ตอนที่แล้วตอนที่ 14-19 หมอกชมพู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-21 ชุลมุนวุ่นวาย

ตอนที่ 14-20  กองหน้ากล้าตาย


ในอากาศเหนือทะเลสาบจันทรา  หมอกชมพูมีปรากฏอยู่ทุกที่

ภายในหมอกหนา,ทุกคนรวมทั้งลินลี่ย์ไม่มีการพูดได้แต่ปล่อยสนามพลังเทพทำให้หมอกเคลื่อนห่างตัวพวกเขาไป  สนามพลังเทพไม่ใหญ่ขนาดนั้น  แต่เมื่อยอดฝีมือทั้งพันคนใช้งานพร้อมกัน...

ทันใดนั้นไม่มีร่องรอยหมอกเหลืออยู่ที่อากาศเหนือปราสาท

“เรายังไม่ทันได้เข้าปราสาทเลยแต่ก็มีคนเริ่มตายเสียแล้ว” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง จากนั้นเมื่อหมอกสีชมพูถูกพ่นออกมาครั้งแรก  มีอยู่น้อยคนที่วิญญาณได้สัมผัสการปนเปื้อนของหมอก คนพวกนั้นจะมีจิตอำมหิตเพิ่มขึ้นทุกทีและระเบิดความบ้าคลั่งออกมา

ในพริบตาเดียวเทพแท้ตายไปเกือบสิบคน

“หมอกนี้ทรงพลังอย่างแท้จริง”  ลินลี่ย์ถอนหายใจชมเชย  “โชคดีที่ข้าไม่ได้ปล่อยสำนึกเทพ”

แต่เดเลียเอ่ยขึ้น “เมื่อครู่นี้เมื่อข้าได้ยินเสียงการต่อสู้  ข้าส่งสำนึกเทพออกไปดูว่าเกิดอะขึ้น  แต่แน่นอนเมื่อข้าได้ยินเสียงเตือนข้าถอนสำนึกกลับมาทันที” ลินลี่ย์อดหันไปมองเดเลียไม่ได้ “เดเลีย,  เจ้าปลอดภัยดีไหม?”  ลินลี่ย์ตกใจ”

“ดูสิ, ว่าข้าเป็นอะไรไปหรือเปล่า?”  เดเลียหัวเราะ

“เมื่อครู่นี้ข้ารู้สึกแย่เล็กน้อย ข้ารู้สึกแค่เพียงมีร่องรอยรังสีฆ่าฟันอยู่เบาบาง  แต่ข้ายังควบคุมได้ดีอยู่”  เดเลียอธิบาย

ทันใดนั้นลินลี่ย์ขมวดคิ้วและเขามองดูข้างๆ  มีเทพที่อยู่ใกล้เขาสองคนคุยกัน

“อะเคสึ!  ครั้งนี้เรายุ่งยากแล้ว พิษนี้พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญระดับเทพชั้นสูงสายวิถีมรณะ  ของอย่างนี้ล้ำค่ามาก  แต่เจ้าของปราสาททะเลสาบจันทรากลับเอามาใช้อย่างธรรมดา  และวงเวทที่เพิ่งใช้ไปนี้..ละเอียดซับซ้อนมาก แสดงให้เห็นว่าเจ้าของปราสาทนี้มั่งคั่งมาก”

“ใช่แล้ว, หมอกพิษนี้ใช้กระตุ้นให้เกิดการเข่นฆ่า ไม่ใช่สิ่งที่ทรงพลัง เมื่อข้าอยู่ในปราสาททรายดำเมืองรอยัลวิง ครั้งหนึ่งข้าเคยเห็นคนขายพิษซึ่งสัมผัสกับวิญญาณนักสู้  มันทำให้จิตวิญญาณเผาไหม้และพังทลาย  แต่แน่นอนว่าราคาของมันเทียมฟ้า”

เทพแท้ทั้งพันคนผู้เข้าร่วมสอบเป็นอสูรทุกคนเริ่มปรึกษากันเองขณะที่ลอยตัวอยู่ในกลางอากาศให้อสูรทั้งยี่สิบตัดสินใจ

ถ้าพวกอสูรไม่ไปจัดการเจ้าของปราสาทและทหารชุดดำพวกนั้น  พวกเขาไม่กล้าบุกเข้าไป

ทุกคนรวมทั้งลินลี่ย์เข้าใจสิ่งที่เจ้าปราสาทได้แสดงออกมาว่าเป็นแค่กลเล็กน้อยสำหรับเขา  เขายังไม่ได้แสดงจังหวะการสังหารที่แท้จริงของเขา เทพแท้อย่างลินลี่ย์จะกล้าบุกและเอาชีวิตไปทิ้งได้ยังไง?

ที่ด้านล่างปราสาททะเลสาบจันทรา  ภายในห้องโถงกว้าง

พ่อบ้านอยู่ในชุดม่วงกำลังยืนอยู่ด้านหนึ่ง ขณะที่ชายชราผมดำคิ้วของเขาลู่ยาวลงมาถึงหน้าอกกำลังสุ่มเลือกเหล้า  และกล่าวตามปกติ “เบลามี!  เจ้าสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกเสร็จหรือยัง?”

“ใต้เท้า,พวกผู้นำของกลุ่มเป็นอสูรทั้งนั้น” พ่อบ้านชุดม่วงขมวดคิ้ว “สถานการณ์ดูเหมือนจะแย่ ข้าเกรงว่ามีบางคนตั้งใจส่งภารกิจให้ปราสาทอสูรเข้าโจมตีเรา”  การโจมตีของพวกอสูรจะเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะบางคน

เช่นเดียวกับที่เจ้าของปราสาทนี้เจอ

“หือ?” ชาชราผมดำเลิกคิ้ว เขาเงียบไปชั่วขณะ

“ช่างพวกเขาเถอะ  ใครก็ตามที่บุกเข้าปราสาทจะต้องถูกฆ่า!”  ชายชราผมดำพูดเสียงเบา  “ทหารชุดทองทุกคนอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้า  ใช้งานทาวเซ่นและคนอื่นด้วยมีใครบางคนตั้งใจต่อต้านข้าหรือเปล่า? หลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว ข้าจะต้องสืบดูเรื่องนี้แน่นอน”

“ขอรับ, ใต้เท้า!”  พ่อบ้านชุดม่วงคำนับ

ในอากาศเหนือปราสาททะเลสาบจันทรายังมีกลุ่มผู้คนลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ ขณะที่ผู้นำของเขาโลซูสรู้สึกลำบากใจ

โลซูสรู้ดีว่าด้วยเงินและอำนาจที่เพียงพอใครๆก็สามารถไปที่ปราสาททรายดำซื้อสินค้าต้องห้ามบางอย่างและสร้างเป็นกับดักมรณะได้ทั่วปราสาทนี้  แม้แต่เขาเองยังไม่กล้าบุกเข้าไปอย่างบุ่มบ่าม

“ไม่มีทางเลือกอื่น”  หน้าของโลซูสจนใจขณะที่เขามองดูอสูรโดยรอบ

อสูรรอบๆมองหน้ากันเอง

เหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน  พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าควรจะทำอะไรในตอนนี้....

ให้พวกเข้าสอบเป็นอสูรเป็นหน่วยหน้ากล้าตาย!  ให้พวกเขาบุกเข้าไปในปราสาท!

“ควั่บ!”  “ควั่บ!” .....

อสูรทั้งยี่สิบกว่าคนลอยตัวอยู่เหนือกลุ่มเทพแท้ส่วนใหญ่รวมทั้งลินลี่ย์ขณะที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “หมอกพิษนี้มีอยู่ทั่วทุกที่ ขณะที่ตัวปราสาทเองก็ยังไม่ถูกทำลาย  พวกเราทั้งหมดในตอนนี้จะเข้าไปในปราสาท! ตอนนี้พวกเจ้าทั้งพันคนแบ่งออกเป็นสิบกลุ่มและเข้าไปในปราสาทผ่านทางหน้าต่างและระเบียงทางเดิน  พวกเราที่เป็นอสูรจะแบ่งออกเป็นสิบกลุ่มตามหลังพวกเจ้าไป พวกเจ้าจะต้องจัดการทหารธรรมดาชุดทอง ถ้าพวกเจ้าเผชิญหน้ากับทหารชุดดำ เราเหล่าอสูรจะลงมือเอง!”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นเทพเกือบพันคนที่กำลังเข้าสอบถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยน

“บัดซบจริง พวกเขาจะให้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์!”  ลินลี่ย์สบถในใจ

ทุกคนเข้าใจทันที  อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าปฏิเสธ....เพราะพวกเขาทุกคนรู้ว่าพวกเทพชั้นสูงทรงพลังอย่างน่าตกใจเพียงไหน

บางทีเมื่อเผชิญคนอย่างแคลมป์ตันผู้กลายเป็นเทพชั้นสูงโดยผ่านการหลอมรวมกับประกายเทพกลุ่มเทพแท้ก็สามารถฆ่าได้เมื่อรวมพลังกัน

แต่อสูรห้าดาวอย่างโลซูสนั้นแตกต่างกันไป

ใครบางคนสามารถกลายเป็นอสูรห้าดาวได้ต้องเป็นคนที่สามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้อย่างแน่นอน อสูรห้าดาวคงไม่รู้สึกว่ายากเย็นเกินไปกับการฆ่าพวกเขาทั้งพันหนึ่ง  และยังมีอสูรห้าดาวถึงสามคน!  และจำนวนอสูรส่วนใหญ่เป็นอสูรสี่ดาว! ไม่มีทางที่พวกเขาจะต่อต้านได้แม้แต่น้อย

“พวกเจ้าทุกคน!  จัดกำลังเป็นกลุ่ม”  พวกอสูรเริ่มแบ่งกำลังทันที

อย่างไรก็ตามพวกเทพแท้ไม่ตอบสนอง

“รีบเข้าด้วย หรือว่าพวกเจ้าต้องการตายในตอนนี้?” เสียงเย็นชาดังขึ้น พวกเทพแท้มองหน้ากันเอง ในที่สุดก็ปฏิบัติตาม

พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น!

“ไม่มีทางที่เราเหล่าเทพแท้สามารถรวมกำลังและฆ่าพวกเขาได้หมด”  ลินลี่ย์เหลือบมองไปทางด้านข้างปราสาททะเลสาบจันทรา  “ทางเดินภายในปราสาทกว้างไม่มาก เพียงพอให้คนสองสามคนเดินเคียงไหล่กันได้เป็นอย่างมาก  แต่ละกลุ่มมีคนร้อยคนไม่มีทางที่เราจะโจมตีเทพชั้นสูงที่ด้านหลังได้”

ไม่มีโอกาสต่อต้าน  เทพแท้ทุกคนได้แต่เชื่อฟัง

ที่สำคัญพวกอสูรไม่ได้พยายามจะฆ่าพวกเขา ก็แค่ให้พวกเขานำหน้าก่อน พวกเขายังมีโอกาสรอดชีวิต

“เฮ้, เราไปควบคุมทีมนั้นกัน”  แคลมป์ตันรีบร้องบอก

เดิมทีอสูรสองดาวและสามดาวจะรับผิดชอบอยู่หลังกลุ่มคนนับร้อย

“ฮ่าฮ่า โธ่เอ๊ย, แคลมป์ตัน”  ผู้คนเริ่มหัวเราะทันที  พวกเขารู้ว่าเพราะนั่นคือกลุ่มของลินลี่ย์  แคลมป์ตันตัดสินใจเลือกรับผิดชอบดูแลกลุ่มนั้นนี่คือกลุ่มที่ลินลี่ย์อยู่

ประตูใหญ่ของปราสาทถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา  ไม่มีทางทำลายผ่านไปได้แม้แต่น้อย

กลุ่มคนทีมละร้อยไถลผ่านเข้าไปในหน้าต่าง  กลุ่มของลินลี่ย์ปนอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยและพวกเขาไถลผ่านเข้าไปในห้องจากนั้นเริ่มค้นหาศัตรูตามทางเดินด้านหลังพวกเขา

“หมอกชมพูนี้มีอยู่เต็มปราสาท  ไม่มีทางเห็นได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าแม้แต่น้อย  ถ้าเราไม่ระวังให้ดีอาจจะถูกลอบทำร้ายก็ได้” ลินลี่ย์จับมือเดเลีย ขณะที่บีบีติดตามคนที่เหลือไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

ลินลี่ย์ไม่กล้ารั้งอยู่หลังมากเกินไป  แคลมป์ตันและคนอื่นๆ ก็อยู่ด้านหลัง

ไม่มีหมอกอยู่ด้านหน้าของลินลี่ย์ เพราะเทพแท้ทั้งหมดใช้สนามพลังเทพซึ่งมีมากเพียงพอจนทำให้รอบตัวพวกเขาไม่มีหมอกหมอกชมพู

ทุกคนระมัดระวังและก้าวไปข้างหน้าช้าๆ

“พี่ใหญ่, ท่านคิดว่าหมอกชมพูพัฒนาขึ้นมาอย่างไร?”  บีบีพูดกับลินลี่ย์ผ่านสำนึกเทพเนื่องจากไม่มีหมอกพิษอยู่ใกล้พวกเขา พวกเขาจึงสามารถคุยโดยใช้ผ่านสำนึกเทพได้ทันที  “มันสามารถส่งผลต่อวิญญาณได้โดยตรง ข้าได้ยินคนอื่นพูดกันว่ามีหมอกพิษที่น่ากลัวยิ่งกว่าสามารถทำให้วิญญาณเผาไหม้และสูญสลายไปก็ได้”

“ใครจะรู้? ในทวีปยูลาน ข้ายังเคยเจ็บตัวจากการโจมตีของผู้วิเศษมาแล้ว จริงสิ ในปราสาทเรดบุด  เจ้าไม่เห็นธนูเทพเจ้าหรือ? ธนูเทพเจ้าอาบยาพิษซึ่งทำให้มันทรงพลัง” ลินลี่ย์คุยกับบีบีผ่านสำนึกเทพ  “และข้าได้ยินว่าพิษหลายอย่างที่น่ากลัวมีอยู่ที่ปราสาททรายดำตั้งมากมาย”

บีบีเม้มริมฝีปาก  “ข้าสงสัยจริงว่าในปราสาทนี้มีอะไร”

“ลินลี่ย์ ข้ายังมีความรู้สึกไม่ค่อยดีเลย”  เดเลียพูดผ่านสำนึกเทพของนาง “ระวังนะ,อย่ารับเข้าไปในหัวมาก ในแดนนรก มีการโจมตีมากมายที่เราไม่เคยพบมาก่อน เจ้าเคยพบกับหมอกพิษอย่างนั้นซึ่งทำให้วิญญาณคนเต็มไปด้วยเพลิงอำมหิตไหมเล่า?  ต้องระวังให้ดี”

เมื่อเห็นความกังวลในสีหน้าของเดเลียลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่นใจ

“รีบด้วย, พวกเจ้าเคลื่อนที่ช้าเกินไปแล้ว!” แคลมป์ตันตะโกนอย่างไม่พอใจจากด้านหลัง

แม้ว่าเทพแท้ในกลุ่มของลินลี่ย์จะไม่พอใจแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

ปราสาทมีหลายชั้น  กลุ่มของลินลี่ย์ค้นดูในทุกทางเดินชั้นแรกแต่ไม่พบใครเลยสักคน  อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขามุ่งหน้าไปที่บันไดเข้าชั้นสอง ที่ชั้นสองมีขนาดใหญ่กว่าชั้นแรกชัดเจนและภายในชั้นนั้นมีความซับซ้อนมากกว่า

“แปลกจริงๆ!”  เทพแท้ทั้งหมดรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน

ไม่ว่าพวกเขาจะผ่านไปที่ใดก็จะมีหมอกชมพูขวางหน้าพวกเขา  นี่ทำให้กลุ่มของลินลี่ย์รู้สึกว่าข้างหน้าพวกเขามีความแปลกประหลาดลึกลับ  พวกเขารู้สึกตึงเครียดอย่างต่อเนื่องซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

“ควั่บ”

ทันใดนั้นเสียงสายลมดังเร่งร้อน

“ควั่บ!”  “ควั่บ!”  “ควั่บ!”  “ควั่บ!” .....

ก่อนที่ลินลี่ย์จะทันรู้ตัวธนูดอกหนึ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าซึ่งคนที่อยู่ข้างหน้ายิงใส่เขา  ความเร็วของธนูเร็วมากจนเขาหลบไม่ทัน

“ปัง!”  ธนูปะทะใส่ชุดเหลืองน้ำตาลของลินลี่ย์

ชุดนี้ก็คือเกราะชีพจรป้องกันที่สร้างขึ้นมาหลังจากหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งสอง  ธนูไม่สามารถทะลุผ่านชุดของลินลี่ย์ได้

อย่างไรก็ตามในที่ข้างหน้าลินลี่ย์คนมากกว่ายี่สิบคนล้มลงกับพื้น  ร่างของพวกเขาพรุนไปด้วยลูกธนู  พวกเขาไม่มีใครเหลือรอดชีวิต  เพราะตายกันหมด หมอกชมพูรายรอบตัวพวกเขาหมุนเป็นเกลียวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“พวกเขาตายหมดเลยหรือ?”  ลินลี่ย์ตกใจแทบจะทันที

ก่อนนี้ลินลี่ย์มีคนเกือบสามสิบคนอยู่ข้างหน้า  แต่ตอนนี้มีตายไปมากกว่าครึ่ง

ความจริงธนูเหล่านั้นยิงออกมาจากปลายทางเดินอย่างแน่นหนา  เทพแท้เกือบทั้งหมดถูกสังหารมีเพียงคนหรือสองคนที่ไม่ตาย คนหนึ่งนั้นคือลินลี่ย์ ขณะที่อีกคนหนึ่งแม้จะถูกยิงใส่แต่ก็สามารถทนรับไว้ได้ เห็นได้ชัดว่าพลังป้องกันทางวิญญาณของเขายอดเยี่ยมมาก

“เฮ้อ..”

เทพผู้โชคดีรอดชีวิตหลายคนใช้แหวนมิติเก็บศพไปตรงๆทันที ต้องทราบไว้ก่อนว่าศพเหล่านั้นมีประกายเทพและแหวนมิติเก็บสมบัติอยู่กับตัวพวกเขา  แหวนมิติเก็บสมบัติเหล่านั้นมีเงินมากมายรวมอยู่ในนั้น

“พี่ใหญ่ เวลาสนองตอบของท่านช้าเกินไป”  ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจทันทีไม่ทันตั้งตัวจนกระทั่งศพถูกรวบรวมไป บีบีกลับตรงกันข้าม รวบรวมมาได้สองศพ

“ลินลี่ย์, เป็นอะไรหรือเปล่า?”  เดเลียรีบมองดูลินลี่ย์

“พี่ใหญ่จะมีปัญหาอะไรได้ยังไง?”  บีบีล้อหยอกล้อ  “พลังป้องกันวิญญาณของพี่ใหญ่และพลังป้องกันชั้นนอกแข็งแกร่งมากทั้งคู่” ความจริงบีบีก็กังวลห่วงใยลินลี่ย์มากมายเช่นกัน  แต่เพราะเขาและลินลี่ย์เชื่อมโยงวิญญาณกัน  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลินลี่ย์บีบีจะรู้ทันที

“ถอย ถอย!”  พวกเทพแท้ที่อยู่ข้างหน้าร้องทันที

แคลมป์ตันที่อยู่ด้านหลังตะโกน  “เดินหน้าต่อไป  พวกเจ้ากลัวอะไรกัน?  เดินหน้าต่อไป!”

พวกเทพแท้ที่อยู่ข้างหน้าอดมีความรู้สึกโกรธไม่ได้  และพวกเขาได้แต่แช่งชักอยู่ภายในใจ  “เจ้าไม่ได้เป็นคนถูกฆ่า  แน่นอนเจ้าถึงไม่ต้องกลัว”

อย่างไรก็ตามคนผู้กล้าหาญซึ่งเข้าสอบเป็นอสูรยังจะขี้ขลาดได้หรือ  พวกเขาจะไม่ถอดใจเพราะเรื่องอย่างนี้  แต่พวกเขาทุกคนยิ่งระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม

“เดเลีย!อยู่ข้างหลังข้าไว้”  ลินลี่ย์กล่าวหลังจากมีธนูโผล่ออกมาโจมตีอย่างกะทันหัน ตอนนี้ลินลี่ย์เป็นหน่วยหน้ากล้าตาย มีคนอยู่ด้านหน้าเขาไม่กี่คน มีคนเหล่านั้นเผชิญหน้ากับอันตราย ความเคลื่อนไหวของพวกเขาก็จะช้าลง

อย่างไรก็ตามแคลมป์ตันเดินตามหลังพวกเขาสบายๆ  เขาแค่นเสียงในใจอย่างเย็นชา  “คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าไม่ตายในครั้งนี้  แต่ครั้งต่อไป จะเป็นคราวของเจ้า” แคลมป์ตันดีใจจะได้เห็นลินลี่ย์ตาย

“หัวหน้า กลุ่มนั้นยังคงเดินหน้าต่อ”

ภายในห้องสลัวนักรบชุดทองสิบคนยืนอยู่เงียบๆพวกเขาลอบเข้ามา และแต่ละคนสวมแหวนมิติรูปพระจันทร์อยู่ในมือ

“ฮึ่ม... กลุ่มมีคนตาย แต่พวกที่เหลือยังคนเดินหน้าต่อ  พวกเขากล้าหาญจริงๆ  ที่จุดตรวจการณ์ต่อไปเราจะให้พวกเขาเจอดีอีกรอบ และฆ่าพวกเขาสักหลายสิบคน

“ฆ่าคนเป็นเรื่องง่ายอย่างนี้”

“ในสถานการณ์ธรรมดาเราจะใช้ธนูสังหารเทพแบบนี้ได้ยังไง? ของเล่นเหล่านี้ราคาแพงมาก”

นักสู้ชุดทองเดินมาถึงจุดตั้งรับอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามกลุ่มของลินลี่ย์ยังคงเดินหน้าอย่างระมัดระวังต่อไป  พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อเข้าไปแล้วอีกฝ่ายจะทำให้เขาพินาศ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด