ตอนที่ 5 : งานเลี้ยง
“ขะ…ข้าขอสาบานด้วยนามแห่งขุนนางว่าสิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง ฝ่าบาท!”
เรย์ โนแลนประกาศด้วยความกลัว
ห้องบัลลังก์เงียบกริบไปหลายครู่จนผู้คนในห้องบัลลังก์อยู่ไม่สุขด้วยความวิตก
จักรพรรดิเคาะที่พักแขนของบัลลังก์เป็นจังหวะ คนที่ได้ยินต่างกลืนน้ำลายด้วยความคาดหวัง
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของลูกค้า เจ้าคงไม่ว่าอะไรถ้าข้าจะสืบเรื่องใช่หรือไม่?”
จักรพรรดิถามแต่ในน้ำเสียงที่แข็ง
“ข้ามิกล้าฝ่าบาท! ท่านทำทุกประการเพื่อสืบหาเรื่องสภาพแวดล้อมที่บุตรชายท่านเป็นอยู่ได้”
เรย์ โนแลนพูดและไม่สนใจสายตาสงสัยที่มองเขา
องค์ชายนั้นไม่ได้สติมาโดยตลอดแต่ตื่นขึ้นมาเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนที่เขาจะส่งสัญญาณให้มารับในสามปีที่ผ่านมา ถ้าหากเป็นพ่อของเด็กคนนี้ เขาก็อาจรู้สึกว่าไม่อยากเชื่อเช่นกัน
“ดี ข้าให้อภัยเจ้า”
เรย์ โนแลนถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เขาถูกปลดเปลื้องจากความผิดโดยไม่ได้รับแรงกดดันมากนัก
จักรพรรดิครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะสั่งการ
“คืนนี้ ให้จัดงานเลี้ยงการกลับมาของลูกชายข้า รัชทายาทแห่งอาณาจักรลอเรต!”
“น้อมรับบัญชาฝ่าบาท!”
ทุกคนตะโกนพร้อมกัน
จักรพรรดิและราชินีออกจากห้องบัลลังก์และเดินไปที่ห้องในส่วนของจักรพรรดิซึ่งก็คือห้องของเขา
มีเพียงทั้งสองที่อยู่ในห้อง
“โลแกน ข้าไม่สนใจว่าการสืบจะถูกดำเนินการหรือไม่เพราะมันก็ดีกับเราแล้วที่ไม่มีความผิดแปลกหรือนิสัยไม่ดีในตัวลูกชายเรา…”
ราชินีพูดและมองบุตรชายซึ่งก็คือเทียนหลง
นางพอใจแล้วตราบเท่าที่ลูกชายมีสุขภาพที่ดี แต่สภาพลูกชายในตอนนี้ทำให้นางรู้สึกทุกข์ใจ
“ใช่ แต่ยังมีคำถามอีกมากมายที่ยังไม่ได้คำตอบ อย่างเช่นลูกชายของเราที่บาดเจ็บถึงชีวิตในสามวันก่อน กลับฟื้นฟูกลับมาดีได้ นี่มันปาฏิหาริย์รึ? หรือมียอดฝีมือที่ไม่รู้จักคิดช่วยลูกของเราด้วยจุดมุ่งหมายที่เราไม่รู้?”
“หึ ถ้าเป็นยอดฝีมือลึกลับที่หวังดี ข้าก็จะรู้สึกขอบคุณเขาไปจนวันตาย แต่อีกเรื่องหนึ่ง เจ้าส่งลูกของเราไปยังที่ที่ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำ และเจ้าก็ไม่เคยคิดจะบอกข้าเลย!”
ราชินีพูดอย่างเย็นชาและไม่พอใจ
“แคล ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากทำอย่างนี้…ข้าทำไปก็เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกเรา แม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าข้าส่งเขาไปที่ใด จนกระทั่งพิราบสื่อสารได้มาจากเรย์ โนแลน…”
โลแกนบอกความจริง
“ว่าไงนะ?”
แคลตกใจและมองโลแกนอย่างเหลือเชื่อ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าบอกว่าเจ้ารู้ว่าลูกชายเราอยู่ที่ไหนและปลอดภัยไม่ใช่รึ?”
ในตอนนั้นเองนางก็รู้สึกราวกับว่านางเข้าใจทุกอย่างแล้ว
“เจ้า…ทั้งหมดนั่นเพื่อให้ข้าสบายใจเรอะ?”
แคลอ้าปากค้าง น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
“ใช่ ที่รัก…”
โลแกนแตะใบหน้านางอย่างอ่อนโยนและลูบเบา ๆ
พวกเขามองตากัน ริมฝีปากกระทบค่อย ๆ จูบกันด้วยความรักอย่างเชื่องช้า
ครึ่งนาทีผ่านไปในความเงียบ แต่สำหรับเทียนหลงนั้นไม่ต่างกับบททดสอบ
“กา…เซ…นี…”
เทียนหลงมิอาจเข้าใจอะไรได้เลย เพราะเขายังบริสุทธิ์และเมื่อเห็นคู่รักแสดงความรักต่อกันอย่างดูดดื่มในระยะใกล้เช่นนี้ทำให้เขาบอบช้ำใจ
ทั้งคู่ตกใจมองลูกชายและระเบิดเสียงหัวเราะ ความโล่งใจหลั่งใหลในสมอง เมื่อหัวเราะจนพอแล้วพวกเขาก็กอดกัน
“ข้าขอโทษ…”
แคลกระซิบเสียงเบาอย่างเขินอาย
“ไม่เป็นไร ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นทุกข์มากแค่ไหนในเวลาที่ผ่านมา…”
โลแกนปลอบนางและลูบไล้ผมสีบลอนด์
“แต่ข้ามันโง่เง่า ไร้หัวใจ ตลอดมาที่ข้าเมินเจ้า ข้ารู้ว่าข้าทำผิด แต่เจ้าก็ไม่มองหญิงอื่น แต่ข้าก็หยุดเอาใจใส่เจ้า”
น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มร่วงหล่นบนชุดหรูหราของนาง
“ข้าผิดเอง ไม่ว่าจะเป็นแม่คนใดก็ต้องโกรธถ้าลูกของนางถูกพาไปไกล”
โลแกนรีบทำให้นางผ่อนคลาย
แคลรู้สึกผิดเพราะนางโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองและเรื่องลูกชายกับโลหิตและเมินเขามาตลอดเกือบสามปี
หลังจากช่วงเวลาแห่งความอบอุ่น ทั้งคู่ก็ผละตัวออกจากกันอย่างกระอักกระอ่วน ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อส่วนล่างของร่างกายและสายตาของลูกชาย
“ฮ่าฮ่า…”
โลแกนหัวเราะอาย ๆ
แคลหน้าแดงเมื่อยิ้มอย่างเขินอาย ทำให้โลแกนหลงใหลราวกับว่านางยิ้มอย่างอ่อนหวาน โลแกนเห็นใบหน้างดงามที่แดงระเรื่อนั้น เขาคงจะกระโจนเข้าใส่นางถ้าหากไม่ใช่เพราะมีเด็กที่จับตามองพวกเขาด้วยความสงสัยอยู่ แต่มันดูเหมือนกับการจับจ้องที่ตั้งใจมากกว่า
‘โทษทีนะ แต่คงยอมให้พวกแกทำอะไรตรงนี้ไม่ได้หรอก จะทำอะไรก็ไปทำที่อื่นเถอะ’
เทียนหลงอ้อนวอนให้พวกเขาไม่มีความต้องการทางเพศแบบประหลาด ๆ
*แค่ก* *แค่ก*
“ลูกของเราจะต้องได้รับการศึกษาแบบราชวงศ์ ข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้!”
โลแกนกระแอมและพูดเรื่องอื่น
“ไม่! ข้าจะเป็นคนสอนลูกเอง!”
แคลรีบตะโกน
“หา? ไม่น..”
แคลหรี่ตา
“คำว่าไม่ไม่ใช่คำตอบ! สามปี! ข้าไม่ได้อยู่กับลูกมาสามปี! เราขาดช่วงเวลาของความสัมพันธ์ไป ข้าไม่แน่ใจว่าลูกจะยอมรับพวกเราเป็นพ่อแม่ทั้งใจด้วยซ้ำ…ดังนั้นข้าจะอยู่กับเขาจนกว่าจะจบการเรียนรู้”
โลแกนอึ้ง เขาจึงตระหนักได้ว่าเขาคิดพลาดไปเสียแล้ว
สีหน้าของเขาลึกล้ำเกินกว่าจะบรรยายได้ เขาฝังตัวเองไว้ในแผนตัวเองที่เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร่ำไห้
แคลและโลแกนแต่งตัวให้เทียนหลงด้วยชุดแบบราชวงศ์ พวกเขาไม่ขอความช่วยเหลือจากข้ารับใช้เพราะนี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้แต่งกายให้กับเทียนหลงซึ่งเป็นบุตรชาย
เทียนหลงรู้สึกอายเมื่อแคลถอดเสื้อผ้าเขาออกแต่ก็คิดได้ว่าเขายังคงเป็นเด็ก มันยิ่งทำให้เขาละอายใจเมื่อคิดถึงเรื่องลามก เขารีบเตือนตัวเองว่านางถือแม่ของเขา ซึ่งเขายังคงไม่คุ้นชินกับมัน
โลแกนหัวเราะเมื่อเห็นเขาขัดขืนอยู่บ้างซึ่งเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นแน่นอน แต่เขาก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมเด็กที่ไม่รู้อะไรเลยถึงได้รู้สึกอายได้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
เทียนหลงรู้สึกหลายสิ่งเมื่อถูกดูแลโดยผู้เป็นแม่ซึ่งเขาไม่เคยได้รับมันมาก่อนในชีวิตที่แล้วมา เขารู้สึกอบอุ่นและสบาบใจอย่างบอกไม่ถูก เขาถึงกับแอบชอบมัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยร่างกายที่ขาดสารอาหาร เขารู้สึกว่าเขาทำอะไรไม่ได้เลย ต่อให้อยากจะผลักพ่อกับแม่ออกไปก็ทำไม่ได้ และเขาก็ไม่อยากจะทำเรื่องโง่ ๆ อย่างทำให้ทั้งสองรู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกและเป็นคนอื่น
ทั้งสองพาเทียนหลงไปที่โถงจัดงานเลี้ยง
“ฝ่าบาทจงเจริญ!”
เมื่อคนเห็นจักรพรรดิเดินเข้ามาในโถงงานเลบี้ยง พวกเขาก็ลุกขึ้นโค้งคำนับและตะโกนพร้อมกัน
“พวกเจ้าทำตัวตามสบายเถอะ!”
โลแกนรับคำด้วยเสียงหนักแน่น
ทุกคนนั่งลง
“งานเลี้ยงนี้จัดเพื่อฉลองการกลับมาของลูกข้าและการคงอยู่ต่อไปของอาณาจักร อาณาจักรลอเรตจงเจริญ!”
โลแกนยกแก้วและดื่มเพื่อเริ่มงานเลี้ยงด้วยตัวเอง
“อาณาจักรลอเรตจงเจริญ!”
ทุกคนต่างยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม
ทุกคนสนุกสนานกับงานเลี้ยงอย่างมาก เหล้าและเนื้อที่ปรุงแล้วมีรสชาติชั้นเลิศ และสาวใช้ของปราสาทก็แต่งกายแบบดั้งเดิมและเป็นการดีที่ได้เห็นพวกนางร่ายรำ
เวลาผ่านไป งานเลี้ยงกำลังจะจบลง
“ฝ่าบาท นี่เป็นเวลาที่ดีแล้วใช่หรือไม่?”
ที่ปรึกษาราชวงศ์ เฮนดริกสันกล่าว
“ข้าก็คิดว่าอย่างนั้น…”
โลแกนพูดรับคำและประกาศ
“ทุกคน ถึงเวลางานหลักสำหรับงานเลี้ยงนี้แล้ว”
ทุกคนในงานเลี้ยงเงียบและหยุดเย้าหยอกกัน
โลแกนมองแคลที่นั่งข้างกาย ทั้งสองพยักหน้า
“ข้า จักรพรรดิแห่งอาณาจักรลอเรต โลแกน ลอเรต ขอประกาศนามแห่งรัชทายาท ให้ลูกชายข้าชื่อ ดาวิส ลอเรต”
“อ๊าาา! ยินดียิ่งนัก ดาวิส ลอเรตจงเจริญ”
ผู้คนต่างสรรเสริญ
ทุกคนมองเทียนหลงและเริ่มเรียกขานชื่อของเขาเสียงดังซึ่งทำให้งานเลี้ยงจบลงอย่างยอดเยี่ยม วันนี้เองก็เป็นวันเกิดปีที่สามของเขา
จากนี้ไป แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษา เทียนหลงก็รู้ว่าเขาได้รับชื่อมาแล้ว นั่นคือดาวิส ลอเรต