ตอนที่แล้วตอนที่ 14-17  หลอมรวมเคล็ดความรู้เพิ่มพลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-19 หมอกชมพู

ตอนที่ 14-18 ทะเลสาบจันทรา


“ลินลี่ย์! คนหัวล้านที่ชื่อแคลมป์ตันนั่นอยู่ที่นี่เช่นกัน”  เดเลียก็สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคย

ลินลี่ย์สามารถเห็นแคลมป์ตันและอสูรอื่นเข้ามาในอสูรโลหะอย่างชัดเจน เพียงแต่พวกอสูรจะเข้าไปในห้องโดยสารส่วนด้านหน้าของอสูรโลหะ

“ผู้เข้าร่วมสอบเป็นอสูรทุกคนจะนั่งอยู่ในห้องโดยสารด้านหลังขณะที่พวกอสูรจะอยู่ห้องโดยสารหน้า” ลินลี่ย์โล่งใจเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกกังวล “ทำไมนักสู้อสูรเหล่านี้ถึงเข้ามาเกี่ยวข้อง?”

ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจเรื่องอสูรเข้ามาเกี่ยวข้อง สิ่งที่เขาใส่ใจก็คือพวกอสูรที่เดินทางไปด้วยมีแคลมป์ตันรวมอยู่ด้วย

ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าเขาไม่ชอบแคลมป์ตันผู้นี้  และในทางกลับกันแคลมป์ตันจะมีความได้เปรียบในเรื่องโอกาส  เขาคงต้องฆ่าลินลี่ย์เพื่อระบายอารมณ์เป็นแน่

“ถ้าแคลมป์ตันทุ่มกำลังฆ่าเรา  เราสามคนก็มีโอกาสน้อย”

แคลปม์ตันเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายเทพ  เขาเป็นเทพชั้นสูงที่อ่อนแอที่สุด

คนที่หลอมรวมกับประกายเทพจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกฎธรรมชาติ  ไม่ได้หล่อเลี้ยงและเสริมพลังจากกฎธรรมชาติวิญญาณของพวกเขาค่อนข้างอ่อนแอ

และลินลี่ย์เป็นเพียงเทพแท้ที่หลอมรวมเคล็ดลึกลับของชีพจรโลกและแก่นธาตุดินเข้าด้วยกัน การโจมตีวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมากกว่าเทพธรรมดาถึงสิบเท่า การโจมตีวิญญาณของลินลี่ย์มากพอจะคุกคามชีวิตของแคลมป์ตันได้

อย่างไรก็ตาม...

ลินลี่ย์ไม่มั่นใจโดยสิ้นเชิง ที่สำคัญคือฝ่ายตรงข้ามเป็นเทพชั้นสูงก็หมายความว่ามีความเชี่ยวชาญเคล็ดลับของกฎธาตุ  ต่อให้เขาไม่ได้หลอมรวมเคล็ดลับใดๆ ก็ตาม  ก็ไม่อาจดูแคลนเขาได้

“ในการรับมือกับแคลมป์ตัน  ถ้าบีบีและข้าทุ่มกำลังกัน เรายังมีโอกาส  แต่... แคลมป์ตันไม่ได้อยู่ตามลำพัง  เขามีสหาย!”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว  นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ลินลี่ย์กังวลที่สุด  “เราไม่ได้อยู่ในเมืองแล้วในตอนนี้  เราอยู่นอกเมือง ไม่มีข้อห้ามในการต่อสู้  เมื่อแคลมป์ตันสังเกตเห็นเรา  เขาอาจมาล้างแค้นได้!”

ลินลี่ย์คิดกลับไปมาแต่เขาก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำยังไง

“แย่จริงๆ มีพวกอสูรมากมายเกินไป ทำไมข้าต้องโชคร้ายที่มีเจ้าหัวล้านอยู่ร่วมในภารกิจนี้ด้วย?”  ลินลี่ย์อดสบถในใจไม่ได้

แต่แม้ว่าเขาจะโกรธ  เขาก็ต้องมีสีหน้าจริงจัง!

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทั้งหมดที่ข้าทำได้ตอนนี้ก็คือหวังว่าเจ้าหัวโล้นจะไม่สังเกตเห็นเรา”  ลินลี่ย์หวังอย่างเงียบๆ

นี่เป็นไปไม่ได้

ที่สำคัญกลุ่มของลินลี่ย์อยู่ในห้องโดยสารหลัง  ขณะที่แคลมป์ตันอยู่ในห้องโดยสารหน้า  ตราบเท่าที่พวกเขาไม่วิ่งมาเจอกันก็จะไม่มีปัญหาใดๆ

“ลินลี่ย์” เดเลียมองดูเขา ตาของนางแฝงไปด้วยแววกังวล

“ไม่ต้องห่วง” ลินลี่ย์พูดเบาๆ

บีบีมองดูลินลี่ย์เช่นกัน  แม้ว่าบีบีจะชอบก่อเรื่องยุ่ง  แต่เขาไม่โง่ เขารู้ว่าด้วยกำลังของเจ้าโล้นกับกลุ่มของเขาก็อาจกลายเป็นหายนะได้  บีบีพูดทางใจทันที  “พี่ใหญ่, ถ้าเข้าไปพบกับความยุ่งยากจริงๆ ข้าจะจัดการกับเจ้าโล้นนี่เอง!  แม้ว่าข้าจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ข้ามั่นใจว่าข้าจะสามารถขัดขวางเขาได้ทั้งที่ยังมีชีวิต”

ลินลี่ย์มองดูบีบีด้วยความประหลาดใจ

บีบีเพิ่งถึงระดับเทพแท้ไม่กี่สิบปีแต่เขามั่นใจว่าจะขัดขวางถ่วงเวลาเทพชั้นสูงได้หรือ? แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะหลอมรวมกับประกายเทพก็ตาม....

“จริงหรือ?” ตาของลินลี่ย์มีแววขำขัน

“ฮึ่ม!”  บีบีเชิดหน้าภูมิใจ  จากนั้นพูดผ่านสำนึกเทพ  “พี่ใหญ่, ข้าคือหนูกินเทพตัวที่สองที่มีอยู่ในทั่วทั้งจักรวาล  อย่าดูถูกข้าเชียวนะ!”  บีบีสามารถกินประกายเทพได้ง่ายๆ  เขาจะไม่มีความสามารถพิเศษได้ยังไง?

อสูรโลหะเริ่มเคลื่อนที่!

“วืดดด!”

เงาดำมหึมาพุ่งตัดผ่านไปในอากาศและหายไปจากเหนือเมืองรอยัลวิงกลายเป็นภาพเงาเลือนรางหายลับขอบฟ้า  และจากนั้นในพริบตา ก็หายไปอย่างสิ้นเชิง

ภายในอสูรโลหะทุกคนมองออกไปข้างนอก

“เกิดอะไรขึ้น? จนถึงตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าภารกิจคืออะไร”  บีบีบ่นพึมพำ

“อย่าเพิ่งเร่งร้อน”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

สตรีคนหนึ่งที่นั่งถัดจากลินลี่ย์มีผมสีเงินพูดขึ้น  “ภารกิจสอบเป็นอสูรได้จัดตำแหน่งไว้แล้ว  ต้องห่างไกลจากเมืองรอยัลวิงมาก  มีแนวโน้มว่า การเดินทางครั้งนี้คงจะไกลทีเดียว คนของปราสาทอสูรไม่รีบร้อนบอกเราเรื่องการสอบเป็นอสูรเหมือนกัน”

ลินลี่ย์พยักหน้าให้กับตนเอง

“ข้าชื่อลินลี่ย์”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาทักทายสตรีผมเงิน

สตรีผมเงินอยู่ในชุดสีเงินเช่นกันนางเป็นคนเปิดเผยชัดเจน นางมองเขาและยิ้มที่มุมปาก  “ข้าชื่อเรจิน่า  ลินลี่ย์,แล้วสองคนที่เดินทางร่วมกับเจ้าเล่า?”

เรจิน่ารู้ดีว่าระหว่างสอบเป็นอสูรหลายๆคนร่วมกำลังกันก็มีโอกาสสำเร็จสูง ถ้านางเผชิญกับอันตรายระหว่างทดสอบ ถ้ามีคนช่วยนางได้บ้างสักเล็กน้อยนั่นอาจเปลี่ยนชะตานางได้

ดังนั้นนางต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มของลินลี่ย์

“ใช่แล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า  บีบีที่อยู่ใกล้ตาเป็นประกายเขาหันมามองทางนี้ทันที “แม่นางเรจิน่า ตาเจ้ามีเสน่ห์จริงๆ อ่า,ข้าลืมแนะนำตัวเองไป เจ้าเรียกข้าว่าบีบีก็ได้”

เรจิน่ามองดูบีบีและนัยน์ตาที่กระตือรือร้นและร่าเริงของเขาสะดุดตานาง  “บีบี, ตาของเจ้าก็ดูมีเสน่ห์อยู่นะ”  บีบียิ้มกว้างทันที

“เรจิน่า,เจ้ารู้ไหมทำไมอสูรเหล่านั้นถึงเดินทางไปกับเราด้วย?”  ลินลี่ย์ถามอย่างสงสัย  “นี่คือการสอบเป็นอสูร  คนเหล่านั้นก็เป็นอสูรอยู่แล้ว  แต่พวกเขากลับมาด้วยกัน...”

เรจิน่าสายศีรษะ  “ข้าก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน”

ลินลี่ย์ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจอีกครั้ง

อสูรโลหะบินตลอดทั้งวัน  พอตกตอนกลางคืนคณะทำงานของปราสาทอสูรก็เข้ามาที่ห้องโดยสารหลัง

“คณะทำงานปราสาทอสูรอยู่ที่นี่แล้ว”  เรจิน่ากล่าว

กลุ่มของลินลี่ย์นั่งตัวตรงทันที พวกเขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองร่างทั้งสามที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าห้องโดยสาร  คนทั้งสามนี้เป็นคณะทำงานที่ปราสาทอสูรส่งมา  มีชายชราผมขาวโพลนเป็นหัวหน้า

“ทุกคน!”  ชายชราผมขาวมีรอยยิ้มบนใบหน้า  เขาพูดด้วยเสียงชัดเจน “มีคนจำนวนรวมพันคนจะเข้าร่วมในการสอบเป็นอสูรครั้งนี้! ข้าคาดว่าทุกคนคงจะรู้เรื่องนี้ดีแล้ว การสอบคัดเป็นอสูรนั้นอันตรายมาก และอัตราการเสี่ยงตายสูงมาก!  แต่ทุกคนก็มา แม้ว่าจะมี..ในเรื่องของความกล้า อย่างน้อยพวกเจ้าทุกคนคู่ควรกับการเป็นอสูร”

ชายชราผมเงินมีสีหน้าจริงจังขึ้น “แต่ความกล้าแต่เพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ  พวกเจ้าต้องมีพลัง!”

“การสอบเป็นอสูรนี้จะใช้พื้นที่ในรัศมีสามสิบล้านไมล์ห่างจากเมืองรอยัลวิง สถานที่นี้เป็นที่รู้จักกันในนามว่าทะเลสาบจันทรา! เนื่องจากอสูรโลหะบินด้วยความเร็วสูง ข้าคาดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนก่อนเราจะไปถึงจุดหมายปลายทาง”  บุรุษผมดำกล่าว

ขณะนั้นเองห้องโดยสารหลังของอสูรโลหะตกอยู่ในความเงียบอย่างสิ้นเชิง

ผู้เข้าสอบเป็นอสูรพันคนตั้งใจฟังกันทุกคน

“มีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้ชัดเจน ภารกิจการสอบเป็นอสูรไม่ใช่เรื่องที่ถูกออกแบบหรือจัดการขึ้นโดยปราสาทอสูร”  เสียงชายชราผมเงินดังก้องไปทั้งห้องโดยสารหลัง  “ทุกคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับอสูรมาบ้างก็ควรจะรู้ว่าเหล่านักสู้อสูรจะรับภารกิจที่ปราสาทอสูร!  ภารกิจแบ่งเป็นตามระดับความยาก!”

“สำหรับการเข้าสอบของพวกเจ้าถูกเลือกจากภารกิจที่มีอยู่มากมาย  ภารกิจหนึ่งดาวซึ่งเหมาะสมกับพวกเจ้า!”

ชายชราผมเงินพูดอย่างจริงจัง  “ตราบใดที่พวกเจ้าทำภารกิจนี้ได้สำเร็จเจ้าจะกลายเป็นอสูรหนึ่งดาว!”

“สำหรับรายละเอียดของภารกิจ...ลอเรน,  เจ้าบอกพวกเขาด้วย”  ชายชราผมเงินถอยมายืนด้านข้าง ขณะที่ลอเรนหญิงสาวผู้งดงามเจ้าเสน่ห์อยู่ในชุดดำยาวก้าวเดินออกมาข้างหน้า

เสียงของลอเรนดังชัดสดใส  “สถานที่ที่จะไปทำภารกิจก็คือทะเลสาบจันทรา!  เหนือทะเลสาบจันทรามีปราสาทโบราณ  เจ้าปราสาทโบราณนี้ทรงพลังน่ากลัวเป็นอย่างมาก  เขามีพ่อบ้านดูแลอยู่หนึ่งคน  ทหารชุดดำแปดคน และทหารชุดทองอีกหลายร้อย!”

“ภารกิจของเจ้าก็คือฆ่าทหารชุดทองคนหนึ่ง  จำเอาไว้..หลังจากฆ่าทหารชุดทองแล้วเก็บแหวนมิติของพวกเขาเอาไว้ นั่นคือแหวนจันทรา และนำมันกลับมาที่ปราสาทอสูร มีแต่ได้แหวนจันทรานี้จึงจะได้รับการยอมรับพิสูจน์ว่าพวกเจ้าทำภารกิจสำเร็จ

“แต่แน่นอนว่าพวกเจ้าสามารถเอาสมบัติและสิ่งของที่บรรจุในแหวนจันทราออกไปได้”  ลอเรนหัวเราะขณะที่นางพูด  “ทั้งหมดที่ข้าบอก ก็มีเพียงเท่านี้”

ทันใดนั้นมีเสียงพึมพำดังขึ้นในห้องโดยสารหลัง  ขณะที่ทุกคนเริ่มพูดคุยปรึกษากัน

“เงียบ” เสียงของบุรุษผมเงินดังขึ้น

ทุกคนเบาเสียงลง

“ถ้าพวกเจ้ามีปัญหาอะไร จงพูดออกมา”  ชายชราผมเงินพูด

ทันใดนั้นบุรุษชุดฟ้าร่างกำยำทรงพลังคนหนึ่งสูงราวสามเมตรยืนขึ้น   เขาพูดเสียงดังลั่น “ใต้เท้า,ท่านบอกว่าหลักฐานพิสูจน์ว่าภารกิจนี้สำเร็จก็คือแหวนจันทรา  ทหารชุดทองมีแหวนจันทรากันทุกคนใช่ไหม?”

“ตามรายงานข่าวกรองของเราพวกเขาทุกคนน่าจะมีแหวนวงหนึ่ง ถ้าแหวนมิติของพวกเขาไม่ใช่แหวนจันทราแหวนจันทราก็น่าจะเก็บไว้ในแหวนมิติเก็บสมบัติ” ชายชราชุดเงินหัวเราะอย่างใจเย็น “แต่แน่นอนว่าเราไม่สามารถออกกฎพิเศษได้”

“แน่นอนว่า ถ้าเจ้าฆ่าทหารชุดทองแต่ไม่สามารถหาแหวนจันทราได้นั่นเป็นโชคร้ายของเจ้า ไม่มีแหวนจันทรา พวกเจ้าจะไม่ได้รับการยอมรับจากปราสาทอสูร”  ชายชราผมเงินเม้มริมฝีปาก  “อย่างไรก็ตามคงเป็นเรื่องยากที่ทหารชุดทองจะไม่มีแหวนจันทรา”

บุรุษคนนั้นนั่งลง

สตรีผมเงินที่อยู่ข้างลินลี่ย์นามว่าเรจิน่าลุกขึ้นยืน  “ใต้เท้า, ท่านบอกว่าเจ้าของปราสาทนั้นทรงพลังมากและว่าเขามีพ่อบ้านและทหารชุดดำอยู่ด้วย!  ท่านเพียงแต่ต้องการให้เราฆ่าทหารชุดทอง  พวกทหารชุดดำและเจ้าปราสาทจะปล่อยให้เราทำตามอำเภอใจหรือ?”

ลินลี่ย์มีความคิดทันที

ไม่ใช่แค่เพียงลินลี่ย์  หลายคนที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรก็พอเดาคำตอบได้

“การเดินทางไปทะเลสาบจันทราครั้งนี้  ยังมีคนอื่นร่วมเดินทางด้วย  มีอสูรสามดาวและสี่ดาวและมีกระทั่งอสูรห้าดาวอยู่ในกลุ่มด้วย” ชายชราผมเงินหัวเราะอย่างใจเย็น “มีแนวโน้มว่าเมื่อพวกเจ้าออกจากอสูรโลหะแล้ว  กลุ่มอสูรก็คงมาถึงเช่นกัน”

“เป็นอย่างที่ข้าคิด!”  ลินลี่ย์แน่ใจว่าจะได้คำตอบทำนองนี้

ชายชราผมเงินยังคงพูดต่อ  “ภารกิจของพวกเขาก็คือจัดการกับทหารชุดดำพ่อบ้านและเจ้าครองปราสาท!”

จากสิ่งที่คณะทำงานของปราสาทอสูรได้อธิบาย ลินลี่ย์และคนอื่นสามารถคาดเดาได้ว่าทหารชุดทองน่าจะมีพลังระดับเทพแท้  ขณะที่ทหารชุดดำพ่อบ้านและเจ้าครองปราสาทคงจะเป็นเทพชั้นสูงกันหมด

พวกเขาใช้เวลาสองวันอยู่ในอสูรโลหะ  ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง

“หลังจากพวกเจ้าลงไปแล้วให้ทุกคนมุ่งหน้าไปทางใต้สองสามกิโลเมตร ทะเลสาบจันทราอยู่ที่นั่น”

ชายชราผมเงินพูดเสียงดังในห้องโดยสารหลัง  “สถานที่นี้ไม่ใช่เมืองรอยัลวิง  การต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอาจเกิดได้ทุกเมื่อ  ทุกคนต้องระวังให้ดี เราจะรอการกลับมาของพวกเจ้าอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ  ถ้าพวกเจ้ากลับมาได้สำเร็จพร้อมกับแหวนจันทรา  เจ้าสามารถกลับเข้าอสูรโลหะได้”

ทุกคนยังคงเงียบ

ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล!

คนหนึ่งพันคนมาร่วมสอบเข้าเป็นอสูร  แต่จะมีพวกเขารอดกลับมากี่คน? จำนวนคนที่เข้าร่วมในการสอบเป็นอสูรนี้เป็นการพิสูจน์ว่าการสอบเป็นอสูรนั้นอันตรายมากมายขนาดไหน

เนื่องจากปราสาทอสูรเลือกภารกิจนี้มาทดสอบพวกเขาอย่างเจาะจง  ระดับความยากคงไม่ต่ำแน่นอน

“ทุกคนที่อยู่ห้องโดยสารหน้าลงไปแล้ว  ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนต้องลงไปบ้าง!” ชายชราผมเงินพูดอย่างใจเย็น “ข้าขอให้คำแนะนำพวกเจ้าเพิ่มเติมอีกข้อก่อนแยกย้ายกันไปพวกเจ้าไม่ใช่แค่ต้องระวังคนที่อยู่ในทะเลสาบจันทราเท่านั้น  พวกเจ้ายังต้องคอยระมัดระวังป้องกันคนที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรด้วย  มักจะมีหลายคนที่ไม่ตายระหว่างภารกิจ  แต่ถูกผู้เข้าร่วมสอบคนอื่นฆ่าตาย  ข้าเห็นมานักต่อนักแล้ว”

หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้านเล็กน้อย

จริงสิถ้าคนอื่นไม่มีแหวนจันทรา  แต่ท่านมีคนอื่นอาจลอบทำร้ายท่าน ถึงขั้นฆ่าท่านเพื่อชิงแหวนจันทราได้  นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก

ที่สำคัญนี่ไม่ใช่เมืองรอยัลวิง!

“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีตามขบวนออกไปด้านนอก  จำนวนคนมากมายค่อยๆ ออกไปจากอสูรโลหะ

ขณะนั้นอสูรโลหะเทียบท่าให้ลงพื้นที่ว่างเปล่า  มีอสูรรวมกันอยู่ที่นั่นราวยี่สิบสามสิบคน รวมทั้งเจ้าโล้นแคลมป์ตันยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนกวาดมองไปตามปกติ  แต่แล้วสายตาของเขาหันกลับมาทันที

“หืม?” แคลมป์ตันจ้องมองที่ประตูอสูรโลหะ

และจากนั้นหน้าของแคลมป์ตันมีรอยยิ้มปรากฏทันที “คาดไม่ถึงเลยว่าทั้งสามคนจะเข้าสอบเป็นอสูรในภารกิจนี้  ช่างบังเอิญจริงๆ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด