ตอนที่ 457 - ใครเข้ามาใกล้ขนาดนั้น?
แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้รอดชีวิตจากสงครามทางน้ำครั้งใหญ่เมื่อหลายพันปีก่อนก็ยังอดสะท้านหวั่นไหวไม่ได้เมื่อเห็นเย่ว์หยางแสดงพลัง
เป็นไปได้ไงกันที่มนุษย์หนุ่มผู้นี้จะทรงพลังขนาดนั้น?
เรื่องนี้ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
“ขอเราปรึกษาเรื่องนี้กันก่อนได้ไหม?” ในที่สุดหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกก็ตัดสินใจ ไม่มีประโยชน์ในการได้รับอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีอีกต่อไป ต่อให้พวกเขาเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่มนุษย์หนุ่มผู้นี้จะฆ่าทุกคน แทนที่จะต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย งั้นร่วมมือกับเขาเลยก็คงจะดีที่สุด
“เราต้องการอิสรภาพ” ปลาวาฬจางเปิดปากพูดเสียงสั่นอู้อี้ “ถ้าเจ้าสามารถทำลายผนึกและพาเราออกไปจากที่นี่ได้ อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีจะเป็นของเจ้า”
“ผนึกอยู่ที่ไหน?” เย่ว์หยางถามโดยไม่ลังเล
“อยู่ที่ก้นทะเล” มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงเป็นคนแรกที่พุ่งลงน้ำนำทางให้เย่ว์หยางและมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง
เมื่อมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงโดดลงน้ำ นางก็อยู่ในร่างที่สง่างามมากไม่แพ้อสูรอย่างเมดูซ่าศิลา, นางเงือกวายุและอสูรอื่นๆ ที่เหมาะกับการรบในน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำ นางทรงพลังมากกว่าเหมือนปลาที่เพิ่งกลับสู่น้ำ นางมองดูคุ้นเคยพื้นที่มากกว่ามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์เสียอีก พวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ถึงกับตกตะลึง พวกเขาตระหนักว่าได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องรวดเร็วแล้ว เมื่อถึงเวลาต้องสู้กันในน้ำ ความสามารถของทั้งสองคนนี้ ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพวกเขาเลย หากพวกเขาเริ่มต่อสู้กันจริงๆ ผลที่ตามมาคงจะร้ายแรงเป็นแน่
ในทะเลลึก ซากเรืออัปปางนับไม่ถ้วนและซากเกาะพังทลายปรากฏตัวอยู่ต่อตาของเย่ว์หยาง
ฉากภาพที่น่ากลัวอย่างนั้นแสดงให้เห็นถึงความสยดสยองและขนาดของสงครามในคืนวันเก่าก่อน
แม้แต่ในน้ำลึก มีวงเวทอักษรรูนนับไม่ถ้วนที่รวมอยู่ในวงเดียว บางวงก็เป็นสีแดงดุจเลือด บางวงก็เป็นสีทาอง บางวงก็สีเขียวเข้ม บางวงก็สีเงิน วงเวทอักษรรูนทั้งหมดต่างกัน บางวงก็ใหญ่ ขณะที่วงอื่นๆ เล็ก ทั้งหมดนั้นมีรูปทรงแปลกประหลาด อย่างไรก็ตาม วงเวทอักษรรูนทั้งหมดเชื่อมโยงเข้าด้วยกันและยังคงดูดซับพลังงานของทะเล
ขณะเดียวกัน มันแผ่กระจายคลื่นพิเศษออกมา
ขณะที่ระลอกคลื่นพลังนี้ ไม่มีผลต่อเย่ว์หยางและมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง แต่กลับมีผลอย่างมากในการผูกมัดมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์
ดูเหมือนจะเป็นเครื่องจองจำที่มองไม่เห็นใช้จองจำมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ทั้งหมดไว้ในมิติล่มสลายแห่งนี้
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในทะเลกว้างใหญ่นี้ แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะออกไปจากสุสานทะเลแห่งนี้ได้ พวกเขาคือนักโทษที่ถูกจองจำไว้ที่นี่ตลอดไป พวกเขาจะถูกจำกัดอิสรภาพตราบเท่าที่วงเวทอักษรรูนไม่ถูกปลดผนึกออกไป เย่ว์หยางสามารถรู้สึกได้ถึงผนึกอีกชุดหนึ่งที่ฝังไว้ในกายของมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ ผนึกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักสู้ปราณก่อกำเนิดซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ระดับใดทำให้พวกเขาไม่สามารถออกไปจากน้ำได้เลยตลอดชีวิต ต่อให้พวกเขาออกไปจากน้ำก็ตาม ก็ทำได้เพียงชั่วคราว และจะไม่อยู่ในลักษณะเดียวกับมนุษย์ทั่วไปที่สามารถอยู่บนบกได้เป็นเวลานาน
อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีอาจสามารถเปลี่ยนร่างของมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์กลับสู่ร่างมนุษย์ปกติ
อย่างไรก็ตาม คงเป็นได้แต่ความฝันที่ไร้สาระที่พวกเขาจะออกจากน้ำได้
นอกจากพวกเขาจะสามารถปลดผนึกภายในตัวของพวกเขาได้…. เย่ว์หยางใช้จักษุญาณทิพย์ดูและตระหนักได้ว่า ผนึกนั้นยึดแน่นผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับร่างของมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ คงจะเป็นเรื่องยากที่จะกลับคืนสู่รูปลักษณ์ของมนุษย์และยากที่จะปลดผนึกออกได้
สามารถกล่าวได้ว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดที่วางผนึกนี้ใส่ร่างของพวกเขา แทบจะปิดหนทางมิให้พวกเขากลับคืนสู่ร่างมนุษย์ได้
“มีวงเวทอักษรรูนอยู่มากมายที่นี่ และทั้งหมดก็ปกคลุมพื้นทะเลไว้ ยังมีทางใดปลดผนึกได้ไหม?” หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกินไปนัก แม้ด้วยความรู้และพลังที่มากกว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกสามสิบ และหลังจากสืบสวนดูมาหลายพันปี พวกเขาก็ยังไม่พบวิธีปลดผนึกอักษรรูนเหล่านี้ เป็นเรื่องสมเหตุผลแล้วหรือกับการพึ่งพาเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียงยี่สิบปีผู้นี้?”
“อย่ากังวลไปเลย ปล่อยให้เขาตรวจดูก่อน” เมื่อมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงมองเห็นความวุ่นวายในหมู่ชาวมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ นางเริ่มปลอบโยนพวกเขาให้สงบจิตใจลง
“…..” ขณะที่พวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ตั้งความหวังว่าเย่ว์หยางจะสามารถปลดผนึกได้ พวกเขาเกรงว่า ยิ่งคาดหวังสูง พวกเขาก็ยิ่งผิดหวังสูง จึงทำให้พวกเขากังวลกันมาก
“เจ้ายังทำอะไรได้อีกหรือ? เจ้าต้องการให้เราตายเพราะกังวลจนตาย โดยที่เอาแต่ดูและไม่พูดอะไรเลยหรือ?” มนุษย์ปลาตีนไม่อาจทนได้อีกต่อไป
“หุบปาก!” มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงคำราม มนุษย์ปลาตีนกลัวและยอมเงียบเสียงทันที
หลังจากจ้องดูชั่วขณะหนึ่งเย่ว์หยางจึงเปิดปากพูดตามปกติ “ผนึกใต้ทะเลนี้ไม่ซับซ้อนนัก จะน่าเบื่อตรงที่ต้องใช้เวลานานในการปลดผนึก กลับเป็นผนึกที่อยู่ในตัวพวกท่านคงจะเป็นเรื่องที่ลำบากมาก แม้ว่าพวกท่านจะออกไปได้ทุกคน แต่ก็เป็นไปได้มากว่าทุกคนจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แต่ในน้ำ แม้ว่าทุกคนจะกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ได้ พวกท่านก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในน้ำ”
ความจริงมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ทุกคนตระหนักดีถึงผลที่จะตามมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนั้น พวกเขาคงไม่เลือกกลายเป็นตัวประหลาดมนุษย์มัจฉาและจำศีลอยู่ใต้ทะเลเป็นพันๆ ปี
สิ่งเดียวที่พวกเขาปรารถนาก็คือออกไปจากสุสานทะเล
อิสรภาพเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเย่ว์หยางรู้วิธีปลดผนึกใต้ทะเล ตอนแรกมนุษย์ปลากลายพันธุ์ก็ไม่เชื่อ เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าที่จริงจังของเย่ว์หยาง พวกเขาจึงตระหนักได้ว่าดูเหมือนเขาจะไม่โกหก จึงพากันตื่นเต้นมาก หลังจากจำศีลมาพันปี พวกเขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเจ็บปวด แม้ว่าพวกเขาจะรอดชีวิตจากสงครามที่น่ากลัวนั้น พวกเขาไม่กล้าฝันว่าจะออกไปจากสุสานทะเลได้ เพราะผนึกบนตัวพวกเขา พวกเขาจึงได้แต่จำศีลและคอยโอกาส
เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีพื้นฐานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลายสิ่งหลายอย่างจึงง่ายขึ้น
หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกแนะนำตัวเองต่อเย่ว์หยางและเจี้ยงอิงและบอกให้พวกเขาเรียกเขาว่า ผานฉาน เย่ว์หยางเกือบพลั้งปากบอกว่าเขาน่าจะชื่อ “พอล” จะดูเท่ห์กว่า
นอกจากหัวหน้ามนุษย์มนุษย์ปลาหมึกที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้แข็งแกร่งอันดับสองรองลงมาก็คือมนุษย์ปลาดาบจี๋ฟง ต่อจากนั้นก็เป็นปลาวาฬจาง
ทั้งสามคนตัดสินใจร่วมมือกับเย่ว์หยางและเจี้ยงอิงเข้าไปใต้น้ำวนและมุ่งหน้าไปผาแก้วผลึก
มนุษย์ปลาตีนมองดูเหมือนต้องการจะไปด้วย
เขาได้แต่พึมพำกับตัวเอง
เขาต้องการไป แต่เขาอายเกินกว่าจะขอไปด้วย
เขาที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า เป็นผู้อ่อนแอที่สุดในบรรดามนุษย์ปลากลายพันธุ์ เนื่องจากเย่ว์หยางไม่สนใจเขา ทำให้เขาแทบบ้า
ผาแก้วผลึก
หลังจากเข้าไปในน้ำวนใต้น้ำแล้ว พวกเขาก็มาอยู่ที่ผาแก้วผลึก
เย่ว์หยางตระหนักว่าที่นี่แปลกประหลาดมาก มีความคล้ายคลึงกับเหวสิ้นหวังมาก แต่ไม่มีน้ำที่นี่ น้ำทะเลทั้งหมดลอยสูงเหมือนเป็นท้องฟ้า ก่อตัวเป็นรูปโดมใต้น้ำแปลกประหลาด ที่อยู่ต่อหน้าเขา มีแนวแก้วผลึกขนาดยักษ์เป็นประกาย พื้นผิวภูเขาทั้งหมดที่ตาสามารถมองเห็นได้เป็นแก้วผลึกทั้งหมด ผลึกบางที่คลุมพื้นข้างล่าง ขณะที่ผลึกขนาดมหึมาก่อตัวเป็นรูปภูเขาและมีแท่งเสาแก้วผลึกนับไม่ถ้วนเป็นภาพหลายหลากชนิดที่น่าประทับใจ
ตรงกลางของหุบเขาลึกลงไป เกิดแนวเส้นทางแก้วผลึกกระจัดกระจายนับไม่ถ้วน
ที่นี่ไม่เพียงแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจากแก้วผลึกเท่านั้น ยังคงมีกฎข้อจำกัดอีกด้วย มีคนเพียงห้าคนที่นี่ในเวลาเดียวกัน เมื่อถึงข้อจำกัดสูงสุด แม้แต่สัตว์อสูรก็ไม่อาจเรียกได้
หุบเหวแก้วผลึกมีขนาดใหญ่โตมหึมา และอาจมีความยาวไม่ต่ำกว่าสองสามกิโลเมตรตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย
แก้วผลึกที่ครอบคลุมทุกอย่างนั้น สามารถมองเห็นด้วยตาได้
แม้ว่าเย่ว์หยางจะเคยเห็นสมบัติหายากมานับไม่ถ้วน แต่เขาอดถอนหายใจกับภาพหุบเขาแก้วผลึกไม่ได้
หากมีเวลาฝึกฝนอยู่ที่นี่และดูดซับพลังของแก้วผลึกไว้ พลังจากแก้วผลึกจะทำให้กระบวนการทุกอย่างนุ่มนวลเรียบลื่นขึ้น หญิงงามอู๋เหินน่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุด นางถือกำเนิดมาก็เข้ากันได้กับแก้วผลึก ถ้าเขาพานางมาฝึกที่นี่ด้วย นางจะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและบรรลุขอบเขตใหม่ได้เรื่อยๆ ขณะที่เย่ว์หยางกำลังคิดเพลินๆ มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงก็เอ่ยขึ้นทันที “ตรงนั้น นั่นคือผู้พิทักษ์โบราณ”
เมื่อเย่ว์หยางเงยหน้าดู เขาเห็นมนุษย์แก้วผลึกที่เป็นอสูรแพลตตินัมระดับสิบ
มนุษย์แก้วผลึกปีนผนังหน้าผา เหมือนกับว่าเขาบินได้ แต่เขาก็ยังคล่องแคล่วว่องไวมากเหมือนกับมนุษย์วานร มองดูเหมือนว่ามันกำลังเดินอยู่บนพื้นมากกว่าจะปีนผนัง
มนุษย์แก้วผลึกนี้มีร่างที่เปลี่ยนสภาพได้เหมือนแก้วผลึก คล้ายกับหุ่นรบคล้ายโกเล็ม แต่ที่แน่ๆ มันมีชีวิตและไม่ใช่หุ่นกล เย่ว์หยางจ้องดูมันอย่างว่างเปล่า มันค่อนข้างคล้ายมนุษย์ แต่หลังของมันมีเงี่ยงแก้วผลึก มันไม่มีผม แต่บนหัวของมันกลับเป็นรูปทรงกระบอกแทนซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใคร ลักษณะบนใบหน้าไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป แต่ทำจากแก้วผลึก มันมีจมูกโด่งและเบ้าตาลึก แต่ไม่มีจุดไหนที่เรียกว่าปากได้ เหมือนกับว่ามันไม่ได้กินสิ่งมีชีวิตธรรมดาเลี้ยงชีวิต
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าฆ่ามัน?” เย่ว์หยางไม่ต้องการฆ่ามันจริงๆ แต่เขาต้องการจับมันไปศึกษาค้นคว้า
“เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่ามัน ทันที่ที่มันตาย มันจะฟื้นใหม่ที่นี่ เนื่องจากมันทำจากแก้วผลึก ยกเว้นแต่แก้วผลึกทั้งหุบเขาแก้วผลึกถูกทำลาย ไม่งั้นมันไม่ตาย” หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกผานฉานอธิบาย
ขณะที่พวกเขาคุยกัน ผู้พิทักษ์โบราณก็เพิ่มมากขึ้น
พวกมันไม่น่าจะมีปัญญา
แต่แม้แค้ด้วยสัญชาตญาณอย่างเดียว พวกมันก็นับว่าโดดเด่นมากแล้ว
มนุษย์ผลึกคนแรกรู้ว่ามีผู้บุกรุกปรากฏตัว แต่ก็ไม่ได้โจมตีทันที แต่มันกลับรอพวกที่อยู่ห่างออกไป
ถ้าอุทกแม่พระธรณีถือกำเนิดขึ้นเดี๋ยวนี้ เย่ว์หยางคงจะไม่มัวแต่สุภาพและคงแสดงทักษะใช้พลังจู่โจมใส่ผู้พิทักษ์โบราณเหล่านี้ทันที แต่สำหรับตอนนี้ ยังมีเวลามากกว่าสองวันจนกว่าอุทกแม่พระธรณีเกิด เย่ว์หยางไม่ต้องการสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็นในตอนนี้ หลังจากเขาใช้จักษุญาณทิพย์สำรวจดูหุบเขาเพื่อยืนยันความเป็นไปได้ถึงสถานที่ๆ อุทกแม่พระธรณีจะเกิด เขาโบกมือและพูดทันที “กลับกันเดี๋ยวนี้ เราจะกลับมาเมื่อถึงเวลาอันควร”
เจี้ยงอิงมองดูเย่ว์หยาง ความจริงนางต้องการถามเขา ไม่ว่าเขาหาพบสถานที่เกิดขึ้นของอุทกแม่พระธรณีหรือไม่ก็ตาม
เขารู้โดยแค่มองอย่างนั้นหรือ?
เขาไม่ได้ตรวจดูอย่างระมัดระวัง
เนื่องจากเป็นเย่ว์หยาง นางยังคงเลือกจะเชื่อเขา
แม้ว่านางไม่สามารถอธิบายถึงเหตุผลที่นางเชื่อเย่ว์หยาง แต่บางทีคงเป็นความรู้สึกที่เขามีต่อคนอื่น ว่าเขานั้นน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน
หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกผานฉาน, มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงและปลาวาฬจางงุนงงสับสนกันหมด พวกเขาจะกลับมาที่นี่อีกหรือ? ถ้ามันง่ายอย่างนั้น ทำไมพวกเขาทั้งสามต้องมาด้วยเล่า?
พวกเขาคิดว่าจะมีการต่อสู้อย่างหนัก
แต่พวกเขานึกภาพไม่ออกเลยว่า พวกเขาไม่ต้องทำอะไรก็สามารถกลับไปได้หลังจากแค่ดู
“อีกสองวันเราจะกลับมา ตราบใดที่เราได้รับอุทกแม่พระธรณี ข้าจะปลดผนึกให้พวกท่านทุกคนออกจากสุสานทะเลได้ ถ้าผู้ใดมาที่นี่ก่อนข้า พวกท่านต้องทุ่มเทพลังหยุดยั้งพวกเขาไว้ ถ้าพวกท่านเอาชนะศัตรูไม่ได้ ก็ให้ใช้คนห้าคนขวางพวกเขาไม่ให้เข้าไป โดยประจำอยู่ในหุบเขาแก้วผลึกนี้ อุทกแม่พระธรณีจะต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น นี่คือเงื่อนไขแรกในการร่วมมือเป็นพันธมิตรของพวกเรา ถ้าข้าได้รับอุทกแม่พระธรณีสำเร็จ ข้าจะคิดหาทางช่วยให้พวกท่านทุกคนกลับคืนร่างเป็นมนุษย์” เย่ว์หยางยื่นข้อเสนอมากกว่าใช้เหยื่อล่อ โดยเสนอที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดให้พวกเขา
“ไม่มีปัญหา เราตัดสินใจเลือกอิสรภาพและได้กลับคืนร่างมนุษย์” หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกเป็นตัวแทนมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ตกลงข้อเรียกร้องสุดท้าย
โรงแรมปลาดาว เกาะอัคคี
ไห่อิงอู่มองเห็นบุรุษตัวเปียกโชกเดินผ่านเข้าประตูไป
นางตะลึงชั่วครู่ จากนั้นจึงตระหนักได้ว่าเจ้าผู้นี้ก็คือสวะตกน้ำนั่นเอง
ผู้ดูแลขององค์หญิงอิงลามกจริงๆ
บุรุษผู้นี้บอกว่าไปดื่มเหล้าที่เรือสำราญรับอรุณจนกระทั่งเมาแทบตายและจากนั้นก็ตกลงไปในทะเลกลายเป็นอาหารปลา ความจริงเขาไม่ตายรอดชีวิตมาได้ เหมือนแมลงสาบที่ตายยากตายเย็นเสียจริง คิดดูอีกที ไห่อิงอู่รู้สึกว่าความจริงคนผู้นี้ก็ธรรมดา แม้ว่าคนผู้นี้จะลามกมากไปหน่อย แต่เขาก็ต้องมีความสามารถแน่นอน เขาไม่พบกับอสูรใต้ทะเลแต่อย่างใด จึงไม่กลายเป็นอาหารของกุ้งและปลา
พอเห็นเขาซวนเซเหมือนจะล้มได้ทุกเมื่อ ไห่อิงอู่ต้องฝืนใจเดินไปช่วยเขาพร้อมกับยิ้มทรงเสน่ห์
อ้วก!
ใครจะคิดกันเล่าว่าจู่ๆ เจ้านี่ก็อาเจียนออกมา ของเหลวจากปากที่ผสมทั้งเหล้าและน้ำทะเลพ่นออกมาเลอะอกไห่อิงอู่ ไห่อิงอู่เกลียดอ้วกที่รดใส่ตัวนางเป็นที่สุด นางเกือบจะบีบคอเขาตายคาที่เสียแล้ว
“ท่านควรดื่มให้น้อยลงนะ นี่จะไม่ดีต่อสุขภาพเจ้าเอง” ไห่อิงอู่ใช้ความข่มกลั้นทั้งหมดเพื่อรักษารอยยิ้มและน้ำเสียงที่ไพเราะของนางไว้
“ปล่อย…ข้าเถอะน่า, ข้าา…ม่าย เมา! แหวะ!” เย่ว์หยางขี้เมาอาเจียนใส่อกไห่อิงอู่อีกครั้ง ครั้งนี้นางไม่อาจทนได้อีกต่อไป พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น นางโยนเขาใส่ห้องเก็บของด้วยความรู้สึกขยะแขยง และเตะเขาอย่างแรงอีกสองทีก่อนจะวิ่งไปอาบน้ำ นางไม่สนใจเจ้าสวะอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว
“….” หลังจากนางจากไปแล้ว เย่ว์หยางที่เมาอยู่ก็สร่างเมาทันที เขาหัวเราะเบาๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยแววสะใจ
เมื่อกลับเข้าไปในห้อง เขาปล่อยเจี้ยงอิงออกมาจากโลกคัมภีร์
เจี้ยงอิงก็แอบหัวเราะเช่นกัน แม้ว่านางจะไม่เห็นตอนที่เย่ว์หยางหยอกล้อไห่อิงอู่ แต่นางนึกภาพออกได้ นั่นคือสาเหตุที่นางอดหัวเราะไม่ได้ และหยุดหัวเราะไม่ได้
ข้างนอก จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู
หน้าของเย่ว์หยางและเจี้ยงอิงเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที ทั้งสองคนไม่ได้รู้สึกเลยว่ามีคนมา
จริงๆ แล้วใครกัน ที่มีพลังความสามารถอำพรางที่น่ากลัวขนาดนั้น สามารถปกปิดตัวตนจากการรับรู้ของเย่ว์หยางและเจี้ยงอิง? เป็นไปได้ไหม นี่คือจักรพรรดิสมุทร?
******************