียงที่ดีเลย...”

ปิงพล่ามน้ำลายแตกฟองไปทั่ว   เขาโกรธและผิดหวัง

“พอทำอย่างนี้เรา แล้วเจ้าจะให้เราทำยังไง? อา..ก็แค่เรื่องเล็กและเจ้าต้องฆ่าให้เลือดนองเป็นลำธารใช่ไหม?  ถ้าเจ้าไม่พอใจ อย่างนั้นก็แค่พาคนกลับมาฆ่าพวกเขาสินะอา.. ทำไมเจ้าจะต้องสำนึกด้วยในเมื่อเจ้ารู้สึกชอบเหยียบย่ำทำลายทุกอย่าง  เขาเป็นลูกของเซียนนักสู้  เจ้าคือเจ้ากลุ่มดาว เป็นพญาหมี เฮ้ได้โปรดเถอะ ช่วยระมัดระวังสถานะของเจ้าบ้างได้ไหม?  เขาเป็นแค่มดตัวเล็กจะเหยียบเมื่อไหร่ก็ตายทุกเมื่อ ทำไมเจ้าต้องเผยทุกอย่างของเจ้าให้พวกเขาเห็นด้วย? แค่เสนอรางวัลใครก็ลอบฆ่าเขาได้ ใครจะรู้ว่าเจ้าเป็นคนฆ่าเขา?”

หน้าของถังเทียนเต็มไปด้วยความรู้สึกไร้เดียงสา  “ข้าไม่คิดจนไกลเกินไป”

หยาหยานั่งอยู่บนไหล่ซ้ายของถังเทียนมันนั่งท่าเดียวกับถังเทียน หน้าอวบใหญ่เต็มไปด้วยท่าทางไร้เดียงสา

พอเห็นทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กทำหน้าไร้เดียงสากันหมดปิงไม่รู้จะพูดยังไง

เสี่ยวเอ้อถือร่มของมันและหมุนร่มอย่างแข็งขันทุกการหมุนจะเพิ่มรังสีของสัญญาจิตวิญญาณยุทธ ในอดีตเมื่อถังเทียนใช้การลงชื่อในสัญญาจิตวิญญาณยุทธ  จำเป็นต้องใช้พลังงานบางส่วน  แต่ตอนนี้แค่ส่งเรื่องให้เสี่ยวเอ้อจัดการ  มันไม่จำเป็นต้องเพ่งอะไรแม้แต่น้อย

ปิงร้ายกาจและเจ้าเล่ห์  เขาคิดหาแนวคิดที่เจ้าเล่ห์ขอให้ทุกคนลงชื่อในสัญญาจิตวิญญาณยุทธ จากตรงนั้นจะไม่มีใครกล้าเปิดเผยข่าวใดๆ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้คนที่เห็นทุกอย่างและตกใจกับพลังที่น่ากลัวของถังเทียนยอมเชื่อฟังลงนามในสัญญาจิตวิญญาณยุทธ

ปิงคิดว่าคนโง่อยู่ต่อหน้าเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน  “อย่าทำตัวแบบบนั้น  ผู้นำต้องมีความยืดหยุ่น ไม่ว่ายังไงก็ตามตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าคนนายคนแล้ว ต้องรักษาภาพพจน์เอาไว้  ถ้าเจ้าไม่มีความอดทนบ้าง  ต่อไปเจ้าจะทำให้โลกสงบได้ยังไง?”

“ทำไมข้าต้องทำให้โลกสงบด้วย?”  ถังเทียนถามด้วยสีหน้าสงสัย

ปิงทำหน้าเบื่อหน่ายคิดเรื่องแนวความคิดของคนโง่ที่ไม่เกี่ยวกับการได้เป็นผู้มีอำนาจ  เขาคงทำได้แต่เพียงเปลี่ยนหัวข้อคุย  “ก็ได้ แล้วเจ้าจะไปหาเชียนฮุ่ยได้ยังไง?”

“ลุงกำลังบอกว่าข้าไม่สามารถหาเชียนฮุ่ยได้หรือ?”  ถังเทียนโกรธลุกขึ้นยืนทันที  “ลุง ต้องการทะเลาะด้วยใช่ไหม?”

เขาพูดผิดเรื่อง!  ปิงเห็นว่าดูท่าไม่ดีดังนั้นเขายกมือทั้งสองและพูดด้วยความมั่นใจและเด็ดขาด  “เชียนฮุ่ยเป็นของเจ้าอยู่แล้ว!”

ถังเทียนผ่อนคลายทันที “ฮ่าฮ่า ลุงลุงก็บอกได้ใช่ไหม? ถังโฉ่วบอกว่าลุงเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง  เขาพูดถูกจริงๆด้วย”

ปิงคิดว่าแผนแรกแย่เกินไปพาเจ้าโง่นี่มาปลอมตัว เขาควรจะรู้เร็วกว่านี้ แม้แต่ศิษย์ของเฉินหวี่เองก็อาจเชื่อถือได้บ้างเล็กน้อย  เมื่อเห็นหลายอย่างที่เกิดขึ้นเขาประเมินเจ้าโง่นี่ไว้สูงเกินไป  และนั่นทำให้แผนยิ่งใหญ่ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ปิงลอบตำหนิตัวเอง  ในฐานะผู้บัญชาการเขาไม่ควรทำข้อผิดพลาดเช่นนั้น

“ตอนนี้ เอาไงดี?”  ปิงตัดสินใจโยนคำถามให้ถังเทียนปล่อยให้เจ้าโง่นี่ค้นหาด้วยตัวเองว่าจะได้ดวงตาเซกซ์แทนส์มาได้ยังไงนั่นคืองานค่อนข้างยาก

ถังเทียนเอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครึ่งค่อนวันก่อนจะพูด  “ยกทัพมากวาดล้างกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์ให้ราบ”

ปิง “...........”

“ลุง, ลุงไม่รู้สึกว่าวิธีนี้ดีบ้างหรือ?”  ถังเทียนถามอย่างกระตือรือร้น  “พวกเขามีเซียนนักสู้เพียงสามคน  เรามีคนตั้งมากมาย ต่อให้จับชางหยางหวี่ได้เราจะไม่ได้ดวงตาแห่งเซกซ์แทนส์หรือ?”

“เจ็ดดาวเหนือยังมีการต่อสู้ติดพันอยู่  กองทัพอยู่ที่ไหน,หลิงซิ่วอยู่ที่ไหนและจิ่งหาวเล่า? เราจะไปเอาทหารมาจากไหน?”  ปิงย้อนถาม

“นั่นก็จริง” ถังเทียนชำเลืองมองด้วยความเป็นห่วง

ปิงแนะนำอย่างอดทน  “คิดอย่างระมัดระวัง  ยังมีวิธีอื่นอีกไหม?”

ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะ  ตาของเขาเป็นประกายทันที  “ใช่แล้ว ข้ามีวิธีหนึ่ง!”

ปิงมีความกระตือรือร้นเพิ่ม  เขาพูดกับตัวเองในใจ  ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจแผนการที่ข้าเตรียมเป็นทางเดียวที่เป็นไปได้ เขายังรักษาหน้าไพ่ไว้ได้  “เจ้าคิดคิดออกแล้วหรือ?”

ความตั้งใจสู้ของถังเทียนพุ่งขึ้นสูง  ดวงตาทั้งสองเป็นประกาย  “เราจะนำกองทัพน้อยย่ำยีกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์”

ปิง “............”

“ข้า, ลุง, หยาหยา, เสี่ยวเอ้อเราสามารถพาลุงขลุ่ยวิเศษ, ลากเหลียงฟงมาด้วย เราก็มีกองทัพน้อยแล้วและบุกกันซึ่งหน้าที่หน้าประตู เซียนบรอนซ์สามคนไม่มีอะไรมาก” ถังเทียนชี้หัวแม่มือมาที่คอของเขาและทำท่าเชือด  เขาไม่สามารถรีรอสำหรับการสังหารหมู่ได้

“อย่างนั้นเรื่องคนอื่นเล่ามีคนมากมายคอยสังเกตดูเสือกัดกันในความมืด” ปิงกล่าวเบาๆ

“นั่นก็ใช่เลย!”  ถังเทียนเกาศีรษะ  หลังจากนั้นชั่วขณะนัยน์ตาของเขาเป็นประกายแรงกล้าอีกครั้ง “โอวใช่แล้ว เราก็แค่ทำเหมือนเมื่อก่อน นั่นก็ดีเอง”

ปิงมองดูถังเทียนและพูดไม่ออก  เจ้าโง่นี่แสบคนจริงๆ

ของอยู่ในมือของคนอื่นๆ  จะให้ทำยังไง? ชิง?

แล้วจะเป็นยังไงถ้าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมาก?  พาคนไปปล้นด้วยกันน่ะหรือ

จะเป็นยังไงหากมีคนอื่นจับตามองของอย่างเดียวกัน?  พาคนไปมากๆ เพื่อชิงทรัพย์ให้ได้ก่อนคนอื่น?

มันเป็นวิธีทื่อง่ายเกินไป  ไม่มีการสู้กันเชิงกลยุทธ  ไม่มีคำถามต้องมานั่งพิจารณากันเลย

จริงๆ เลยการไปไหนกับเจ้าเด็กนี่ทำให้ข้าลำบากขึ้นจริงๆ

“ข้าช่างโง่จริงๆ”  ปิงส่ายศีรษะ

ปรึกษาสนทนาเรื่องประเทืองปัญญากับคนโง่ทำให้ข้ารู้สึกอดสูจริงๆ

ปิงคิดมากยิ่งกว่าถังเทียนการฝืนเลือกใช้แนวคิดที่โง่ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายกลุ่มดาวหมีใหญ่ในตอนนี้ต้องการเวลาคลี่คายปัญหาภายในกลุ่มเจ็ดดาวเหนือและต้องการเวลากลืนดวงดาวนี้ขอเพียงแต่กลุ่มดาวหมีใหญ่ยกระดับพลังได้ไปอีกระดับและไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะแสดงความก้าวร้าวส่วนตัว เนื่องจากจะเป็นเหตุให้กลุ่มดาวอื่นรู้สึกลำบากใจและทำให้กลุ่มดาวหมีใหญ่ถูกแยกออกจากทุกคนอย่างรวดเร็ว

เราจะต้องลงมือทำด้วยตัวเราเอง..

ปิงส่ายหัว และจ้องมองอย่างลึกซึ้ง

มีคนทั้งหมด 79 คนสัญญาจิตวิญญาณยุทธสำเร็จ ทุกคนมีสีหน้าแตกต่าง บางคนตกใจ บางคนอึดอัด บางคนคาดหวัง

นักสู้ระดับทองถูกถังเทียนตัดขาดออกไป  พลังของถังเทียนอยู่ในระดับเซียนแน่นอน  การยอมแพ้เซียนนักสู้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย  แต่สำหรับหลายคนไม่มีความสงสัยเรื่องโอกาส

พวกเขาทุกคนเป็นศิษย์ชั้นนอกไม่ว่าเรื่องพรสวรรค์หรือภูมิหลัง พวกเขาไม่มีทางเทียบกับศิษย์ชั้นในได้และอนาคตของพวกเขายังคงมีจำกัด อย่างไรก็ตามหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาเห็นความหวังใหม่

“นายท่านทั้งสอง จะทำยังไงกับศพ?”หน้าของติงเฉินซีดด้วยความกลัว ขณะที่เขาถามด้วยความกังวล เขาเข้าใจชัดแล้วเขาตกกระไดพลอยโจนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แท้จริง

เขาไม่เข้าใจภูมิหลังของเจ้านายทั้งสองชัดนัก  แต่เข้าใจชัดว่าทั้งสองนี้มีอิทธิพลใหญ่มากเขาเชื่อเพียงเรื่องเดียวว่าหัวใจอาโฉ่วอ่อนโยนมากกว่าหลี่เหลียงชิวมากหลังจากเห็นพฤติกรรมของอาโฉ่วกับตาตนเองระหว่างเดินทาง  ในสายตาของเขาความแข็งแกร่งและสถานะของอาโฉ่วที่เขาต้องการไม่ใช่สินบนหรือความจงรักภักดี ทุกอย่างที่เขาทำล้วนออกมาจากใจ

ปิงมองดูศพที่พื้นทั้งหมด  สมองของเขาคิดอย่างรวดเร็ว  แม้ว่าจะมีเหตุให้เปลี่ยนแผนใหญ่แต่ด้วยสัญญาจิตวิญญาณยุทธและการรวมคนก็จะไม่มีข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นรั่วออกไปแต่อย่างใด

ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือศพ

การกำจัดหลักฐานเป็นเรื่องจำเป็น  แต่แม้ว่าหลักฐานถูกกำจัดออกไปก็ยังนำไปสู่ข้อสงสัย ภายใต้ภารกิจเช่นนี้ เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งสงสัย ก็หมายความว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นและจะทำให้พวกเขาเสียเปรียบ

พวกเขาจะกำจัดข้อสงสัยได้อย่างไร?

นี่เราต้องฟังเจ้างี่เง่าและใช้กองทัพบุกกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์จริงๆหรือนี่

ถังเทียนไม่คิดอะไรมากมาย เขาเห็นว่าปิงไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา  เรื่องหักเหลี่ยมชิงไหวพริบถังเทียนรู้ว่าเขามิอาจเทียบกับลุงปิง สมองของลุงปิงฉลาดกว่าเขามาก

เขารู้แต่เพียงว่าเขารับผิดชอบเรื่องสู้และทันใดนั้น เขายืนขึ้นและมองไปยังตำแหน่งยอดเขา

ปิงสังเกตว่าถังเทียนมีท่าทางแปลก  “เกิดอะไรขึ้น?”

“มีเสียงแปลกๆ” ถังเทียนพึมพำ เขาทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าและโดดขึ้นไปบนยอดเขา

ปิงตามและโดดขึ้นไปโดยไม่พูดอะไร

ติงเฉินสีหน้าเปลี่ยนหรือว่าจะเป็นกำลังหนุน?  เขาลังเลกัดฟันและโดดขึ้นไปบนยอดเขา

“นั่นอะไรเหรอ?” ถังเทียนชี้ไปที่เส้นสีน้ำเงินระยะไกลและถามด้วยความสงสัย

ติงเฉินเพิ่งจะลงกับพื้นได้ มองดูจุดที่ถังเทียนมอง..สีหน้าของเขาซีดขาวทันที เขาพูดเสียงสั่น “คะ..คลื่น... คลื่นพลังเย็น....”

ถังเทียนและปิงก็ตะลึงเช่นกัน  คลื่นพลังเย็น?  นี่คือคลื่นความเย็นที่ทำให้ผู้คนสีหน้าเปลี่ยนเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้ยิน?

ต้องเป็นเรื่องบังเอิญมาก....

เส้นสีฟ้าบินเข้ามาอย่างรวดเร็วในพริบตาจากเส้นบางๆ ก็เปลี่ยนเป็นเกลียวคลื่นที่กราดเกรี้ยว สนามฝึกฝนและเมืองในพื้นที่สามสิบลี้ตกอยู่ในความวุ่นวาย

ถังเทียนและปิงตกตะลึง ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจสาเหตุที่ติงเฉินและพวกที่เหลือถึงกลัวคลื่นความเย็นนัก

คลื่นความเย็นสีน้ำเงินเหมือนกับคลื่นทะเลที่เกรี้ยวกราดโถมใส่ไปตามพื้นลานหิมะทำลายทุกอย่าที่ขวาง  ในคลื่นที่เกรี้ยวกราดสีน้ำเงินคลื่นความเย็นที่หนาแน่นจะมีแท่งผลึกน้ำแข็งหมุนปั่นอยู่ภายในคลื่นด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง

ต้นไม้และหินที่ถูกคลื่นที่บ้าคลั่งกลืนจะแข็งกลายเป็นน้ำแข็งและจากนั้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆถูกบดปั่นกลายเป็นผงสีน้ำเงินอยู่ในคลื่นที่เกรี้ยวกราดนี้

ทุกคนมองดูคลื่นกราดเกรี้ยวน่ากลัวอย่างว่างเปล่า คลื่นประหลาดสามารถทำลายสรรพสิ่งในทางที่มันผ่านไป

“หนี!”

ถังเทียนเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ สัญชาตญาณเหมือนสัตว์ป่าของเขาแสดงความได้เปรียบสุดยอดออกมา  เขาหันหลังและวิ่งลงไปข้างล่างทันที

ปิงก็ตื่นจากภวังค์ด้วยเช่นกัน

ติงเฉินที่กลัวจนหน้าซีดอยู่แล้วตะลึงอยู่กับที่เป็นเวลานาน  ก่อนที่เขาจะกลิ้งตัวและคลานมาสมทบ  เขารีบบอก “นายท่าน มีถ้ำน้ำแข็งอยู่ที่นั่น

“นำทาง!”ในอากาศ ถังเทียนยังลงมาไม่ถึงพื้น แต่ออกคำสั่งโดยไม่ลังเล

ทันทีที่เขาสัมผัสพื้นถังเทียนจับเชือกที่พื้นที่ไว้แน่น  “ทางไหน?”

ติงเฉินมองดูถังเทียน  เขากล้ำกลืนสิ่งที่เขาต้องการพูดและชี้ไปข้างหน้า  “ที่นั่น!”

“ทุกคน, วิ่งไปที่นั่น!  เร็วเข้า!” ถังเทียนตะโกน ตาของเขาแดงเต็มไปด้วยความโกรธ  กล้ามเนื้อเขาเกร็งหายใจแรง จับเชือกแน่น เขาลากคนทั้งเจ็ดวิ่งอย่างบ้าคลั่ง

คนทั้งเจ็ดตาแดงขณะที่พวกเขาจับเชือกอย่างแน่นหนา

คลื่นความเย็นส่งเสียงหวีดหวิวโหยหวนดังใกล้เข้ามาทุกที  เสียงนั้นทำให้ทุกคนชาจนถึงหนังศีรษะเสียงที่เหมือนเสียงแห่งความตาย

ทุกคนรู้ว่าพวกเขาต้องฝืนตนเอง รวบรวมพลังทั้งหมดวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

คลื่นความเย็นใกล้เข้ามาทุกคน  เงาใหญ่ทมึนค่อยๆ ล้อมคลุมพวกเขาช้าๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด