ตอนที่แล้วตอนที่ 14-16 ระดับเทพแท้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-18 ทะเลสาบจันทรา

ตอนที่ 14-17  หลอมรวมเคล็ดความรู้เพิ่มพลัง


“เมื่อบรรลุจากระดับเทียมเทพไปเป็นระดับเทพแท้ การชะลอลงมาของกฎธรรมชาติที่ล้อมรอบวิญญาณข้าคงอยู่เพียงชั่วขณะสั้นๆ แต่การเปลี่ยนแปลงของวิญญาณข้าเทียบกันแล้วให้ผลเท่ากับดูดซับอะเมทิสต์สิบเอ็ดชิ้น”  ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจ

เมื่อสามสิบกว่าปีที่ผ่านมาอะเมทิสต์ทั้งสิบเอ็ดชิ้นที่เขาซื้อมานั้นถูกซึมซับหมดไปนานแล้ว

พลังจิตวิญญาณของลินลี่ย์ในตอนนี้ทรงพลังยิ่งกว่าในอดีตอย่างเทียบกันไม่ได้  หลังจากกลายเป็นเทพแท้วิญญาณของเขาเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งมีผลดียิ่งกว่าดูดซับแก่นวิญญาณเสียอีก

“เดเลีย! เจ้าดูดซับมุกวิญญาณทองทั้งสองเสร็จแล้วใช่ไหม?” ลินลี่ย์มองดูเดเลีย

ลินลี่ย์ให้เดเลียซื้อมุกวิญญาณทองมาเสริมพลังวิญญาณนางเช่นกัน วิธีนั้นนางจะพบกับวิธีต่อต้านพลังโจมตีวิญญาณของคนอื่นได้ง่ายกว่า เวลานั้นเดเลียไม่เพียงแต่ซื้อมุกวิญญาณทองสองชิ้นเท่านั้น  แต่นางยังซื้ออะเมทิสต์มาอีกหนึ่งชิ้น

“ข้าดูดซับมุกวิญญาณทองหมดไปแล้ว  แต่การดูดซับอะเมทิสต์ทำได้ช้ามาก”  เดเลียถอนหายใจ  “มิน่าเล่า ถึงมีคนมากมายยินดีซื้อมุกวิญญาณทอง  แต่คนซื้ออะเมทิสต์มีน้อยมาก”

“พี่ใหญ่!เมื่อไหร่เราจะไปสอบเป็นอสูร?” บีบีรีบกระตุ้นเตือน

บีบีรอวันนี้มานานแล้ว

“เมื่อไหร่หรือ?”  ลินลี่ย์มองดูท้องฟ้า จากนั้นหัวเราะ  “ไม่ต้องเร่ง นี่ยังไม่เที่ยงเลย  ไปกินอะไรฉลองกันที่ร้านอาหารก่อน  หลังจากกินแล้ว เราค่อยไปปราสาทอสูรกัน”

“ร้านอาหาร?” บีบีตาเป็นประกาย

หลังจากกลุ่มของลินลี่ย์ออกจากร้านอาหารก็เป็นเวลาเกือบค่ำแล้ว อย่างไรก็ตามปราสาทอสูรเปิดตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน  กลุ่มของลินลี่ย์ไปที่ปราสาทอสูรทันที  เมื่อมาถึงปราสาทอสูร  พวกเขาเห็นว่ามีคนไม่กี่คนที่ปราสาทอสูรแห่งนี้

พวกเขาตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ชั้นที่หนึ่งของปราสาทอสูร

“หน้าคุ้นๆ” ลินลี่ย์เห็นยูนะที่ยังอยู่หลังเคาน์เตอร์ ทั้งสามเดินเข้าไปหาทันที

“แม่นางยูนะ ข้าต้องการเข้าร่วมสอบเป็นอสูร” ลินลี่ย์กล่าว

ยูนะเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาจากนั้นนางเบิกตากว้างทันทีขณะที่นางเริ่มหัวเราะ “เป็นพวกเจ้าทั้งสามคนนี่เอง?” ลินลี่ย์ทิ้งความประทับใจลึกๆ ให้กับยูนะ ที่สำคัญในวันนั้นแม้แต่เจ้าเมืองรอยัลวิงก็ยังปรากฏตัว  ยูนะจำวันนั้นได้ชัดเจนเป็นธรรมดา

“โอว, เจ้าเข้าถึงระดับเทพแท้แล้ว”  ยูนะมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ

“แสดงว่าเจ้าก็ใกล้ๆจะบรรลุระดับใหม่เมื่อครั้งสุดท้ายที่เจ้ามาใช่ไหม?”  ยูนะหัวเราะ

นางไม่ประหลาดใจมาก ขณะที่นางเห็นครั้งล่าสุดลินลี่ย์น่าจะสดุดติดอยู่ที่คอขวดของระดับเทียมเทพ  จากเทียมเทพไปเป็นระดับเทพแท้การบรรลุอาจจะไวหรือช้าก็ได้

ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะ  “ช่วยรับสมัครให้เราสามคนเข้าสอบเป็นอสูรด้วย”

ยูนะมองดูกลุ่มของลินลี่ย์แล้วพยักหน้า  “ได้เลย, พวกเจ้ารู้กฎแล้ว  คนละหมื่นศิลาดำ สามคนก็สามหมื่น”  ยูนะหัวเราะขณะที่นางยื่นมือรับเงินอะซูไรท์สามชิ้นที่ลินลี่ย์ยื่นส่งให้

เมื่อรับเงินสามอะซูไรท์แล้วยูนะดึงตราที่มีสัญลักษณ์ตาปีศาจส่งให้กลุ่มของลินลี่ย์

“นี่คืออะไร?” บีบีมองดูภาพและถามด้วยความสงสัย

“นี่เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าพวกเจ้าได้รับอนุญาตให้เข้าสอบเป็นอสูร”  ยูนะหัวเราะ “จริงสิ, บอกที่อยู่ของพวกเจ้าให้ข้าทราบด้วย  ข้าจะบันทึกลงไป”

“แม่นางยูนะ เจ้าไม่บอกเราหรือว่าภารกิจคืออะไร ทำไมถึงต้องการที่อยู่เราเล่า?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ

ยูนะส่ายศีรษะ “ภารกิจในการสอบเป็นอสูรจะอธิบายให้ชัดเจนเมื่อเจ้าเข้าร่วมจริงๆ  ตอนนี้...ไม่มีใครรู้  แม้แต่เวลาของการเข้าทดสอบก็ยังไม่แน่นอน  ทั้งนี้เป็นเพราะกล่าวอย่างทั่วไปแล้วเมื่อจำนวนสมาชิกเต็ม การสอบเป็นอสูรจะเริ่มขึ้น”

“เมื่อมีจำนวนเต็ม?”  ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ

เพียงแต่เมื่อจำนวนผู้เข้าร่วมสอบถึงการสอบเป็นอสูรจะเริ่มต้น

พวกเขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าใครจะเข้ามาสมัครอีก  ดังนั้นจึงกำหนดเวลาที่การสอบเริ่มต้นเองไม่ได้

“ยังจะต้องรออีกหรือ?  เราคงไม่ต้องรอกันนานยี่สิบสามสิบปีหรอกนะ?”บีบีรีบกล่าว

“แน่นอนว่าไม่ ความจริง เมื่อสองวันที่แล้ว ก็มีกลุ่มหนึ่งไปเข้ารับการทดสอบ เพียงแต่ผลที่ออกมาโหดร้ายเหมือนอย่างเคย ที่สำเร็จไม่ถึงร้อย มีตายมากมายเหลือเกิน”  ยูนะถอนหายใจ  “โอว.. ไม่ต้องรีบ  ราวๆ เดือนหนึ่งสมาชิกก็จะพร้อม”

เดือนหนึ่ง?  กลุ่มของลินลี่ย์ไม่รีบ

“หลังจากสมาชิกที่พร้อมเข้าสอบเต็มแล้วและภารกิจถูกเลือกแล้ว เจ้าหน้าที่ของปราสาทอสูรจะแจ้งไปยังที่อยู่ของพวกเจ้า  ดังนั้นพวกเจ้าก็ต้องอยู่ในที่พักด้วย”  ยูนะหัวเราะ

กลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจ  พวกเขาบันทึกที่อยู่ไว้ทันที

“เฮ้, แม่นางยูนะคนงาม” บีบีหัวเราะ  “ข้าขอถามได้ไหมครั้งก่อนนั้นคนชื่ออันจิที่สอบตกมาสองรอบแต่ก็ยังต้องการเข้าร่วมสอบเป็นอสูรครั้งที่สามเขาทำได้สำเร็จหรือว่าสอบตกในครั้งที่สาม?”

คำถามของบีบีทำให้ลินลี่ย์และเดเลียหันมามองยูนะพร้อมกัน

“อันจิน่ะหรือ?”

ยูนะเริ่มหัวเราะ  “โชคของเขาไม่เลวจริงๆ เขาทำได้สำเร็จในการสอบเป็นอสูรครั้งที่สาม  หลังจากประสบความสำเร็จแล้ว เขารับภารกิจระยะไกลที่ต้องออกจากเมืองรอยัลวิง เป็นไปได้ว่าเขาอาจออกไปจากแคว้นไนท์บลาสนานแล้ว  แต่แน่นอนว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจเผชิญอันตรายระหว่างภารกิจและเสียชีวิตได้ใครจะรู้?”

กลุ่มของลินลี่ย์ยินดีแทนอันจิ  ไม่ว่าจะลงเอยยังไง  แต่เจ้าคนหัวรั้นนั่นก็ทำสำเร็จจนได้

ดังนั้นกลุ่มของลินลี่ย์รออย่างใจเย็น  ในที่สุดก็รอคอยนานมากกว่ายี่สิบวัน

เมืองรอยัลวิงในลานว่างน้อยที่เงียบสงบซึ่งกลุ่มของลินลี่ย์พักอยู่  พระอาทิตย์ฉายรัศมีสีแดงลงมายังลานว่าง  ลินลี่ย์ยังนั่งขัดสมาธิบนพื้นลานว่างและชั้นรัศมีสีเหลืองหมุนวนอยู่รอบตัวเขา

“พลังป้องกันของพี่ใหญ่ก้าวล้ำไปยิ่งกว่าสมบัติที่ใช้ป้องกันของระดับเทพแท้เสียอีก  และยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ”

บีบีนั่งอยู่กับที่บนเก้าอี้ในมือถือขวดเหล้าผลไม้และดื่มอย่างต่อเนื่อง  “เหล้าผลไม้แบบนี้ในแดนนรกนับว่าราคาถูก  หนึ่งศิลาดำซื้อได้สิบขวด  ขณะที่ดื่มได้ดีกว่าเหล้าผลไม้ชั้นดีของทวีปยูลานเสียอีก”

บีบีไม่เหมือนลินลี่ย์

ลินลี่ย์ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการฝึกฝน  ขณะที่บีบีใช้เวลาส่วนใหญ่กับการกินและเล่นมีฝึกฝนบ้างเป็นครั้งคราว

รัศมีแสงสีเหลืองน้ำตาลรอบตัวลินลี่ย์หยุดไหลและเปลี่ยนเป็นชุดสีเหลืองน้ำตาล

เวทสายธาตุดินรวมเอาคาถาเกราะดินศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้วย

เกราะดินศักดิ์สิทธิ์เมื่อถึงระดับเทพสามารถสร้างเป็นเกราะระดับเท่าอดาแมนเทียมได้โดยใช้พลังจิตที่ทรงพลังพอๆ กับพลังเทพ แต่เกราะดินศักดิ์สิทธิ์แบบนี้เป็นอย่างที่ง่ายที่สุดและดั้งเดิมที่สุด หลังจากลินลี่ย์เชี่ยวชาญเคล็ดแก่นธาตุดินก็สามารถสร้างเกราะธาตุขึ้นครอบคลุมร่างเขาได้

พลังของเกราะธาตุนี้ยังเหนือกว่าเกราะที่เป็นอดาแมนเทียมเสียอีก

พลังป้องกันของเกราะธาตุนี้เทียบได้กับสิ่งประดิษฐ์สำหรับป้องกันระดับเทพแท้

แต่เนื่องจากความเชี่ยวชาญในเคล็ดการเต้นของชีพจรโลกลินลี่ย์ยังมีเคล็ดชีพจรป้องกันซึ่งมีพลังป้องกันที่น่ากลัวมากกว่าเกราะธาตุ

โชคดีที่ลินลี่ย์หลอมรวมเคล็ดแก่นธาตุและเคล็ดการเต้นของชีพจรโลกเข้าด้วยกันดังนั้นหลังจากฝึกฝนก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดลินลี่ย์ก็ประสบความสำเร็จสามารถประสานกระแส ชีพจรป้องกันได้คงที่ทำให้เกราะธาตุดินนิ่งคงที่ได้

ชุดเกราะธาตุดินที่ลินลี่ย์กำลังสวมใส่อยู่ก็คือเกราะกันชีพจรที่แท้จริง

ถ้าใครขยายมันออกได้เป็นร้อยเท่าเขาจะพบเรื่องนี้

เส้นใยบางเบาของพลังเทพธาตุดินสานไปมากันเป็นตาข่ายเคลื่อนไหวเป็นจังหวะสานเข้ากันอย่างลงตัว ระลอกพลังเทพที่สานเข้ากันในที่สุดก็กลายเป็นชุดที่ลินลี่ย์กำลังสวมอยู่

เกราะชีพจรคุ้มกันนี้ผสานกับพลังชีพจรคุ้มกันของเขาและเกราะธาตุของเขาเข้าด้วยกัน

ในแง่ของพลังป้องกันก็แทบจะดีกว่าชุดประดิษฐ์ป้องกันระดับเทพแท้ถึงสิบเท่า

“นี่คือพลังของการหลอมรวมเคล็ดลึกลับหรือนี่!”  ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นมาก  “ถ้าข้าไม่หลอมรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน ต่อให้ข้ามีความเชี่ยวชาญเคล็ดพลังจังหวะเต้นชีพจรโลกและเคล็ดแก่นธาตุดินพลังป้องกันก็ยังจะต่ำกว่านี้มาก”

ในที่สุดลินลี่ย์เริ่มเข้าใจสาเหตุที่พลังของเทพชั้นสูงมีความห่างชั้นกันมาก

“ข้าเป็นแค่เพียงหลอมรวมเคล็ดลึกลับสองเคล็ดเข้าด้วยกันเท่านั้น  แต่พลังกลับมากมายเป็นสิบเท่า  ถ้าข้าหลอมรวมได้สามเคล็ดเล่า?สี่เคล็ดเล่า?”  ลินลี่ย์ถอนหายใจไม่หยุดหย่อน “มิน่าเล่าแคลมป์ตันที่กลายเป็นเทพชั้นสูงผ่านการหลอมรวมประกายศักดิ์สิทธิ์จึงหวาดกลัวตัวสั่นเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเจ้าเมือง!”

ความจริง

หลังจากหลอมรวมเคล็ดลึกลับของกฎธาตุแล้ว  พลังก็ขยายเพิ่มขึ้นอีกมาก

“ข้าเชี่ยวชาญเคล็ดการเต้นของชีพจรโลกจากนั้นพัฒนาเป็นดาบคลื่นสลาย  แต่ตอนนี้..ด้วยการหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสองเข้าด้วยกันพลังดาบคลื่นสลายของข้าเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า ไม่แต่เพียงแค่นั้น ถ้าข้าใช้พลังจิตเป็นพื้นฐานในการโจมตี อย่างนั้นการโจมตีก็จะเป็นการโจมตีด้วยพลังจิตวิญญาณ! แต่ถ้าข้าใช้พลังเทพเป็นพื้นฐานโจมตี อย่างนั้นก็จะเป็นการโจมตีทางธาตุหยาบ”

เคล็ดแก่นธาตุดินเป็นการใช้ธาตุหยาบโจมตีธรรมดา

เคล็ดการเต้นชีพจรโลกเป็นการใช้พลังจิตวิญญาณโจมตี

ด้วยการหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสองเข้าด้วยกันดาบคลื่นสลายไม่เพียงแต่เพิ่มพลังในการโจมตีจิตวิญญาณเท่านั้น แม้แต่การโจมตีธาตุหยาบผ่านเคล็ดแก่นธาตุดินก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมายเช่นกัน

“ก๊อก ก๊อก...”

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น  “ข้าจะไปเปิดประตูเอง”  บีบีกระโจนไปที่ประตู

ลินลี่ย์และเดเลียเดินไปที่ประตูกันทั้งคู่  มีบุรุษหนุ่มผมดำคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก  “พวกท่านทั้งสามคนจะร่วมเข้าสอบเป็นอสูรใช่หรือเปล่า?”

“เจ้ามาแจ้งพวกเราใช่ไหม?”  บีบีพูดอย่างดีใจ

บุรุษหนุ่มผมดำพยักหน้าและหัวเราะ  “ถูกแล้ว พวกท่านทั้งสามขอข้าดูสัญลักษณ์อสูรของพวกท่านด้วย ไม่ต้องห่วง นี่เป็นวิธีการยืนยันสถานะของพวกท่าน”

ลินลี่ย์และพวกดึงสัญลักษณ์อสูรของพวกเขาออกมา

“ใช่แล้ว, พรุ่งนี้เช้าตรู่ให้ไปที่ประตูเมืองรอยัลวิงและเข้าร่วมการสอบเป็นอสูร ท่านจะพบสมาชิกของปราสาทอสูรของเรารอท่านอยู่ที่นั่น”  บุรุษหนุ่มผมดำหัวเราะขณะกล่าว

“พรุ่งนี้เช้าตรู่น่ะหรือ?”  กลุ่มของลินลี่ย์เต็มไปด้วยการคาดวัง

“การสอบเป็นอสูรจะดำเนินการยังไง?”  เดเลียถาม

บุรุษหนุ่มผมดำส่ายศีรษะ  “ข้าไม่รู้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะบอกรายละเอียดพวกท่านถึงภารกิจในการทดสอบเมื่อพวกท่านไปที่จุดนัดพบ”

“เมื่อเวลามาถึงและท่านไปที่ประตูเมือง  คนของปราสาทอสูรอาจจำท่านไม่ได้ ท่านเพียงแต่ต้องแสดงสัญลักษณ์อสูรของท่าน”  บุรุษหนุ่มผมดำกล่าวเสร็จก็เดินออกไป

กลุ่มของลินลี่ย์มองหน้ากันเอง

“ว้าว..พี่ใหญ่ เรากำลังจะได้เป็นอสูรแล้ว”  บีบีตื่นเต้นมาก

“สอบเป็นอสูร?”

ลินลี่ย์ตัดสินใจ ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องถือว่าการปกป้องเดเลียและบีบีเป็นเรื่องที่สำคัญ

“บางทีบีบีไม่จำเป็นต้องให้ข้าปกป้อง”  ลินลี่ย์ชำลองมองบีบี

เช้าตรู่วันต่อมากลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองแต่เช้า  เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์มาถึงที่ประตูเมือง  พวกเขาพบว่ามีอสูรโลหะลอยตัวอยู่ด้านนอกซึ่งมีสัญลักษณ์อสูรอยู่ด้านบน

“ดูเหมือนว่าจะมีคนค่อนข้างน้อย”  ลินลี่ย์มองดูหน้าต่างโปร่งใสของอสูรโลหะสามารถมองเห็นร่างจำนวนไม่กี่ร่างภายในนั้น

กลุ่มของลินลี่ย์บินขึ้นไปที่อสูรโลหะทันทีมีผู้อาวุโสผมขาวยืนอยู่ที่ทางเข้า “พวกเจ้ามาสอบเป็นอสูรใช่ไหม?”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“โปรดแสดงเครื่องหมายอสูรของพวกเจ้าด้วย”  ชายชราผมขาวอดยิ้มไม่ได้

เมื่อเห็นเครื่องหมายอสูรในมือของลินลี่ย์และพวกทั้งสอง  ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย  “เข้าไปได้”

ภายในอสูรโลหะมีระเบียงทางเดินยาวซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน มีคนอยู่ในระเบียงทางเดิน เมื่อเห็นกลุ่มของลินลี่ย์ พวกเขาตะโกน “ผู้เข้าร่วมสอบเป็นอสูรให้เข้าไปที่ส่วนด้านหลัง”

พวกเขาเข้าไปที่ห้องส่วนด้านหลัง

“มีคนมากนะ!”  ลินลี่ย์อดตกใจไม่ได้

“พี่ใหญ่ มีคนอย่างน้อยร้อยคนที่นี่”  บีบีพูดอย่างรู้สึกทึ่ง”

เดเลียถอนหายใจเช่นกัน  “และไม่ใช่ทุกคนอยู่ที่นี่  ลินลี่ย์ตรงไปนั่งที่ด้านข้างเถอะ”  ขณะที่พวกเขาพูด  กลุ่มของลินลี่ย์พบที่นั่งและนั่งลง  ในห้องส่วนหลัง แต่ละแถวจะมียี่สิบที่นั่งแต่ละแถวจะมีทางเดินสี่เส้นทาง

บีบีมองผ่านหน้าต่างใสออกไปข้างนอก  “ตอนนี้ดูเหมือนมีคนน้อยที่กำลังมา  เฮ้..พี่ใหญ่ดูสิ มีคนที่สวมชุดที่ติดตราอสูร  และค่อนข้างน้อยด้วย”

“ทำไมกลุ่มอสูรถึงมีมาด้วย?”  ลินลี่ย์มองดูเช่นกัน

แต่เมื่อเขามองดู  ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน

เขาเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย!

บีบีก็ตกใจเช่นกัน  “พี่ใหญ่, เจ้าคนหัวล้านก็มาที่นี่ด้วยเหมือนกัน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด