ตอนที่แล้วตอนที่ 15-6 ปราสาททรายโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-8 อันตรายมากมาย

ตอนที่ 15-7 การเลือก


ลินลี่ย์เดินอยู่ในท่ามกลางปราสาทที่เปลี่ยนแปลงรู้สึกกังวลเป็นห่วงมาก  “ที่บ้าแห่งนี้เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง  ไม่มีทางที่ข้าจะหาทางออกพบเลย  นอกจากนี้ยังมีศัตรูคอยโจมตีลอบทำร้ายจากภายในอีกด้วย!” ลินลี่ย์จำได้ชัดเจนเมื่อเห็นศพของอสูรก่อนนั้น

เมื่อเห็นศพลินลี่ย์เข้าใจทันทีว่าปราสาททรายโบราณนี้ไม่ใช่แค่กับดักจับคนเท่านั้น

มีการวางกำลังคนซุ่มทำร้ายอยู่ที่นี่!

ความจริง,ลินลี่ย์ควรจะเข้าใจเรื่องนี้นานแล้ว เพียงแต่เขาไม่กล้าคิดถึงมัน “ลอบทำร้าย? ลอบฆ่า? บีบีกับข้ายังดีขึ้นบ้าง  ข้ามีสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณ  ขณะที่บีบีมีสมบัติที่เบรุตให้เขาเขาไม่น่าจะมีปัญหาในการเอาชีวิตรอดแต่อย่างใด แต่เดเลีย นาง.. นาง..โธ่เอ๊ย ข้าไม่ควรจะรีบเร่งอย่างนั้น  ข้าควรจะให้เดเลียถึงระดับเทพชั้นสูงขั้นแรกก่อนจะออกเดินทาง”  ลินลี่ย์รู้สึกเต็มไปด้วยความเสียใจ

“ถ้าเดเลียถูกฆ่าละก็....”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วลินลี่ย์ยิ่งกังวลมาก

ความจริงเดเลียฝึกมาในกฎธรรมชาติธาตุลม  และเชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับหกอย่างและนางมีโกเลมมัจจุราชอยู่กับตัวนาง แม้ว่าความสามารถในการอยู่รอดของนางยังด้อยกว่าลินลี่ย์และบีบีนางก็ยังมีระดับความสามารถ

เพียงแต่ลินลี่ย์ยังกังวลอยู่ดี

“ศัตรูถือว่าไม่ธรรมดามากสามารถสร้างปราสาทแปลกประหลาด นอกจากนี้เดเลียยังไม่ถึงระดับสูง” ลินลี่ย์เคลื่อนที่ผ่านปราสาทด้วยความเร็วแต่ก็อย่างระมัดระวังหวังว่าจะวิ่งไปพบกับเดเลีย

แต่ทันใดนั้น..

“หือ?”

ลินลี่ย์มาถึงเส้นทางเปิดจากนั้นหางตาของเขาเห็นบางคนลอยอยู่ในกลางอากาศ

“ผู้เฒ่าเขาดำ?”  ลินลี่ย์จำเขาได้ทันที ผู้เฒ่าเขาดำก็มองเห็นลินลี่ย์ได้ชัดเจนเช่นกันขณะที่เขามอง

แต่ในขณะนั้นสายลมเบาวูบหนึ่งก่อตัวขึ้นเปลี่ยนแปลงเป็นรูปชายชราชุดเขียว  ชายชราชุดเขียวยิ้มเต็มหน้า เขาชำเลืองมองลินลี่ย์ไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย  “เทพแท้ก็ยังหนีมาถึงนี่ได้ด้วยหรือ”

สำหรับชายชราชุดเขียวเทพแท้เป็นพวกที่เขาสามารถฆ่าได้ทันที เนื่องจากสถานะและตำแหน่งที่สูงส่งของเขา  เขาไม่สนใจลินลี่ย์แม้แต่น้อย

“เจ้าคือ...?” ผู้เฒ่าเขาดำเห็นบุรุษชุดเขียวปรากฏตัวออกมาจากอากาศเบาบาง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

ชายชราชุดเขียวมองดูชายชราเขาดำข้างหน้าเขาอย่างสงบ  “เจ้าช่างกล้าจริงๆเพราะเจ้าและน้องของเจ้าหลบหนีไปกับสมบัติมหาศาลของตระกูลบอยด์แต่...ข้าไม่คาดเลยว่าหลังจากผ่านไปนานหลายปี เจ้าทั้งสองยังจะกล้ากลับมาอีกว่าไง? พวกเจ้าต้องการกลับไปทวีปเจดโฟลทหรือ?”

ชายชราเขาดำสีหน้าเปลี่ยนและจากนั้นเขาหัวเราะถอนหายใจ “ปีนั้นพี่ใหญ่ข้าและข้าหนีออกจากทวีปเจดโฟลท  เราคิดว่าไม่มีใครปกป้องเราได้ ครั้งนี้เราเชิญอสูรมาช่วยเฝ้าระมัดระวังเป็นจำนวนมาก  แต่ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้าจะมาด้วย!”

ผู้เฒ่าชุดเขียวแค่นเสียงเหยียดหยาม

“เจ้าต้องการได้รับสมบัติของตระกูลบอยด์หรือ?ฮ่าฮ่า....”

ผู้เฒ่าเขาดำเงยหน้าและหัวเราะลั่นทันทีจากนั้นจ้องมองชายชราชุดเขียว  “ฝันไปเถอะเพราะเราสองพี่น้องกล้าเดินทางในการเดินทางครั้งนี้ก็หมายความว่าเราเตรียมตัวของเราไว้เต็มที่แล้ว  ต่อให้เจ้าฆ่าเราสองพี่น้องเจ้าจะไม่ได้รับสมบัติตระกูลบอยด์!เจ้า..ไม่มีทางได้รับมัน!”

ชายชราชุดเขียวมีสีหน้าเครียดทันที

เขาติดตามศิษย์ของเขาอินนิโกมาจากทวีปเจดโฟลทข้ามทะเลสตาร์มิสท์สู่ทวีปเรดบุดทั้งหมดนั้นทำเพื่อให้ได้สมบัติตระกูลบอยด์

“ฮึ่ม...เมื่อข้าฆ่าเจ้า ข้าจะรู้เอง” ชายชราชุดเขียวโบกมือเรียกกระบี่ยาวเล่มหนึ่งดูเหมือนไหมสีเงิน  นี่คือกระบี่อ่อนเล่มหนึ่ง  แต่เมื่อเทียบกับกระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์ยังบางกว่าและสว่างกว่า

“เตรียมตัวตาย” ชายชราชุดเขียวมั่นสถานการณ์ของเขาจึงแจ้งให้ศัตรูทราบก่อนที่เขาจะฆ่า

ทันทีที่ผู้เฒ่าเขาดำเห็นปราสาทลมเขามีความเข้าใจว่าศัตรูของเขาแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน

แม้ว่าเขาเองจะเป็นเทพชั้นสูงแต่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้วแตกต่างกันอย่างมาก

“เจ้าต้องการฆ่าข้างั้นหรือ?ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้ราคา” ชายชราเขาดำทำใจแล้วว่าต้องตายที่นี่ เมื่อเขาตะโกนดาบหนักปรากฏอยู่ในมือของเขาทันใดนั้นอากาศรอบดาบหนักสีดำบิดเป็นเกลียวทันทีและแสงสีดำยิงออกมาไปทั่วทุกตำแหน่ง

ลินลี่ย์เมื่อเห็นเทพชั้นสูงทั้งกำลังจะสู้กันก็อดรู้สึกตกใจมิได้  “ข้าหนีดีกว่า ถ้าเข้าพัวพันในการต่อสู้นี้ข้าคงจบกัน!” ลินลี่ย์ไม่ลังเลแม้แต่น้อยวิ่งไปที่ตำแหน่งทางเดินอื่นทันที

แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวได้เร็ว

“ปัง!”

การปะทะกันครั้งแรกของเทพชั้นสูงทั้งสองคนทำให้ร่างของผู้เฒ่าเขาดำกระเด็นมาทางลินลี่ย์ด้วยความเร็วสูง

“หือ?” ลินลี่ย์อดรู้สึกตะลึงไม่ได้  เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเขามองดูร่างที่ปลิวเข้าหาเขา

แต่พอพลิกตัวชายชราเขาดำกำลังยืดตัว เมื่อครู่นี้หนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของชายชราเขาดำถูกฆ่าไปแล้ว

“เจ้าต้องการฆ่าข้าหรือ?” ชายชราเขาดำตอนนี้รู้ตัวเต็มที่แล้วว่าพวกเขามีพลังต่างกันเพียงไหน หนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพิ่งถูกทำลาย  และตอนนี้เขาเหลืออยู่เพียงร่างเดียว  “ประมุขตระกูล, บ่าวไม่ได้ตั้งใจให้ท่านผิดหวังเพียงแต่ในอนาคต บ่าวคงไม่สามารถทำงานให้คุณชายได้ต่อไป”

“ปัง!”

ดาบยาวของชายชราเขาดำแฝงไปด้วยพลังทำลายโลกเปลี่ยนเป็นเงาสีดำทำให้มิติบิดเบี้ยวและทิ้งไว้แต่เงาเลือนลาง

“ฮ่าฮ่า...เจ้าก็แค่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ตายไปหนึ่งร่าง ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้ายังมีอะไรดีเหลืออีกสักเท่าไหร่” ชายชราชุดเขียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและจากนั้นลินลี่ย์สังเกตได้ถึงร่องรอยประกายสีเงินงดงาม  ไม่ว่าประกายสีเงินฉายผ่านไปที่ใด มิติจะเริ่มเกิดรอยแยกเล็กๆ

ลินลี่ย์ตกตะลึง

“รอยแตก? รอยแยกมิติในแดนนรกนี่น่ะหรือ?” ลินลี่ย์พบว่ายากจะเชื่อได้

“บึ้ม!”

ชายชราเขาดำเพียงแต่ป้องกันประกายแสงเงินได้สายเดียวเท่านั้น ตลอดทั้งร่างของเขาถูกรังสีแสงสีเงินตัดผ่านหลายส่วน  ร่างของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ ร่วงลงจากฟ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งแหวนมิติเก็บสมบัติในมือซ้ายของเขากำลังร่วงลงมา

ขณะนั้นเอง...

“แหวนมิติเก็บสมบัติ?”  ลินลี่ย์มีความคิดหนึ่ง เขาสามารถรวมรวบแหวนมิติเก็บสมบัติเป็นของเขาเอง

“ข้าสามารถเก็บไว้ได้หรือไม่?”

แหวนมิติเก็บสมบัติของชายชราเขาดำมีสมบัติมากมายอยู่ภายใน  ลินลี่ย์แน่ใจเรื่องนี้  เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ว่าจ้างของเขาคนที่สามารถเชิญอสูรหกดาวได้ สมบัติโดยรวมของชายชราเขาดำนี้ต้องมีอยู่แน่นอน  เพียงแต่เขาจะเก็บมาได้หรือไม่?

ลินลี่ย์มองดูชายชราชุดเขียวในระยะไกลจากนั้นเขาหนีไปทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

“ข้าคงไม่มีชีวิตรอดได้ใช้มันแน่”

ลินลี่ย์หนีไปด้วยความเร็วสูงผ่านออกไปได้หลายพันเมตรอย่างรวดเร็วหายลับสายตาชายชราชุดเขียวเพียงแต่ทุกตำแหน่งภายในปราสาทนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชายชราชุดเขียวนี้ เป็นธรรมดาที่เขาย่อมรู้ว่าลินลี่ย์หนีไปที่ใดกันแน่  ชายชราชุดเขียวหัวเราะเบาๆ “เทพแท้ผู้นี้ไม่ยอมให้ความโลภครอบงำการตัดสินใจ”

ถ้าลินลี่ย์ขโมยแหวนมิติเก็บสมบัติแม้ว่าชายชราชุดเขียวจะรังเกียจการฆ่าเทพแท้อย่างลินลี่ย์  แต่ชายชราชุดเขียวจะต้องจัดการเรื่องแหวนมิติเก็บของด้วยตนเอง  ถึงจุดนี้ลินลี่ย์จะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย

“เขามีอะไรอยู่ภายใน?”  ผู้เฒ่าชุดเขียวลงมายืนที่พื้นจากนั้นเก็บแหวนเก็บของภายในของเขาขณะที่ผูกสัญญาด้วยเลือด

หน้าของชายชราชุดเขียวเปลี่ยนไปมาก“หืม?  มีเพียงสามหมื่นล้านศิลาดำเป็นไปได้ยังไง? น้อยขนาดนั้นเชียวหรือ?” ชายชราชุดเขียวไม่อยากเชื่อ “เป็นไปไม่ได้ สมบัติของตระกูลบอยด์สั่งสมมานานนับปีไม่ถ้วน  แม้แต่ส่วนเสี้ยวที่น้อยที่สุดก็ยังมากกว่านี้”

บางทีสำหรับลินลี่ย์หรือเทพชั้นสูงสามหมื่นล้านศิลาดำถือว่าเป็นสมบัติมหาศาล

แต่...

สำหรับชายชราชุดเขียวและยอดฝีมืออย่างนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าจำนวนนิดหน่อย  ถ้าเขาเทียบกับเงินสามหมื่นล้านศิลาดำนี้กับสมบัติตระกูลบอยด์ทั้งหมดนั่นแค่เท่ากับขนเส้นเดียวจากในร่างกาย ต้องเข้าใจก่อนว่า..ภายในเมืองโรงแรมแห่งเดียวก็มีมูลค่าหมื่นล้านศิลาดำแล้ว

เป็นไปได้ยังไงที่สมบัติตระกูลบอยด์จะมีมูลค่าเทียบกับโรงแรมแห่งเดียว?

“ไม่, ยังมีชายชราเขาสีขาวอีกคน”  ตาของชายชราชุดเขียวเป็นประกายเย็นชา  “สมบัติต้องอยู่ที่เขาแน่นอน”  แต่เมื่อเขารู้สึกถึงตำแหน่งของชายชราเขาสีขาวหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “แย่แล้ว...อสูรผู้นั้นเข้ามาใกล้ชายชราเขาสีขาวแล้ว”

หน้าของแลร์มองต์เย็นชาและอำมหิตเขาควงดาบยาวและเดินผ่านปราสาทราวกับเดินเล่นในสวนดอกไม้ของตนเอง  เมื่อเขาเผชิญผนังทรายเมื่อใด  เขาจะเดินตรงผ่านเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจผนังทรายข้างหน้าเขา

ดาบของเขาเป็นประกาย!

“ครืนนน!”

ผนังทรายเหลืองถูกทำลายโดยตรงทั้งหมด  แลร์มองต์เคลื่อนไหวเหมือนกับภาพลวงตาผ่านช่องว่างไปได้  ขณะที่ทรายผนังทรายเหลืองกลับคืนสภาพตามหลังทันที

“หืม” แลร์มองต์มองด้านข้างอย่างเย็นชา

“ควั่บ!”ดาบของเขาฟันใส่ผนังทรายที่อยู่ห่างไกลราวกับสายฟ้า  ทันใดนั้นมีเลือดฉีดพุ่งออกมาจากผนังทรายเหลืองและศพร่างหนึ่งร่วงลงมาจากผนังทราย ตาของศพนั้นเบิกโพลงด้วยความตกใจ เหมือนกับว่าเขาไม่เชื่อว่าแลร์มองต์จะสังเกตเขาออก

แลร์มองค์ไปข้างหน้าต่อ

ไม่มีใครขัดขวางข้างหน้าเขาได้

“ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้า”  แลร์มองต์พูดขณะเดิน  “เจ้าอาจจะออกมาได้เช่นกัน  เจ้าเชื่อหรือว่าข้าจะไม่สามารถทำลายมิติปราสาทของเจ้าได้?”

“โครม..”

อีกดาบหนึ่งฟันใส่อุปสรรคกีดขวางข้างหน้าเขาและร่างของแลร์มองต์เอนอีกครั้งไปปรากฏอยู่ด้านตรงข้ามของทาง

“อา. ท่านแลร์มองต์”ชายชราเขาขาวจ้องมองแลร์มองต์ยอย่างประหลาดใจและดีใจทั้งที่หน้าของเขายากจะมีรอยยิ้มให้เห็น

“ข้าช้าไปก้าวหนึ่ง” ชายชราชุดเขียวซ่อนตัวอยู่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตรจากชายชราเขาขาวในห้อง  “คนผู้นี้ชื่อแลร์มองต์หรือ?  พลังโจมตีของเขาน่ากลัวจริงๆ นี่แค่พลังโจมตีปกติของเขาก็ยังมีพลังขนาดนั้น  ถ้าเขาระเบิดพลังออกมาจริงๆ...”

ชายชราชุดเขียวมีประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา แน่นอนเขาสามารถบอกได้ว่าแลร์มองต์ยังมีไม้ตายโจมตีสูงสุด

กล่าวโดยทั่วไปยอดฝีมือผู้ทรงพลังมากมายอย่างพวกเขาจะใช้ความสามารถโจมตีที่ดีที่สุดได้ซึ่งต้องสิ้นเปลืองพลังจิตและพลังเทพมาก  ดังนั้นเว้นแต่ช่วงเวลาวิกฤติมาถึง ยอดฝีมือชั้นสูงระดับนี้ไม่ต้องการใช้พลังโจมตีที่สูงสุด

“เจ้าบัดซบนั่น”  ชายชราชุดเขียวตัดสินใจทันที  “ตอนนี้, ทั้งหมดที่ข้าทำได้คือหาเทพชั้นสูงให้มากขึ้นและให้พวกเขาโจมตีชายชราเขาขาว  ขณะที่ตัวข้าเองจะลงมือกับแลร์มองค์เองชั่วขณะ”

ชายชราชุดเขียวเข้าใจว่าไม่มีทางที่เทพชั้นสูงคนอื่นจะรับมือแลร์มองต์ได้

แต่การฆ่าบุรุษชราเขาขาวแค่ใช้เทพชั้นสูงสองสามคนร่วมมือกันลอบทำร้ายเขา นั่นคือสิ่งที่จำเป็นต้องทำที่สุด

……………………… . .

ขณะที่การสู้รบดำเนินไปภายในปราสาททรายจำนวนเทพชั้นสูงลดลงมากทุกที

ซาโลมอนยืนอย่างสงบในกลางอากาศ

“หวังว่านีซคงปลอดภัย”ใจของซาโลมอนยังคงห่วงใยน้องสาวของเขา

“ควั่บ!”

ทันใดนั้นจากจุดที่ใกล้กับผนังมีร่างสองร่างปรากฏพุ่งตรงเข้าหาซาโลมอนพร้อมกับปลดปล่อยพลังสะท้านมิติ

“ฮึ่ม!”ซาโลมอนพลิกมือปล่อยรังสีดำมากมาย ร่างทั้งสองส่งเสียงร้องโหยหวน หนึ่งในนั้นกระแทกร่างกับพื้นไม่มีโอกาสขยับร่างอีกเลย ขณะที่อีกร่างหนึ่งหนีหายเข้าไปในผนังทรายเหลือง

“ต้องการจะฆ่าข้าหรือ?”  ซาโลมอนหัวเราะ

การสู้รบดำเนินต่อไปและอสูรล้มตายคนแล้วคนเล่า

“นอกจากอสูรที่น่ากลัวแล้วมีเทพชั้นสูงสี่คนที่ยากจะจัดการได้” อินนิโกได้ยินรายงานจากบริวารของเขาและเริ่มขมวดคิ้ว  เขาไม่รู้ว่าสี่คนที่รับมือยากนี้มีอสูรระดับเทพชั้นสูงจะเป็นพี่น้องเอ็ดเวิร์ดและซาโลมอน!”

ระดับดาวเดียวไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงพลังของอสูร

ตัวอย่างเช่นอสูรผู้ทรงพลังอาจจะยังเป็นอสูรดาวเดียวที่เพิ่งจะสอบผ่านคัดเลือกอสูร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพลังของเขาจะอยู่ที่ระดับดาวเดียว

ซาโลมอนเป็นตัวอย่างที่ดี  มองอย่างผิวเผิน เขาเป็นเพียงอสูรสี่ดาว  แต่พลังที่แท้จริงของเขาเล่า?

อสูรทั้งหมดไม่สามารถตัดสินจากดาวเดียวของพวกเขาได้

“ไม่จำเป็นต้องจัดการกับเทพชั้นสูงเหล่านั้น  ไม่มีผลประโยชน์กำไรจากพวกเขาเลย”  อินนิโกสั่งเป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือชายชราสองพี่น้อง ไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าอสูรเทพชั้นสูงทั้งหมด“  สำหรับตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องรวมกำลังกัน   โจมตีได้ตามเท่าที่พวกเจ้าพอใจ  จัดการกับอสูรระดับเทพแท้ให้หมด”

สำหรับเทพชั้นสูงฆ่าเทพแท้ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องรวมกำลังกัน

“ได้เลย คุณชาย!”

เทพชั้นสูงหายเข้าไปในทรายเหลือง

ด้วยคำสั่งที่ได้รับนี้อสูรระดับเทพแท้ในปราสาทตกอยู่ในอันตรายทันทีรวมทั้งลินลี่ย์ บีบี เดเลียและนีซ...

เริ่มเกิดวิกฤติ!

ลินลี่ย์เดินตรงผ่านทรายเหลืองอย่างระมัดระวัง  เขามองดูเหมือนนักรบโลหะ ลินลี่ย์ใช้เกราะชีพจรป้องกันเพื่อปกป้องทุกส่วนของร่างกายเขา

“ควั่บ” เงาดาบสายหนึ่งระเบิดพลังออกมาจากด้านข้างของลินลี่ย์!

ลินลี่ย์เพียงแต่รู้สึกเหมือนกับว่าเขากลายเป็นเรือน้อยที่เผชิญคลื่นลมรุนแรงในมหาสมุทรทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด