ตอนที่ 14-25 ไม่มีที่ให้หนี
นักรบชุดดำแห่งปราสาททะเลสาบจันทราเป็นเทพชั้นสูงฝีมือดีกันทุกคนถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี
อสูรสามคนในทีมของแคลมป์ตันเผชิญหน้ากับนักรบชุดดำคนเดียวได้ชัยชนะอย่างหวุดหวิด แต่แน่นอนเหตุผลหลักก็คือแคลมป์ตันเองอ่อนแอมาก ขณะที่อสูรอีกสองคนเป็นเทพชั้นสูงระดับทั่วไป
“ข้าเพิ่งฆ่าไปคนเดียวและตอนนี้ปรากฏมาเพิ่มอีกสองคนหรือ? ถ้าพวกเขาไล่ทันข้า ข้าตายแน่นอน!” แคลมป์ตันหวาดกลัวจนสูญเสียความรู้สึก และเขาหนีออกจากทางเดินอย่างบ้าคลั่ง
“เกิดอะไรขึ้น?” แคลมป์ตันหน้าเปลี่ยน
อุโมงค์ข้างหน้าถูกปิดไว้
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?อุโมงค์นี้ถูกปิดไว้ได้ยังไง? มันควรจะเป็นทางออก!”แคลมป์ตันจะคาดคิดได้ยังไงว่าเมื่อกลุ่มของลินลี่ย์สี่คนหนีเพื่อป้องกันไม่ให้เขาไล่ทันและโจมตี พวกเขาเลื่อนผนังมาปิดเอาไว้?
แคลมป์ตันตอนนี้กำลังหนีด้วยความเร็วสูง!
เขาจะมีเวลาตรวจสอบได้ยังไงว่าผนังนี้มีกลไกลับหรือไม่? เขาไม่มีเวลา! มีนักรบชุดดำสองคนไล่ล่าตามมาข้างหลังอย่างเร่งร้อน
เขามีทางเลือกเดียว– ทลายผ่านผนัง!
แคลมป์ตันหนีอย่างบ้าคลั่งไม่สนใจอะไรอื่นและระดมหมัดใส่ผนังที่ปลายอุโมงค์อย่างดุร้ายหมัดเดียวซึ่งไม่มีการยั้งพลังไว้
“บึ้ม!” ผนังแตกออกทันทีและแคลมป์ตันวิ่งออกมาจากรอยแยกของผนังเข้ามาในห้อง อย่างไรก็ตามความเร็วของแคลมป์ตันสะดุดช้าลงเล็กน้อยขณะที่นักรบชุดดำสองคนที่ไล่ตามมาด้านหลังทรงพลังมากกว่าเขาตั้งแต่แรกตามมาทันเขาในทันที!
“เจ้าคิดจะหนีหรือ!” เสียงตะโกนกราดเกรี้ยวเงาร่างดำร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากรอยแยกของผนัง จากนั้นใช้พลังดาบฟันฝ่าอากาศพลังดาบที่เหมือนจะแยกฟ้าแยกดินออกจากกัน ภายใต้พลังฟันรุนแรงนี้มิติถึงกับบิดเบี้ยวและเริ่มสั่นเป็นระลอกขยายออกไปในแต่ละด้านเหมือนน้ำ
แคลมป์ตันสีหน้าเปลี่ยนไปมาก
“ไม่...!”หน้าของแคลมป์ตันดุร้าย และเขาตะโกนลั่นพยายามดิ้นรนสู้กับความตาย
“แคล้ง!”
แคลมป์ตันใช้ดาบศึกตัวเองป้องกันด้านบนศีรษะต้านรับดาบของฝ่ายตรงข้ามที่ฟันลงมาอย่างรุนแรงไว้ได้ ดาบของฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถกดลงมาได้อีก
อย่างไรก็ตาม....
ดาบของนักรบชุดดำนั้นแฝงไปด้วยพลังคลื่นสั่นสะเทือนซึ่งแล่นผ่านไปตามดาบศึกแล่นจนไปถึงหัวของแคลมป์ตัน ด้วยพลังกึกก้อง ศีรษะของแคลมป์ตันเริ่มสั่นสะเทือนนับครั้งไม่ถ้วนและกลายเป็นผุยผง!
“ไม่...!” เสียงร้องที่รุนแรงของแคลมป์ตันยังคงดังสะเทือนอยู่ในห้อง
จากศีรษะถึงเอวตลอดทั้งตัวของเขาสั่นสะเทือนและกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
เงาดำปรากฏชัดเจนขึ้นเป็นบุรุษผมสั้นขาวที่สงบกำลังกวัดแกว่งดาบด้านหลังของเขานักรบชุดดำอีกคนหนึ่งพูดเบาๆ “พี่ใหญ่ตอนนั้นเราพบร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของพี่ห้าแล้ว แต่คนหัวล้านยังมีชีวิตอยู่ พี่ห้าคงจะตายไปแล้ว”
นักรบชุดดำสองคนรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ
บุรุษผู้ใจเย็นนั้นตะโกน “พี่น้องเราส่วนใหญ่ประสบภัยพิบัติไปแล้วสู้กันตัวต่อตัวอสูรพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา แต่พวกเขามีมากกว่าพวกเรา!”
ความจริงอสูรมากกว่ายี่สิบคนมาร่วมปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้ ขณะที่นักรบชุดดำมีเพียงสิบคน
พวกอสูรที่ด้อยกว่าสองหรือสามคนสามารถเอาชนะนักรบชุดดำคนเดียวได้ ขณะที่อสูรที่ทรงพลังก็ปรากฏด้วยเช่นกันอย่าว่าแต่มีอสูรห้าดาวถึงสามคนเลย มีอสูรสี่ดาวค่อนข้างมากเช่นกันใครจะเทียบกำลังกับนักรบชุดดำได้
ทันใดนั้นเสียงสู้รบที่รุนแรงดังมาจากชั้นที่สี่
“ขึ้นไปกันเถอะ”นักรบชุดดำทั้งสองไม่ลังเลแม้แต่น้อยมุ่งหน้าไปบริเวณนั้นทันที
บนชั้นที่สี่ปราสาททะเลสาบจันทราภายในห้องโถงใหญ่มีความกว้างใหญ่ร้อยเมตร มีโต๊ะยาวเรียงรายอยู่หลายตัว โต๊ะเหล่านี้สามารถจัดตั้งที่นั่งได้เป็นร้อยส่วนใหญ่แล้วเป็นสถานที่ให้นักรบชุดทองได้รวมตัวเฉลิมฉลองและดื่มกิน
ภายในด้านข้างห้องถัดจากห้องโถงใหญ่
ลินลี่ย์เดเลีย บีบีและเรจิน่ารวมกันอยู่ที่นี่
เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนบีบีเลิกคิ้ว เขากล่าวอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่! ดูเหมือนจะเป็นเสียงเจ้าหัวล้านเหม็นเขียว”
ลินลี่ย์ก็คิดเหมือนกันและมีรอยยิ้มบนใบหน้า “ใช่แล้วตำแหน่งเสียงน่าจะมาจากอุโมงค์ลับ แคลมป์ตันคงจะเห็นว่าศพบนพื้นหายไปและต้องการไล่ตามเรา แต่จากนั้นคงจะเผชิญยอดฝีมืออื่นในอุโมงค์” ลินลี่ย์รู้ว่าถ้าแคลมป์ตันไม่ตาย ในอนาคตเขาคงจะสร้างความลำบากให้กับกลุ่มลินลี่ย์แน่
ลินลี่ย์เตรียมตัวสู้ศึกใหญ่กับแคลมป์ตันไว้แล้ว
แต่ตอนนี้ดูเหมือนมีบางคนช่วยเขาจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น
เดเลียหัวเราะขณะที่นางมองดูเรจิน่าและถาม “เรจิน่า! เจ้าได้แหวนจันทรามาหรือยัง?”
“ยังเลย ถ้าข้าได้มาแล้ว ข้าคงออกจากปราสาทไปนานแล้ว ทำไมข้ายังจะต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงอีกเล่า? แต่ดูเหมือนนักรบชุดทองจะถูกฆ่าไปหมดแล้ว เราไม่พบอะไรเลย” เรจิน่าส่ายศีรษะอย่างจนใจขณะที่นางพูด
ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน
“แม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะฆ่าพวกเข้าสอบอสูรได้บ้าง แต่ในที่สุดจำนวนคนของเราก็ยังมากกว่าพวกนักรบชุดทองอยู่ดี” เรจิน่าถอนหายใจ “ที่สำคัญยิ่งกว่ามีอสูรจำนวนหนึ่งฆ่านักรบชุดทองไปด้วยเช่นกัน!”
ลินลี่ย์เห็นด้วยกับเรื่องนี้
แม้ว่าอสูรอยู่ในช่วงไล่ตามนักรบชุดดำแต่เมื่อพวกเขาพบนักรบชุดทอง พวกเขาคงไม่ปล่อยให้พวกนั้นหนีไปได้เช่นกัน
“บึ้ม!” เสียงแผ่นดินสะเทือนดังอีกครั้งทำให้แม้แต่ห้องของลินลี่ย์สั่นสะเทือน
“ตรงนั้น” ลินลี่ย์ตกใจ
มีการต่อสู้อยู่ทั่วปราสาททะเลสาบจันทรา ดังนั้นลินลี่ย์จึงไม่ให้ความสนใจการสู้รบที่อยู่ห่างออกไป อย่างไรก็ตาม การสู้รบนี้เกิดขึ้นในห้องใหญ่ใกล้ๆ กลุ่มของลินลี่ย์อดแอบดูจากรอยแยกในห้องอย่างช่วยไม่ได้
“นักรบชุดดำสามคนและอสูรสิบเอ็ดคน?”กลุ่มของลินลี่ย์ตกใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
นักรบชุดดำสามคนหนีมายังที่นี้ ขณะที่พวกอสูรไล่ตามพวกเขา
“นักรบชุดดำจำนวนน้อยกว่ามากมาย พวกเขาจะแพ้ในที่สุด” บีบีตัดสิน แม้ว่ากลุ่มของลินลี่ย์จะคุยกันเอง แต่เพราะพวกเขาในสนามพลังเทพ พวกเขาจึงกันเสียงไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ห้องโถงใหญ่ได้
ลินลี่ย์ถอนหายใจประหลาดใจ “นักรบชุดดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไว้ผมขาวทรงพลังมาก เขา...ฝึกมาในกฎธรรมชาติธาตุลม?”
ลินลี่ย์เพ่งความสนใจไปที่นักรบชุดดำทันที
ตอนนี้เมื่อนักรบชุดดำสองคนที่ฆ่าแคลมป์ตันได้ พวกเขาได้ยินเสียงการต่อสู้และรีบมาสมทบทันที พวกเขาพบว่านักรบชุดดำคนหนึ่งถูกอสูรสามคนล้อมไว้ นักรบชุดดำสองคนย่อมต้องรีบเข้าไปช่วยเป็นธรรมดา แต่..ในไม่ช้าอสูรอื่นๆ ก็เข้ามาสมทบด้วยเช่นกัน
มีพวกอสูรมากเกินไป!
ในที่สุดจึงกลายเป็นการต่อสู้สามต่อสิบเอ็ด!
ในห้องโถงใหญ่ที่กว้างขวางอสูรสิบเอ็ดคนต่อสู้กับนักรบชุดดำสามคน
“วิ้วววว....” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทันทีเหมือนกับค้อนสั่นสะท้านวิญญาณและความรู้สึกทุกคน
เป็นหัวหน้าของนักรบชุดดำบุรุษผมสั้นสีเงิน
เขาควงดาบศึกและปลดปล่อยเคล็ดความรู้ลึกลับของธาตุลม นักรบชุดดำทั้งสิบมีระดับความแข็งแกร่ง ในฐานะเป็นอันดับหนึ่งของสิบนักรบชุดดำพลังของเขาเทียบได้กับพ่อบ้านผู้นั้น
การร่ายรำดาบของเขาก่อให้เกิดเสียงกระหึ่ม
“เสียงอะไร? ประหลาดนัก?” เมื่อพวกอสูรได้ยินพวกเขาอดหงุดหงิดฟุ้งซ่านมิได้ พวกเขาไม่ต้องการฟัง ดังนั้นจึงป้องกันเสียงประหลาดเอาไว้แต่เสียงประหลาดก็ยังดังขึ้นในสมองของพวกเขา ทำให้พวกเขาหงุดหงิดและฟุ้งซ่านอีกครั้ง
“ตาย!”
ดาบดำถูกร่ายรำอีกครั้ง บุรุษผมหงอกจ้องมองขณะฟันดาบดำของเขาใส่อสูรคนหนึ่ง
แรงฟันถูกต้านรับไว้ได้
“ครืนนน...” แรงสั่นสะเทือนเข้าไปในศีรษะของอสูรคนนั้นซึ่งทำให้เขาสลายเป็นผุยผงทันทีขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ร่วงอยู่กับพื้น
“ทุกคน! ระวังตัวไว้ เขาสำเร็จการหลอมรวมเคล็ดความรู้ดนตรีและเคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียงได้แล้ว” บรรดาอสูรเหล่านั้นมีบางคนที่มีประสบการณ์และสามารถตัดสินใจได้ทันที เพียงแต่เมื่อเคล็ดความรู้ลึกลับดนตรีและเคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียงหลอมรวมกันเป็นสัจธรรมแห่งเสียงจะมีพลังโจมตีขนาดนั้น
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่เพียงแต่เขายังส่งผลต่อวิญญาณของคู่ต่อสู้เท่านั้น แต่เขาสามารถหลอมรวมโจมตีได้ทั้งวิญญาณและธาตุหยาบ!
กฎธรรมชาติธาตุลมมีเคล็ดความรู้ลึกลับเก้าแขนง และเคล็ดความรู้ลึกลับสองแขนงเมื่อผสานกันจะมีพลังแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เพียงแต่การหลอมรวมคล็ดความรู้ลึกลับดนตรีและเคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียงจะมีชื่อเสียงมากที่สุดพลังของมันก็น่ากลัวมากอีกด้วย!
“นั่น...?”
ลินลี่ย์ยังคงวิเคราะห์เคล็ดความรู้ลึกลับดนตรีและเคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียง ดูเหมือนจะตระหนักอะไรบางอย่างได้จากพลังโจมตีของหัวหน้านักรบชุดดำ
“คลื่นเสียงบริสุทธิ์สามารถมาถึงระดับนั้นได้หรือ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจอย่างหนัก “และเสียงนั่นทำไมเสียงนั้นจึงส่งผลสั่นสะท้านวิญญาณเหมือนคลื่นความถี่ต่ำ?” ลินลี่ย์จ้องมองอย่างสงสัยเขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
ปัจจุบันนี้ลินลี่ย์เพียงแต่เข้าถึงระดับความเข้าใจพื้นฐานของเคล็ดความรู้ลึกลับดนตรีและเคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียงเขายังไม่เข้าถึงเคล็ดความรู้อย่างอื่น และยังหลอมรวมได้สำเร็จไม่มาก
“ดูเหมือนว่าหัวหน้าของนักรบชุดดำจะเชี่ยวชาญสัจธรรมแห่งเสียงแล้ว” ลินลี่ย์วิเคราะห์ “แม้แต่เทพชั้นสูงยังถูกสั่นสะเทือนจนกระจายเป็นชิ้น คลื่นเสียงทรงพลังขนาดนั้นได้ยังไง?” หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความสงสัย ข้อสันนิษฐานทุกอย่างเกี่ยวกับเคล็ดความรู้สึกลับดนตรีและคลื่นเสียงเริ่มปรากฏในใจของเขา จากนั้นถูกประยุกต์โจมตีโดยนักรบชุดดำ ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่าง “หือ, เดี๋ยวก่อน, นั่นไม่ถูกนั่นไม่ใช่วิธีที่เคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียงทำงาน ดังนั้นไม่เพียงแต่มันสามารถสั่นสะเทือนภายในได้ แต่ยังสามารถโจมตีธาตุหยาบได้...”
การโจมตีของนักรบชุดดำนี้ทำให้ลินลี่ย์เข้าใจอะไรบางอย่างทันที เพียงแต่บางอย่างนี้เป็นก้าวแรกในเส้นทางหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับตนตรีและเคล็ดความรู้ลึกลับคลื่นเสียง
เดเลียบีบีและเรจิน่าพากันอึดอัดใจกันหมด ความจริงลินลี่ย์นั่งลงเข้าสมาธิเฉย
“เขา..... กำลังทำอะไร?” เรจิน่าค่อนข้างตกใจ
บีบีมีสีหน้าประหลาดใจเขากระซิบเสียงเบา “พี่ใหญ่....พี่ใหญ่บางทีได้รับการรู้แจ้งอยู่”
“รู้แจ้งกะทันหันน่ะหรือ?” เดเลียค่อนข้างตกใจเช่นกัน
แม้ว่านักรบชุดดำจะทรงพลังมาก แต่อสูรสิบเอ็ดคนก็มียอดฝีมือระดับสูงอยู่หลายคน เมื่อผ่านการต่อสู้ดุเดือดป่าเถื่อนนักรบชุดดำสองในสามตายไป เหลือแต่เพียงหัวหน้านักรบชุดดำและอสูรเจ็ดคน
อสูรเจ็ดคนรายล้อมเขาไว้
“ตายหมดแล้ว.. น้องรอง.. น้องสาม..พวกเขาตายหมดแล้ว, ตายหมดแล้ว!” หัวหน้านักรบชุดดำกำลังจะเป็นบ้า
“อ๊า....!” หัวหน้านักรบชุดดำ เงยหน้าและเริ่มกู่ร้องลั่น
ระลอกพลังจิตที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกจากร่างของหัวหน้านักรบชุดดำทันที เสียงคำรามนี้บรรจุไปด้วยพลังโจมตีของสัจธรรมแห่งเสียงทั้งหมด
ด้วยเสียงคำรามนี้อสูรเจ็ดคน สองคนตะลึงอยู่กับที่และศีรษะของเขาหมุน ครู่ต่อมาพวกเขาอยู่ในอาการงุนงง
“ควั่บ! ”ควั่บ!”......
ขณะเดียวกันธนูสามดอกยิงออกมาจากมือของหัวหน้านักรบชุดดำทะลวงใส่อสูรที่กำลังมึนงงคนหนึ่ง
“ซวบ!”
อสูรผู้นั้นไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อยธนูสามดอกแทงเข้าร่างของเขา
“ปัง!” อสูรอีกคนหนึ่งล้มลง
“น่าเสียดาย ข้ามีธนูเพียงสามดอก มิฉะนั้นข้าคงสามารถฆ่าอสูรอื่นได้” หัวหน้านักรบชุดดำรำพึงในใจ แม้เมื่อเทพชั้นสูงคนหนึ่งอยู่ในสภาพมึนงง พิษวิญญาณของธนูสังหารเทพก็ยังไม่พอจะฆ่าหนึ่งในพวกเขา
ดังนั้นเขาใช้ธนูสามดอกยิงใส่คนผู้เดียว
อสูรที่ยังมึนงงคนอื่นๆหลีกเลี่ยงหายนะได้
“ฆ่า!!” อสูรที่ทรงพลังมากกว่าห้าคนซึ่งไม่ได้รับผลจากเสียงคำรามมากนักโจมตีตอบโต้หัวหน้านักรบชุดดำ
“บึ้ม!” ร่างของหัวหน้านักรบชุดดำระเบิด
ห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยซากศพ มาถึงตอนนี้อสูรที่เหลือหกคนระบายลมหายใจยาว”
“เขาฝึกมาทางกฎธรรมชาติธาตุลม เขาไวมาก ไม่สามารถคาดได้จากพลังผันผวนในอากาศ และเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งสองที่เขาหลอมรวมได้คือคลื่นเสียงและดนตรี” หนึ่งในอสูรผู้หนึ่งส่ายศีรษะถอนหายใจ “เราโชคไม่ดีจริงๆ ที่มาพบกับสหายผู้นี้ ข้าไม่รู้ว่าสิบอสูรของพวกเราจะเหลือรอดภารกิจนี้อยู่กี่คน”
ลินลี่ย์ยังคงอยู่ในสภาวะสมาธิและรู้แจ้งไม่รู้ว่าหัวหน้านักรบชุดดำตายไปแล้ว ลินลี่ย์ดื่มด่ำล่องลอยอยู่ในกฎธรรมชาติที่น่าทึ่งเขามีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติและโลก
เพียงแต่...
“พี่ใหญ่ ตื่น..เร็วเข้า!” บีบีส่งข้อความทางใจปลุกลินลี่ย์ให้ตื่น
“บีบี, มีอะไร?” ลินลี่ย์มองดูบีบีอย่างประหลาดใจ
“การสู้รบที่ตื่นเต้นที่สุดและการสู้รบที่อันตรายที่สุดอาจมีได้ และเราอาจได้รับผลกระทบจากคลื่นแรงระเบิดทุกเมื่อ” บีบีพูดเบาๆ
ไม่ใช่แค่บีบีเท่านั้นเดเลียและเรจิน่าที่อยู่ใกล้ๆ ก็จ้องมองออกไปด้านนอกอย่างประหลาดใจ ลินลี่ย์มองผ่านรอยแยกออกไปด้านนอกประตูด้วยเช่นกัน และเห็นว่าข้างนอกมังกรดำตัวคลุมไปด้วยหนามกำลังขดตัวอยู่ในห้องใหญ่
โลซูสและอสูรห้าดาวอีกคนยืนนิ่งอยู่กับที่ในอากาศ สายตาของเขามองอยู่ที่มังกรดำ
อสูรอีกหกคนยืนอยู่ตามมุมห้อง
“เจ้าไม่สามารถหนีได้” โลซูสคำราม
“ว่าไป,เจ้าได้รับรางวัลสำหรับภารกิจนี้เท่าไหร่? ข้าจะให้เจ้าเป็นสิบเท่า! ตราบใดที่เจ้าทั้งสองยินดีไปทันที” มังกรดำคำรามเสียงต่ำ
“ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้านายของปราสาทนี้จะเป็นอสูรวิเศษ” โลซูสหัวเราะเยือกเย็น “อย่างไรก็ตาม..เจ้าจะให้รางวัลเราถึงสิบเท่าเชียวหรือ? ฮึ่ม.. เมื่อเราฆ่าเจ้าได้ สมบัติทั้งหมดของเจ้าแหวนเก็บของทั้งหมดจะตกเป็นของเรา และนอกจากนี้...” หน้าของโลซูสดูเหมือนจะเต็มไปด้วยชั้นน้ำแข็งทันที “เจ้าฆ่าน้องสาวคนรองของข้า”