บทที่ 37: สวดมนต์และสวดมนต์ สวดมนต์หนักๆ ดังๆ!
บทที่ 37: สวดมนต์และสวดมนต์ สวดมนต์หนักๆ ดังๆ!
ในขณะนี้ หวงชิซานก็กำลังไหว้พระอยู่ในศาลาวัดที่บ้านขณะที่(พระ)ฮุ่ยฉีได้ทำการตัดคอยามเฝ้าประตูของตระกูลหวง
ตระกูลหวงศรัทธาในพระพุทธศาสนามาหลายชั่วอายุคนแล้ว ดังนั้นในคฤหาสน์ขนาด 200 หมู่นี้จึงมีศาลาวัดและโถงสำหรับกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปต่างๆ มากถึง 7 ห้อง
และมันก็ยังเป็นที่อยู่ของอาจารย์เซนมากกว่า 20 คน
ทุกครั้งที่ผู้เฒ่าหวงหรือลูกหลานของเขาได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายลงไป เช่นการฆ่าหรือทรมานคน พวกเขาก็จะมาที่ศาลาวัดเป็นการส่วนตัวเพื่อกลับตัวกลับใจและให้อาจารย์เซนท่องพระคัมภีร์เพื่อชดใช้บาปของตนให้
เช่นเดียวกัน เช้าตรู่วันนี้ผู้เฒ่าหวงได้มาที่ศาลาวัดในบ้านเช่นกัน
เขามีเหตุผลสองประการที่ทำให้ต้องมาที่นี่
ประการแรก หากผู้ว่าการหนุ่มรู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเขาเองและยอมมาก้มหัวแสดงความเคารพเขา เขาก็จะอยู่ในศาลาวัดตลอดทั้งเช้าเพื่อเสริมสิริมงคล
ในทางกลับกัน ถ้าผู้ว่าการหนุ่มไม่ยอมมาก้มหัวแสดงความเคารพเขา เขาก็จะถือว่าเขาได้มาทำการสำนึกผิดเอาไว้ล่วงหน้า และหลังจากที่เขาสำนึกผิดเสร็จแล้ว เขาก็จะส่งคนไปฆ่าผู้ว่าการหนุ่มนั่นในทันที
ในขณะนี้ เสียงสวดมนต์ก็ดังก้องออกมาจากศาลา และควันจากธูปไม้จันทน์ก็ลอยตัวขึ้นสูง
ผู้เฒ่าหวงดูเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาในขณะที่เขาคุกเข่าอยู่บนเสื่อเพื่อสวดมนต์ เขาพนมมือเข้าหากันและหลับตาลงในขณะที่เขาสวดมหาเมตตาใหญ่
อย่างไรก็ดี จู่ๆ ในขณะนี้เสียงของความโกลาหลก็ได้ดังเข้ามาจากข้างนอก
“นายท่าน! นายท่าน!” หวงไฉ่รีบวิ่งเจ้ามาหาเขาขณะที่หอบหายใจอย่างหนัก “นายท่าน ยะ ยะ แย่แล้ว…”
“ออกไป!” หวงชิซานลืมตาขึ้นและตะคอกใส่อีกฝ่าย “ไอ้ทาสชาติหมา เจ้ากล้าดียังไงมารบกวนการไหว้พระของข้า เจ้าเบื่อจะมีชีวิตแล้วใช่ไหม!”
หวงไฉ่กลัวมากจนขาของเขาอ่อนแรงและเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น เขาก้มคำนับครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับกล่าวว่า “นายท่าน ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการจะเข้ามารบกวนท่านเลย แต่มันเป็นเพราะผู้ว่าการคนนั้น เขาได้ส่งคนมาฆ่าเราแล้วจริงๆ!”
“อะไรนะ?!” หวงชิซานยืนขึ้นในทันที เขาจ้องมองไปที่หวงไฉ่อย่างเหลือเชื่อ จากนั้นเขาก็ถามอีกฝ่ายว่า “เจ้าพูดอะไรนะ? ผู้ว่าการคนนั้นกล้าที่จะส่งคนมาฆ่าข้าเลยหรอ?”
“ถูกต้องแล้วนายท่าน!” หวงไฉ่พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพูดอย่างเป็นกังวลว่า “พวกมันได้บุกมาที่ประตูหลักของเราเมื่อเช้านี้และบอกว่าพวกมันต้องการจะตรวจสอบภาษี หวงชูลูกชายข้าได้ก้าวออกไปเพื่อหยุดพวกเขา แต่กระนั้น… เขาก็ถูกตัดหัวไปแล้วนายท่าน!”
“จะเป็นไปได้ยังไง? เจ้านั่นมันบ้าไปแล้วหรอ?” หวงชิซานแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ใหญ่สุดแล้วในมณฑลจูเหอ มันไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งเขาทั้งสิ้น
และแม้แต่ผู้ว่าการมณฑลคนก่อน หยานเฉิงที่เป็นจอมยุทธ์เองก็ยังไม่คิดจะมาลองดีกับเขา
ถึงกระนั้น ผู้ว่าการมณฑลที่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้เพียงวันเดียวก็กลับกล้าส่งคนมาตรวจสอบภาษีของเขาและถึงกับฆ่าคนรับใช้ของเขา!
ช่างกล้าหาญ!
ในขณะนี้ เสียงกรีดร้องก็ได้ดังขึ้นมาจากในระยะไกล
“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?! ไปหยุดพวกมันเร็ว! นี่คือตระกูลหวงนะ พวกเรา… อ้ากกก!”
“ฉิบหายแล้ว! พวกเราฉิบหายแล้ว! วิ่งหนี! พวกเราต้อง… อ้ากก!”
“บ้า! พวกมันเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว! ใครก็ได้ชะ… อ๊ะ!!”
เสียงตะโกนยังคงดำเนินต่อไป แต่พวกเขาเกือบทั้งหมดก็ไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้
เสียงกรีดร้องจะดังขึ้นตามหลังเสียงตะโกนที่รุนแรงเสมอ!
“จะไม่มีใครหยุดการปฎิบัติหน้าที่ของเราได้! พวกที่ขวางทางข้าจะต้องตายทั้งหมด!”
นี่คือเสียงของ(พระ)ฮุ่ยฉี เขาใช้พลังปราณของเขาเพื่อขยายเสียงตะโกนของตนให้ดังก้องไปทั่วทั้งคฤหาสน์
เมื่อหวงชิซานได้ยินเสียงตะโกนนี้ เขาก็ตัวสั่นด้วยความโกรธและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างรวดเร็ว
“กบฏ! พวกเขาเป็นกบฏต่อสวรรค์!” ทันใดนั้นเขาก็หยิบกระถางธูปใบเล็กข้างๆ ตัวขึ้นมาและทุบอาจารย์เซนคนหนึ่งจนถึงตาย จากนั้นเขาก็คำรามก้อง “ไปเรียกทหารทั้ง 500 นายมา ได้เวลาฆ่าพวกมันแล้ว!”
“รับทราบแล้วนายท่าน!” หวงไฉ่พยักหน้าอย่างรวดเร็วและลุกขึ้นยืนเพื่อจากไป
“เดี๋ยวก่อน!” หวงชิซานชำเลืองมองไปยังทิศทางของเสียงกรีดร้อง จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ไปด้วยกัน!”
หลังจากนั้นเขาก็ออกจากศาลาวัดไปพร้อมกับหวงไฉ่
…
ณ จุดนี้ (พระ)ฮุ่ยฉีก็กำลังฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อแต่งกายเป็นนายอำเภอ เขาก็ได้สวมบทเป็นยมทูตด้วยเช่นกัน ตราบใดที่ใครก็ตามจากตระกูลหวงกล้าที่จะขวางทางเขา เขาก็จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดลง!
หลังจากที่ผู้คนมากกว่าสิบคนถูกฆ่าตายลงอย่างต่อเนื่อง พื้นดินก็ได้นองกลายเป็นแอ่งเลือดไปแล้ว!
ศพไร้หัวนอนกองอยู่ทั่วทุกที่ที่พวกเขาเดินผ่านไป
ในขณะเดียวกัน ลู่เจิงหมิงและจ้าวกวงก็เดินตามหลังมาติดๆ พวกเขามองไปที่ฮุ่ยฉีซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
นี่คือศิษย์อารามดอกปทุมหรอ?!
อารามดอกปทุมเป็นสำนักชั้นนำของโลก และมันก็ยังเป็นหนึ่งในหกวัดของสำนักพุทธบนโลกอีกด้วย และนอกจากนี้ (พระ)ฮุ่ยฉีก็ยังเป็นศิษย์ส่วนตัวของเจ้าอาวาส
นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว!
อย่างไรก็ตาม หลังจากสังหารผู้คนไปมากขนาดนี้ ไม่ว่าตระกูลหวงจะหยิ่งผยองเพียงใด แต่ตราบใดที่พวกเขาไม่ใช่คนโง่ มันก็คงจะไม่มีใครกล้าออกมาขวางทางพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
จ้าวกวงเป็นคนสั่งการเจ้าหน้าที่แต่ละคน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หลายสิบคนก็รีบเข้าไปในห้องต่างๆ ทันทีและพลิกดูหนังสือกับโต๊ะตู้เตียงต่างๆ
พวกเขามาตรวจภาษีจริงๆ
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เพียงแค่ตรวจสอบภาษีเท่านั้น แต่พวกเขายังตรวจดูสินทรัพย์ของอีกฝ่ายอีกด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ซุยเฮ็งสั่งให้พวกเขาทำ
ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากทำลายตระกูลหวงลงเสร็จแล้ว พวกเขาก็ยังต้องแจกจ่ายที่ดินของตระกูลหวงให้กับคนทั่วไป
ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ทรัพย์สินของอีกฝ่าย
ครู่ต่อมา เจ้าหน้าที่ของทางการก็พบสมุดบัญชีหลายเล่มและนำพวกมันทั้งหมดออกมา
“ท่านรองลู่ ท่านนายทะเบียนจ้าว ข้าขอฝากสิ่งเหล่านี้ไว้กับท่านด้วย” ฮุ่ยฉีชี้ไปที่กองสมุดบัญชีและยิ้ม “หน้าที่ของข้ามีเพียงแค่การรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น”
ลู่เจิงหมิงและจ้าวกวงพูดไม่ออก
ดูศพไร้หัวทั้งหมดบนพื้นนั่นสิ
นี่หรอที่เรียกว่าการรักษาความสงบเรียบร้อย?
อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นการเคลื่อนไหวที่จำเป็นในการกวาดล้างตระกูลหวง ยิ่งไปกว่านั้น การฆ่าคนชั่วก็จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นซะมากกว่า และนอกจากนี้ มันก็ยังเป็นผลดีต่อท่านผู้ว่าการในการสั่งสมบุญ
มันไม่ได้มากเกินไปเลยที่จะฆ่าสมาชิกตระกูลหวงเพิ่มอีกสักร้อยสองร้อยคน
ลู่เจิงหมิงและจ้าวกวงหยิบสมุดบัญชีออกมาและพลิกดูเล็กน้อย พวกเขาอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
ห้ะ! ห้ะ!
“บ้าไปแล้ว! ข้าก็พอรู้อยู่หรอกว่าตระกูลหวงนั้นจะต้องทำการเลี่ยงภาษีอย่างลับๆ แน่ๆ อย่างไรก็ตาม ข้าก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาจะไม่ได้เสียภาษีเลยสักตำลึงเดียว!” จ้าวกวงมองไปที่สมุดบัญชีอย่างประหลาดใจ
“จุ๊จุ๊ ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ว่าการมณฑลคนก่อนจะเก็บภาษีล่วงหน้าร้อยปี” ลู่เจิงหมิงเม้มริมฝีปากและเย้ยหยัน “ช่างน่าประทับใจ เฒ่าหวงคนนี้ช่างน่าประทับใจจริงๆ!”
ประชาชนในมณฑลจูเหอได้ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยตระกูลหวงและทางการอย่างสมบูรณ์
และด้วยวิธีนี้ หากพวกเขาไม่ได้เป็นทรราชหรือจอมยุทธ์ พวกเขาทั้งหมดก็จะต้องใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในนรกแน่นอน!
มันเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งสำหรับท่านผู้ว่าการมณฑลที่จะเลือกกวาดล้างตระกูลหวงก่อนเป็นอันดับแรก!
เมื่อตระกูลหวงถูกกำจัด เขาก็จะต้องได้รับผลบุญอย่างมหาศาลแน่นอน!
ปัง! ปัง! ปัง!
ในขณะนี้ ลู่เจิงหมิง, จ้าวกวง, (พระ)ฮุ่ยฉีและคนอื่นๆ ก็รู้สึกว่าพื้นดินกำลังสั่นสะเทือน และเมื่อพวกเขาตั้งใจฟัง พวกเขาก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นเสียงฝีเท้าหนัก!
คนรับใช้ของตระกูลหวงเริ่มยิ้มขึ้น บางคนถึงกับลุกขึ้นและตะโกนอย่างตื่นเต้น
“นายท่านมาพร้อมกับกำลังเสริมของเขาแล้ว ช่วยข้าด้วย นาย… อ้า!”
คนที่ยืนขึ้นและตะโกนถูก(พระ)ฮุ่ยฉีตัดหัวขาดในทันที
หลังจากเห็นฉากนี้ มันก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียงอีก
ไม่นาน การสั่นสะเทือนทั้งหมดก็หยุดนิ่งลง
ผู้เฒ่าหวงเดินออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับชายร่างกำยำสามคน พวกเขาสูงมากกว่าแปดฟุตและทุกคนก็สวมเกราะเหล็กที่ดูทนทาน พวกเขาทุกคนล้วนถือกระบี่เหล็กเอาไว้ในมือและดูดุร้ายมาก
ในเวลาเดียวกัน ร่างที่แข็งแกร่งและทรงพลังก็ได้ปรากฏขึ้นบนกำแพงโดยรอบ มันมีชายร่างกำยำมากมายหลายร้อยคน!
และที่สำคัญที่สุด ชายร่างกำยำเหล่านี้ต่างก็ถือหน้าไม้เจาะเกราะเอาไว้ในมือ!
ตราบใดที่พวกเขาเหนี่ยวไก ลูกธนูหลายร้อยดอกก็จะถูกยิงออกมาในทันที
“โอ้พระเจ้า ไอ้แก่นี่มันจะบ้าไปไหนเนี่ย! มันมีหน้าไม้เจาะเกราะอยู่เป็นร้อยอันเลย!” ดวงตาของลู่เจิงหมิงเกือบจะถลนออกจากเบ้า
หน้าไม้เจาะเกราะนี้เป็นหน้าไม้ชนิดพิเศษ มันทรงพลังมากจนสามารถทะลวงผ่านการป้องกันของจอมยุทธ์ชั้นหนึ่งได้ราวกับกระดาษ
แม้แต่ปรมาจารย์ขอบเขตเปลี่ยนปราณก็ยังไม่สามารถป้องกันมันได้
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงถูกนับเป็นอาวุธสงครามที่ต้องได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยราชสำนัก และหากเป็นช่วงยุคทองของราชวงศ์ ทั้งตระกูลหวงก็คงจะถูกจับไปประหารชีวิตแล้วหากพบหน้าไม้เจาะเกราะแม้แต่เพียงอันเดียว
“นี่คืออาวุธจากกองทัพของราชาหยาน และมันก็คือสิ่งที่หยานเฉิงได้มอบให้กับเขา!” ฮุ่ยฉีจำที่มาของหน้าไม้เจาะเกราะเหล่านี้ได้ จากนั้นเขาก็มองไปที่ลู่เจิงหมิง “เราควรจะทำอย่างไรต่อไปดี?”
“นั่นสินะ นี่มันน่าปวดหัวจริงๆ” ลู่เจิงหมิงเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จ้าวกวงก็กลับดูสงบมาก
“ข้าก็นึกว่าเจ้าผู้ว่าการหน้าตุ๊ดนั่นจะกล้ามาหาเรื่องข้าหวงชิซานเป็นการส่วนตัว!” คางของผู้เฒ่าหวงเชิดขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขากล่าวอย่างเหยียดหยาม “แต่ที่แท้มันก็เป็นแค่พวกจอมยุทธ์กระจอกๆ สองคน!”
“หึ! วันนี้ข้าอยากจะดูเหลือเกินว่าพวกเจ้าจะสามารถทนรับหน้าไม้เจาะเกราะเหล่านี้ได้ไหม! เด็กๆ! ยิงได้!”
เขาไม่เสียเวลาเลยและสั่งให้ยิงลู่เจิงหมิง จ้าวกวงและคนอื่นๆ ในทันที
แต่ในขณะนั้นเอง!
บู้มมมม!
ก่อนที่ลูกศรจะถูกยิงออกมาจากหน้าไม้ กำแพงที่เหล่าชายร่างกำยำกำลังยืนอยู่ก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
ในขณะนี้ กำแพงสูงก็ได้ถล่มลงมาจนไม่เหลือชิ้นดี
ฝุ่นผงและเม็ดทรายลอยคลุ้งเต็มไปหมดในอากาศ มันทำให้เกิดหมอกควันเป็นระลอก นอกจากนี้ หน้าไม้หลายร้อยอันก็ยังได้ถูกทำลายลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!” หวงชิซานตะโกนอย่างตื่นตระหนก เขาไม่ได้หยิ่งเหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไป
“ฮ่าฮ่า จ้าวซานเอ๋อ เจ้านี่มันร้ายจริงๆ!” ลู่เจิงหมิงหัวเราะ เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าจ้าวกวงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของทางการเอาระเบิดไปติดตั้งเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
“ตอนนี้แหละ!” ในขณะเดียวกัน ฮุ่ยฉีก็ตะโกนก้องพร้อมกับยกกระบี่ในมือของเขาขึ้น “ฆ่ามัน!!!”