ตอนที่ 14-31 ภารกิจคุ้มกัน
เมื่อเห็นตัวหนังสือบนปกลินลี่ย์อดตกใจไม่ได้
บทสรุปเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งกฎเจ็ดสายธาตุ?
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลินลี่ย์ในตอนนี้ก็คือเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเคล็ดลึกลับหลายอย่างของกฎธาตุ แม้จะกล่าวว่าคนอื่นไม่สามารถสอนเขาในเรื่องเคล็ดความรู้ลึกลับได้ และว่าเขาต้องได้รับการรู้แจ้งด้วยตนเอง แต่ถ้าอย่างน้อยเขามีความรู้นำโดยทั่วไปเส้นทางการฝึกฝนของเขาจะไม่ดำเนินไปผิดเส้นทาง
“บีบี, เอามาให้ข้าดูหน่อย” ลินลี่ย์รีบพูดอย่างดีใจ
“ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่ต้องการเจ้าสิ่งนี้” บีบีหัวเราะ จากนั้นโยนหนังสือให้
เดเลียหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นนางไม่จำเป็นต้องได้รับการรู้แจ้งเคล็ดความรู้ลึกลับใดๆ นางจึงไม่ต้องอ่านหนังสือเล่นนี้แต่อย่างใด ขณะที่บีบี.. เนื่องจากนิสัยเกียจคร้านของเขา เขาไม่มีความตั้งใจหรือระเบียบวินัยทันทีที่บีบีเห็นหนังสือ เขาเข้าใจว่าพี่ใหญ่ของเขาต้องชอบแน่นอน
ลินลี่ย์รับหนังสือไว้และเริ่มพลิกดูและอ่านบทรวมเนื้อหากฎธรรมชาติธาตุดิน
กฎธรรมชาติธาตุดินมีเคล็ดความรู้ลึกลับรวมหกอย่างได้แก่ แก่นธาตุดิน, พลังธาตุ, เดินดิน, พลังชีพ, พื้นที่โน้มถ่วงและการเต้นชีพจรแผ่นดิน หนังสือนี้ให้คำแนะนำพื้นฐานเกี่ยวกับเคล็ดความรู้ลึกลับแต่ละอย่างในหกอย่างรวมถึงพลังที่มีอยู่
มีบรรจุข้อมูลบางอย่างและวิธีการใช้ง่ายๆ
“การเต้นชีพจรโลกควรจะใช้อย่างนี้หรือไม่?” ลินลี่ย์เปิดอ่านดู และส่ายศีรษะ“เห็นได้ชัดว่าคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้มีความรู้เกี่ยวกับการเต้นของชีพจรโลกเล็กน้อยเท่านั้น”
ขณะที่คนที่ฝึกมาทางเคล็ดการเต้นชีพจรโลกอย่างลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าคนเขียนหนังสือเล่มนี้มีความรู้น้อยมากหรือว่ากำลังพยายามปกปิดความรู้ที่เขารู้แล้ว
ที่เรียกว่าวิธีใช้ก็คือวิธีใช้อย่างง่ายๆ และพลังส่วนน้อยของกฎธาตุ
ลินลี่ย์ไม่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับวิธีประยุกต์ใช้กฎธรรมชาติ ลินลี่ย์สนใจเรื่องคำอธิบายข้อมูลเคล็ดความรู้ลึกลับอื่นของกฎธาตุ
“เป็นอย่างนี้นี่เอง!” ลินลี่ย์เห็นคำอธิบายของเคล็ดความรู้ ‘พลังธาตุ“เขาถอนหายใจเห็นด้วย ”เดิมทีข้าคิดว่ากฎธาตุดินจะรวมความรู้ลึกลับไว้จำนวนมหาศาลแต่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเคล็ดความรู้ลึกลับของพลังธาตุ”
เคล็ดความรู้ลึกลับของพลังธาตุเป็นเคล็ดความรู้ลึกลับที่ใช้โจมตีธาตุหยาบระดับสูงสุดของธาตุดินและมีความซับซ้อนมาก
ขณะที่อ่านหนังสือลินลี่ย์ไม่ทันสังเกตถึงเวลาที่ผ่านไป
“อ้อ.. นั่นคือทักษะเดินดิน” ลินลี่ย์ถอนหายใจชื่นชม “ย้อนนึกถึงอดีต เฮนด์เซนเซียนดาบภูผาแห่งจักรวรรดิโอเบรียนเพิ่งจะแตะเข้าชายขอบของเคล็ดความรู้ลึกลับเดินดิน”
ในอดีตนั้นด้วยการก้าวเพียงก้าวเดียว เฮนด์เซนก็สามารถไปได้หลายสิบเมตร ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนักในเวลานั้น
ความจริงนี่คือประโยชน์ของการใช้งานทักษะเดินดินอย่างง่ายที่สุด ยังไม่อาจอธิบายถึงระดับพื้นฐานของเคล็ดความรู้ลึกลับด้วยซ้ำ
การเดินดินทำให้คนผู้หนึ่งหลอมรวมตนเองเข้ากับแก่นธาตุดินที่กว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างสมบูรณ์ไม่ใช่ว่าเฮนด์เซนนั้นจะเทเลพอร์ต แต่เขาหลอมรวมตนเองเข้ากับแก่นธาตุดิน และจากนั้นเคลื่อนไปอีกตำแหน่งหนึ่งก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้ง
ตอนนั้นเฮนด์เซนอ่อนแอเกินไป และช่วงเวลาที่เขาสามารถหลอมรวมกับแก่นธาตุดินของโลกนั้นสั้นมาก
สำหรับยอดฝีมือที่แท้จริงความสามารถเดินดินเมื่อถูกมาใช้ เขาสามารถหายตัวและหลอมรวมกับแก่นธาตุดินของโลกได้เป็นเวลานาน
หลังจากอ่านเกี่ยวกับเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุดินเสร็จ ลินลี่ย์เริ่มพลิกดูเนื้อหากฎธรรมชาติธาตุลม
กฎธรรมชาติธาตุลมมีเคล็ดความรู้ลึกลับมากที่สุดคือมีถึงเก้าเคล็ด ได้แก่เคล็ด แก่นธาตุลม, ร่างมายา, คลื่นเสียง, ดนตรี, เดินหน,ห้วงลม, ลมมิติ, เร็วและช้า รวมเก้าเคล็ด
แม้ว่าจะมีถึงเก้าแต่เมื่อยอดฝีมือต่างๆ ใช้เคล็ดเหล่านั้น พวกเขาจะสร้างผลของพลังที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้เคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุทั้งหมดสามารถหลอมรวมได้ สองเคล็ดในนั้นก็สามารถหลอมรวมได้ สามเคล็ดก็สามารถหลอมรวมได้..และการหลอมรวมต่างๆ สามารถสร้างพลังโจมตีที่น่าทึ่งมหัศจรรย์แตกต่างจากกัน
“แล้ว...ห้วงลมเป็นยังไงบ้าง” ลินลี่ย์ตาเป็นประกายขณะอ่าน
“ลมมิติ, นี่คือเคล็ดความรู้ลึกลับโจมตีกายภาพที่ทรงพลังมากที่สุดของกฎธาตุลม” เมื่อเห็นคำอธิบายของเคล็ดความรู้ลึกลับมิติเขาอดตะลึงไม่ได้
พักใหญ่ต่อมา.....
“หือ?” ลินลี่ย์เหลียวมองดูรอบๆ อย่างมึนงง “มืดค่ำได้ยังไง?”
“พี่ใหญ่ นี่ตอนกลางคืนแล้ว” บีบีและเดเลียเริ่มหัวเราะ “ท่านอ่านหนังสืออยู่ครึ่งวัน”
ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า มีพระจันทร์ม่วงขอบสีเงินขึ้นแล้ว
“ฮะฮะ..” ลินลี่ย์อดหัวเราะมิได้ “หนังสือนี้ดีจริงๆ แม้ว่าอ่านแล้วจะไม่ได้ช่วยให้ข้ารู้แจ้งในกฎธาตุ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ข้าได้มีความรู้ทั่วไป” ลินลี่ย์เข้าใจว่าในที่สุดการรู้แจ้งก็ยังขึ้นอยู่กับตนเอง
“ข้าอ่านไม่ได้, ข้าไม่สามารถอ่านต่อไปได้”ลินลี่ย์พูดพลางถอนหายใจ “ข้ายังไม่เชี่ยวชาญเคล็ดลึกลับของกฎธาตุที่ข้าได้รู้แจ้งในปัจจุบัน ข้ารีบร้อนไม่ได้”
ความจริงเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก
เมื่ออ่านเคล็ดความรู้ลึกลับนี้ แต่ถ้าผู้อ่านต้องการพยายามเข้าใจถึงความสอดคล้องกันบางทีเขาอาจมีความก้าวหน้าก็เป็นได้ เช่นอาจกล่าวได้ว่าเคล็ดเดินดินผู้ฝึกจำเป็นต้องหลอมรวมกับแก่นธาตุดินให้ได้โดยสิ้นเชิง...แต่ท่านจะทำแบบนั้นได้ยังไง? ไม่มีมีทางใช้คำพูดอธิบายให้ทำเช่นนั้นได้ นี่คือรูปแบบการรู้แจ้งที่ผู้ฝึกอาจต้องมีความเข้าใจกฎธาตุ!
เช้าวันต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ไปยังปราสาทเรดบุด
“ก่อนมุ่งหน้าไปยังแคว้นอินดิโก อย่างน้อยเราต้องได้รับข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับภูมิศาสตร์แดนนรก จากนั้นเราจึงจะสามารถหาทางไปได้” ตอนนี้ลินลี่ย์รู้แต่เพียงว่าแดนนรกมีห้าทวีปที่กว้างใหญ่ไพศาลและอีกสองทะเลคือ ทะเลหมอกดาวและทะเลปั่นป่วน
จะไปแคว้นอินดิโกของทวีปบลัดริจ...
ลินลี่ย์รู้แต่เพียงว่าพวกเขาต้องออกจากทวีปเรดบุดก่อน จากนั้นค่อยผ่านข้ามทะเลหมอกดาวไปขึ้นฝั่งทวีปบลัดริจ
ภายในโถงใหญ่ชั้นหนึ่งของปราสาทเรดบุดกลุ่มของลินลี่ย์ไม่ได้สนใจหนังสือที่ขายตามแผงฉบับล่าสุดก่อนอื่นพวกเขาไปถามตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า จากสิ่งที่พวกเขาได้ทราบก็คือปราสาทเรดบุดมีของเขามีสินค้าขายมากกว่าที่วางอยู่บนแผง
มีห้องแยกแสดงสินค้าด้วยเช่นกัน
หนังสือถูกแยกขายเป็นห้องเดี่ยวที่ด้านข้างห้องใหญ่ กลุ่มของลินลี่ย์เข้าไปในห้อง มีน้อยคนมากที่เข้ามาดูหนังสือที่นี่
“มีหนังสือมากมายจริงๆ!” บีบีถอนหายใจด้วยความทึ่งขณะที่เขามองดูหนังสือ
“หาดูดีๆ มาหาดูข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์ของทั่วทั้งแดนนรก” ลินลี่ย์กล่าว
ทั้งสามคนเริ่มค้นหาดูอย่างระมัดระวัง มีหนังสือไม่กี่เล่มที่อธิบายถึงภูมิศาสตร์แดนนรก บางเล่มให้ความสำคัญอธิบายถึงแคว้นไนท์บลาส ขณะที่เล่มอื่นอธิบายถึงทวีปเรดบุดที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่สำหรับคำอธิบายทั่วทั้งแดนนรกลินลี่ย์พบหนังสือเพียงเล่มเดียว ซึ่งก็คือภูมิศาสตร์อย่างง่ายๆ
สิ่งที่ลินลี่ย์ต้องการได้ไม่ใช่แค่แผนที่ แต่เป็นหนังสือที่อธิบายถึงภัยคุกคามและพื้นที่เสี่ยงของแดนนรก
ที่สำคัญคือทั้งสามคนยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ ถ้าพวกเขาตกไปอยู่ในพื้นที่อันตราย นั่นจะกลายเป็นภัยพิบัติดีที่สุดก็คือศึกษาเอาไว้ก่อน
“ลินลี่ย์ บีบี, มาดูนี่สิ” เดเลียเรียก
ลินลี่ย์และบีบีเดินเข้าไปหาทันที ตอนนี้เดเลียกำลังถือหนังสือสีแดงเข้มหนาประมาณห้าหรือหกเซนติเมตรหน้าปกเขียนไว้ว่า ‘สรุปพื้นที่ลึกลับทั่วแดนนรก’ บีบีเม้มริมฝีปาก “หนังสือบางขนาดนั้นเชียวหรือ? หนังสือที่อธิบายถึงแคว้นไนท์บลาสก็หนาพอๆ กัน”
แดนนรกกว้างใหญ่แค่ไหนกันแน่?
สำหรับคำอธิบายรายละเอียดต่อให้หนังสือสิบเล่มก็ยังอธิบายได้ไม่พอ
“ความหนาของหนังสือเล่มนี้ใช้ได้เป็นไปได้ว่าคงไม่ใช่แค่รวบรวมแผนที่มาง่ายๆ” ลินลี่ย์หัวเราะขณะรับหนังสือ
เมื่อพลิกดูกลับมีเนื้อหาเหมือนที่ลินลี่ย์คาดไว้
“แค่นี้ก็มากพอแล้วแม้ว่าหนังสือจะไม่มีคำอธิบายมากนัก แต่อย่างน้อยก็มีคำแนะนำทั่วไปถึงภูมิศาสตร์และสภาพแวดล้อมของห้าทวีปสองทะเลและ 108 แคว้นของแดนนรก ยังมีคำอธิบายถึงเมืองในแต่ละแคว้นรวมทั้งพื้นที่อันตรายและข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่นั้นด้วย”
แดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ
ถ้าใช้สองสามหน้าอธิบายหนึ่งแคว้น อย่างนั้น 108แคว้นก็ต้องใช้หน้าอธิบายรวมกันราวเกือบสามร้อยหน้า
นอกจากนี้หน้าของหนังสือนี้ก็ยังยาวอีกด้วยนับว่าเป็นหนังสือที่ไม่ธรรมดา แม้ว่าจะถูกไฟหรือน้ำบ้างก็ไม่ได้รับความเสียหาย ที่สำคัญหนังสือนี้ไม่ได้ใช้วัตถุดิบจากแดนโลกธาตุมาใช้ผลิต อย่างไรก็ตามทุกๆ หน้าจะค่อนข้างหนามากกว่าหน้าหนังสือจากแดนโลกธาตุ
และหนังสือแนะนำแดนนรกจะมีความหนาราวห้าหรือหกเซนติเมตร
ถ้าเป็นหนังสือที่มีรายละเอียดมากจะต้องใช้หนังสือหลายเล่มและมีขนาดหนาเท่ากัน
“เล่มนี้ราคาเท่าใด” ลินลี่ย์มองไปทางพนักงานชุดม่วงที่อยู่ใกล้ๆ
พนักงานขายเดินเข้ามาดูจากนั้นหัวเราะและตอบ“ร้อยศิลาดำ”
ลินลี่ย์จ่ายร้อยศิลาดำทันที สำหรับกลุ่มของลินลี่ย์สมบัติที่มีในปัจจุบันนี้เกินกว่าร้อยล้านศิลาดำ ราคาแค่นี้ไม่มีอะไรเลย เพียงแต่กลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจดีว่า.. เงินสดของพวกเขาจริงๆแล้วไม่ถือว่ามากขนาดนั้น
ที่สำคัญแค่โกเลมมัจจุราชอย่างเดียวก็มีคุณค่าร้อยล้าน
อสูรโลหะระดับสูงบางตัวมีราคามากกว่าร้อยล้าน และเป็นเรื่องธรรมดาที่บ้านสวยๆในเมืองจะมีราคาเป็นพันล้าน
ร้อยล้านหรือ?
ได้อย่างน้อยสำหรับชีวิตธรรมดา นับว่าพอเพียง
“เฮ้, ทำไมข้าไม่เห็นหนังสืออธิบายเกี่ยวกับเคล็ดลึกลับของกฎธรรมชาติล่ะ?” ลินลี่ย์ถามพนักงานร้าน
“หนังสือเหล่านั้นค่อนข้างแพงมากพวกนั้นจะมีขายอยู่ที่ชั้นสอง แต่ละเล่มราคาหลายพันศิลาดำและเล่มดีๆจะราคามากกว่าหมื่น” พนักงานร้านตอบ “และหนังสือความรู้กฎธาตุทั่วไปเหล่านี้จะมีแต่ความรู้ทั่วไปราคาจึงถูกเป็นธรรมดา”
พวกเขาออกจากปราสาทเรดบุดกลุ่มลินลี่ย์เลือกร้านอาหารใกล้ๆ คราวนี้กลุ่มลินลี่ย์เลือกอาหารราคาพันศิลาดำถือว่าค่อนข้างหรูหราฟุ่มเฟือย
ขณะที่พวกเขาอยู่ในร้านอาหารลินลี่ย์ยังคงพลิกดูหนังสือภูมิศาสตร์
“ลินลี่ย์เจ้าคิดเรื่องเส้นทางไปของเราได้หรือยัง?” เดเลียถาม
ลินลี่ย์ปิดหนังสือพยักหน้าเล็กน้อย “ทวีปบลัดริจ คือทวีปด้านตะวันออกสุดของดินแดนนรก ตอนนี้เราอยู่ในทวีปเรดบุดซึ่งอยู่ในตอนเหนือจะไปถึงทวีปบลัดริจให้ได้ เราต้องมุ่งหน้าไปเมืองท่าในแคว้นเรนโบว์เสียก่อน บรรดาสิบเมืองของแคว้นเรนโบว์เมืองบลูเมเปิลอยู่ใกล้ทะเลหมอกดาวมากที่สุด เราควรมุ่งไปที่เมืองบลูเมเปิลก่อน!”
“ตามที่หนังสืออธิบายไว้ยังมีกลุ่มไม่กี่กลุ่มที่จะเดินทางจากเมืองบลูเมเปิลเข้าทวีปบลัดริจ” ลินลี่ย์กล่าว “เพียงแต่ระยะทางจากเมืองรอยัลวิงเราของแคว้นไนท์บลาสไปเมืองบลูเมเปิลของแคว้นเรนโบว์กินระยะทางสี่พันล้านกิโลเมตร!”
เป็นเรื่องปกติของแคว้นที่มีพื้นที่เส้นรอบวงเป็นพันล้านกิโลเมตร
สำหรับระยะทางจากเมืองรอยัลวิงของแคว้นไนท์บลาสไปยังท่าที่เมืองบลูเมเปิลแคว้นเรนโบว์ก็อยู่ในความคิดของเขาแล้ว
“สี่พันล้านกิโลเมตร” บีบีจ้องมอง “นั่นเป็นระยะทางที่ไกลมากต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเดินทางไปเมืองบลูเมเปิล และบางทีอาจจะอันตรายมาก”
ลินลี่ย์หัวเราะ “เจ้าจะกังวลอะไร? เราไม่ต้องไปกันตามลำพังอยู่แล้ว หลังจากกินเสร็จ เราจะไปที่ปราสาทอสูร เราจะรับภารกิจคุ้มกันภัยจากเมืองรอยัลวิงไปเมืองบลูเมเปิลอย่างนั้นไปเมืองบลูเมเปิลยังจะไม่ง่ายอีกหรือ?”
กล่าวโดยทั่วไปภารกิจคุ้มกันภัยจะใช้นักสู้อสูรไม่มากนัก
ถ้ากลุ่มของลินลี่ย์เข้าร่วมด้วย การเดินทางของพวกเขาจะปลอดภัยกว่ามาก แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับอันตรายใดๆ ด้วยกลุ่มอสูรที่อยู่ด้วยสถานการณ์จะรับมือได้ง่ายกว่า
“รับภารกิจใช่ไหม? ข้ายังไม่เคยเข้าร่วมรับภารกิจอย่างเป็นทางการมาก่อน” บีบีค่อนข้างตื่นเต้น
“ท่านขอรับปลาเกล็ดทองเนื้อนุ่มที่สั่งได้แล้วขอรับ”บริกรนำอาหารสีทองเป็นประกายในจานเข้ามาเสริฟ อาหารที่งดงามแสนโอชะถูกวางลงบนโต๊ะ
ลินลี่ย์หัวเราะ “บีบี เลิกคิดเรื่องภารกิจ กินกันก่อนแล้วค่อยพูด เจ้าสั่งปลาตัวนี้และราคาก็ปาเข้าไปสามร้อยศิลาดำ ชิมดูก่อนว่าเป็นยังไง?”
หลังจากกินแล้วกลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าสู่ปราสาทอสูร พนักงานต้อนรับที่โถงใหญ่ของชั้นแรกก็คือยูนะสหายเก่าของพวกเขา รู้สาเหตุที่พวกเขามา นางหัวเราะและชี้มาทางลินลี่ย์ “รับภารกิจให้ไปที่ชั้นต่อไปอสูรหนึ่งดาวถึงอสูรสามดาวจะรับภารกิจที่ชั้นสอง ขณะที่อสูรสี่ดาวถึงหกดาวรับภารกิจที่ชั้นสาม”
ชั้นสองของปราสาทอสูรจุดที่อสูรหนึ่งดาวรับภารกิจ ที่แถวของห้องหนึ่ง กลุ่มของลินลี่ย์เดินเข้าไปหนึ่งในห้องเหล่านั้น
“ว่าไป, พวกเจ้าต้องการรับภารกิจแบบไหน?” บุรุษหนุ่มคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้นและพูดอย่างสงบ
“คุ้มกันภัยจากเมืองรอยัลวิงไปเมืองบลูเมเปิลแคว้นเรนโบว์” ลินลี่ย์กล่าว “ภารกิจระดับสองดาว” กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงเป็นอสูรหนึ่งดาวกันทั้งหมด พวกเขาสามารถรับภารกิจสองดาวได้ เมื่อภารกิจสองดาวสำเร็จพวกเขาจะกลายเป็นอสูรสองดาว
เด็กหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากเขาหลับตาครู่หนึ่งจากนั้นเขาโบกมือ มีม้วนกระดาษม้วนหนึ่งปรากฏในมือของเขา “ภารกิจคุ้มกันจากเมืองรอยัลวิงไปเมืองบลูเมเปิล แคว้นเรนโบว์ มีทั้งหมดสิบงาน สามงานเป็นภารกิจระดับสองดาว ลองดูสิ”
ขณะที่เขากล่าวเขายื่นม้วนบันทึกภารกิจให้ลินลี่ย์
หลังจากรับมาดูโดยเร็วลินลี่ย์ก็ตัดสินใจได้ “ภารกิจสองดาวที่จะเริ่มในอีกยี่สิบวัน” เหตุผลที่ลินลี่ย์เลือกหนึ่งในภารกิจนี้เป็นเพราะมีคนหลายคนที่ลงชื่อเข้ารับภารกิจคุ้มกันภัยแล้วรวมทั้งอสูรสองดาวที่สมัครใจอีกด้วย