ตอนที่ 466 ความเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์
สถานการณ์พัฒนาไปไกลเกินคาด
การทำลายกองทัพทั้งสามของกลุ่มดาววาฬ การยึดครองประตูดวงดาวเซียนนักสู้เริ่มยอมแพ้ นักสู้ชาวดาววาฬนับไม่ถ้วนยอมแพ้ในพริบตากลุ่มดาววาฬกำลังตกอยู่ในอันตราย ขณะที่เมืองสามวิญญาณ เพราะบทบรรเลงหัวใจไร้กังวลทำให้จางหมิงเฮ่อถูกจับและหมาป่าเดียวดายเหวินเจียงถูกสังหาร
ชื่อเสียงของถังเทียนรุ่งเรืองถึงขีดสุด ความสำเร็จทางการทหาร ตั้งแต่ราชสีห์เลโอนแล้วไม่มีใครสามารถทำได้เหนือกว่าถังเทียน นอกจากนี้ถังเทียนยังทำลายกองทัพทั้งสามด้วยมือตัวเองในทางปฏิบัติพลังของนักสู้คนหนึ่งจะถึงจุดอิ่มตัว
แม้ว่าจะมีเซียนนักสู้สองสามคนวิเคราะห์ว่าถังเทียนความจริงก็แค่กำลังวาดภาพพลังฟ้าและดิน แต่ฉากภาพที่น่าตื่นตะลึงยังคงอยู่ในหัวใจของผู้คนนับไม่ถ้วน
เรื่องเดียวที่น่าเสียใจก็คือเมื่อกงชิงจากกลุ่มดาววาฬเห็นว่าบางอย่างไม่เป็นใจเขาคว้าสมบัติเซียนหลบหนีไปจากกลุ่มดาววาฬด้วยความช่วยเหลือจากสมาพันธ์ชาวยุทธ
ความหนาแน่นของพลังดวงดาวของกลุ่มดาววาฬตกลงอย่างมากจาก 31% เป็น 22%
สำหรับถังเทียนแล้วการหลบหนีของกงชิงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักสู้ท้องถิ่นจากกลุ่มดาววาฬยังคงได้รับการดูแลเช่นกัน เมื่อกงชิงอยู่ที่นั่นการต่อต้านของนักสู้ผู้หวงแหนถิ่นจะตึงเครียดมาก แต่เมื่อข่าวว่ากงชิงหลบหนีแพร่ออกไป กำลังใจคนก็ตกลงอย่างรวดเร็ว และการต่อต้านของพวกเขาก็หายไป
ไม่มีความจำเป็นต้องสงสัยความสำคัญของกลุ่มดาววาฬที่มีต่อถังเทียน กลุ่มดาววาฬและกลุ่มดาวหมาป่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันในทำนองนี้ห้ากลุ่มดาวสามารถผสานกันเป็นกลุ่มเดียวกันได้
โชคไม่ดีที่สมบัติเซียนของกลุ่มดาวหมาป่าไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดและสมบัติเซียนของกลุ่มดาวาฬก็ยังคงหายไปเช่นกัน มีแต่กลุ่มดาวหมีใหญ่,กลุ่มดาวมังกรและกลุ่มดาวอันโดรเมดาที่ยังมีสมบัติเซียนเหลืออยู่
เริ่มจากเล็กๆ น้อยๆ จนใช้พลังอำนาจตนเองยึดอำนาจได้ถึงห้ากลุ่มดาว ถังเทียนกลายเป็นยอดฝีมือผู้กล้ารุ่นเยาว์หมายเลขหนึ่งไปแล้ว ในสายตาของทั่วทั้งสวรรค์วิถี ถังเทียนมีไหวพริบที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยพลานุภาพของราชันย์
เมื่อผู้คนรอบตัวถังเทียนเห็นข้อวิจารณ์เช่นนั้น พวกเขามักจะแค่นเสียงล้อเลียนอยู่เสมอ
ขณะที่ทั่วทั้งสวรรค์วิถีตกตะลึงกับพลังของถังเทียนไม่มีใครคิดเลยว่านั่นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของสวรรค์วิถี
เรื่องที่ตามมาอย่างกระชั้นชิดก็คือกลุ่มดาวนายพรานตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู สมบัติชั้นเซียนของกลุ่มดาวนายพรานตกไปอยู่ในมือของสมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวราชสีห์ถูกศัตรูของพวกเขารุมล้อม เจ้ากลุ่มดาวแมงป่องเปิดเผยตัวออกมาแล้ว ซือหม่าเซี่ยวนั่งบัลลังก์เจ้ากลุ่มดาวแมงป่องและสมาคมรวมตระกูลจึงเข้าสู่กลุ่มดาวแมงป่อง โดยไม่มีสัญญาณอะไร กลุ่มดาวงู กลุ่มดาวอินทรี,กลุ่มดาวคนแบกงูจากสิบตำหนักระนาบกลางได้ผสานเข้าด้วยกันก่อตั้งทั้งหมดเป็นกลุ่มดาวคนแบกงูใหม่ และพวกเขาต้องการฟื้นฟูยุครุ่งเรืองของสิบสามตำหนักระนาบสุริยุปราคา
ทั่วทั้งสวรรค์วิถีเกิดความวุ่นวายทางการเมืองทำให้ทุกคนกังวลและไม่สบายใจ
ไม่มีใครทันสังเกตว่ากองทัพจักรกลเคลื่อนกำลังพลผ่านกลุ่มดาววาฬไปอย่างเงียบๆเข้าสู่กลุ่มดาวเตาหลอม หมาป่าหิวโหยแห่งสถานบันหมาป่าฟ้ามุ่งหน้าเข้าสู่เข้าสู่กลุ่มดาวเตาหลอมเหมือนกับกระแสน้ำ
สงครามที่พวกเขาคาดไว้ก่อนหน้านั้นไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อได้ยินว่ากองทัพจักรกลอยู่ภายใต้บังคับของหนุ่มชาวฟ้าผู้โด่งดังกลุ่มดาวเตาหลอมยอมแพ้โดยไม่เสียเวลาคิดทันทีพวกเขามีสีหน้ายินดีต้อนรับกองทัพและทักทายอย่างนอบน้อม
นักเรียนสถาบันหมาป่าฟ้าที่ถลกแขนเสื้อเตรียมทำศึกใหญ่พากันเก้อไปตามๆกัน
กลุ่มดาวเตาหลอมเป็นหนึ่งในสี่สิบสองกลุ่มดาวฟากฟ้าใต้ ถือว่าเป็นกลุ่มดาวชั้นห้า สามารถเกาะแข้งเกาะขาหนุ่มชาวฟ้าได้ทำไมพวกเขายังจะต้องลังเล?
ทั่วทั้งกลุ่มดาวเตาหลอมพากันงงงวยกลุ่มดาวเตาหลอมมีค่าอะไรให้โจมตีด้วย? พวกเขาไม่มีสมบัติอะไร แต่เมื่อพวกเขาคิดว่ากลุ่มดาวหมาป่าซึ่งเคยอ่อนแอกว่าพวกเขามาแล้ว พวกเขาก็เข้าใจ
เป็นไปได้ไหมว่าหนุ่มชาวฟ้าหางานอดิเรกสะสมกลุ่มดาวชั้นต่ำเสียอย่างนั้น?
นักสู้จากกลุ่มดาวเตาหลอมต่างตื่นเต้นยินดี ตอนนี้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของมหาอำนาจและหนุ่มชาวฟ้าก็มีชื่อเสียงและใจกว้างมากด้วยความช่วยเหลือที่เขามอบให้กับกลุ่มดาวหมาป่าทำให้นักสู้จากกลุ่มดาวหมาป่ายกสถานะขึ้นได้ ไม่ว่ากลุ่มดาวเตาหลอมจะไร้ประโยชน์เพียงไหนพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มดาวหมาป่า
เซรีนและม่อเหล่งปรมาจารย์จักรกลทั้งสองเข้าไปดูกลุ่มดาวเตาหลอมด้วยตนเอง
“เป็นสถานที่ดี! ความหนาแน่นของพลังดวงดาวต่ำ แต่มีผลน้อยต่อการหลอมและขึ้นรูปโลหะ และมีเชื้อเพลิงธรรมชาติมากมายพื้นฐานงานผลิตโลหะก็แข็งแกร่ง เพียงแค่ขัดเกลากันเล็กน้อยก็จะมีงานช่างที่ดี”ม่อเหล่งพอใจอย่างมาก สถานที่เช่นนี้เหมาะจะตั้งห้องปฏิบัติการของตระกูลม่อยิ่งนัก
หน้าของเซรีนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “มิน่าเล่าถึงไม่มีสมบัติดวงดาวที่นี่ พลังดวงดาวระดับต่ำเกินกว่าจะให้กำเนิดจิตวิญญาณยุทธ แต่สำหรับเรา มันเป็นสิ่งที่ดี! ยังมีสถานที่แปลกประหลาดแบบนั้นในโลก เราได้สมบัติล้ำค่าแล้ว!”
โดยเวลาอันรวดเร็วทั้งสองคนเริ่มพูดคุยกันถึงวิธีปฏิรูปกลุ่มดาวเตาหลอม
ถังเทียนนอนอยู่บนเตียงและถอนหายใจ “โว้ย, ถ้าขืนให้ข้านอนอยู่อย่างนี้ต่อไปกระดูกข้ามีหวังสนิมจับแน่”
เขานอนแกร่วอยู่บนเตียงมาหนึ่งเดือนแล้ว การใช้พลังตนเองทำให้เขากำจัดกองทัพทั้งสาม แต่ก็ต้องจ่ายไปด้วยราคาสูงสุดและร้ายแรงมาก เส้นชีพจรสะบั้น กระดูกหักถึงสองในสาม ปราณแท้ที่ปั่นป่วนของเขาตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว หลังจากพักฟื้นหนึ่งเดือนด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา กระดูกของเขาสมานตัวช้าๆ
ตอนนี้ทั่วทั้งร่างของเขามีแต่คอเท่านั้นที่ขยับได้
สิ่งเดียวที่สามารถปลอบประโลมเขาได้ก็คือจิตวิญญาณยุทธของเขาตามคำพูดของปิง ความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณยุทธของเขาแทบจะถึงระดับตำนานแล้ว
ผี่ผายิ้มแย้ม นางโยนแอปเปิ้ลที่ปอกแล้วให้ถังเทียนและกล่าว“นายท่าน, ต้องทนหน่อยนะ”
ประโยชน์ของการมีจิตวิญญาณยุทธที่บริสุทธก็คือสัญชาตญาณที่ไร้เทียมทานของเขา แม้ว่าก่อนที่แอปเปิ้ลจะหลุดจากมือของผี่ผาถังเทียนก็กะคำนวณจุดตกของแอปเปิ้ลได้แล้วเขายืดคออ้าปากแล้วงับแอปเปิ้ลได้ถูกต้อง
กร๊อบ กร๊อบ แอปเปิ้ลทั้งลูกลงไปอยู่ในท้องโดยไม่ต้องคายแกนออกมา
ผี่ผาหยิบผลแอปเปิ้ลออกมาจากตระกร้าใบใหญ่ข้างตัวเขาและเริ่มปอกใหม่อีกครั้งเปลือกแอปเปิ้ลกองอยู่ข้างหน้านาง
“โอ๊ย..รำคาญ รำคาญ รำคาญจริงๆ!” ถังเทียนโอดครวญเหมือนผีขอส่วนบุญและคล้ายกับหมาป่าหอนเพราะหงุดหงิด
ผี่ผาไม่ตื่นเต้น นางยังคงปอกแอปเปิ้ลต่อไป
ถังเทียนจำเป็นต้องนอนแกร่วพักฟื้นอยู่บนเตียง ดังนั้นเขาจึงต้องการคนดูแลปิงมอบให้เป็นหน้าที่ผี่ผา ผี่ผาดูอ่อนโยนแต่ภายนอก พูดจาสุภาพอ่อนโยน แต่นางอ่อนนอกแข็งในและไม่ยอมอ่อนข้อให้ มีนางคอยกำกับดูแลถังเทียน ทุกคนก็วางใจ
“เป็นคนป่วย ต้องรู้จักทำตัวให้สมกับเป็นคนป่วยสิ”เสียงอาเฮ่อดังขึ้นขณะที่เขาหอบดอกไม้ช่อใหญ่เดินเข้ามาข้างใน “กรุณาอย่าทำให้คนอื่นลำบากใจ!”
“เฮ้, เสี่ยวเฮ่อ,ตอนนี้มาพูดอะไรอย่างนั้น ดูถูกมากเกินไปแล้ว!” ถังเทียนรู้สึกไม่พอใจมาก เขาสังเกตเห็นดอกไม้ในมือของอาเฮ่อ จึงล้อเลียน“เสี่ยวเฮ่อ, เจ้ารู้วิธีซื้อดอกไม้ด้วยหรือนี่, เจ้าเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
อาเฮ่อยังมีสีหน้าเรียบเฉย เขาวางช่อดอกไม้ไว้ข้างตัวถังเทียน “ซื้อดอกไม้หรือ? เจ้าช่างคิดมากไปได้, นี่เป็นท่านขลุ่ยวิเศษบอกให้ข้านำมาที่นี่ ดอกไม้ทั้งหมดเหล่านี้เป็นของแฟนเพลงสาวๆของเขาทั้งนั้น เขารู้สึกว่าจะทิ้งก็น่าเสียดาย ใช้เป็นของเยี่ยมคนป่วยน่าจะดีกว่า”
ถังเทียน “ขลุ่ยวิเศษ....”
“นี่เป็นการแสดงความปรารถนาดีของเขาข้าก็เลยนำมาที่นี่ทั้งหมด ”อาเฮ่อพูดอย่างสบายๆ ในมือของเขามีตู้อวาเรียสหลายใบ
ปัง!
ดอกไม้นับไม่ถ้วนพรั่งพรูออกมาจากตู้อวาเรียสเงินท่วมตัวของถังเทียนทั้งหมด
ถังเทียนได้แต่ทำตาปริบๆ ปล่อยให้ช่อดอกไม้ท่วมตัวจนมิด
“ข้านำส่งความปรารถนาดีของท่านขลุ่ยวิเศษแล้วและยังมีงานอีกมากที่ข้าต้องทำ, จอมห้าวถัง, ขอให้หายดีนะ” อาเฮ่อพูดยิ้มเพียงเท่านั้น จากนั้นก็เดินออกมา
ก่อนจะเดินออกมา อาเฮ่อเขียนคำว่า “สมน้ำหน้า”ไว้ในสมุดเยี่ยม
อาเฮ่อเดินออกมา ก่อนที่หลิงซิ่วจะเข้าไป “โถ..ข้าเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกฝนหนักเร็วๆ นี้เองเป็นหนุ่มเป็นแน่นควรจะอาบเหงื่อต่างน้ำอยู่ภายใต้แสงตะวัน ความรู้สึกตอนเหงื่อท่วมตัวนี่ ชื่นใจจริงๆ”
ถังเทียน “......”
บัดซบเอ๊ย.. ตอนนี้ข้าชักจะคันกระดูก(ส้นเท้า)เสียแล้ว!
หลิงซิ่วสะบัดแขนและเขียนคำอวยพรในสมุดเยี่ยม
ทุกวัน สมุดเยี่ยมของถังเทียนจะต้องเต็มไปด้วยคำว่า“สมน้ำหน้า” ผี่ผาจะให้ความสนใจและเปลี่ยนสมุดเยี่ยมเล่มใหม่อยู่เรื่อย
พวกเจ้า....
ในที่สุดคลื่นความอดกลั้นต่อการเยาะเย้ยก็ผ่านไป อาการบาดเจ็บของถังเทียนฟื้นคืนได้ในที่สุด เขาเริ่มขยับเคลื่อนไหวได้
“ความรู้สึกยามได้อาบแดดนี่ช่างดีจริงๆ”
ถังเทียนอาบแดด รู้สึกถึงความอบอุ่นจากศีรษะจนจรดเท้าความรู้สึกและฟื้นฟูบาดเจ็บอย่างอธิบายไม่ได้ เขาครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ สูญเสียความนึกคิดไปเล็กน้อย
เขาไม่ได้อาบแดดอย่างนี้นานเท่าใดแล้ว?
เขาไม่อาจจำได้ว่านานเท่าใดแล้ว เรื่องราวผ่านเข้ามาในใจของเขามากมายเหลือเกิน ขบวนความคิดของเขาลอยละล่องไปไกล เขาคิดถึงชีวิตตนเองกับมารดาเมื่อตอนที่เขายังเด็ก คิดถึงตอนอยู่ในสถาบันแอนดรูว์ แม้แต่ช่วงเวลาที่อยู่กับเชียนฮุ่ย เมื่อคิดๆไปทีละนิด เขาอดยิ้มเต็มหน้าไม่ได้
แม้ว่าเชียนฮุ่ยยังคงอยู่ไกลมากแม้ว่าความฝันของเขายังไม่สำเร็จดี
เขาก็สามารถมุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้า เขาไม่เคยคิดจะยอมแพ้
มีสหายหนุ่มสาวมากมายเหลือเกินที่สามารถร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับข้ายังจะมีอะไรที่ไม่น่าพึงพอใจอีกหรือ? แม้ว่าจะมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มากมายแล้วไงเล่า? ทุกคนทุ่มเทความสามารถเพื่อความสุขของพวกเรา ทุกคนรับผิดชอบกับสิ่งที่พวกเขาริเริ่มไว้
ไม่มีอะไรต้องสงสัย
ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
ถ้าข้าไม่มีปราณแท้ก็แค่ฝึกฝนกันอีกครั้ง
ต่อให้ไม่สามารถฝึกได้อีก ก็มีต้องมีทางออกอื่นแน่นอน
ข้ายังไม่เจอเชียนฮุ่ยเลย ดังนั้นข้าจะหาต่อไป ข้ามันเด็กโง่ ไม่รู้วิธีทำทำตัวให้ฉลาดขึ้นข้ารู้แต่ว่าจะต้องลุยไปข้างหน้า แค่นั้นพอ เพราะเมื่อก้าวไปข้างหน้าทุกก้าวระยะทางระหว่างตัวข้ากับความฝันก็ใกล้เข้ามาทุกเมื่อ
ไม่เห็นจะต้องตื่นตกใจไปเลย
ถังเทียนยิ้ม เทียบกับอดีตตอนฝึกวิทยายุทธพื้นฐานสถานการณ์ดีกว่ามากมายนัก อย่างน้อยข้าก็มีอย่างหนึ่งจิตวิญญาณยุทธที่ไม่เหมือนใคร
ในร่างของเขาคือมนุษย์น้อยที่มีชีวิตชีวาโปร่งใสและมีลักษณะเหมือนกับตัวเขา
นี่คือจิตวิญญาณยุทธของเขาเพลิงจิตวิญญาณดั้งเดิมของเขาหายไปและกลายเป็นลักษณะที่เห็นในตอนนี้ จิตวิญญาณยุทธของถังเทียนทำให้ทุกคนที่เห็นประจักษ์ประหลาดใจ
แม้แต่เซียนนักสู้ก็ไม่เคยเห็นจิตวิญญาณยุทธเฉพาะแบบนี้มาก่อน
จิ่งหาวก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน เกี่ยวกับจิตวิญญาณยุทธสมาพันธ์ชาวยุทธเชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องนี้ น่าเสียดายที่พวกเขาเป็นเหมือนน้ำกับไฟและจิ่งหาวเพ่งความสนใจอยู่กับวิชากระบี่ การค้นคว้าเรื่องจิตวิญญาณยุทธของเขามีขีดจำกัด ดังนั้นเขาให้เหตุผลไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับถังเทียนเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา
เงื่อนไขของเขาง่ายมาก เมื่อเขาไม่อาจเข้าใจได้ อย่างนั้นก็เริ่มค้นคว้าวิจัยกันจากนี้ไป
ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เขาเรียกปิง, เซียนนักสู้ทั้งสาม, ขลุ่ยวิเศษ,จิ่งหาว, หลิงซิ่วและอาเฮ่อมาพบ
“ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะทำยังไงกับข้า อย่างนั้นเราจะคิดกันอย่างโง่ๆ ก่อน ข้าจะยอมเป็นหนูทดลอง ขอให้ทุกคนมาร่วมค้นคว้าและพูดคุยปรึกษากัน เราจะต้องแกะรหัสขัดเกลาอะไรได้บ้างแน่นอน”
ทุกคนมีความสนใจทันที ไม่ต้องพูดถึงเซียนนักสู้ทั้งสามในระดับของพวกเขา สนามพลังวิญญาณคือหัวใจของการค้นคว้า ร่างมนุษย์น้อยของถังเทียนเป็นสิ่งที่หายาก ดังนั้นเขาจึงเป็นวัตถุทดลองที่ดีที่สุดและสำหรับจิ่งหาว, หลิงซิ่วและอาเฮ่อ พวกเขาอยู่ไม่ห่างจากระดับเซียนแล้ว ดังนั้นปัญหาใหญ่ที่สุดของพวกเขาก็คือวิธีการปลุกสนามพลังวิญญาณ
นอกจากนี้ คนเหล่านี้ทุกคนมาจากสำนักที่แตกต่างหลากหลายมีขุนพลวิญญาณโบราณที่แข็งแกร่ง, เซียนนักสู้ที่แข็งแกร่ง, ปรมาจารย์สายดนตรีอัจฉริยะรุ่นเยาว์ ด้วยการร่วมค้นคว้าที่แหกกฎเกณฑ์เช่นนี้อาจจะได้ผลตอบรับที่ยิ่งใหญ่
ทุกคนนัยตาเป็นประกาย
ถังเทียนยอมรับด้วยท่าทางที่สุภาพที่สุด เขารวบรวมความกล้าและกล่าว “ทุกคนมาระบายใส่ข้าให้เต็มที่เท่าที่พวกเจ้าพอใจได้เลย!”