ตอนที่แล้วตอนที่ 14-28 เพลิงแค้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-30 ตรวจสอบผลงาน

ตอนที่ 14-29 เพลิงสำนึกผิด


เมื่อเห็นไวนีเซ่นปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขาทันที  โลซูสใจสั่นสะท้าน

“จบสิ้นกัน!”  โลซูสอดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้

ปรสิตวิญญาณถูกปลูกอยู่ในวิญญาณของเขาเป็นร่างแยกวิถีชีวิตที่ทรงพลัง  โลซูสมีอีกร่างแยกหนึ่ง  แต่ร่างแยกนั้นไม่สามารถหนีได้

“ถ้าเจ้าไม่ต้องการตายตอนนี้  อย่างนั้นจงกลับไป!”  ไวนีเซนตะคอก

โลซูสรู้ว่าเมื่อถอยกลับไปเขาก็จะตายอยู่ดี  แต่เขาเลือกกลับเข้าวงล้อมอีกครั้ง

“ซวบ!”มีดเล่มหนึ่งแทงตรงใส่ศีรษะของเทพแท้ตนหนึ่ง

และจากนั้นแค่เพียงพลิกมือบีบีเก็บศพเขาและบินกลับมาหาลินลี่ย์   บีบีและเดเลียรวมอยู่ในตำแหน่งเดียวกันหมด  ถ้าคนอื่นไม่โจมตีพวกเขา  พวกเขาจะไม่โจมตีคนอื่นเช่นกัน  แต่เมื่อมีคนโจมตีพวกเขา  กลุ่มของลินลี่ย์จะฆ่าศัตรูทันที!

เรจิน่าอยู่ฝ่ายลินลี่ย์เช่นกัน

เพียงแต่ในวิกฤติตัดสินเป็นตายเช่นนั้นกลุ่มของลินลี่ย์ไม่กล้าเชื่อใจเรจิน่าเต็มที่

เลือดสาดกระจายอยู่ทั่วทุกที่  ขณะที่การประหัตประหารดำเนินต่อไป

“ลินลี่ย์”เดเลียมองดูลินลี่ย์ที่กำลังฝืนยิ้ม เนื่องจากสถานการณ์และความจริงที่ว่าไวนีเซนบอกว่าจะมีเพียงเทพแท้คนเดียวได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่จะต้องมีผู้เสียชีวิตจากกลุ่มลินลี่ย์ซึ่งมีสามคนแน่นอน

ใครจะตาย?

“ข้ายอมตายดีกว่าปล่อยให้เดเลียหรือบีบีตาย”  ขณะนั้นหัวใจลินลี่ย์เจ็บปวด

“ต่อให้ข้าตาย ข้าขอตายข้างๆ เจ้า” เดเลียมองดูลินลี่ย์ ใบหน้านางประดับรอยยิ้ม  “ข้าพอใจแล้วที่ได้อยู่ด้วยกันกับเจ้า”

“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระ!” ลินลี่ย์ตะโกนผ่านสำนึกเทพอย่างไม่พอใจ

แต่หัวใจของลินลี่ย์กลับขมวดปม แม้ว่าเดเลียจะไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนมากตลอดหลายปีมานี้  แต่นางสนับสนุนลินลี่ย์อย่างเงียบงัน  การให้ความสนใจและสนับสนุนอย่างเงียบงันส่งเสริมให้ความรักของพวกเขามีความตราตรึงอยู่ในวิญญาณของกันและกัน

ไม่ว่าจะเป็นหรือตายพวกเขาจะไม่ถูกพรากจากกัน

“เจ้าจะต้องไม่ตาย”  ลินลี่ย์มองดูเดเลียขณะเดียวกันก็ระมัดระวังรอบด้าน

บุรุษชุดขาวที่ขายแหวนจันทรากำลังมองมาทางกลุ่มลินลี่ย์ ตอนนั้นกลุ่มของลินลี่ย์พบแล้วว่าบุรุษชุดขาวแข็งแกร่งมากจริงๆ  เทพแท้สิบคนตายไปในมือของเขาแล้ว

“ข้าขอร้องท่านอย่ามารุกรานเรา”  พร้อมกับการกวัดแกว่งดาบหนักอดาแมนเทียมในมือลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพออกไป

บุรุษชุดขาวลังเลขณะมองดูบีบี  ในที่สุดเขาเลือกจะไม่โจมตี

ลินลี่ย์และบีบีฆ่าคนไปค่อนข้างมากหลังจากนั้นเช่นกัน  ลินลี่ย์ใช้พลังโจมตีวิญญาณ  ขณะที่บีบีใช้การโจมตีที่พลังธาตุหยาบ  พวกเขารวมกลุ่มกันเป็นเทพที่ทรงพลังเช่นกัน

“หยุด!” เสียงเย็นชาดังเหมือนฟ้าผ่ากึกก้องมาจากตำแหน่งเมืองรอยัลวิง

ทุกคนที่ได้ยินเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวนี้รู้สึกมึนชาในศีรษะ พวกเขาทุกคนสูญเสียการรับรู้กันหมดและขณะต่อมาจึงค่อยฟื้นคืนความรู้สึก ขณะนั้นกลุ่มของลินลี่ย์ฟื้นคืนความรู้สึกแล้ว  พวกเขาเห็นมีร่างสามร่างปรากฏอยู่ในอากาศ  ภายใต้แสงอาทิตย์สีเลือดเงาร่างผู้นำของทั้งสามร่างดูเหมือนจะสง่าเป็นประกายแพรวพราว

เขาสวมชุดยาวสีทองคิ้วขาวและนัยน์ตาทอง

คิ้วขาวนัยน์ตาทอง!

“เจ้าเมืองรอยัลวิง อสูรเจ็ดดาว!” หัวใจของลินลี่ย์ดีใจแทบคลั่ง หน้าของลินลี่ย์ บีบีและเดเลียแสดงอาการดีใจเป็นที่สุดทันที

ไม่ใช่แค่พวกเขา  แม้แต่ผู้เฒ่าผมขาวผู้มีตัวเปื้อนเลือดจากการต่อสู้แต่ก็ยังไม่ตายเมื่อรู้ว่าผู้ใดมา เขาตื่นเต้นร้องเรียก “ท่านเจ้าเมือง!”

“เจ้าเมือง?”ผู้เข้าสอบอสูรหลายคนจ้องมองผู้มาใหม่ด้วยความตื่นเต้น

ในฐานะอสูรเจ็ดดาวแห่งเมืองรอยัลวิงเป็นหนึ่งในผู้ทรงพลังที่สุดคนหนึ่งของแดนนรก

“โอว, สจ๊วตนั่นเอง”  บุรุษชุดเทามองดูเจ้าเมืองรอยัลวิง  “สจ๊วต,หรือว่าเจ้าต้องการจะแทรกแซงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้?”

กลุ่มของลินลี่ย์ตกใจ  พวกเขารู้ว่ารอยัลวิง (ปีกหลวง)ไม่มีอะไรมากไปกว่าฉายาซึ่งเจ้าเมืองรอยัลวิงได้รับเมื่อกลายเป็นอสูรเจ็ดดาว

สำหรับชื่อจริงของเจ้าเมืองรอยัลวิงหลายคนไม่รู้จัก

เจ้าเมืองรอยัลวิงเลิกคิ้วขาวของเขาและจ้องมองไวนีเซ่นด้วยสายตาคมกล้า  “ไวนีเซ่น นี่คือกลุ่มทำงานจากปราสาทอสูร และพวกเขาอยู่ใกล้เมืองรอยัลวิงมากแล้วด้วย  อย่าเหิมเกริมเกินไป” คำพูดของเจ้าเมืองรอยัลวิงแฝงไปด้วยความโกรธเช่นกัน

“สจ๊วต!  ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าถูกสังหารเจ้าบอกข้าที ข้าควรตัดสินใจล้างแค้นหรือไม่?” ไวนีเซนจ้องมองเจ้าเมืองรอยัลวิง

เจ้าเมืองรอยัลวิงขมวดคิ้ว  “ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าถูกทำลายหรือ?พวกเขาจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?”

เจ้าเมืองรอยัลวิงรู้แน่ว่าไวนีเซนทรงพลังมากเพียงไหน

ไวนีเซนลังเลอยู่เล็กน้อยจากนั้นก็พูดอย่างไม่สบายใจ  “ข้าอยู่แต่ในถ้ำคร่ำเคร่งฝึกวิถีมรณะ แต่ร่างแยกธาตุมืดของข้าอยู่ที่ปราสาทจันทรา” ที่สำคัญไวนีเซ่นต้องการสำราญกับชีวิตเช่นกัน  เขาไม่สามารถเอาแต่ใช้เวลากับการฝึกอย่างเดียว

“ใครจะคาดกันเล่าว่าจู่ๆก็มีคนมากมายบุกโจมตีปราสาทจันทราของข้า” ไวนีเซนโกรธ

เจ้าเมืองรอยัลวิงเข้าใจแล้วในตอนนี้

นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ยอดฝีมือหลายคนเลือกจะแยกตัวแบ่งให้ร่างแยกอยู่ประจำในตำแหน่งต่างๆ  ด้วยวิธีนั้น ถ้าหนึ่งในร่างแยกเป็นอันตรายก็ยังมีอีกร่างรอดชีวิต

“เป็นไปได้ยังไงที่ข้าจะไม่แก้แค้นยิ่งใหญ่ครั้งนี้?”  ไวนีเซนกล่าว

สำหรับสุดยอดฝีมือเหล่านี้  ชีวิตของพวกเขาย่อมมีคุณค่ามากมาย ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ร่างหนึ่งถูกทำลายไปก็เท่ากับเสียไปหนึ่งชีวิต  ใครจะไม่โกรธแค้นกันเล่า? ไวนีเซนวางแผนยาวนานว่าจะฆ่าอสูรทั้งหมดนี้ไม่เหลือไว้เลยสักคน

เจ้าเมืองรอยัลวิงก็กังวลเช่นกัน  จากนั้นเขามองดูไวนีเซนและพูดช้าๆ  “ไวนีเซน, ข้าเข้าใจว่าเจ้ารู้สึกยังไง  แต่..เจ้าลงมืออยู่ด้านนอกข้างเมืองรอยัลวิง อย่างน้อยควรจะเห็นแก่หน้าข้า สจ๊วต หน้าน้อยๆ ของข้านี้”

ไวนีเซนขมวดคิ้วเล็กน้อย

ทั้งเจ้าเมืองรอยัลวิงและไวนีเซ่นเป็นสุดยอดฝีมือในยุคเก่านานมาแล้ว  เมื่อนานมาแล้วพวกเขากลายเป็นอสูรเจ็ดดาว!

“สจ๊วต, หรือว่าเจ้าต้องการจะสู้กับข้า?”  ไวนีเซ่นพูดเสียงเบาอย่างไม่พอใจ

ตอนนี้ผู้รอดชีวิตสามสิบกว่าคนรายล้อมมองดูด้วยความกังวล  ลินลี่ย์และคนอื่นเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ ชีวิตพวกเขาอยู่ในมือของสุดยอดฝีมือทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็นหรือตายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าเมืองรอยัลวิงกับไวนีเซน

“ข้าไม่ต้องการสู้กับเจ้า  แต่เจ้าก็อย่าทำเกินไปเช่นกัน”  เจ้าเมืองรอยัลวิงกล่าว

ไวนีเซนเข้าใจอารมณ์ของรอยัลวิงตอนนี้เช่นกัน

“ก็ได้, พวกตัวเล็กตัวน้อยระดับเทพแท้  ข้าจะไม่ฆ่าพวกเขา  แต่เทพชั้นสูงทั้งสี่ที่ยังรอดชีวิตข้าต้องฆ่าพวกมัน!”  ไวนีเซนพูดยืนยัน  “การทำลายร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าเกี่ยวข้องกับพวกอสูรเหล่านั้น”

เจ้าเมืองรอยัลวิงชำเลืองมอง

“ท่านเจ้าเมือง!”  ชายชราผมหงอกรีบกล่าวและเทพชั้นสูงอีกสามคนมองมาทางเจ้าเมืองรอยัลวิงด้วยสายตาวิงวอน

เจ้าเมืองรอยัลวิงพูดขึ้น“บรรดาเทพชั้นสูงสี่คนที่เหลือรอด คนที่อยู่ตรงนั้นเป็นพนักงานของปราสาทอสูร”  เจ้าเมืองรอยัลวิงชี้ไปที่บุรุษผมหงอก  “เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเกี่ยวข้องกับการตายของเจ้า”

ไวนีเซนชำเลืองมองชายชราผมหงอก  จากนั้นพยักหน้าและกล่าว “ก็ได้  ข้าไว้ชีวิตเขาก็ได้”

“ท่านเจ้าเมือง”  เทพชั้นสูงอีกสามคน รวมทั้งโลซูสร้องเรียกซ้ำๆ

แต่เจ้าเมืองรอยัลวิงไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย เจ้าเมืองรอยัลวิงมองดูไวนีเซ่นและคุยทางสำนึกเทพ “จะดีที่สุดเจ้าจัดการเรื่องนี้ให้จบโดยเร็ว  เจ้าจะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายมากถ้ายังจะใช้เวลามากไปกว่านี้..” ไวนีเซนเข้าใจทันที

เจ้าเมืองรอยัลวิงต้องการรักษาหน้าไว้ด้วยเช่นกัน

“ย่อมได้!”

ไวนีเซนยิ้ม

“ท่านเจ้าเมือง!”  โลซูสบุรุษกำยำผมฟ้าและอสูรผมทองร้องเรียกพร้อมกัน

“พวกเจ้าฆ่าหนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของข้าฮึ่ม!” ตาของไวนีเซนเปลี่ยนเป็นสีขาวทันที และระลอกพลังโปร่งแสงพุ่งออกยิงใส่บุรุษกำยำผมฟ้าและอสูรผมทองและหนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของโลซูส เข้าไปในร่างพวกเขาทันที

“อ๊า..!”  เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากทั้งสาม

ขณะเดียวกันเพลิงโปร่งแสงม้วนตัวจากด้านบนศีรษะของทั้งสามและจากนั้นทั้งสามร่วงลงจากท้องฟ้าและตายทันที

“เพลิงสำนึกบาป?”  เจ้าเมืองรอยัลวิงตาเป็นประกาย  “ไวนีเซนผู้นี้ทรงพลังมากกว่าครั้งก่อน”

“ทรงพลังมาก” เมื่อเห็นเช่นนี้ผู้โชคดีรอดชีวิเกือบสามสิบคนตกตะลึงกันหมด อสูรผู้เป็นเทพชั้นสูงถูกฆ่าโดยไม่มีความสามารถตอบโต้กลับไวนีเซนผู้นี้ และเพียงแค่นั้นการโจมตีไร้ลักษณ์นั้นทำให้เกิดเปลวเพลิงโปร่งแสงที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

ตอนนี้อสูรที่ยังรอดอยู่ก็คือโลซูส นี่คือร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของโลซูสซึ่งยังทนทุกข์จากปรสิตวิญญาณ

ร่างแยกอีกร่างหนึ่งของเขาถูกฆ่าไปแล้ว

“เพลิงสำนึกบาป?”  โลซูสจ้องมองไวนีเซนอย่างหวาดผวา  “เพลิงสำนึกบาปในตำนานหรือนี่?” ตอนนี้โลซูสเข้าใจเต็มที่แล้วว่าความแตกต่างระหว่างเขากับไวนีเซนยิ่งใหญ่เพียงไหน

“เจ้า...ทำไมเจ้าไม่ไปท้าสู้กับเทพอสูรเล่า?”  โลซูสกล่าว

ลินลี่ย์มีความคิด“ท้าสู้เทพอสูร?” ลินลี่ย์รู้ว่าแดนนรกมีแคว้นทั้งหมด 108 แคว้น! และยังมีเทพอสูรถึง 108!  เจ้าครองแคว้นแต่ละคนล้วนเป็นเทพอสูร!  ในแดนนรก ‘เทพอสูร’ เป็นชื่อของยอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุด และมีหนทางเดียวที่จะได้รับมา

ท้าต่อสู้

แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีสิทธิ์ท้าสู้กับเทพอสูร  ผู้ท้าสู้ต้องเป็นอสูรเจ็ดดาวเสียก่อน!

เมื่อกลายเป็นอสูรเจ็ดดาวผู้ทรงพลัง  อสูรเจ็ดดาวจึงจะมีสิทธิ์ท้าสู้เทพอสูร  ถ้าท้าสู้ได้สำเร็จ  เทพอสูรคนก่อนจะสูญเสียชื่อนำหน้าว่าเทพอสูร และผู้ท้าสู้ชนะจะได้รับคำนำหน้าเป็นเทพอสูรแทน  ดังนั้นเทพอสูรในแดนนรกจึงมีจำนวน 108 คนตลอดไป

“ท้าสู้เทพอสูร?”  ไวนีเซนชำเลืองมองดูเขา  “ประการแรกเลย ข้าไม่สนใจเรื่องแบบนั้นเช่นกัน”

“ประการที่สองเจ้าคิดหรือว่าเพียงแค่ข้าสามารถใช้เพลิงสำนึกบาป นั่นจะเอาชนะเทพอสูรได้?”  ไวนีเซนแค่นเสียง  “ถ้าเรายังอยู่ในยุคเมื่อข้ามาถึงแดนนรกตอนแรกบางทีข้าอาจทำ แต่เมื่อผ่านหลายปีมานับไม่ถ้วน หลังจากมีการท้าสู้กันหลายครั้ง  เทพอสูรทุกคนในยุคของเรา ยากจะจัดการได้”

ไวนีเซนชำเลืองมองเจ้าเมืองรอยัลวิงเช่นกัน

เจ้าเมืองรอยัลวิงพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนกับว่าเขาก็มีความรู้สึกเดียวกัน

พวกเขาเป็นอสูรเจ็ดดาวทั้งคู่ และพวกเขาก็บรรลุถึงระดับอสูรเจ็ดดาวนานนับปีไม่ถ้วน  แต่พวกเขาไม่กล้าท้าสู้เทพอสูร! เพราะถ้าการท้าสู้ของพวกเขาล้มเหลว กล่าวโดยทั่วไปผลก็คือตาย!

“สหายน้อยทั้งหลาย  ถือว่าเป็นอวยพรพวกเจ้า”ไวนีเซนชำเลืองมองเทพแท้ที่รอดชีวิต

ไวนีเซนไม่มีแรงกระตุ้นมากพอจะฆ่าพวกลินลี่ย์ทั้งสามเพราะเขารู้ว่าความตายของร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเทพแท้เหล่านี้นัก เนื่องจากเจ้าเมืองรอยัลวิงมาด้วยตนเอง  เขาต้องเห็นแก่หน้าของเจ้าเมืองรอยัลวิงบ้าง

“ทุกคน!  ไปเดี๋ยวนี้” เจ้าเมืองรอยัลวิงพูดขึ้น

ทันใดนั้นภายใต้การนำของชายชราชุดขาว  ผู้รอดชีวิตระดับเทพแท้สามสิบคนบินไปที่เมืองรอยัลวิงทันที

ครู่ต่อมา...

ในกลางอากาศเงาร่างที่เหลืออยู่ก็คือบริวารของไวนีเซน โลซูสและสามคนฝ่ายเจ้าเมืองรอยัลวิง

“ฮึ่ม!  เจ้าจะมองอะไร?  เจ้าต้องการกลับเมืองรอยัลวิงด้วยหรือ?  ฮ่าฮ่า ฝันไปเถอะ!”  ไวนีเซนมองดูโลซูสผู้เงียบไม่สนใจเขา  แต่จากนั้นโลซูสเริ่มชักกระตุกทันทีงอดตัวกรีดร้องด้วยความทรมานขณะที่กุมศีรษะ

เจ้าเมืองรอยัลวิงเลิกคิ้ว

“นั่นคือปรสิตวิญญาณ”  ไวนีเซนพูดอย่างไม่ใส่ใจ

เจ้าเมืองรอยัลวิงตกใจเล็กน้อยและเขาถอนหายใจประหลาดใจ  “ไวนีเซน! เจ้าสร้างปรสิตวิญญาณได้ด้วยหรือ?แม้ว่าจะไม่ค่อยมีผลต่อยอดฝีมือระดับเรานัก แต่สิ่งนี้ก็ทรงค่าอย่างมาก” ปรสิตวิญญาณไม่ใช่ของมีพลังมากพอใช้สู้กับยอดฝีมืออย่างเจ้าเมืองรอยัลวิง

อย่างไรก็ตามทั่วทั้งแดนนรกจะมีสักกี่คนที่มีความสามารถระดับนั้น

“ถ้าเจ้าต้องการสักตัวเจ้ามาเยี่ยมข้าหาซื้อสักตัวก็ได้  ข้าจะลดราคาให้ถูกกว่าปราสาททรายดำสัก10%”  ไวนีเซนกล่าว

เจ้าเมืองรอยัลวิงอดยิ้มไม่ได้

“สจ๊วต, ข้าไปก่อนละนะ”  ไวนีเซนแจ้งบอกเขา

เจ้าเมืองรอยัลวิงพยักหน้าเล็กน้อย

จากนั้นไวนีเซนหันมาทางโลซูสอีกครั้ง  “เจ้าเด็กน้อย, ข้าบอกเจ้าแล้วเจ้าจะต้องเสียใจมากๆ” จากนั้นเขานำโลซูสและกองกำลังเข้าไปในอสูรโลหะและจากไปด้วยความเร็วสูง

“สหายนั่นตกอยู่ในเงื้อมมือของไวนีเซนนับเป็นเคราะห์กรรมของเขาจริงๆ” เจ้าเมืองรอยัลวิงถอนหายใจ

เจ็ดกฎธาตุ  สี่วิถี บรรดาสิ่งเหล่านี้ที่น่ากลัวที่สุดและสามารถทรมานผู้อื่นได้มากที่สุดก็คือวิถีมรณะ และในทางกลับกันยอดฝีมือระดับไวนีเซนมีความสามารถที่น่ากลัวอย่างแท้จริง

“ในที่สุดเราก็รอดชีวิตกลับมายังเมืองรอยัลวิงได้”  ลินลี่ย์ เดเลียและบีบียืนบนถนนในเมืองรอยัลวิงในขณะที่พวกเขาไม่แน่ใจว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ความผันแปรระหว่างเป็นกับตายทำให้หัวใจผู้คนสั่นสะท้าน

“ลินลี่ย์ เมื่อครู่นี้ข้ากลัวแทบตายจริงๆ”  เดเลียยังยิ้มได้ในเวลานี้

บีบีเม้มปาก  “ตาแก่ไวนีเซนนั่นเกินไปจริงๆ  แต่, อนิจจา..ดูเหมือนว่าเขาทรงพลังจริงๆ  ปู่เบรุตไม่อยู่ที่นี่เสียด้วย  ถ้าเขาอยู่ที่นี่  ทุกอย่างก็คงดีแน่”

ลินลี่ย์จูงมือเดเลีย  “ไปกันเถอะ เราจะไปที่ปราสาทอสูรกัน!” การแลกเปลี่ยนแหวนจันทราจะทำให้ลินลี่ย์และพวกกลายเป็นอสูรหนึ่งดาว

ลินลี่ย์บีบีและเดเลียมุ่งหน้าตรงไปยังปราสาทอสูรทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด