ตอนที่ 6 : การยอมรับ
วันต่อมา แสงวันใหม่ได้มอบวันอันสดใสแก่เมืองหลวงอาณาจักรลอเรต
เทียนหลงนั้นเหนื่อยล้าอย่างมากจากเมื่อวานนี้ เขาหลับในห้องของเขา และหลังจากมั่นใจว่าเขาหลับ แคลผู้เป็นแม่ก็อยู่กับเขาอีกหลายชั่วโมงเพื่อมองหน้าเขาก่อนจะออกจากห้องไป
เมื่อตื่นนอน เทียนหลงเดาได้ว่านางไปที่ใดและค่อนข้างแน่ใจเพราะเขาเริ่มที่จะจินตนาการการแสดงความรักระหว่างพ่อกับแม่ อย่างไรก็ตาม ดูจากเครื่องแต่งกายที่พวกเขาสวมใส่และบัลลังก์ในห้องบัลลังก์แล้วนั้น เขาไม่ต้องใช้ความคิดมากเท่าใดที่จะรู้ว่าพวกเขาควรจะเป็นราชาและราชินี หรือถ้าหากยิ่งใหญ่กว่านั้น ก็ต้องเป็นจักรพรรดิและราชินี
ประตูเปิดออก สตรีวัยกลางคนสวมชุดสาวใช้ราชวงศ์เดินเข้ามาในห้อง นางโค้งด้วยความเคารพก่อนจะเดินมาหาเขา
“ขออภัยด้วย ฝ่าบาท…”
เมื่อพูดอย่างระมัดระวังแล้ว นางจับมือเขาช้า ๆ เพื่อพาไปอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้าเขา และอาบให้สะอาด
เทียนหลงตัวแข็งทื่ออยู่ตลอดเวลา เขาไม่แม้แต่เหลือบมองสาวใช้วัยกลางคนเป็นเวลานานเพราะส่วนโค้งเว้าของนางนั้นเปียกและเห็นทะลุได้ผ่านเสื้อผ้า เขามองใบหน้าของนางและเห็นว่านางก็เป็นสตรีที่งดงามสมวัย
‘หรือว่าคนนี้จะเป็นสาวใช้?’
เทียนหลงจินตนาการไปตามชุดที่นางสวมใส่ที่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่นี่ ยกเว้นเสียแต่ว่าชุดที่นางใส่นั้นดูแตกต่างอยู่บ้าง อาจจะดู ยิ่งใหญ่กว่า
เขารู้สึกสดชื่นหลังจากที่เขาอาบน้ำและสวมเสื้อผ้าแล้ว ซึ่งมันสดชื่นยิ่งกว่าความรู้สึกตอนอาบน้ำตามปกติ ความง่วงได้สลายไปจากกาย
‘อ่างอาบน้ำมีอะไรที่ทำให้สดชื่นงั้นเหรอ? จำได้ว่ามันเป็นกลิ่นที่แปลก…’
เทียนหลงจินตนาการ
สาวใช้วัยกลางคนจับมือเขาพาไปยังห้องตำรา
ในห้องตำรา แคลยืนรออยู่อย่างตั้งใจเพื่อรอให้ลูกชายมาถึง
ด้วยเรื่องบางประการทำให้นางมิอาจมาอาบน้ำลูกชายได้ด้วยตัวเอง นางจึงอาบน้ำตัวเองให้สดชื่นก่อนจะมาที่นี่
*เอี๊ยด!*
ประตูเปิด สาวใช้ปล่อยมือเทียนหลง ที่ด้านใดเขาได้เห็นคนที่จำได้ว่าเป็นมารดา
นางยิ้มอย่างอ่อนโยนและอ้าแขนเมื่อเห็นเขา
“ดาวิส ลอเรต มาหาแม่สิลูก…”
เทียนหลงอึ้งเมื่อเห็นนางทำตัวน่ารักเช่นนี้
‘คนคนนี้ควรจะเป็นราชินีหรือจักรพรรดินีไม่ใช่เหรอ?’
เขารีบซ่อนความตกใจและทำหน้าตาแบบเด็กสามขวบ เขาได้แต่มองเธอด้วยความสงสัยและไม่ตอบรับคำเชิญชวน
แคลทำซ้ำแบบเดิมด้วยท่าทางอื่น
เทียนหลงค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ เหมือนกับเด็กทารกที่หัดเดินเป็นครั้งแรก เขาไม่ได้แสร้งทำแต่มันยากอย่างมากที่จะขยับร่างกายที่ไร้การเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เกิด เขาไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อวิญญาณของเขาผสานเข้ากับร่างกายของเด็กคนนี้
แคลกางแขนกว้างพร้อมที่จะมอบอ้อมกอด เทียนหลงเดินไปหานางและได้รับความรู้สึกอบอุ่นอีกครั้ง นางกอดเขาแน่นและปรารถนาว่าเขาจะไม่มีวันหายไปจากสายตานางอีก
*เอี๊ยด!*
ประตูปิดลง สาวใช้ออกจากห้องตำรา
หนึ่งนาทีผ่านไปแต่พวกเขาก็กอดกันอยู่อย่างนั้น
เทียนหลงรู้สึกต่างออกไปแต่ก็ไม่ได้อึดอัดมากนัก ความรู้สึกอยากจะร้องไห้เอ่อล้นในตัวทำให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตัวตนของเด็กคนนี้มีผลต่อเขา ในด้านอารมณ์
‘บางทีเราอาจจะหลอมรวมดวงวิญญาณกับเด็กคนนี้ ใช่ไหม?’
เทียนหลงเริ่มนึกถึงความคิดที่น่ากลัว
“ดาวิส แม่ของเจ้าจะดูแลเจ้าและชี้แนะเจ้าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป มาเริ่มตั้งแต่เรื่องพื้นฐานกันดีไหม?”
แคลยิ้มเบา ๆ ราวกับเทพธิดา เทียนหลงกระพริบตาและรู้สึกว่ามันคือรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุดบนโลกใบนี้ ทั้งสดใสและสงบ
นางจับมือเขาพาเขาไปนั่งบนเก้าอี้ และจากนั้นนางก็เริ่มสอนภาษาของโลกนี้ราวกับไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
======
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป และเทียนหลงก็สามารถวิ่งเล่นได้แล้ว มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่นี่ และเขากินทุกสิ่งที่ถูกป้อน เขารู้สึกมีพละกำลังขึ้นในแต่ละคำที่กัดลงไป คุณภาพของอาหารอย่างเดียวก็มากพอที่จะทำให้เขาดูไม่เหมือนกับเด็กอดอยากแต่เป็นเด็กสุขภาพดีแล้ว
เขาถึงกับได้กินเนื้อซึ่งนับว่าอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อกว่าอาหารทุกจานที่เคยรับประทานบนโลก
นอกเหนือจากนั้น พัฒนาการด้านภาษาของโลกใบนี้ของเขาก็เป็นไปอย่างราบรื่น เขาสามารถเข้าใจบทสนทนาพื้นฐานแล้ว
สาวใช้จะนำอาหารมาส่งให้เขาสามครั้งต่อวัน และเตียงจะถูกจัดในห้องเรียน ซึ่งเป็นตัวเขาเองที่ขอแม่ให้ทำแบบนั้น
ความรู้คือพลังที่สำคัญที่สุดที่เขาต้องมีบนโลกใบนี้ ด้วยร่างกายที่กำลังเติบโตตอนนี้ การที่จะแข็งแกร่งอย่างคนอื่นที่เขาเห็นในราชปราสาทนั้นเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการเรียนรู้จึงเป็นความสำคัญอันดับแรก
ในฐานะของคนที่เหมือนกับ ‘อพยพ’ และ ‘เข้าสิงร่างคนอื่น’ นั้น เขาไม่ยินดีนักที่จะปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
เทียนหลงรู้สึกได้ว่าเขาเรียนรู้อย่างรวดเร็วผิดปกติ เขาสามารถจดจำได้อย่างดีเยี่ยมกว่าเมื่อก่อน แต่เขาก็คิดว่าเป็นเพราะดวงวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง
ครั้งนี้เขาเดาถูก แต่เขาก็ไม่รู้ตัวอยู่ดี
ศิลาข้ามโลกทำให้ดวงวิญญาณเขาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งที่จริงมันคือการใช้งานหลัก แต่คนบนโลกมิอาจหาวิธีการทำให้ดวงวิญญาณแข็งแกร่งได้
เทียนหลงเริ่มชอบแม่คนใหม่ของเขาอย่างมาก นางห่วงใยเขาอย่างถึงที่สุดและเล่นกับเขาในทุกครั้งที่เขาเรียนเสร็จ เขามีความสุขที่ได้เล่นกับนาง และอาจเป็นเพราะร่างที่เล็ก แต่รู้สึกเหมือนกับเด็กเมื่ออยู่ใกล้กับนาง
เขายังรู้ตัวว่าสภาพอารมณ์ของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และความคิดของเขาก็ได้รับผลกระทบด้วย ด้วยเรื่องนี้เขาจึงพยายามที่จะหาความผิดปกติในวิญญาณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ก็ไม่พบความแปลกประหลาดใดนอกจากบันทึกทมิฬในวิญญาณ
“ดาวิส ทำตรงนี้ให้เสร็จแล้วไปเล่นเกมที่ข้าเตรียมไว้กันเถอะ”
“ได้เลย ท่านแม่!”
ดาวิสตอบอย่างร่าเริง เขาแสร้งทำตัวเป็นเด็กต่อไป
ไม่เพียงแต่นางจะเล่นกับเขาทุกครั้งที่มีโอกาส แต่นางยังแสดงให้เขาเห็นถึงความรักของแม่อันน่าอัศจรรย์ เขาไม่รู้ว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นกับนางบ้าง แต่บอกได้เลยว่านางกำลังมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา
เพื่อตอบแทนความใจดีและเพื่อที่จะได้เป็นผู้รอบรู้ เขาจะทิ้งการเรียนไปไม่ได้
‘มันราบรื่นกว่าที่เราคิดเสียอีก ลูกข้าเรียนรู้ทุกอย่างที่สอนได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นอัจฉริยะแน่ ๆ เลย!’
แคลยิ้มอย่างภูมิใจเพราะรู้สึกว่าได้เห็นพรสวรรค์ของเทียนหลง
======
อีกหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แต่มันเป็นหนึ่งสัปดาห์ที่รู้สึกเชื่องช้าอย่างมากสำหรับเทียนหลง
เขาเริ่มที่จะมีความรักต่อแม่ เขาพูดได้ อ่านได้ และเขียนได้อย่างชำนาญ ความรู้ด้านภาษาของเขาก้าวหน้าในความเร็วสูงด้วยความพยายาม แต่บางแห่งในใจเขาก็เริ่มรู้สึกผิดที่ได้ใกล้ชิดกับแม่ของดาวิสที่ตายไปแล้ว
บางครั้ง เขาถึงกับรู้สึกว่าตัวตนข้างในกระซิบกับเขา
‘แกฆ่าลูกเธอ ทำไมถึงยังหัวเราะกับเธออีกล่ะ?’
‘สนุกงั้นเรอะ? เล่นสนุกกับแม่ของเด็กที่แกฆ่าน่ะ?’
‘คิดว่านั่นเป็นแม่แกรึไง? ไม่ใช่! แกสิงร่างลูกเธอต่างหาก!’
“หยุดนะ!!!”
“ดาวิส?”
แคลทำหน้าเป็นห่วง
เทียนหลงหยุดความคิดและนึกได้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ แม่ของเขาเพิ่งจะล้อเล่นเรื่องที่ว่าถ้าหากเขาตายในที่ที่นางไม่รู้ นางจะรู้สึกอย่างไร
“เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?”
แคลถามด้วยความเป็นห่วง
เทียนหลงหลบตาตอบ
“อื้ม ข้าไม่เป็นไร”
แคลกระพริบตาเมื่อรู้สึกว่าลูกชายของนางดู…แปลกไป
======
อีกหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
เทียนหลงเริ่มที่จะทิ้งระยะห่างระหว่างเขากับแคล เขาเริ่มที่จะไม่เล่นหลังจากเรียนเสร็จ เขาเพียงแค่ทำตามที่นางบอกจนเสร็จและเรียนภาษาต่อ
แคลเริ่มที่จะกังวลเรื่องที่ลูกชายไม่ค่อยตอบสนองกับนางมากอีกแล้ว
‘เกิดอะไรขึ้น? ทำไมลูกจึงเริ่มทิ้งระยะห่างจากข้าล่ะ? ข้าทำอะไรผิดรึ? หรือเพราะข้าเล่นตลกเรื่องที่ว่าถ้าหากเขาตาย หรือจะเป็นเรื่องนั้น?’
แคลคิดว่านางทำอะไรผิด และนางก็รู้สึกว่าเขาจะกลับมาเป็นตัวตนเดิมอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป
======
สัปดาห์ที่สี่
เรื่องราวมากมายเกิดขึ้น แต่เทียนหลงก็ลืมวิธีเผชิญหน้ากับแม่ด้วยสีหน้าปกติไปแล้ว เขาเริ่มหงุดหงิดและถึงกับเริ่มโทษตัวเองเมื่อเห็นแคลเป็นกังวลจนเกินเหตุ
ในอีกมุมหนึ่ง เขารู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรกับแม่ที่มีหัวใจอบอุ่นกับความผิดที่เขาทำต่อลูกของนาง แต่ในอีกมุม เขารู้สึกว่าเขาควรทำให้แม่ของเด็กคนนี้มีความสุข ความรู้สึกย้อนแย้งนี้เองที่ทำให้หัวใจเขาแหลกสลายจากภายใน
มันยังทำให้เขาสับสนว่าจะปั้นหน้าอย่างไรในอนาคต ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความรู้สึกใหม่ของเขาและเขาก็ไม่เคยเห็นพ่อกับแม่ตัวเองเพราะเป็นเด็กกำพร้า
ในห้องเรียน
“ดาวิส~”
เสียงที่เต็มไปด้วยความคิดถึงดังในหูเทียนหลง
“ท่านแม่…”
เทียนหลงเหลือบมองแคลหนึ่งวินาทีก่อนจะหลบสายตา
แค่ได้เห็นดวงตาสีม่วงสดใสบริสุทธิ์ก็ทำให้เขารู้สึกหนักใจแล้ว เขาถึงกับคิดจะหนีออกไปจากที่นี่ แต่ทุกครั้งเมื่อเขาออกจากห้องเรียนไปไม่นาน เขาก็จะเห็นองครักษ์ที่คุ้มกันปราสาทอย่างหนาแน่น
“มองแม่สิดาวิส”
แคลขอร้องด้วยใบหน้าลำบากใจ
เทียนหลงค่อย ๆ หันไปมองนาง
“แม่ทำอะไรผิดรึ? เหตุใดเจ้าถึงไม่คุยกับแม่อีกแล้วล่ะ?”
แคลขบริมฝีปาก ดวงตาชื้นไปด้วยน้ำตาที่เอ่อ
เทียนหลงยังคงเงียบ
“ที่นี่ไม่ดีรึ? หรือว่าข้า…ทำผิดต่อเจ้า? หรือเพราะข้าล้อเล่นเรื่องเจ้าตาย?”
เทียนหลงรู้สึกทนไม่ไหวเมื่อได้ยินน้ำเสียงของนาง เขารู้สึกว่าหัวใจเจ็บปวดเมื่อได้ยินแม่พูด
แคลยังไม่รู้ว่าเหตุใดลูกชายถึงเลี่ยงนาง ซึ่งนี่ทำให้นางเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าการหายตัวไปของเขา นางมองลูกชายตรงหน้าแต่ก็ราวกับว่าเขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ตรงนี้ซึ่งทำให้นางวิตกหดหู่
เทียนหลงยังคงเงียบเหมือนกับเด็กที่ทำผิดมา
เขาจะไม่รู้สึกผิดได้อย่างไร? แม้ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม เขาก็เป็นคนฆ่าลูกของนางอยู่ดี และนี่เป็นสิ่งที่เขาหาข้ออ้างหรือเมินมันไปได้
เขาสาบานว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือของดาวิสให้ดี แต่เขาไม่คิดถึงเหตุการณ์นี้เลย
แคลมองหน้าเขาและสูดหายใจเข้าลึก
“หลังจากที่แม่เสียเจ้าไป แม่คิดว่าแม่จะไม่ได้เห็นเจ้าอีก แม่ไม่มีความปรารถนาใดนอกจากให้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย แม่ทุกข์ใจในทุกวันที่ไม่มีเจ้า แม่คิดว่าแม่จะเสียเจ้าไปตลอดกาล แต่เจ้าก็กลับมา! ลูกแม่กลับมาหาแม่ เรียนกับแม่ เล่นกับแม่ แต่แล้วทำไมกัน!”
แคลร่ำไห้
“ทำไมลูกถึงไม่พูดกับแม่ล่ะ!?”
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในใจเทียนหลง นัยน์ตาเขาสั่นระริก!
แคลฝืนกอดลูกชายนาง
เทียนหลงพยายามจะทิ้งห่างจากนางแต่ก็ไม่ได้ผล พละกำลังของเขาไม่มากพอให้แม้จะดิ้นรน
“ดาวิส! อย่าไปนะ! คุยกับแม่เถอะนะ! แม่อยากได้ดาวิสกลับมา! ได้โปรดเอาดาวิสกลับมาเถอะนะ!”
แคลร้องไห้น้ำตาอาบแก้มทั้งที่แขนยังกอดเขาอยู่ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี
“แม่ทนไม่ไหวแล้ว!”
ราวกับว่าเทียนหลงได้เจอกับระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อปะทะกับความรู้สึกทั้งหมดนี้
“แม่!!”
เขารู้สึกปวดหัวใจและกำหมัด
‘โถ่โว้ย! จะไม่หนีอีกแล้ว!’
เขากอดนางด้วยแขนที่อ่อนแอและพูดเสียงแหบพร่า
“ดาวิสอยู่นี่แล้วแม่! ดาวิสของแม่จะไม่ไปไหนอีก ข้ายังอยู่ที่นี่…”
เป็นตอนนี้เองที่เทียนหลงยอมรับตัวตนใหม่ ดาวิส ลอเรต ด้วยทั้งหัวใจ
ในตอนนั้นเอง แสงสว่างจ้าและเริ่มหมุนวนรอบระหว่างคิ้วของดาวิส ดวงวิญญาณของเขาเริ่มก่อรูปร่างเป็นทรงกลม
แคลเห็นและเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง นางมิอาจเชื่อสายตาตัวเองและมองใบหน้าลูกชายที่กำลังสับสน
“ดาวิส…เจ้ากลายเป็นขั้น…ขั้นก่อวิญญาณ…”
นางพูดเสียงแผ่วเบาด้วยความตกตะลึง