ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 50 น่านน้ำของแผ่นดินหนานโจวลึกสุดหยั่ง เจ้ามิอาจเข้าใจความอันตรายของที่นั่นได้ท่องแท้
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 50 น่านน้ำของแผ่นดินหนานโจวลึกสุดหยั่ง เจ้ามิอาจเข้าใจความอันตรายของที่นั่นได้ท่องแท้
ตู้หยวนเป็นผู้ฝึกยุทธ์พเนจร เพื่อให้ตนเองอยู่รอดจนมาถึงขอบเขตสูงสุดในตอนนี้ นอกจากพรสวรรค์และวาสนาแล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความระมัดระวัง!
บิดาของอัจฉริยะผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตสูงสุดขั้นสูงสุด
ว่ากันว่ามีโอกาสที่เขาจะทะลวงไปยังขอบเขตสวรรค์
หากอีกฝ่ายไม่ตกตายซะก่อน และเมื่อกลับมาพบว่าบุตรชายของเขาถูกฆ่าตาย? ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแน่!
ใครก็ตามที่มีส่วนร่วมจะถูกฝังกลบไปพร้อมกับบุตรชายของเขา
ตระกูลเล็กๆ ที่ตู้หยวนอยู่ไม่มีทางรับมือกับความโกรธของอีกฝ่าย
ต่อให้ขุมอำนาจใหญ่จะกระจายข่าวว่าบิดาของอัจฉริยะผู้นั้นแผ่นจารึกชีวิตได้แตกสลายและตกตายไปแล้ว แต่ตู้หยวนรู้ดีว่าหากมีใครเข้าไปในเขตแดนลับและได้รับวาสนาพิเศษหรือหากเกิดสถานการณ์พิเศษ แผ่นจารึกชีวิตก็ย่อมแตกสลายได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องตกตายก็ได้
ตอนที่ตู้หยวนอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิ เขาเองก็เคยพบกับสถานการณ์เช่นนี้ ศัตรูของเขาเชื่อว่าเขาตายไปแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีเวลามากพอและได้รับวาสนาในการทะลวงไปยังขอบเขตสูงสุด แล้วสังหารศัตรูลงสำเร็จ
เป็นเพราะประสบการณ์นี้เองที่ตู้หยวนลังเลว่าเขาควรเข้าร่วมหรือเปล่า เขาเพราะต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว
แต่รางวัลที่ขุมอำนาจใหญ่มอบให้ก็ใจกว้างเสียจริง สามารถล่อลวงขุมอำนาจเล็กๆ ได้ไม่น้อย
หากตระกูลเล็กๆ ของเขาได้รับทรัพยากรจำนวนนี้ ความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลจะเพิ่มขึ้น 30% อีกอย่างยังทำให้เขามีโอกาสทะลวงขั้นย่อยได้ภายในอีกสิบปี
ฉู่เซวียนรู้สึกว่าอัจฉริยะผู้นี้ไม่ง่ายดาย การผงาดขึ้นของอีกฝ่ายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
บางทีเขาอาจมีท่านปู่หรือยอดฝีมือระดับอาวุโสอยู่ข้างตัว
เขาอาจจะร่วงหล่นจากแดนสวรรค์ แล้วได้รับความอัปยศจากหลายฝ่าย แต่เมื่อเขาเลือกที่จะเผยตัวในเวลานี้ก็เป็นไปได้สูงว่าเขาอาจจะฟื้นฟูความแข็งแกร่งคืนมาได้แล้ว
มีแนวโน้มว่าศัตรูของเขาภายในขุมอำนาจใหญ่นั้นเริ่มหวาดกลัวพรสวรรค์และการแก้แค้นของเขา นั่นเป็นสาเหตุว่าเหตุใดพวกเขาถึงกับไม่สนว่าจะจ่ายเท่าไหร่เพื่อสังหารเขา
อัจฉริยะผู้มีพลังของตัวเอก หมายความว่ายากมากที่จะสังหารเขานั่นเอง
หากตู้หยวนเข้าร่วมในการไล่ล่า มีความเป็นไปได้สูงว่าในตอนท้ายอัจฉริยะผู้นั้นจะลุกกลับขึ้นมาสังหารตู้หยวนและทำลายตระกูลเล็กๆ ของเขา
“อย่าไปเอี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะพบกับความหายนะ” ฉู่เซวียนกล่าวอย่างลึกลับ
ตู้หยวนพลันสูดหายใจเข้าลึกและถามว่า “ท่านผู้อาวุโสจะเกิดความหายนะจริงหรือหากเราเข้าร่วม”
“จากอัจฉริยะตกสู่ผู้แพ้พ่ายและจากผู้แพ้พ่ายผงาดเป็นอัจฉริยะ ทุกอย่างย่อมมีความลับอยู่เบื้องหลัง เป็นที่รู้กันดีว่ายอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานทุกคนก่อนจะทะยานขึ้นสู่สวรรค์ก็เคยเข่นฆ่าอัจฉริยะนับไม่ถ้วน เคยปฏิบัติกับพวกเขาเสมือนหินรองเท้าเพื่อเหยียบย่างขึ้นสู่สวรรค์”
“แค่รอดูก็พอ ผู้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้คงจะจบไม่สวยสักราย ยิ่งอัจฉริยะที่เข้าร่วมมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ในตอนท้ายโอกาสที่พวกเขาจะตกตายหรือพิการก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”
ตู้หยวนหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าน้อมฟังคำสั่งสอนของท่านผู้อาวุโส ข้าจะหยุดไม่ให้ตระกูลเข้าร่วม”
ฉู่เซวียนไม่แปลกใจที่ตู้หยวนเชื่อฟังคำแนะนำของเขา ตู้หยวนมักระวังตัวอยู่เสมอ เมื่อได้ยินเช่นนี้ย่อมไม่อยากเข้าร่วมอยู่แล้ว
ไม่กี่วันต่อมา ตู้หยวนดูเหมือนจะเคารพฉู่เซวียนมากยิ่งขึ้น เขาดีใจที่ได้หยุดตระกูลเล็กๆ ของเขาไม่ได้เข้าร่วมในปิดล้อมของอัจฉริยะผู้นั้น
เช่นเดียวกับที่ฉู่เซวียนคาดการณ์เอาไว้ อัจฉริยะผู้นั้นก็ได้กวาดล้างศัตรูทั้งหมดของตนเอง อัจฉริยะในเมืองของตู้หยวนได้ตกตายกันเกือบหมด
หลังจากที่อัจฉริยะผู้นั้นกวาดล้างศัตรูจนหมด เขาก็หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย แถมก่อนไปเขายังประกาศว่าจะแก้แค้นทุกขุมอำนาจที่มีเกี่ยวข้อง
ผู้อาวุโสอันทรงเกียรติที่จากตระกูลทรงพลังก็ได้ลงมือขจัดอันตรายที่ซ่อนเร้นนี้ด้วยตนเอง แต่ในตอนท้ายอัจฉริยะผู้นั้นก็ได้รับการช่วยเหลือจากยอดฝีมือลึกลับ
ฉู่เซวียนเริ่มสนใจอัจฉริยะผู้นั้นแล้ว ตอนนี้เขากำลังคิดอยู่ว่าเขาควรจะสร้างเขตแดนลับแห่งวาสนาในดินแดนเป๋ยดีไหม...
บางทีอัจฉริยะผู้นั้นอาจจะไปสะดุดกับเขตแดนลับแห่งวาสนาของเขา?
เขามีลางสังหรณ์ว่าไม่นานอัจฉริยะผู้นั้นจะต้องโด่งดังไปทั่วดินแดนเป๋ย จากนั้นโตเติบขึ้นอย่างรวดเร็วและเหยียบย่ำอัจฉริยะจำนวนมากไปตลอดทาง
ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ชีวิตของฉู่เซวียนผ่านไปอย่างสงบสุข เขาฝึกฝน อ่านข้อมูลที่หอจันทร์ทมิฬส่งมา และเชื่อมต่อกับสถานที่ต่างๆ แบบสุ่มด้วยกระจกหมื่นสวรรค์ เขากล่าวคุยกับตู้หยวนเป็นครั้งคราว
หลังจากที่จ้าวลัทธิมารแห่งแคว้นจื่อเยว่หู่ฉวนได้รับแผนผังของอาณาเขตตระกูลฉู่ เขาก็เงียบหายไปเลย ฉู่เซวียนรู้สึกสงสัยไม่น้อยว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนการใหญ่หรือไม่?
อย่างไรก็ตามความอยากรู้ของฉู่เซวียนมีเพียงแค่นั้น แผนการใดๆ นั้นไร้ประโยชน์ต่อหน้าความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ครั้งล่าสุดก็ผ่านมาหลายวันแล้วที่ฉู่เซวียนติดต่อกับตู้หยวน
ฉู่เซวียนหยิบกระจกหมื่นสวรรค์ออกมา เติมพลังวิญญาณเข้าไป และเชื่อมต่อกับตราประทับของตู้หยวน
ภาพปรากฎขึ้นในไม่ช้า
เขาเห็นตู้หยวนกำลังนั่งอยู่บนบัลลังค์ในห้องโถงขนาดใหญ่
ตระกูลเล็กๆ ที่เขาปกครองกำลังจัดประชุมอยู่
ฉู่เซวียนไม่ได้ส่งเสียงรบกวน เพียงเฝ้าดูอย่างเงียบๆ
ประเด็นหลักของการประชุมนี้คือเพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจของตระกูลที่จะส่งรุ่นเยาว์สองคนที่มีพรสวรรค์โด่ดเด่นเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์ของสำนักใหญ่ในดินแดนเป๋ย
แม้ว่าตระกูลเล็กๆ จะได้รับการปกป้องจากตู้หยวนยอดฝีมือขอบเขตสูงสุด แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาไม่สามารถพึ่งพาตู้หยวนได้ทุกอย่าง
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและอิทธิพลของตระกูล พวกเขาวางแผนที่จะประจบประแจงสำนักใหญ่เหล่านั้น
หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง ตู้หยวนก็กลับไปยังบ้านของเขาตามปกติ
หลังจากนั้นฉู่เซวียนก็ปรากฎตัวในภาพของกระจกหมื่นสวรรค์แล้วกล่าวคุยกับตู้หยวน
“ท่านผู้อาวุโส ผู้เยาว์วางแผนที่จะออกเดินทางไกลในอันใกล้นี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดสนามรบเทพมารโบราณ”
“สนามรบเทพมารโบราณ?”
ฉู่เซวียนตกตะลึง ตู้หยวนจะเข้าร่วมในการแย่งชิงโชควาสนาหรือ?
สถานที่ที่แม้แต่ตู้หยวนซึ่งเป็นยอดฝีมือขอบเขตสูงสุดยังสนใจนั้นไม่ใช่ธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้นฟังจากชื่อแล้วก็ดูไม่ง่ายเลย
มันเป็นสนามรบโบราณอะไรเทือกนั้น
“สนามรบเทพมารโบราณของแผ่นดินหนานโจวจะเปิดขึ้นในไม่กี่สิบปีนี้ขอรับ”
สีหน้าของตู้หยวนเคร่งขรึมขณะที่กล่าวต่อ “แผ่นดินหนานโจวในสมัยโบราณเคยเกิดมหาสงครามที่ถึงกับทำให้เส้นชีพจรปฐพีพังทลาย กฎแห่งฟ้าดินเสียหาย ซึ่งตอนนี้กฎแห่งฟ้าดินกำลังฟื้นตัว สนามรบเทพมารโบราณจึงเปิดขึ้น”
“ผู้เยาว์วางแผนไว้ว่าจะไปแผ่นดินหนานโจวก่อนเพื่อเตรียมการบางอย่าง ซึ่งจะช่วยให้เราได้เปรียบเมื่อสนามรบเทพมารโบราณเปิดขึ้น”
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ผู้เยาว์เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์พเนจร ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถเทียบได้กับยอดฝีมือจากขุมอำนาจใหญ่ หากผู้เยาว์ไม่เตรียมการล่วงหน้า ผู้เยาว์กลัวว่าตนเองจะไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมด้วยซ้ำ และก่อนจะถูกขุมอำนาจใหญ่ของแผ่นดินหนานโจวขัดขวาง ผู้เยาว์จึงต้องไปยังแผ่นดินหนานโจวเพื่อแฝงตัวและเตรียมการก่อนขอรับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉู่เซวียนรู้สึกประหม่าทันที
ข้าเพิ่งกลายเป็นตัวตนทรงอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินหนานโจว แต่ตอนนี้ตัวตนทรงอำนาจขอบเขตสูงสุดกำลังจะมาเยือน?
นอกจากตู้หยวน ยอดฝีมือจากดินแดนอื่นก็ย่อมมีความคิดเช่นเดียวกันหรือเปล่า?
สนามรบเทพมารโบราณทำให้ล่มสลายแผ่นดินหนานโจว มหาสงครามครั้งนั้นทำให้กฎแห่งฟ้าดินพังทลาย ทำให้สนามรบกลายเป็นเขตแดนลับ
เมื่อสนามรบเทพมารโบราณเปิดขึ้น ย่อมไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างแน่นอน ขุมอำนาจใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนจะต้องเข้ามาตัดแบ่งแย่งชิงเค้กชิ้นนี้
แผ่นดินหนานโจวจะตกอยู่ความโกลาหลวุ่นวายหรือไม่?
ฉู่เซวียนรู้สึกกดดันทันที ไม่สิ เขาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด
เขาถามตู้หยวนทางอ้อมเกี่ยวกับข้อมูลของสนามรบเทพมารโบราณ พร้อมกับได้รับรู้ยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่จะมายังแผ่นดินหนานโจว
สิ่งที่ทำให้ฉู่เซวียนโล่งใจคือไม่ใช่ว่าผู้ฝึกยุทธ์พเนจรทุกคนที่รู้ข่าวสนามรบเทพมารโบราณ ตู้หยวนได้รู้เรื่องนี้โดยบังเอิญเท่านั้น
ขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ที่มีมรดกอันยาวนานยังคงไม่ส่งยอดฝีมือมาที่แผ่นดินหนานโจวเพราะยังไม่ถึงเวลา พวกเขาจะมาก็ต่อเมื่อได้หารือเกี่ยวกับโควต้ากันเสร็จแล้วเท่านั้น
ก่อนที่ขุมอำนาจใหญ่จะลงมือ พวกเขาจะจับมือกันปิดกั้นทางเข้าแผ่นดินหนานโจว ป้องกันไม่ให้ขุมอำนาจและยอดฝีมือจากที่อื่นเข้ามา
พวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขัดขวางผู้ฝึกยุทธ์อย่างเช่นตู้หยวนซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์พเนจรหรือผู้ฝึกยุทธ์จากขุมอำนาจเล็กๆ ไม่ให้มายังแผ่นดินหนานโจว
ฉู่เซวียนพลันคิดอะไรบางอย่างได้และกล่าวว่า “เดี๋ยวนะ ข้าจะช่วยดูสถานการณ์ในแผ่นดินหนานโจวให้เจ้า”
หลังจากทำการแสดงเสร็จ ดวงตาของฉู่เซวียนก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทองไปยังทิศทางหนึ่ง ตู้หยวนรู้สึกตกใจกับความแข็งแกร่งของท่านผู้อาวุโส
หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่เซวียนก็เอ่ยว่า “เสี่ยวตู้ ฟังคำชี้แนะของข้าผู้อาวุโส น่านน้ำของแผ่นดินหนานโจวลึกสุดหยั่ง เจ้ามิอาจเข้าใจความอันตรายของที่นั่นได้ท่องแท้!”