ตอนที่ 14-18 ทะเลสาบจันทรา
“ลินลี่ย์! คนหัวล้านที่ชื่อแคลมป์ตันนั่นอยู่ที่นี่เช่นกัน” เดเลียก็สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคย
ลินลี่ย์สามารถเห็นแคลมป์ตันและอสูรอื่นเข้ามาในอสูรโลหะอย่างชัดเจน เพียงแต่พวกอสูรจะเข้าไปในห้องโดยสารส่วนด้านหน้าของอสูรโลหะ
“ผู้เข้าร่วมสอบเป็นอสูรทุกคนจะนั่งอยู่ในห้องโดยสารด้านหลังขณะที่พวกอสูรจะอยู่ห้องโดยสารหน้า” ลินลี่ย์โล่งใจเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกกังวล “ทำไมนักสู้อสูรเหล่านี้ถึงเข้ามาเกี่ยวข้อง?”
ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจเรื่องอสูรเข้ามาเกี่ยวข้อง สิ่งที่เขาใส่ใจก็คือพวกอสูรที่เดินทางไปด้วยมีแคลมป์ตันรวมอยู่ด้วย
ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าเขาไม่ชอบแคลมป์ตันผู้นี้ และในทางกลับกันแคลมป์ตันจะมีความได้เปรียบในเรื่องโอกาส เขาคงต้องฆ่าลินลี่ย์เพื่อระบายอารมณ์เป็นแน่
“ถ้าแคลมป์ตันทุ่มกำลังฆ่าเรา เราสามคนก็มีโอกาสน้อย”
แคลปม์ตันเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายเทพ เขาเป็นเทพชั้นสูงที่อ่อนแอที่สุด
คนที่หลอมรวมกับประกายเทพจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกฎธรรมชาติ ไม่ได้หล่อเลี้ยงและเสริมพลังจากกฎธรรมชาติวิญญาณของพวกเขาค่อนข้างอ่อนแอ
และลินลี่ย์เป็นเพียงเทพแท้ที่หลอมรวมเคล็ดลึกลับของชีพจรโลกและแก่นธาตุดินเข้าด้วยกัน การโจมตีวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมากกว่าเทพธรรมดาถึงสิบเท่า การโจมตีวิญญาณของลินลี่ย์มากพอจะคุกคามชีวิตของแคลมป์ตันได้
อย่างไรก็ตาม...
ลินลี่ย์ไม่มั่นใจโดยสิ้นเชิง ที่สำคัญคือฝ่ายตรงข้ามเป็นเทพชั้นสูงก็หมายความว่ามีความเชี่ยวชาญเคล็ดลับของกฎธาตุ ต่อให้เขาไม่ได้หลอมรวมเคล็ดลับใดๆ ก็ตาม ก็ไม่อาจดูแคลนเขาได้
“ในการรับมือกับแคลมป์ตัน ถ้าบีบีและข้าทุ่มกำลังกัน เรายังมีโอกาส แต่... แคลมป์ตันไม่ได้อยู่ตามลำพัง เขามีสหาย!” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ลินลี่ย์กังวลที่สุด “เราไม่ได้อยู่ในเมืองแล้วในตอนนี้ เราอยู่นอกเมือง ไม่มีข้อห้ามในการต่อสู้ เมื่อแคลมป์ตันสังเกตเห็นเรา เขาอาจมาล้างแค้นได้!”
ลินลี่ย์คิดกลับไปมาแต่เขาก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำยังไง
“แย่จริงๆ มีพวกอสูรมากมายเกินไป ทำไมข้าต้องโชคร้ายที่มีเจ้าหัวล้านอยู่ร่วมในภารกิจนี้ด้วย?” ลินลี่ย์อดสบถในใจไม่ได้
แต่แม้ว่าเขาจะโกรธ เขาก็ต้องมีสีหน้าจริงจัง!
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทั้งหมดที่ข้าทำได้ตอนนี้ก็คือหวังว่าเจ้าหัวโล้นจะไม่สังเกตเห็นเรา” ลินลี่ย์หวังอย่างเงียบๆ
นี่เป็นไปไม่ได้
ที่สำคัญกลุ่มของลินลี่ย์อยู่ในห้องโดยสารหลัง ขณะที่แคลมป์ตันอยู่ในห้องโดยสารหน้า ตราบเท่าที่พวกเขาไม่วิ่งมาเจอกันก็จะไม่มีปัญหาใดๆ
“ลินลี่ย์” เดเลียมองดูเขา ตาของนางแฝงไปด้วยแววกังวล
“ไม่ต้องห่วง” ลินลี่ย์พูดเบาๆ
บีบีมองดูลินลี่ย์เช่นกัน แม้ว่าบีบีจะชอบก่อเรื่องยุ่ง แต่เขาไม่โง่ เขารู้ว่าด้วยกำลังของเจ้าโล้นกับกลุ่มของเขาก็อาจกลายเป็นหายนะได้ บีบีพูดทางใจทันที “พี่ใหญ่, ถ้าเข้าไปพบกับความยุ่งยากจริงๆ ข้าจะจัดการกับเจ้าโล้นนี่เอง! แม้ว่าข้าจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ข้ามั่นใจว่าข้าจะสามารถขัดขวางเขาได้ทั้งที่ยังมีชีวิต”
ลินลี่ย์มองดูบีบีด้วยความประหลาดใจ
บีบีเพิ่งถึงระดับเทพแท้ไม่กี่สิบปีแต่เขามั่นใจว่าจะขัดขวางถ่วงเวลาเทพชั้นสูงได้หรือ? แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะหลอมรวมกับประกายเทพก็ตาม....
“จริงหรือ?” ตาของลินลี่ย์มีแววขำขัน
“ฮึ่ม!” บีบีเชิดหน้าภูมิใจ จากนั้นพูดผ่านสำนึกเทพ “พี่ใหญ่, ข้าคือหนูกินเทพตัวที่สองที่มีอยู่ในทั่วทั้งจักรวาล อย่าดูถูกข้าเชียวนะ!” บีบีสามารถกินประกายเทพได้ง่ายๆ เขาจะไม่มีความสามารถพิเศษได้ยังไง?
อสูรโลหะเริ่มเคลื่อนที่!
“วืดดด!”
เงาดำมหึมาพุ่งตัดผ่านไปในอากาศและหายไปจากเหนือเมืองรอยัลวิงกลายเป็นภาพเงาเลือนรางหายลับขอบฟ้า และจากนั้นในพริบตา ก็หายไปอย่างสิ้นเชิง
ภายในอสูรโลหะทุกคนมองออกไปข้างนอก
“เกิดอะไรขึ้น? จนถึงตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าภารกิจคืออะไร” บีบีบ่นพึมพำ
“อย่าเพิ่งเร่งร้อน” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
สตรีคนหนึ่งที่นั่งถัดจากลินลี่ย์มีผมสีเงินพูดขึ้น “ภารกิจสอบเป็นอสูรได้จัดตำแหน่งไว้แล้ว ต้องห่างไกลจากเมืองรอยัลวิงมาก มีแนวโน้มว่า การเดินทางครั้งนี้คงจะไกลทีเดียว คนของปราสาทอสูรไม่รีบร้อนบอกเราเรื่องการสอบเป็นอสูรเหมือนกัน”
ลินลี่ย์พยักหน้าให้กับตนเอง
“ข้าชื่อลินลี่ย์” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาทักทายสตรีผมเงิน
สตรีผมเงินอยู่ในชุดสีเงินเช่นกันนางเป็นคนเปิดเผยชัดเจน นางมองเขาและยิ้มที่มุมปาก “ข้าชื่อเรจิน่า ลินลี่ย์,แล้วสองคนที่เดินทางร่วมกับเจ้าเล่า?”
เรจิน่ารู้ดีว่าระหว่างสอบเป็นอสูรหลายๆคนร่วมกำลังกันก็มีโอกาสสำเร็จสูง ถ้านางเผชิญกับอันตรายระหว่างทดสอบ ถ้ามีคนช่วยนางได้บ้างสักเล็กน้อยนั่นอาจเปลี่ยนชะตานางได้
ดังนั้นนางต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มของลินลี่ย์
“ใช่แล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า บีบีที่อยู่ใกล้ตาเป็นประกายเขาหันมามองทางนี้ทันที “แม่นางเรจิน่า ตาเจ้ามีเสน่ห์จริงๆ อ่า,ข้าลืมแนะนำตัวเองไป เจ้าเรียกข้าว่าบีบีก็ได้”
เรจิน่ามองดูบีบีและนัยน์ตาที่กระตือรือร้นและร่าเริงของเขาสะดุดตานาง “บีบี, ตาของเจ้าก็ดูมีเสน่ห์อยู่นะ” บีบียิ้มกว้างทันที
“เรจิน่า,เจ้ารู้ไหมทำไมอสูรเหล่านั้นถึงเดินทางไปกับเราด้วย?” ลินลี่ย์ถามอย่างสงสัย “นี่คือการสอบเป็นอสูร คนเหล่านั้นก็เป็นอสูรอยู่แล้ว แต่พวกเขากลับมาด้วยกัน...”
เรจิน่าสายศีรษะ “ข้าก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน”
ลินลี่ย์ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจอีกครั้ง
อสูรโลหะบินตลอดทั้งวัน พอตกตอนกลางคืนคณะทำงานของปราสาทอสูรก็เข้ามาที่ห้องโดยสารหลัง
“คณะทำงานปราสาทอสูรอยู่ที่นี่แล้ว” เรจิน่ากล่าว
กลุ่มของลินลี่ย์นั่งตัวตรงทันที พวกเขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองร่างทั้งสามที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าห้องโดยสาร คนทั้งสามนี้เป็นคณะทำงานที่ปราสาทอสูรส่งมา มีชายชราผมขาวโพลนเป็นหัวหน้า
“ทุกคน!” ชายชราผมขาวมีรอยยิ้มบนใบหน้า เขาพูดด้วยเสียงชัดเจน “มีคนจำนวนรวมพันคนจะเข้าร่วมในการสอบเป็นอสูรครั้งนี้! ข้าคาดว่าทุกคนคงจะรู้เรื่องนี้ดีแล้ว การสอบคัดเป็นอสูรนั้นอันตรายมาก และอัตราการเสี่ยงตายสูงมาก! แต่ทุกคนก็มา แม้ว่าจะมี..ในเรื่องของความกล้า อย่างน้อยพวกเจ้าทุกคนคู่ควรกับการเป็นอสูร”
ชายชราผมเงินมีสีหน้าจริงจังขึ้น “แต่ความกล้าแต่เพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ พวกเจ้าต้องมีพลัง!”
“การสอบเป็นอสูรนี้จะใช้พื้นที่ในรัศมีสามสิบล้านไมล์ห่างจากเมืองรอยัลวิง สถานที่นี้เป็นที่รู้จักกันในนามว่าทะเลสาบจันทรา! เนื่องจากอสูรโลหะบินด้วยความเร็วสูง ข้าคาดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนก่อนเราจะไปถึงจุดหมายปลายทาง” บุรุษผมดำกล่าว
ขณะนั้นเองห้องโดยสารหลังของอสูรโลหะตกอยู่ในความเงียบอย่างสิ้นเชิง
ผู้เข้าสอบเป็นอสูรพันคนตั้งใจฟังกันทุกคน
“มีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้ชัดเจน ภารกิจการสอบเป็นอสูรไม่ใช่เรื่องที่ถูกออกแบบหรือจัดการขึ้นโดยปราสาทอสูร” เสียงชายชราผมเงินดังก้องไปทั้งห้องโดยสารหลัง “ทุกคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับอสูรมาบ้างก็ควรจะรู้ว่าเหล่านักสู้อสูรจะรับภารกิจที่ปราสาทอสูร! ภารกิจแบ่งเป็นตามระดับความยาก!”
“สำหรับการเข้าสอบของพวกเจ้าถูกเลือกจากภารกิจที่มีอยู่มากมาย ภารกิจหนึ่งดาวซึ่งเหมาะสมกับพวกเจ้า!”
ชายชราผมเงินพูดอย่างจริงจัง “ตราบใดที่พวกเจ้าทำภารกิจนี้ได้สำเร็จเจ้าจะกลายเป็นอสูรหนึ่งดาว!”
“สำหรับรายละเอียดของภารกิจ...ลอเรน, เจ้าบอกพวกเขาด้วย” ชายชราผมเงินถอยมายืนด้านข้าง ขณะที่ลอเรนหญิงสาวผู้งดงามเจ้าเสน่ห์อยู่ในชุดดำยาวก้าวเดินออกมาข้างหน้า
เสียงของลอเรนดังชัดสดใส “สถานที่ที่จะไปทำภารกิจก็คือทะเลสาบจันทรา! เหนือทะเลสาบจันทรามีปราสาทโบราณ เจ้าปราสาทโบราณนี้ทรงพลังน่ากลัวเป็นอย่างมาก เขามีพ่อบ้านดูแลอยู่หนึ่งคน ทหารชุดดำแปดคน และทหารชุดทองอีกหลายร้อย!”
“ภารกิจของเจ้าก็คือฆ่าทหารชุดทองคนหนึ่ง จำเอาไว้..หลังจากฆ่าทหารชุดทองแล้วเก็บแหวนมิติของพวกเขาเอาไว้ นั่นคือแหวนจันทรา และนำมันกลับมาที่ปราสาทอสูร มีแต่ได้แหวนจันทรานี้จึงจะได้รับการยอมรับพิสูจน์ว่าพวกเจ้าทำภารกิจสำเร็จ
“แต่แน่นอนว่าพวกเจ้าสามารถเอาสมบัติและสิ่งของที่บรรจุในแหวนจันทราออกไปได้” ลอเรนหัวเราะขณะที่นางพูด “ทั้งหมดที่ข้าบอก ก็มีเพียงเท่านี้”
ทันใดนั้นมีเสียงพึมพำดังขึ้นในห้องโดยสารหลัง ขณะที่ทุกคนเริ่มพูดคุยปรึกษากัน
“เงียบ” เสียงของบุรุษผมเงินดังขึ้น
ทุกคนเบาเสียงลง
“ถ้าพวกเจ้ามีปัญหาอะไร จงพูดออกมา” ชายชราผมเงินพูด
ทันใดนั้นบุรุษชุดฟ้าร่างกำยำทรงพลังคนหนึ่งสูงราวสามเมตรยืนขึ้น เขาพูดเสียงดังลั่น “ใต้เท้า,ท่านบอกว่าหลักฐานพิสูจน์ว่าภารกิจนี้สำเร็จก็คือแหวนจันทรา ทหารชุดทองมีแหวนจันทรากันทุกคนใช่ไหม?”
“ตามรายงานข่าวกรองของเราพวกเขาทุกคนน่าจะมีแหวนวงหนึ่ง ถ้าแหวนมิติของพวกเขาไม่ใช่แหวนจันทราแหวนจันทราก็น่าจะเก็บไว้ในแหวนมิติเก็บสมบัติ” ชายชราชุดเงินหัวเราะอย่างใจเย็น “แต่แน่นอนว่าเราไม่สามารถออกกฎพิเศษได้”
“แน่นอนว่า ถ้าเจ้าฆ่าทหารชุดทองแต่ไม่สามารถหาแหวนจันทราได้นั่นเป็นโชคร้ายของเจ้า ไม่มีแหวนจันทรา พวกเจ้าจะไม่ได้รับการยอมรับจากปราสาทอสูร” ชายชราผมเงินเม้มริมฝีปาก “อย่างไรก็ตามคงเป็นเรื่องยากที่ทหารชุดทองจะไม่มีแหวนจันทรา”
บุรุษคนนั้นนั่งลง
สตรีผมเงินที่อยู่ข้างลินลี่ย์นามว่าเรจิน่าลุกขึ้นยืน “ใต้เท้า, ท่านบอกว่าเจ้าของปราสาทนั้นทรงพลังมากและว่าเขามีพ่อบ้านและทหารชุดดำอยู่ด้วย! ท่านเพียงแต่ต้องการให้เราฆ่าทหารชุดทอง พวกทหารชุดดำและเจ้าปราสาทจะปล่อยให้เราทำตามอำเภอใจหรือ?”
ลินลี่ย์มีความคิดทันที
ไม่ใช่แค่เพียงลินลี่ย์ หลายคนที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรก็พอเดาคำตอบได้
“การเดินทางไปทะเลสาบจันทราครั้งนี้ ยังมีคนอื่นร่วมเดินทางด้วย มีอสูรสามดาวและสี่ดาวและมีกระทั่งอสูรห้าดาวอยู่ในกลุ่มด้วย” ชายชราผมเงินหัวเราะอย่างใจเย็น “มีแนวโน้มว่าเมื่อพวกเจ้าออกจากอสูรโลหะแล้ว กลุ่มอสูรก็คงมาถึงเช่นกัน”
“เป็นอย่างที่ข้าคิด!” ลินลี่ย์แน่ใจว่าจะได้คำตอบทำนองนี้
ชายชราผมเงินยังคงพูดต่อ “ภารกิจของพวกเขาก็คือจัดการกับทหารชุดดำพ่อบ้านและเจ้าครองปราสาท!”
จากสิ่งที่คณะทำงานของปราสาทอสูรได้อธิบาย ลินลี่ย์และคนอื่นสามารถคาดเดาได้ว่าทหารชุดทองน่าจะมีพลังระดับเทพแท้ ขณะที่ทหารชุดดำพ่อบ้านและเจ้าครองปราสาทคงจะเป็นเทพชั้นสูงกันหมด
พวกเขาใช้เวลาสองวันอยู่ในอสูรโลหะ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
“หลังจากพวกเจ้าลงไปแล้วให้ทุกคนมุ่งหน้าไปทางใต้สองสามกิโลเมตร ทะเลสาบจันทราอยู่ที่นั่น”
ชายชราผมเงินพูดเสียงดังในห้องโดยสารหลัง “สถานที่นี้ไม่ใช่เมืองรอยัลวิง การต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอาจเกิดได้ทุกเมื่อ ทุกคนต้องระวังให้ดี เราจะรอการกลับมาของพวกเจ้าอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ ถ้าพวกเจ้ากลับมาได้สำเร็จพร้อมกับแหวนจันทรา เจ้าสามารถกลับเข้าอสูรโลหะได้”
ทุกคนยังคงเงียบ
ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล!
คนหนึ่งพันคนมาร่วมสอบเข้าเป็นอสูร แต่จะมีพวกเขารอดกลับมากี่คน? จำนวนคนที่เข้าร่วมในการสอบเป็นอสูรนี้เป็นการพิสูจน์ว่าการสอบเป็นอสูรนั้นอันตรายมากมายขนาดไหน
เนื่องจากปราสาทอสูรเลือกภารกิจนี้มาทดสอบพวกเขาอย่างเจาะจง ระดับความยากคงไม่ต่ำแน่นอน
“ทุกคนที่อยู่ห้องโดยสารหน้าลงไปแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนต้องลงไปบ้าง!” ชายชราผมเงินพูดอย่างใจเย็น “ข้าขอให้คำแนะนำพวกเจ้าเพิ่มเติมอีกข้อก่อนแยกย้ายกันไปพวกเจ้าไม่ใช่แค่ต้องระวังคนที่อยู่ในทะเลสาบจันทราเท่านั้น พวกเจ้ายังต้องคอยระมัดระวังป้องกันคนที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรด้วย มักจะมีหลายคนที่ไม่ตายระหว่างภารกิจ แต่ถูกผู้เข้าร่วมสอบคนอื่นฆ่าตาย ข้าเห็นมานักต่อนักแล้ว”
หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้านเล็กน้อย
จริงสิถ้าคนอื่นไม่มีแหวนจันทรา แต่ท่านมีคนอื่นอาจลอบทำร้ายท่าน ถึงขั้นฆ่าท่านเพื่อชิงแหวนจันทราได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก
ที่สำคัญนี่ไม่ใช่เมืองรอยัลวิง!
“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีตามขบวนออกไปด้านนอก จำนวนคนมากมายค่อยๆ ออกไปจากอสูรโลหะ
ขณะนั้นอสูรโลหะเทียบท่าให้ลงพื้นที่ว่างเปล่า มีอสูรรวมกันอยู่ที่นั่นราวยี่สิบสามสิบคน รวมทั้งเจ้าโล้นแคลมป์ตันยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนกวาดมองไปตามปกติ แต่แล้วสายตาของเขาหันกลับมาทันที
“หืม?” แคลมป์ตันจ้องมองที่ประตูอสูรโลหะ
และจากนั้นหน้าของแคลมป์ตันมีรอยยิ้มปรากฏทันที “คาดไม่ถึงเลยว่าทั้งสามคนจะเข้าสอบเป็นอสูรในภารกิจนี้ ช่างบังเอิญจริงๆ”