ตอนที่แล้วตอนที่ 479 ผู้อาวุโสอัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 481 สำนักมวยชางหยาง

ตอนที่ 480 เอาตามนั้น!


“เฮ้, จะให้ข้าไปจริงๆ เหรอ!”  ถังเทียนตะโกนลั่น

“เจ้าไปให้เร็วขึ้นได้ไหม?”  อาเฮ่อจนใจ “ไม่มีเจ้าถ่วงเราไว้  เราจะทำงานได้ราบรื่นแน่นอน”

จิ่งหาวหัวเราะลั่นจากนั้นโบกมือ “ไปเถอะ ไปเถอะ”

“ทุกคนต้องทุ่มเทสุดตัวกันทั้งนั้น!” ถังเทียนยิ้มแย้มชูมือทั้งสองขึ้นตะโกนให้กำลังใจพวกพ้องจากนั้นหันหน้าเดินจากไป  ได้ร่องรอยดวงตาเซกซ์แทนส์แล้ว เวลาเป็นเรื่องสำคัญและเขาต้องไปเร่งไปยังกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์

เมื่อเห็นถังเทียนด้านหลังทุกคนอดหัวเราะไม่ได้

“จริงๆ เลยเจ้าหมอนี่!”  อาเฮ่อถอนหายใจ  “มีชีวิตรอดได้ไงจนป่านนี้?”

“นี่แหละเรียกว่าใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสามุ่งมั่นทำตามวิถีของตนเอง”

“สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธที่ถอนตัวกะทันหันน่าประหลาดใจจริงๆ” สายตาอาเฮ่อเหม่อมองไปไกล

“เจ้าไม่จำเป็นต้องลองใจข้า”  จิ่งหาวพูดตามตรง  “ข้าคุ้นเคยกับวิธีการที่พวกเขาทำอยู่แล้ว  เพื่อดึงดูดศัตรูพวกเขาจะฆ่าปิดปากบริวารของตัวเองก็ได้ เรื่องแบบนั้น พวกเขาสามารถทำได้ พวกเขาชอบควบคุมอยู่แล้วและมักคิดเสมอว่าพวกเขาอยู่ในความควบคุมของตนอยู่แล้ว  เมื่อพวกเขากลับไปพวกเขาจะไปคุยกับอาจารย์ของข้า พวกเขาชอบทำกับคนเหมือนกับเป็นหุ่นเชิดอยู่แล้ว”

อาเฮ่อหัวเราะเบาๆ  “ดูเหมือนว่าความลำบากของพวกเขาคงจะสูญเปล่า”

“และพวกเขาก็ชอบดูแคลนคน”  จิ่งหาวหัวเราะลั่น  “โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมห้าวถัง  เจ้าเด็กโง่นั่น!”

อาเฮ่อหัวเราะจากนั้นทำหน้าเครียดทันที  “เด็กโง่คนนี้ดูเหมือนมักโดนดูแคลนเสมอและมักดึงดูดศัตรูที่มีพลังแข็งแกร่งมาได้เสมอสู้กับศัตรูที่ระมัดระวังเราต่ำทำให้เราได้ชัยชนะเสมอมา”

ทุกคนหัวเราะ

“แต่ข้าสงสัยว่าสมาพันธ์ชาวยุทธกำลังวางแผนกับหลิงซิ่ว”  อาเฮ่อกระแอม “กับเด็กโง่คนหนึ่ง เราก็แทบหมดหวังแล้ว ถ้าท่านมีเด็กโง่สองคน อย่างนั้นก็เหนื่อยหนักจริงๆ”

“เจ้าไปเถอะ” จิ่งหาวตอบ “ที่นี่มีกำลังคนเพียงพอ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล”

ความแข็งแกร่งของเมืองอัลเคดถือว่าเพียงพออย่างแท้จริงพวกเขาสามารถนอนตาหลับอยู่ใกล้ๆ ได้ กลุ่มดาวหมีใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้มีอำนาจแค่เพียงเล็กน้อยอีกต่อไป  ส่วนอีกหกเมืองยังไม่มีความตั้งใจยอมแพ้  ดังนั้นวิธีการของปิงง่ายมากใช้กำลังทหารกดดันพวกเขา

ผู้ที่ประจำการอยู่ที่เมืองอัลเคดก็คือถังโฉ่วขุนพลวิญญาณผู้นำทหารซึ่งตั้งใจจะกลายเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน โอกาสบัญชาทัพตามลำพังยากจะมาถึง และถังโฉ่วยินดียืดอกรับ

“ถ้าอย่างนั้นข้าต้องรบกวนท่านด้วย!”  อาเฮ่อคำนับและหันกายจากไปพร้อมกับกระบี่ในมือ เขาทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าเหมือนกับกระเรียนดำยักษ์และหายลับไปในขอบฟ้า

จิ่งหาวรั้งสายตากลับ  วิชาตัวเบาของเขาไม่แข็งแกร่งนักเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไล่ตามหลิงซิ่วทัน

ถังเทียนกลับไปพบปิงที่กลุ่มดาวหมีใหญ่

“แค่เราสองคนเท่านั้นเหรอ?”  ถังเทียนงง “น่าจะพาคนไปอีกสักสองสามคนได้ไหม?”

“เราไม่จำเป็นต้องมีคนหลายคน”  ปิงสูบบุหรี่และพ่นควัน  “ติงตังกับเฉินหวี่จะพาเราไปกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์  เจ้าคือหนุ่มชาวฟ้า  แทนที่จะทำตัวเป็นเด็กปัญญาอ่อนควรปล่อยคนอื่นๆ บ้าง ใช่ว่าทุกคนจะแข็งแกร่งทรงพลังเท่ากับเจ้า”

“นั่นก็ถูกแล้ว”  ถังเทียนมั่นใจตนเอง  เขาโบกมือทำตัวเป็นคนใจกว้าง “อย่างนั้นเราจะปล่อยกำลังพลให้คนอื่นดูแลก็แล้วกัน”

หยาหยาเหมือนกับตุ๊กตาทำด้วยเยลลี่ มันม้วนตัวยืดหยุ่นอยู่บนไหล่ซ้ายของถังเทียนและหาว  เสี่ยวเอ้อถือร่มอยู่ในมือสายตาว่างเปล่าลอยตัวขึ้นไปอยู่บนไหล่ขวาของถังเทียน

ผี่ผาและโส่วจินมองหน้ากันเข้าใจความคิดของกันและกันเป็นอย่างดี

สติปัญญาหนอ...เจ้าไปเอาความเชื่อมั่นในตัวเองประหลาดๆ มาจากไหน...

แต่ทั้งสองคนไม่พูดอะไรสักคำ  พวกเขามีความรู้สึกอย่างหนึ่ง มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มดาวเซกซ์แทนส์กำลังตกที่นั่งโชคร้าย

******

ความเร็วของม้าภูตหิมะช้าลงเล็กน้อยหลังจากเร่งทั้งวันทั้งคืนไม่มีหยุดไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งเพียงไหน มันก็เหนื่อยได้ หลิงซิ่วที่อยู่บนหลังม้ารู้สึกได้ว่าอาเสวี่ยอ่อนล้า จึงกระโดดลง  เขาเข้าใจความรู้สึกของพาหนะได้

“พี่หลิง, ท่านมาจากที่ไหนกัน?”

“พี่หลิง ในอดีตท่านแข็งแกร่งมากนักหรือ?”

……

วิเวียนได้แต่ลูบศีรษะตนเองและคอยพูดไม่หยุด นางสู้ฝืนความกลัวและพยายามฟื้นฟูความมีชีวิตชีวากลับคืนมาหน้าของหลิงซิ่วเขียวคล้ำ ทุกครั้งที่นางพูดหน้าของหลิงซิ่วยิ่งเขียวคล้ำยิ่งขึ้น

รำคาญชะมัด.....

เส้นเลือดบนขมับของหลิงซิ่วเริ่มเต้น

“พี่หลิง....”

หลิงซิ่วไม่อาจทนได้อีกต่อไป  “เงียบนะ!  ถ้าเจ้ายังคงจ้ออีกต่อไป  ข้าจะใช้หอกข้า...”

เขาบังคับตนเองไม่ให้พูดคำสุดท้ายว่า“จิ้มให้ตาย” ออกมา เนื่องจากเขานึกได้ทันทีว่านางไม่อาจตายได้  บ้าจริง คนแบบนี้ก็มีอยู่ในโลกเหมือนกัน!

เงียบและเงียบไปได้สองนาที เมื่อวิเวียนเริ่มพูดอีกครั้ง  “พี่หลิง เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?”

หลิงซิ่วเงียบขณะที่เขาเดินหน้าต่อไป

“ข้าพูดอะไรที่ท่านไม่ชอบใจหรือ?  ข้าต้องการให้ท่านบอกข้า  ท่านต้องบอกข้า  ข้าไม่เข้าใจจริงๆ พี่หลิง ข้า...”

หลิงซิ่วทำหน้าเมื่อย  เขากรอกตา เดินไปข้างหน้าอย่างเพลียแรง

ทันใดนั้นเขาหยุด

“เงียบ!”

คราวนี้หลิงซิ่วหันมาดุให้วิเวียนเงียบทันที นางสามารถได้ยินเสียงที่แฝงรังสีฆ่าฟันอยู่ด้วย  หลังจากนั้น นางรู้สึกว่าโลกหมุนหลิงซิ่วตีลังกาขึ้นม้า

บนยอดไม้ข้างหน้าพวกเขาร่างสีดำโดดเด่นยืนรอพวกเขาอยู่

“มิซาร์... เจ้าเมืองมิซาร์!”  วิเวียนตะลึงหน้าของนางเต็มไปด้วยความกลัว เจ้าเมืองทุกคนมีพลังฝีมือยากจะหยั่งถึง

ชุดยาวดำของเจ้าเมืองมิซาร์ดูเหมือนกลายเป็นสองตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน ด้วยความตายของพวกเขา  งานของพวกเขาที่ล่อลวงให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายปะทะกันจะสำเร็จ  และแผนการของพวกเขาดำเนินไปแล้ว 50%

งั้นตายซะเถอะ

เขางอเข่าพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าเหมือนกับธนูไฟ  เจ้าเมืองมิซาร์ในชุดดำเป็นเหมือนค้างคาวดำบดบังแสงอาทิตย์ไว้

เซียนงั้นหรือ?

หลิงซิ่วแหงนหน้ามอง  ดวงตาสีเพลิงเป็นประกายเหมือนเพลิงลุกโชติช่วง  เขาแตะคอของอาเสวี่ยรู้สึกได้ถึงความตั้งใจสู้ของมัน เขาแย้มมุมปากทันที

ทันใดนั้นมีแรงกดที่ท้องของม้า อาเสวี่ยเริ่มหายใจลึกและขาของมันใช้แรงมากขึ้นอย่างกะทันหัน  ร่างของมันกลายสภาพเป็นเลือนรางทันทีฉากภาพรอบๆ พวกเขาบินผ่านไปเหมือนภาพพร่าเลือน ปัง..เหมือนกับว่ามันเป็นอิสระจากข้อจำกัด ร่างของมันเปลี่ยนสภาพเป็นเบามาก

ระเบิดและภาพลวงตาอยู่ที่เบื้องหลังของพวกเขาหลังจากที่พวกเขาทำลายกำแพงเสียงหอกเงินตั้งในแนวขนานพื้นโดยผิดเพี้ยนเลย

ปัง!

อาเสวี่ยคำรามอยู่ในท้องฟ้าหอกเงินในมือของหลิงซิ่วเริ่มหมุนควงกลายเป็นรังสีเงินบินตรงเข้าหาเจ้าเมืองมิซาร์

อากาศรอบปลายหอกกลายเป็นสีดำ แต่มันคือรังสีหอกเงินที่กำลังสว่างระยิบระยับมากขึ้นเหมือนกับดวงดาว

เจ้าเมืองมิซาร์หรี่ตาร่างของเขาเปลี่ยนรูปเป็นรังสีดาบมีเสียงหวีดหวิวพร้อมกับมีกลิ่นอายปีศาจเลือนรางอยู่บนตัวดาบ

ปลายหอกกับรังสีดาบปะทะใส่กัน

ปัง!

รังสีแพรวพราวระเบิดออกทันทีเหมือนกับพระอาทิตย์ระเบิด  ในท่ามกลางแรงระเบิดที่รุนแรง เจ้าเมืองมิซาร์ปลิวกระเด็นอย่างแตกตื่นเหมือนกับค้างคาวได้รับบาดเจ็บ  ร่างกายของเขาครึ่งหนึ่งมีโลหิตย้อมแดงฉาน

หลิงซิ่วไม่ไล่ตาม  เขาปาดโลหิตออกจากปาก  เพลิงที่ลุกโชนในดวงตาของเขาค่อยๆ จางลง

ใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น  อย่างนั้นนี่ก็คือหอกดาราแห่งดาวแกะ...

ทรงพลังมาก!

ซู่..โลหิตฉีดพุ่งบนแขนของเขาจนเขาร้องครางออกมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที ของเหลวเงินผสมอยู่ในเลือดของเขาซึ่งแปลกประหลาดมาก  พิษที่ยากทนทานเริ่มลามจากแขนของเขา

งั้นเจ้าก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพจำศีลได้จริงๆสินะ?

อาการบาดเจ็บในร่างกายของเขาได้รับการเยียวยาจากการฝึกกระบวนการแปลงพลังและด้วยความช่วยเหลือจากติงม่านแต่ของเหลวเงินที่สร้างขึ้นมาจากการฝึกฝนวิชาหอกของเขายังไม่สามารถกำจัดได้ แม้แต่ติงม่านก็ไม่รู้ว่าของเหลวเงินนั้นคืออะไร เนื่องจากนางไม่เคยได้ยินการเปลี่ยนสภาพเป็นเงินมาก่อน แต่นางใช้ความรู้เรื่องยาและวิทยายุทธของนาง นางช่วยหลิงซิ่วผนึกและข่มของเหลวเงินไว้ในแขนขวาของเขา

เดิมทีควรจะผนึกไว้ได้8-10 ปี แต่ใครจะคาดกันว่าหลังจากสู้ศึกแรก มันจะกำเริบขึ้น

แควก...หลิงซิ่วฉีกแขนเสื้อของเขาออก

วิเวียนปิดปากนางมองดูแขนของหลิงซิ่วด้วยความกลัว  แขนทั้งหมดเป็นสีเงินมีความมันวาวของโลหะราวกับว่าทำขึ้นจากเงิน แขนโลหะเงินที่มีโลหิตไหลเวียนให้ความรู้สึกที่มีเสน่ห์และงดงาม

ดูเหมือนอาจารย์มีความละเอียดสุขุมเมื่อเขาให้ผ้าพันแผลข้า

อาจารย์...นั่นคือเครื่องหมายที่ถูกใช่ไหม...

ถ้ามันผิด...อย่างนั้นข้าจะทำยังไง....

ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล  เสี่ยวซิ่วจะทำความฝันของท่านให้เป็นจริง

แม้ว่าเด็กน้อยนี้จะเสียงดังและน่ารำคาญ แต่เสี่ยวซิ่วจะต้องส่งนางกลับไปสันเขาพญาหมีให้ได้

ใช่แล้วต้องได้แน่นอน

“นี่, ข้าต้องการใช้ผ้าพันแผล”

หลิงซิ่วตะโกนบอกวิเวียนและจากนั้นขณะที่นางยังคงตะลึงอยู่ เขาเอาผ้าพันแผลออกมาจากร่างของนางและพันรอบแขนขวาของเขา

เจ็บจัง....

หนังตาของหลิงซิ่วกระตุก  ทั่วทั้งแขนของเขารู้สึกเหมือนถูกเข็มนับไม่ถ้วนทิ่มแทง ผลที่คุกคามของเหลวสีเงินเกินกว่าที่เขาคาดไปมาก แม้ว่าการผนึกของเซียนยาก็สามารถป้องกันไว้ได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น

เจ้าคืออะไรกันแน่?

หลิงซิ่วพึมพำในใจ  จากนั้นค่อยๆ พันแขนทั้งหมดความเคลื่อนไหวของเขาไหลลื่นใช้ผ้าพันแผลพันรอบทั้งแขนแม้แต่นิ้วทั้งห้าก็ยังถูกพันไปด้วยก่อนที่สุดท้ายเขาใช้ฟันช่วยผูกเป็นปมเงื่อน

เขาเหยียดมือออกและทดสอบแขนของเขา  แม้ว่าความเจ็บปวดจะยังมีแต่ก็ไม่ขัดขวางความเคลื่อนไหวของเขา

อย่างน้อยที่สุดโอว ก็คล้ายกับความรู้สึกที่ข้าต้องอดทนเสมอมา...

“พะ..พี่หลิง แขนของท่าน...”หน้าของวิเวียนเต็มไปด้วยความห่วงใย

เจ็บเป็นบ้า! และข้ายังต้องทนกับเสียงยัยเด็กนี่อีก

อาจารย์ไม่ว่าท่านจะสำนึกขอบคุณยังไง อย่างน้อยก็ต้องเลือกคนให้ถูกด้วย

ทันใดนั้นหลิงซิ่วพบเชือกอีกเส้นและมัดวิเวียนไว้

“พี่หลิง อืม...”

วิเวียนเตรียมจะพูดแต่นางก็ต้องเบิกตาโพลง หลิงซิ่วเอาผ้ายัดปากนาง

ในที่สุดโลกก็สงบเสียที!

หลิงซิ่วมีความสุขมากที่เขาหาความคิดดีๆได้ ผู้หญิงน่ารำคาญ ไม่ว่าวัยไหนทั้งนั้นและจะยิ่งน่ากลัวมากกว่านักสู้ชั้นเซียนเสียอีก

เขาหันไปมองข้างหน้าทันที  ในที่ใกล้ๆ มีพลังสั่นสะเทือนของปราณและมุ่งหน้ามาทางเขา

แสงรังสีจากการต่อสู้เผยตำแหน่งของเรา

เฮ้..นั่นไม่ใช่คนเดียว เป็นไปได้ยังไง ที่จะมีเพียงคนเดียว?

ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่เส้นทางที่ดี

ข้าจำเป็นต้องรีบไปจากที่นี้...

แต่..ข้าต้องการจะทิ่มแทงเจ้าพวกนั้นให้ตายจนหมด  ... จะทำไงดี?

นี่ช่างไม่มีทางเลือกเลยจริงๆแม่เด็กนี่ทำให้เราเคลื่อนไหวลำบาก  ส่งนางกลับไปที่เทือกเขาพญาหมีก่อนเป็นเรื่องที่ถูกต้องข้าจำเป็นต้องคิดแผนอย่างใจเย็น

เอาล่ะ....งั้นเอาตามนี้

ข้าจะทำ...แทงพวกมัน... ฆ่าให้หมด

ความคิดบ้าดีเดือดทำให้เลือดลมในตัวเขาพลุกพล่านความคิดจะสู้พุ่งทะยาน ผมเงินของเขาตั้งชันและพริ้วตามลมดูเหมือนกับเพลิงสีเงิน

เขากัดฟันและเม้มริมฝีปากดวงตาสีเพลิงดูดุร้าย

นี่คือข้าหลิงซิ่วผู้ไล่ตามมรรคาบู๊ของข้าเอง

เขาพลิกตัวขึ้นหลังม้า  เขาแตะคออาเสวี่ย และหันม้าเขาทะยานไปยังตำแหน่งที่ปราณปรากฏ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด