ตอนที่ 91 ปัญหาที่เข้ามา (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 91 ปัญหาที่เข้ามา
[T/L: แถมฟรีวันเลือกตั้งขอให้ประเทศดีขึ้น]
หลังจากเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว แม็กนัสก็พาเอลฟ์ทั้งสองไปด้วย ดัมเบิลดอร์กำลังจะส่งพวกเขากลับบ้าน แต่เมื่อพวกเขามาถึงล็อบบี้ของผู้มาเยือน พวกเขาพบรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์และพวกเลือดบริสุทธิ์ของกระทรวงอีกสองสามคน
เมื่อเห็นดัมเบิลดอร์ พวกนั้นต้องออกมาต้อนรับเขา แต่พอพวกเขาเห็นแม็กนัส พวกนั้นกลับทำหน้าบูดบึ้ง ในทางกลับกันแม็กนัสเองก็ทำหน้าเหมือนรังเกียจเช่นกัน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” รัฐมนตรียูจีเนียทักทายเขาแล้วหันไปหาแม็กนัส
“อรุณสวัสดิ์ คุณเพนดราก้อน” เธอกล่าว แต่ฟังดูกระตือรือร้นน้อยกว่ามาก
“สวัสดี” แม็กนัสทักทายเธอกลับ
“ไปกันเถอะ เรามีเรื่องสำคัญต้องคุยกันมากกว่าจะมาเสียเวลาที่นี่” ผู้ชายจากด้านหลังกล่าวว่า ในไม่ช้า ที่เหลือก็พยักหน้าและจากไป
~อืม... การให้ท้ายพวกผู้ก่อการร้ายนั้นสำคัญมากจริงๆ ~ แม็กนัสคิดอย่างประชดประชัน เขายังไม่แน่ใจว่ารัฐมนตรีอยู่ฝ่ายไหนแน่ พวกนักการเมืองเข้าใจยาก
“ไปกันเถอะครับศาสตราจารย์” แม็กนัสพูด
ดัมเบิลดอร์พยักหน้าและพาทั้งสี่คนกลับไปที่บ้านแกรนท์ แม็กนัสไม่สามารถใช้เอลฟ์ได้เนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นบ้านของเขาตั้งแต่แรก
หลังจากส่งแม็กนัสไป ดัมเบิลดอร์ก็จากไปอย่างรวดเร็วเพื่อทำทุกอย่างที่เขาทำ ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาทำอะไร
เขาต้อนรับเอลฟ์ประจำบ้านทั้งสองเข้าสู่บ้านของเขา
“เอาล่ะ เรามาทำให้ชัดเจนกันก่อนนะ พวกคุณไม่ใช่ทาสของฉัน”
แม็กนัสบอกพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา
"พวกเราเองไม่ก็คิดว่าตัวเองเป็นทาสขอรับ เจ้านายคนก่อนของเราสอนเราตั้งแต่เล็กว่าเราเป็นเพียงเผ่าพันธุ์ที่พึ่งพาเวทมนตร์ของผู้อื่น” อับราฮัมเริ่มต้น
จอร์จยังเสริมอีกว่า "นายท่านคือความหวังสุดท้ายของเรา ถ้านายท่านไม่รับเรา กระทรวงก็จะไล่เราออกจากตำแหน่ง เสมียนคนนั้นมีเมตตามากพอที่จะเลี้ยงเรามาหลายปีแล้ว ไม่อย่างนั้นเราคงตายไปนานแล้วขอรับ”
แม็กนัสรู้สึกไม่ดีกับสองคนนี้ พวกเขาฉลาดเกินกว่าจะอยู่ในโลกผู้วิเศษของอังกฤษ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมไม่มีใครรับพวกเขาเข้าทำงาน
~ เสมียนคนนั้นเป็นคนดีที่ได้เลี้ยงดูพวกเขา อืม สักหมื่นสองหมื่นเกลเลียนน่าจะมากทำให้เขามีความสุขได้นะ~ เขาตัดสินใจให้รางวัลแก่ชายที่ชื่อแม็กนัสคนที่ชื่อเหมือนกันกับเขา
"เอาล่ะ ฉันจะบอกคุณว่างานของคุณคืออะไร ส่วนใหญ่แล้วคุณจะต้องดูแลปราสาทของฉัน จะใช้เวทมนตร์เพื่อให้มันจัดเองก็ได้ นอกเหนือจากนี้ บางครั้งคุณก็สามารถทำอาหารเพื่อสุขภาพให้พ่อแม่ของผมกินได้ คุณรู้วิธีซ่อนตัวจากมักเกิ้ลใช่ไหม?” แม็กนัสถาม
"แน่นอนขอรับว่าเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ตั้งแต่อายุยังน้อย เราไม่สามารถให้มักเกิ้ลเห็นเราได้" จอร์จตอบกลับ
“ดี ตอนนี้พวกมักเกิ้ลคนเดียวที่นายอนุญาตให้เห็นได้ก็คือพ่อแม่ของฉันและบ๊อบบี้เพื่อนสนิทฉัน” แม็กนัสสั่งพวกเขา
"เฮ้! ฉันคิดว่าฉันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของนายซะอีก" รักนาร์ท้วง
"ฉันมีเพื่อนที่สนิทที่สุด 3 คน" แม็กนัสหาทางรอด
“หึ ไม่จริงหรอก นายไม่สามารถมีเพื่อนที่สนิทที่สุดได้มากกว่าหนึ่งคนได้นะ” รักนาร์เถียง
“แล้่วไม่อยากเป็นเพื่อนสนิทของฉันแล้วเหรอ?” แม็กนัสถามอย่างจริงจัง
รักนาร์ยิ้ม “ฉันแค่ล้อเล่นน่า แม็กนัส นายทำงานไปเถอะ ฉันจะไปเล่นกับดั๊กก่อน เมื่อมันโตขึ้น ฉันจะบอกมันว่ามันเคยเล่นบนตักของฉัน บางทีมันอาจจะให้ฉันขี่หลังบินเล่นก็ได้”
ดังนั้นแม็กนัสจึงขอให้เอลฟ์ใหม่ทั้งสองทำอาหารที่เหมาะสำหรับมื้อค่ำ เขากำลังจะแนะนำให้พ่อแม่ของเขารู้จัก
...
ตอนเย็น แม็กนัสอยู่ในห้องของเขา กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับฟิสิกส์ดาราศาสตร์
~คนเราสามารถส่งกุญแจนำทางไปยังดวงจันทร์ได้ไหมนะ?~ เขาสงสัยกับตัวเอง
"เฮ้ รักนาร์ นายคิดยังไงเรื่องอวกาศ?" แม็กนัสถาม รักนาร์กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปรุงยาจากคลังของเมอร์ลินที่แม็กนัสหยิบมาในครั้งแรกที่เขาไปที่ห้องนิรภัย มันไม่ฟรี สิ่งเดียวที่แม็กนัสขอคือน้ำยานำโชคจากเขาเมื่อเขารู้วิธีปรุง
[คำว่าอวกาศกับช่องว่าง พื้นที่ว่างใช้คำเดียวกัน]
“เกี่ยวอะไรกับช่องว่างล่ะ? ช่องว่างระหว่างเราก็โอเคนี่ อย่าบอกฉันนะว่า… อยากเข้าใกล้ฉันมากกว่านี้นะเฟ้ย” รักนาร์ถอยไปสองสามก้าว
"อาห์..." แม็กนัสพึมพำกับตัวเอง
"ฉันกำลังพูดถึงอวกาศจริงๆ เฟ้ย ไอ้ติ๊งต๊องนี่" เขาแก้ไขความเข้าใจ
รักนาร์ดูสบายใจขึ้น "อ่า นั่นสินะ? เกี่ยวกับอวกาศหรอ? นายไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้ไง”
“นี่นายพูดจริงดิ? เราเป็นพ่อมดนะเฟ้ย ถ้าขนาดมนุษย์ธรรมดายังสามารถไปดวงจันทร์ได้ แล้วทำไมเราไม่สามารถสร้างคาถาหรือชุดเวทมนตร์ที่จะช่วยให้อยู่ในอวกาศได้นานขึ้นได้เล่า? นายเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพ่อมดที่ไปดวงจันทร์ในเดลี่พรอเฟ็ตเลยหน่ะฮะ? กุญแจนำทางสามารถพาเราไปที่นั่นได้หรือเปล่า? มีคำถามที่น่าทึ่งน่าสนใจตั้งเยอะแยะน่ะ”
แม็กนัสพูดพล่าม
“หืม มันก็มีแค่ฝุ่นกับหิน แล้วจะไปดวงจันทร์ทำเพื่อ?” บ๊อบบี้เย้ยหยัน
"แร่หายากไงเล่า ลองจินตนาการดูสิ อาจมีฝุ่นหรือหินเวทมนตร์หายากอยู่ที่นั่นก็ได้ บางอย่างที่จะช่วยคุณปรุงยาชนิดใหม่ได้น่ะ การค้นพบส่วนผสมใหม่ๆ เป็นส่วนหนึ่งในงานของนักปรุงยาไม่ใช่หรอ?” แม็กนัสถาม
ตอนนี้เองที่ดวงตาของรักนาร์ก็เริ่มเปล่งประกาย "เวรเอ้ย! ทำไมฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ฮ้าาาา... แล้วดาวอังคารล่ะ? โอ้พระเจ้า อวกาศคือขุมทรัพย์... แม็กนัส... เราต้องไปที่อวกาศกันนะ"
"ฮ่าๆ... งั้นก็พยายามหาทางที่จะอยู่บนอวกาศนานๆ ดิ" ตอนนี้แม็กนัสทำให้เขาติดงอมแงมและรู้ว่าสักวันหนึ่งรักนาร์จะพบทางออกอย่างแน่นอน
“เข้าใจแล้ว ฉันจะเริ่มหาทางทำไรซักอย่าง” และแล้วเขาก็อ่านหนังสืออย่างเมามันมากขึ้น
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาา พวกแกเป็นตัวอะไร!...”
แม็กนัสกับรักนาร์สะดุ้งแบ้วจากเสียงกรีดร้องอย่างกะทันหันจากชั้นล่าง
ทั้งคู่วิ่งลงมาข้างล่าง ดั๊ก, แชดและซัมเมอร์ก็รีบเร่งตามไปเช่นกัน
ทันทีที่พวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขาเห็นเกรซใช้ร่มของเธอเพื่อป้องกันสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ทั้งสองตน
"แม่จ๋า ใจเย็นๆ นะฮะ ผมพาพวกเขามาที่นี่เอง พวกเขาเป็นเอลฟ์ประจำบ้าน" แม็กนัสตะโกน
"ลูกพาพวกเขามาหรอ? พวกเขาเป็นใครจ๊ะ?" เธอถาม ตอนนี้สงบลงเล็กน้อย
“ขออภัยครับท่าน แต่พวกเราว่าจะทักทายคุณผู้หญิงด้วยชาสักแก้ว” จอร์จขอโทษ
"ไม่เป็นไร จอร์จ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ เธอไม่รู้เกี่ยวกับคุณสองตน แม่ครับ พวกเขาเป็นเอลฟ์ประจำบ้าน ผมจ้างพวกเขามาช่วยงานต่างๆ พวกเขาคือพ่อบ้านแห่งโลกเวทมนตร์ พวกเขาสามารถทำอาหารและทำความสะอาดได้อย่างเชี่ยวชาญ" แม็กนัสอธิบายให้เธอฟัง
“ลูกจ้างผู้ช่วยงั้นหรอ?” เกรซมองไปที่เอลฟ์ประจำบ้านทั้งสอง พวกเขาสวมผ้ากันเปื้อนทับบนเสื้อผ้าอีกที
อับราฮัมทักทายเธอว่า "สวัสดีตอนเย็นขอรับ คุณผู้หญิง ผมอับราฮัม ลินคอล์น และนี่คือจอร์จ วอชิงตัน ต้องขออภัยที่เราทำให้กลัวขอรับ”
“ไม่ ไม่... ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่ดูแลลูกชายฉันนะคะ” เธอทักทายพวกเขากลับโดยไม่สนใจชื่อแปลก ๆ ของพวกเขา
"แม่ฮะ ไม่ต้องห่วงเรื่องมือเย็นวันนี้นะฮะ พวกเขาจะทำมันเอง ผมจ้างพวกเขามาดูแลบรรดาปราสาทของผมเป็นหลัก ปราสาทพวกนั้นต้องมีคนทำความสะอาดฮะ” แม็กนัสกล่าว
เธอเข้าใจแต่ถึงกระนั้น แค่ได้ยินแม็กนัสพูดเบาๆ เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของปราสาทมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนฝันไป ดูเหมือนไม่มีอะไรจริงอีกต่อไป ประการแรก มรดกของแม็กนัส การที่เขาจะเป็นกษัตริย์ และเรื่องทั้งหมด มันมากเกินไปสำหรับคนปกติทั่วไป
"ได้สิจ๊ะลูกรัก ลูกรออยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวพ่อของลูกอาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ และแม่ไม่อยากให้เขาโบกปืนไปทั่วทุกที่ แม่จะไปเปลี่ยนชุดก่อน” เกรซพูดแล้วเดินออกไป
[A/N: เอาล่ะ ก่อนที่ใครจะมากระโจนใส่ฉัน นี่คือปี 1971 ปืนพกถูกห้ามในสหราชอาณาจักรในช่วงยุค 90]
"คุณกลับไปทำงานของคุณต่อเถอะ เอ๊บ จอร์จ ฉันจัดการแล้ว" แม็กนัสส่งเอลฟ์ขี้กังวลทั้งสองไปที่ห้องครัว
*ถอนหายใจ*
"แล้วนี่ฉันจะโชว์คาเมล็อต ให้แม่ได้ไง เธอคงไม่ประสาทแตกไปก่อนนะ" แม็กนัสสงสัย
“ฉันจะเตรียมป๊อปคอร์นให้พร้อมนะ” รักนาร์พูดติดตลก
*ปลดล็อคประตู*
“อา พ่อมาแล้ว เตรียมที่ซ่อนเอลฟ์ไว้ก่อน เผื่อทำเขากลัว” แม็กนัสบอกรักนาร์และเดินไปทักทายอดัม
...
ข้างนอกบ้าน,
“บ้านนั้นเหรอ?” ชายสวมหน้ากากกระโหลกบนไม้กวาดถาม ดูเหมือนเขาจะเป็นหัวหน้า ข้างเขามีคนสวมหน้ากากทั้ง 7 คน
“นั่นแหละ ที่นี่มันอยู่กับพ่อแม่มักเกิ้ล เราจะเอาไงต่อ? เราสามารถทำลายมันได้จากตรงนี้ได้เลยนะ” อีกคนหนึ่งตอบ
"ไม่ นายท่านต้องการให้เด็กมีชีวิต ฆ่าครอบครัวของมันหากจำเป็น แต่มันไม่ควรได้รับอันตรายใดๆ เลย เกรย์แบ็ค แกไปดูรอบๆ ละแวกนั้น ฉันไม่อยากให้มีใครมารบกวนเรา” คนก่อนหน้าสั่ง
"ฮิฮิ... ฉันชอบงานนี้" เกรย์แบ็กพึมพำและบินลงไปที่ถนนสี่แยก
“คนอื่นๆ ตามฉันมา” ชายสวมหน้ากากหัวหน้าสั่งพวกเขาขณะที่พวกเขาลงมา
_____________________________