ตอนที่แล้วตอนที่ 3 : การตื่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 : งานเลี้ยง

ตอนที่ 4 : กลับเมืองหลวง


หลังจากหนึ่งชั่วโมง ด้านนอกฐานทัพทหารรับจ้างพยัคฆ์คราม

“เฮ้! ดูบนท้องฟ้าสิ!”

คนหนึ่งอุทานออกมา

“ที่ไหนกัน?”

คนที่เดินผ่านมาหยุดเดินและถาม

บนท้องฟ้า มีเงาใหญ่ที่เห็นได้เหนือเมฆา

“นั่น…นั่นมันมังกร!!”

อีกคนอุทาน

“มังกรกำลังจะทำลายเมืองแล้ว ทุกคนหนีเร็ว!”

คนที่อุทานคนแรกหนีไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อได้เห็นเงาเช่นนั้น

“เจ้าโง่ นั่นมันไวเวิร์น!”

ผู้รอบรู้คนหนึ่งพูดเมื่อได้เห็นเงาจากท้องฟ้าเบื้องบนเหนือเมฆ

ความกว้างของปีกไวเวิร์นนั้นทอดยาวสิบสองเมตร มันมีใบหน้ายาวและฟันคมกริบในปาก หางของมันฟาดไปมาสร้างพายุลมรุนแรงที่จะทำให้คนใกล้ ๆ ลอยขึ้นจากพื้น

บนหลังของมันมีชายวัยกลางคนสวมชุดเกราะสีแดงเป็นประกาย ใบหน้าองอาจเปี่ยมไปด้วยพลัง เขาปล่อยรังสีที่สามารถสยบทุกคนที่อยู่เบื้องล่างเขา

ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าตะโกนใส่เขา

เขามองพื้นที่รอบ ๆ และเห็นป้ายทหารรับจ้างพยัคฆ์ครามที่อาคารหนึ่ง เขามุ่งหน้าไปยังอาคารนั้น ไวเวิร์นร่อนลงที่หน้าฐานทัพทหารรับจ้างพยัคฆ์คราม

“หัวหน้าองครักษ์เรนาร์ด โนแลน ขอสั่งให้หัวหน้าทหารรับจ้างพยัคฆ์ครามออกมา!”

เขาตะโกนเสียงดังที่ทำให้หลายคนตกตะลึงเพราะว่าชายที่ขี่ไวเวิร์นผู้นี้คือองครักษ์

“ทำไมหัวหน้าองครักษ์ถึงออกมาถึงที่นี่ล่ะ?”

หลายคนเริ่มกระซิบกัน

และเขาไม่ใช่แค่องครักษ์ทั่วไปแต่ยังเป็นหัวหน้าองครักษ์! ถ้าหากมีคนพูดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็คงไม่เชื่อแม้ว่าจะถูกจับไปทรมานก็ตาม!

สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์ครามไม่กล้าตอบโต้เขา พวกเขาทำได้แค่รออย่างเงียบเชียบให้หัวหน้าออกมา

พวกเขาโชคดีที่หัวหน้ารีบออกมาและโค้งคำนับให้เรนาร์ด โนแนลผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์อย่างรวดเร็ว

“โนเอลแห่งทหารรับจ้างพยัคฆ์ครามน้อมรับบัญชา!”

โนเอลเหงื่อซึม

คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาหาพวกเขาด้วยตัวเอง!

เขาคิดกับตัวเอง

‘โว้ว อาณาจักรวางอำนาจทั้งแผ่นดินเลยรึ!’

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะแสดงสีหน้า

‘แต่ทำไมพวกเขาถึงมาล่ะ?’

โนเอลล้อเลียนตัวเอง

“ฮื่ม เกร-”

ก่อนที่เรนาร์ด โนแลนจะพูดจบ เขาก็เห็นชายคนหนึ่งที่ทางออกพร้อมกับเด็กคนหนึ่งบนหลัง

เรนาร์ด โนแลนเหลือบมองโนเอลและมีความพอใจในดวงตา

“ดี เจ้าจะได้รางวัลอย่างงาม!”

“ไม่เจอกันนานนะ เรย์!”

เขายิ้ม

เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยและน่าอบอุ่น รอยยิ้มก็เบ่งบานบนใบหน้าของเรย์ โนแลนเช่นกัน

“ใช่แล้วล่ะ พี่!”

ทั้งสองกัดกันแน่นอย่างเคยและหัวเราะเสียงดังลั่น

“เจ้าชายสบายดีหรือไม่?”

สีหน้าของเรนาร์ด โนแลนกังวลเล็กน้อย

“...ใช่ อย่างที่พี่เห็น”

เรย์ โนแลนเหลือบมองที่หลังและพูด เขากู่ร้องในใจเมื่อคิดถึงสองปีที่ผ่านมา

‘ข้าจะพูดได้ยังไงเล่าว่าเจ้าชายไม่ได้สติมาตั้งแต่ที่ถูกฝากฝังมาให้ข้า?’

เรนาร์ด โนแลนถอนหายใจเฮือกใหญ่และพยักหน้า

“เอาล่ะ ไปจากที่นี่กันเถอะ”

“ดียิ่งนัก ข้าเบื่อกับชีวิตแบบนี้เต็มทนแล้ว”

เรย์ โนแลนหัวเราะเสียงดังโดยไม่แสดงความกังวลออกมาเลย

จากนั้นเขาก็กลับไปมองพวกที่ไม่เหมาะไม่ควรจะอยู่กับเขาในสองปีที่ผ่านมา

“ถ้าเจ้าเจอปัญหาอะไรให้มาที่ตระกูลโนแลนแล้วเอ่ยชื่อข้า เรย์ โนแลน”

เรย์ โนแลนยิ้มและกล่าวอำลา

“ไว้พบกันใหม่ โนเอล”

โนเอลเพียงแค่ยืนนิ่งกับความจริงที่ได้รับรู้ เขาคิดกับตัวเอง

‘พวกนั้นทุกคนเป็นยักษ์ใหญ่กันหมดแล้ว แล้วสองคนนั้นก็เป็นคนตระกูลขุนนางโนแลน…ข้าเจอขุมทรัพย์แล้ว!’

เมื่อสองพี่น้องขึ้นหลังไวเวิร์น โนเอลก็ตะโกน

“อย่าลืมคำพูดเจ้านะเกร ไม่สิ เรย์!”

“ข้าไม่ลืมแน่…”

เรย์ โนแลนยิ้มเยาะ

เขามีความสัมพันธ์อันดีกับโนเอลนอกเหนือแต่เรื่องที่ว่าเขาปกป้องหลานชายเมลมากเกินไป แต่นั่นก็ไม่เหนือคาด เพราะเขายังเต็มใจปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ

ไวเวิร์นบินขึ้นท้องฟ้ามุ่งหน้าไปสู่เมืองหลวง

======

หกชั่วโมงต่อมา

กำแพงใหญ่เห็นจากระยะไกล เป็นกำแพงที่สูงเกินหกสิบเมตร

“ถึงเมืองหลวงซักที ดีจริง ๆ ที่มีไวเวิร์นตัวนี้!”

เรย์ โนแลนพูดด้วยความสุข ทั้งสองพูดคุยกันมาตลอดทาง พวกเขาคุยกันไม่หยุดโดยไม่สนใจเทียนหลงเลย

ในขณะเดียวกัน เทียนหลงมิอาจเข้าใจได้ว่าพวกเขาพูดคุยอะไร เขาจึงยอมแพ้และรื่นรมย์ไปกับการบินครั้งแรกบนหลังไวเวิร์น มันเร็วมากและสายลมก็แล่นผ่านใบหน้าเขาจนเขารู้สึกถึงความตื่นเต้นที่ไม่ได้รู้สึกมานาน

บางที เขาถึงกับรู้สึกว่าการเดินทางในอุโมงค์มิติเสี่ยงตายนั่นก็เทียบไม่ได้เลย!

อากาศที่ต้านตัวเขาแทบจะทำให้เขาหลุดจากหลังไวเวิร์น แต่สองคนที่อยู่หน้าเขานั้นไม่ได้สนใจและช่วยเขาป้องกันแรงลมจากม่านพลังที่เขาสร้าง

‘อาา อากาศบนโลกใบนี้สดชื่นจริง ๆ ทิวทัศน์ก็ช่างงดงาม นี่เรามาเที่ยวรึไง?’

เทียนหลงรู้สึกว่าการเลือกมายังโลกใบนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำ โชคดีที่โชคชะตาที่มักจะเลวร้ายไม่ทำให้เขาผิดหวังในครั้งนี้ อย่างน้อยเขาก็รู้สึกเช่นนี้ในวันนี้

เขาไม่รู้เลยว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ใดหรือรู้ว่าเขาจะปลอดภัยในอนาคตหรือไม่ แต่เมื่อชายทั้งสองดูแลเขาด้วยความห่วงใยเช่นนี้ เขาก็คิดว่าปลอดภัยที่จะอยู่กับสองคนนี้

ไม่ใช่ว่าเขาจะเปลี่ยนอนาคตในตอนนี้หรือทำอะไรที่สลักสำคัญได้ในพื้นที่เบื้องล่าง เขาจึงปลอดให้บรรยากาศพาไปและไม่คิดอะไรมาก

ไวเวิร์นบินผ่านกำแพงโดยไร้อุปสรรคขวางกั้นอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปยังราชปราสาท มันร่อนลงใต้ทางเข้าหลักของราชปราสาท

ทหารมากมายถือหอกและกระชับหอกแน่นอย่างเคย พวกเขาไม่แม้แต่กระพริบตาเมื่อไวเวิร์นบินลงมาต่อหน้า แต่พวกเขาล้วนแสดงความนับถือหรือความหวั่นเกรงในดวงตา

ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สับสนว่าเด็กที่ดูน่าสงสัยและซูบผอมเป็นใคร…

ทั้งสามเข้าสู่ราชปราสาทโดยปราศจากอุปสรรคราวกับว่าพวกเขาคือเจ้าของราชปราสาทแห่งนี้

เทียนหลงเห็นความยิ่งใหญ่ของที่นี่และแม้ว่าจะไม่มีใครทำให้เขาเข้าใจ เขาก็รู้สึกว่าเขาได้มายังบ้านของราชวงศ์ เขายังตระหนักว่าเขาอ้าปากค้างและรีบหุบปากไป

เขาคิดอย่างเขินอาย

‘ร่างของเด็กนี่มีผลต่อความรู้สึกเราขนาดนี้เลยรึไง?’

ในระยะเวลาอันสั้นที่ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างเมื่อได้มายังโลกนี้ เขารู้สึกว่าเขาต้องเจอกับความยากลำบากในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึกอึ้งที่ได้เจอกับสิ่งที่ไม่เป็นปกติทั้งหลาย

นี่ทำให้เขาสงสัยว่าเด็กที่เติบโตในร่างนี้มาอาจจะได้รับอิทธิพลจากความใจเย็นของตัวเขาด้วย

เขานี่คือโลกใบใหม่ และสมองที่ยึดติดกับโลกสมัยใหม่ก็หายไปทั้งหมด

พวกเขามาถึงหน้าห้องบัลลังก์ในไม่นาน และเมื่อพวกเขาจะขอเข้าพบจักรพรรดิ ประตูก็เปิดออก หญิงสาวที่รูปลักษณ์ยอดเยี่ยมเดินออกมาด้วยสีหน้ากังวล

เทียนหลงตกใจเมื่อเห็นสตรีงดงามในอาณาจักรที่ดูสูงส่งและสง่างาม

ส่วนสูง 170 เซนติเมตรของนางทำให้สะดุดตา ผิวเรียบเนียนกับดวงตาสีม่วงนั้นเหมือนกับหยดไวน์เปล่งประกายในดวงตานั้น เส้นผมสีบลอนด์ที่ยาวถึงเอวทำให้นางงดงามดั่งเทพธิดา ใบหน้าที่ดูอบอุ่นสง่าผ่าเผยนั้นไม่ต่างกับมารดาที่ห่วงใยบุตร

ถึงอย่างนั้นนางก็มีสัดส่วนร่างกายที่สมบูรณ์แบบด้วยส่วนโค้งเว้าในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้นางดูเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย

หญิงสาวมองเด็กที่อยู่ตรงกลางที่จับมือกับน้องพี่น้อง นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

นางอ้าปากค้างและค่อย ๆ เริ่มวิ่งมาหาเด็กและรีบกอดเขาด้วยความรักทั้งหมดที่มี

“เจ้าปลอดภัย เจ้าปลอดภัย ขอบคุณพระเจ้า ข้าขอโทษ ข้าขอโทษที่เป็นแม่ที่ไม่ได้อยู่กับเจ้ามาโดยตลอด!”

หญิงสาวเริ่มหลั่งน้ำตาแห่งความสุกและตัวสั่นอย่างแรง

เทียนหลงงุนงงเมื่อถูกนางกอด แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่านางพูดอะไร เขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดที่เขาไม่เคยได้รับเลยแม้สักครั้งในชีวิตที่แล้ว

‘ผู้หญิงคนนี้ เป็นแม่เด็กคนนี้งั้นเหรอ?’

ความคิดแล่นเข้ามาในใจ

เมื่อได้ยินเสียงพร่ำเพ้อของแม่เด็ก เขาก็ถูกจู่โจมด้วยความรู้สึกผิดและเศร้าอันซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาแทบจะกลั้นน้ำตาให้ไหลไม่ได้

เขาขบริมฝีปาก

‘หรือเป็นเพราะเกิดจากเด็กคนนี้?’

ชายหนุ่มที่สีหน้าเต็มไปด้วยความสุขในขณะนี้ได้ยืนอยู่หลังหญิงสาวที่กอดเทียนหลงอยู่

เขาสูงราว 180 เซนติเมตร ผิวเนียนของเขามาพร้อมกับดวงตาสีไพลินเปล่งประกายรัศมีของราชา ผมพยักศกยาวถึงเอวสีดำของเขานั้นดำราวน้ำหมึก คางของเขามีหนวดสั้น ไหล่กว้างและมีกล้ามเนื้อที่ทำให้เขาดูเป็นชายหล่อเหลา กล่าวสั้น ๆ คือเขามีร่างกายปานปลางและใบหน้าที่นับว่าดึงดูดต่อสตรี

“ในที่สุดลูกชายข้าก็กลับมาอย่างปลอดภัย!”

ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำแสดงความยิ่งใหญ่ เขามีสีหน้าจริงจังแต่ดวงตาสีไพลินนั้นเกือบจะน้ำตาไหล

สองพี่น้องคุกเข่าลงทันที

“ข้าขอองค์จักรพรรดิและราชินีทรงพระเจริญ!”

พวกเขาตะโกนพร้อมกัน

“ดี ลุกขึ้นตามข้าไปที่บัลลังก์เถอะ…”

ชายหนุ่มพยักหน้าและเลือกที่จะไม่แทรกการได้กลับมาพบกันของแม่และลูกชาย เขาเดินไปที่บัลลังก์และนั่งลง

ทุกคนในห้องบัลลังก์โค้งคำนับและประสานมือแสดงความเคารพต่อจักรพรรดิ หลายคนมีตำแหน่งในราชสำนักและคอยดูแลดินแดนในอาณาจักร

“เงยหน้าขึ้น! เรย์ โนแลน เจ้าทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการปกป้องลูกชายข้าในยามลำบาก จักรพรรดิผู้นี้ขอมอบตำแหน่งดยุค เมืองระดับธรณีขั้นกลางรอบดินแดนใน และ 100 เหรียญม่วง”

“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ฝ่าบาท!”

เรย์ โนแลนตอบรับ แต่รางวัลที่เขาได้มานั้นทำให้เขารู้สึกว่าความยากลำบากทั้งหมดนั้นคุ้มค่า!

โดยเฉพาะเมืองระดับธรณีขั้นกลาง!

“เรนาร์ด โนแลน เจ้าทำหน้าที่พาทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”

“ตามบัญชา ฝ่าบาท!”

เรนาร์ดตอบด้วยศีรษะที่ยังก้มต่ำอยู่ แสดงถึงความเคารพนับถือและเชื่อฟัง

ในตอนนี้ ราชินีเดินมาที่ห้องบัลลังก์โดยมีลูกของนางในอ้อมแขน

เมื่อได้เห็นราชินี จักรพรรดิพยักหน้าและเหลือบมองลูกชายที่เติบโตและซูบผอมของเขา เขาขมวดคิ้วถาม

“เรย์ โนแลน อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เจ้าปกป้องลูกชายข้าที”

“ขอรับ ฝ่าบาท!”

เรย์ โนแลนพยักหน้าและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างทำภารกิจลับโดยไม่ปิดบังเรื่องใด

หลังจากผ่านมาราวยี่สิบนาทีที่เขาเล่าเรื่อง…

“เรื่องทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ ฝ่าบาท!”

เรย์ โนแลนสรุปรายงาน

“เจ้า…เจ้าบอกว่าลูกข้าเพิ่งจะตื่นขึ้นเมื่อสามวันก่อนรึ?”

เมื่อได้ฟังคำถามจากจักรพรรดิที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความเย็นชา เม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นมาจากใบหน้าเรย์ โนแลน เขากลืนน้ำลาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด