ตอนที่ 14-16 ระดับเทพแท้!
กลุ่มของลินลี่ย์สามคนออกจากปราสาทอสูรกลับไปยังที่พักของตนเอง
“ฮึ่ม!” บีบีขว้างหมวกฟางลงบนโต๊ะและพูดด้วยความโกรธ “ข้าต้องทนอัดอั้นอารมณ์เมื่ออยู่ที่แดนนรกนี่จริงๆ เจ้าหัวล้านนั่นไม่กล้ารุกรานคนมีพลังแข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงหันมาเหยียดหยามเราแทน ถ้าเราอยู่ข้างนอกเมือง ต่อให้ต้องทุ่มเทชีวิตข้าจะต้องล้มเขาให้ได้”
เดเลียเม้มปากและหัวเราะ “จะล้มเขาหรือ? บีบี! คนหัวโล้นนั่นเป็นเทพชั้นสูง เจ้าจะล้มเขาได้หรือ?”
“เป็นเทพชั้นสูงแล้วจะเป็นไงเล่า?” บีบีเชิดหน้า แต่จากนั้นก็ก้มหน้าอีกครั้ง “โอวเอ่อ.. เทพชั้นสูง..”
เมื่อเห็นบีบีทำท่าเช่นนี้ลินลี่ย์และเดเลียเริ่มหัวเราะทั้งคู่
“ปู่นะปู่.. เขามีประกายเทพชั้นสูงหลายชิ้นแต่ห้ามข้าไม่ให้ใช้เลย เขาต้องการให้ข้าบรรลุพลังด้วยตนเอง มิฉะนั้นข้าคงกลายเป็นเทพชั้นสูงไปนานแล้ว” บีบีมองดูลินลี่ย์ “พูดเรื่องนี้พอแล้ว, พี่ใหญ่! เราจะสอบเป็นอสูรเมื่อไหร่? อีก20-30 ปีข้างหน้าใช่ไหม?”
ลินลี่ย์พยักหน้า
“ตอนนี้ข้ายังไม่มั่นใจว่าความสามารถของข้าจะสามารถผ่านการสอบเป็นอสูรได้ ไม่ต้องรีบ ในอีกไม่กี่สิบปีข้าจะถึงระดับเทพแท้ในกฎของธาตุดินได้แน่ เมื่อถึงเวลานั้นโอกาสสำเร็จของเราจะมีนัยสำคัญ” ลินลี่ย์อดคิดถึงกฎธรรมชาติธาตุลมไม่ได้
ลินลี่ย์ไม่กล้าย่อหย่อนในการฝึกฝนสายธาตุลม
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ลินลี่ย์ยังมีความเข้าใจแค่ในส่วนด้าน‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ ของเคล็ดลึกลับเท่านั้น
“ข้าเชี่ยวชาญการเต้นชีพจรโลกมานานแล้ว และแก่นธาตุดินเป็นความรู้ลึกลับที่ง่ายที่สุดของกฎธาตุดิน โดยปกติความเร็วในการหลอมรวมเคล็ดความรู้ทั้งสองจึงค่อนข้างเร็ว แต่สัจธรรมแห่งความเร็วจำเป็นต้องได้รับการรู้แจ้งอย่างต่อเนื่องในเคล็ดความรู้ลึกลับที่แตกต่างทั้งสองขณะที่หลอมรวมด้วยกัน ความเร็วในการหลอมรวมจึงช้ามาก”
ลินลี่ย์ถอนหายใจกับตนเอง
ถ้าเขาเองสามารถถึงระดับเทพแท้ได้ในทั้งกฎธาตุลมและกฎธาตุดินพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
“แค่เพียงไม่กี่สิบปี ไม่ต้องรีบร้อน” บีบีหัวเราะ “ไม่มีอันตรายในเมืองรอยัลวิงอยู่แล้ว และนี่เป็นเมืองที่ใหญ่มาก ข้ามีหลายที่ที่ต้องการจะเที่ยวสำรวจ โอว..จริงสิ พี่ใหญ่! ในเผ่ามังกรดำข้ามักจะได้ยินคนชื่นชมว่าอาหารเมืองรอยัลวิงนั้นเลิศรส พรุ่งนี้เราไปลิ้มลองกันดีไหม?”
ถ้าเกี่ยวกับอาหารเลิศรสลินลี่ย์ค่อนข้างกระตือรือร้นเช่นกัน
อาหารเลิศรสในแดนนรกถูกปรุงด้วยวัตถุดิบส่วนผสมที่ล้ำค่าเป็นของแท้และมีคุณภาพตามธรรมชาติสูง
“ก็ได้ เราจะไปลิ้มอาหารเลิศรสพรุ่งนี้”
ก็ต้องไปบ้างเป็นครั้งคราว
ทางเข้าภัตตาคารเมืองรอยัลวิง
“ที่นี่ดูดีจริงๆ” กลุ่มของลินลี่ย์มองดูด้านนอกภัตตาคารนี้ที่ตกแต่งไว้อย่างเลิศหรู พวกเขาพึงพอใจผลักเปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์เข้ามาบริกรของโรงแรมเข้ามาต้อนรับทันที บีบีชำเลืองมองบริกรและใช้สัมผัสเทพคุยกับลินลี่ย์ “พี่ใหญ่, บริกรผู้นี้เป็นระดับเทพแท้”
ในใจของเขาลินลี่ย์รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องตลก
เทพแท้รอให้บริการเขาหรือ?
แต่ในเมืองรอยัลวิงเทพแท้พบเห็นได้โดยทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลกเกินไปที่บริกรจะเป็นเทพแท้
“ลูกค้าผู้มีเกียรติทั้งสาม เชิญตามข้ามา” บริกรยิ้มเต็มหน้าขณะที่เขาเดินนำกลุ่มของลินลี่ย์
“ซ่า.. ซ่า...”
ในภัตตาคารมีภูเขาจำลองและน้ำพุ น้ำพุฉีดพุ่งไปข้างหน้า และกระแสของน้ำพุแบ่งภัตตาคารออกเป็นหลายพื้นที่
กลุ่มของลินลี่ย์เลือกมุมหนึ่งของภัตตาคารแล้วนั่งลง แค่เพียงพลิกมือบริกรก็ดึงเมนูรายการอาหารเลิศรสออกมา เขายิ้มและวางเมนูลงบนโต๊ะ “หลังจากท่านเลือกอาหารแล้วโปรดเรียกข้าอีกครั้ง”
หลังจากพูดแล้วบริกรถอยออกมาไปอยู่ที่มุมอื่น
“ข้าไม่เคยเห็นราคาค่าอาหารในแดนนรกมาก่อน” บีบีพลิกเมนูดูอย่างตื่นเต้น
ลินลี่ย์ก็ค่อนข้างสงสัยเช่นกัน
“โอว...แพงเป็นบ้า” บีบีพลิกหน้ารายการอาหารดูอย่างต่อเนื่อง “พี่ใหญ่! อาหารจานถูกที่สุดก็ราคายี่สิบศิลาดำแล้ว” ขณะที่พูดบีบีถลึงตามองดูรายการอาหาร “อาหารแนะนำแต่ละอย่างเลิศรสทั้งนั้นอธิบายได้ชัดเจนถึงคุณค่าทุกจาน โอว..จานนี้ราคาเจ็ดร้อยศิลาดำ แพงมากกก”
หลังจากอ่านหมดแล้วบีบีส่งเมนูให้ลินลี่ย์และเดเลียและยิ้มแหย
ลินลี่ย์และเดเลียเริ่มอ่านรายการอาหารด้วยกัน
“นี่, ลินลี่ย์! ดูสิจานนี้ปรุงจากฟีนิกซ์ไฟนรก ราคาสามสิบศิลาดำ ราคาไม่ถือว่าแพงนะ” เดเลียชี้อาหารจานหนึ่ง
ลินลี่ย์พลิกอ่านเมนูเช่นกันเขาอดถอนหายใจไม่ได้
“ตราบเท่าที่เรามีเงินเจ้าสามารถกินอสูรเวทระดับเซียนหรือระดับเทพก็ยังได้ แม้ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นจะมาจากพิภพอื่น” ลินลี่ย์ดูคำอธิบายอาหารเลิศรสแต่ละจานแล้วอดถอนหายใจไม่ได้ “เดเลีย! เจ้ากับบีบีเลือกรายการอาหารเถอะ ข้าจะสั่งด้วย”
พวกเขาสั่งรวมหกจาน
“บีบี! เจ้าเลือกแต่ของแพงเชียวนะ” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ
หกจานราคารวม215 ศิลาดำ ก็ต้องเข้าใจว่าในแดนนรก สมบัติเทียมเทพมีค่าไม่ถึงสิบศิลา ขณะที่ประกายเทียมเทพไม่ถึงร้อยศิลาดำ แต่เฉพาะอาหารหกจานนี้ราคารวม 215 ศิลาดำ
โชคดีที่เงินสุทธิที่สามคนมีนั้นรวมกันแล้วหลายล้าน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจราคาที่แพงมากขึ้นเป็นธรรมดา
“สองจานนี้จะต้องใช้เวลานานแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจานนี้ปิ้งอย่างเดียวก็ทำได้ช้ามาก กินเวลาไปตั้งหกชั่วโมง” บริกรยิ้มขณะอธิบาย
“เข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้า
เมื่อสั่งอาหารจะมีคำอธิบายถึงรายการอาหารแต่ละอย่าง ที่สำคัญกลุ่มของลินลี่ย์ไม่รีบร้อนพวกเขานั่งและรอได้ทั้งวันถ้าจำเป็น
“พี่ใหญ่,ใช้ชีวิตอย่างคนมีเงินในแดนนรกก็ดีเหมือนกัน” บีบีถอนหายใจ “เมื่อเรากลับไปมาตุภูมิของเรา เป็นไปได้ยังไงที่จะได้กินอาหารอย่างนี้?” ตอนนี้บีบีรู้สึกว่าเขากำลังเสวยสุข เขาชอบกินยิ่งนัก
ลินลี่ย์มองไปนอกหน้าต่าง
หน้าต่างโลหะของภัตตาคารใสกระจ่างสามารถเห็นทุกอย่างข้างนอกได้
“เมืองเหล่านี้เป็นเพียงพื้นที่ปลอดภัยในทั่วทั้งแดนนรก” ลินลี่ย์บอกกับตัวเอง “ในเมืองรอยัลวิง เราสามารถคลายใจและนั่งสำราญกับอาหารเงียบๆได้ แต่ถ้าเราอยู่นอกเมือง ทุกขณะล้วนเต็มไปด้วยภยันตรายบางทีอาจต้องสูญเสียชีวิตเราก็ได้”
แคว้นไนท์บลาสที่ใหญ่โตกว้างขวางมีเส้นรอบอาณาเขตเป็นพันล้านกิโลเมตร
แต่มีเมืองเพียงสิบเมือง
ใครๆก็สามารถบอกได้จากตรงนี้ว่าในแดนนรกยอดฝีมือทุกคนล้วนแต่ใช้ชีวิตเสี่ยงต่ออันตราย มีอยู่น้อยคนนักที่จะใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย
“ต่อให้เจ้าต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายเจ้าก็ต้องมีเงินให้มากมายเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้” ลินลี่ย์เข้าใจว่าขณะที่เมืองรอยัลวิงสะดวกสบายมาก เงินที่พวกเขาใช้ออกไปก็ต้องมีจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน
อาหารมาถึงแล้วและกลุ่มของลินลี่ย์เริ่มสำราญกับอาหารอร่อยเลิศรสเหล่านี้
“อืม!” ขณะที่บีบีกิน ตาของเขาเริ่มเป็นประกายอย่างมีความสุข
เดเลียและลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่าการได้กินอาหารเลิศรสเหล่านี้เป็นความสำราญใจอย่างหนึ่งแน่นอน
“เฮ้อออ” บีบีพูดด้วยสีหน้าอิ่มเอม “พี่ใหญ่, ได้กินอาหารมื้อนี้แล้ว ต่อไปในอนาคต ข้าคงไม่สามารถกินอาหารบ้านเกิดเราได้ โอย มันอร่อยเป็นบ้า นี่สร้างความสำราญกับตัวเองที่ดีที่สุด” บีบียังคงกินไปพลางพูดชมอาหารไม่หยุด
ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้
“ลินลี่ย์” เดเลียสะกิดลินลี่ย์เบาๆ
“หือ?” ลินลี่ย์มองอย่างสงสัย เดเลียพูดเบาๆ “ลินลี่ย์, มองดูนอกหน้าต่างสิ”
ลินลี่ย์มองดูข้างนอกหน้าต่างทันที เขาเห็นกลุ่มคนข้างนอกบนท้องถนนรวมตัวเป็นกลุ่มอยู่ข้างนอกมองเข้ามาในภัตตาคารมีแววริษยาในดวงตา
“นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก มีคนอยู่หลายคนที่เพิ่งจะเข้ามาในเมืองรอยัลวิง” ลินลี่ย์พูดอ่อนโยน “เดเลีย! วิถีแบบนี้ก็เป็นเหมือนเมื่อเรามาถึงเมืองรอยัลวิงครั้งแรกและเห็นสถานที่นี้ครั้งแรก เรามองดูทุกที่ด้วยความสงสัยและคาดหวังไม่ใช่หรือ?”
แดนนรกเป็นดินแดนที่โหดร้าย
ถ้าท่านมีเงินท่านสามารถสำราญกับอาหารเลิศรสได้ทุกอย่าง
แต่ในแดนนรกคนเกือบทั้งหมดต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด
แต่แน่นอนที่ลำบากที่สุดก็คือพวกเซียน เซียนหลายคนที่มาจากแดนโลกธาตุเข้าสู่แดนนรก แต่หลังจากมาถึงแล้ว พวกเขาพบว่าพวกเขาเป็นชนชั้นต่ำต้อยที่สุดในที่นี้ ชีวิตของพวกเขาอาจจบลงได้ทุกเมื่อ...สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการได้รับประกายเทียมเทพ
แต่ประกายเทียมเทพยังมีราคาไม่เทียบเท่ากับอาหารบนโต๊ะต่อหน้าลินลี่ย์
“พี่ใหญ่, ขอแสดงความยินดีด้วยที่ได้เป็นอสูร วันนี้เราสองคนจะฉลองกัน”มีเสียงดังมาจากด้านหลัง เมื่อได้ยินคำว่า‘อสูร’ ลินลี่ย์อดฟังอย่างระมัดระวังไม่ได้
“ฮ่าฮ่า, เวลานี้อันตรายจริงๆ โชคดีที่ข้ามีฝีมือในกฎธาตุลม” เสียงทุ้มหนักแน่นดังขึ้น “เพียงแต่สหายรักของข้าหลายคนล้มเหลว อนิจจา ก่อนหน้านี้เรายังพูดกันอยู่เลยว่าเราทุกคนจะทำสำเร็จด้วยกัน จะฉลองด้วยกันทั้งหมด” ขณะที่บุรุษคนหนึ่งพูด เสียงของเขาเบาลง
เมื่อได้ยินเช่นนี้อารมณ์ที่ของลินลี่ย์ตกลงเช่นกัน
การสอบเป็นอสูรโหดร้ายจริงๆ
“เดเลีย! ในช่วง20-30 ปีข้างหน้านี้ไป เจ้าจำเป็นต้องเน้นการฝึกกฎธรรมชาติธาตุลม เมื่อถึงเวลา ถ้ามีอันตรายใดๆ ปรากฏขึ้นอย่างน้อยเจ้ายังจะมีโอกาสดีที่จะอยู่รอดได้” ลินลี่ย์กังวลห่วงใยเดเลีย เมื่อเขากลายเป็นเทพแท้ คนที่อ่อนแอที่สุดในสามคนจะกลายเป็นเดเลีย
“ได้เลย” เดเลียพยักหน้าเล็กน้อย
สำหรับพลังของบีบีลินลี่ย์ค่อนข้างจะมั่นใจอยู่ในใจ
“โชคดี ที่เดเลียได้เรียนรู้เคล็ดลึกลับเกี่ยวกับร่างเงาที่เนฟพยายามใช้ฆ่าลินลี่ย์ โดยใช้วิชาแยกร่าง
เวลาผ่านไปลินลี่ย์ เดเลีย และบีบีใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในเมืองรอยัลวิง พริบตาเดียวผ่านไป 32 ปี การฝึกของลินลี่ย์มาถึงระยะสุดท้ายนานแล้ว และเขาเตรียมจะบรรลุระดับเคล็ดลึกลับได้ทุกเมื่อ
ภายในที่ว่างด้านใน
บีบีสวมหมวกฟางทำหน้าตาเบื่อหน่ายขณะบ่น “พี่ใหญ่บอกว่าเขามาถึงสภาวะคอขวดเมื่อสองปีที่แล้วและเขาปิดประตูฝึกตั้งแต่นั้นก็ยังไม่ออกมา นี่ก็สองปีแล้ว... เขาบอกว่าเคล็ดลึกลับแก่นธาตุดินเป็นเคล็ดที่ง่ายที่สุดของกฎธาตุดินไม่ใช่หรือ? แต่เขายังไม่บรรลุระดับใหม่หลังจากผ่านไปสองปีได้สักที”
ความจริงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปกับการรู้แจ้งเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุดิน
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์กำลังทำก็คือการได้รับการรู้แจ้งในเคล็ดความรู้แก่นธาตุดินขณะหลอมรวมเข้ากับเคล็ดความรู้ลึกลับอีกอย่างหนึ่ง
“พี่ใหญ่อยู่ในระหว่างการฝึกปรือ แต่เดเลียก็ฝึกอยู่ข้างๆ เขาเช่นกัน ข้าเบื่อจะตายอยู่แล้ว” บีบีถอนหายใจยาว แค่เพียงพลิงมือบีบีดึงประกายเทพแท้ออกมาจากนั้นโยนเข้าปากและกลืนลงไป
“เป็นเพราะปู่เบรุต อึ๊ก....เขาให้ประกายเทพข้ามาเต็มกระสอบแล้วบอกให้ข้ากินให้หมด แต่ประกายเทพเหล่านี้พอกินไปแล้ว มันย่อยยาก”
บีบีระบายลมหายใจยาว
“ประกายเทพตั้งมากมายต้องใช้เวลากี่ปีกว่าข้าจะกินได้หมด? ก็ได้ เมื่อพี่ใหญ่เงินหมด ข้าจะขายประกายเทพเหล่านี้ออกไป” บีบีพึมพำกับตัวเอง
แต่ทันใดนั้น....
“ครืน.....”
ระลอกคลื่นเฉพาะไม่เหมือนใครปรากฏขึ้นขณะที่กฎธรรมชาติชะลอลงมาที่ห้องซึ่งลินลี่ย์อาศัยอยู่ นี่เป็นเรื่องที่ปรากฏได้โดยทั่วไปในแดนนรก ดังนั้นจึงไม่มีใครให้ความสนใจ แต่นี่... ทำให้บีบีดีใจอย่างมาก
“ในที่สุด, พี่ใหญ่ก็บรรลุระดับใหม่ได้แล้วหรือ?”
บีบียินดีขณะพุ่งเข้าไปในห้องของลินลี่ย์
“แอ๊ดดด!” บีบีผลักเปิดประตู
เดเลียอยู่ภายในห้องเห็นบีบีและใช้สายตานางบอกใบ้ไม่ให้ส่งเสียง บีบีรีบพยักหน้า กลั้นหายใจ เขาเงยหน้ามองลินลี่ย์ ผู้ถูกกฎธรรมชาติล้อมรอบลอยอยู่ในกลางอากาศ
ลินลี่ย์ยังคงหลับตา แต่ทันใดนั้น...
ประกายเทียมเทพสายธาตุดินของลินลี่ย์ดูเหมือนกลายเป็นสภาพมิใช่วัตถุมันออกมาจากหน้าผากลินลี่ย์ จากนั้นลอยอยู่เหนือศีรษะลินลี่ย์ แก่นธาตุดินขนาดมหึมาม้วนอยู่รอบประกายเทพ ภายใต้การควบคุมของกฎธรรมชาติ ประกายเทพของลินลี่ย์ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนรูป...
เปลี่ยนจากประกายเทียมเทพไปเป็นประกายเทพแท้!
แก่นธาตุดินหายไปและประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งแสงสีดินในตอนนี้มีรัศมีทรงพลังอย่างเห็นได้ชัด
“ครืนนน...”
ประกายเทพสีดินเหลืองหมุนรอบตัวช้าลง จากนั้นก็กลับเข้าไปในร่างของลินลี่ย์
ครู่ต่อมา....
“กฎธรรมชาติหายไปแล้ว ทำไมพี่ใหญ่ถึงยังไม่ลืมตา? เขาทำอะไร?” บีบีไม่สามารถอดทนรอต่อไป เขาอดพูดไม่ได้ เดเลียได้แต่จ้องเขาจากนั้นเตือนทางสำนึกเทพ “บีบี! อย่าเพิ่งส่งเสียง”
ลินลี่ย์ได้ยินเสียงของบีบีจึงลืมตาขึ้นและหัวเราะขณะมองบีบี “ข้าเพิ่งถึงระดับเทพแท้ ดังนั้นข้าต้องการสัมผัสว่าข้ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง เท่านั้นเอง”
ขณะนั้นเองลินลี่ย์หลอมรวมชีพจรโลกและแก่นธาตุดินเข้าสู่ระดับเทพแท้เต็มที่!”