ตอนที่ 88 งานหลักของมู้ดดี้ (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 88 งานหลักของมู้ดดี้
“แม็กนัส... หยุดเล่นกับนกฟีนิกซ์ได้แล้ว เราต้องกลับไม่งั้นพวกพ่อแม่ตามหาเราแล้วนะ” บ๊อบบี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการลากตัวกษัตริย์แห่งอังกฤษกลับบ้าน
“เลี้ยงอีกแค่ตัวเดียวนะๆ บ๊อบบี้ ฉันสัญญา ดูสิว่ามันน่ารักแค่ไหน” แม็กนัสอ้อนท้วง
“นายก็พูดแบบนั้นตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วนะ” บ๊อบบี้ไม่ยอมฟังคำพูดของเขา
"ทำไมพวกท่านไม่ใช้กุญแจนำทางล่ะเจ้าคะ?" คุณยายมาร์ธาเปล่งเสียง
แม็กนัส, รักนาร์, บ็อบบี้ และ เซเวอรัส หันมาหาเธอ แม็กนัสถาม "มันพาไปไหนครับ?"
"ในปราสาทของคุณใกล้ลอนดอนเจ้าค่ะ" เธอเปิดเผย
"ฉันได้ปราสาทเพิ่มเหรอ? เจ๋งอ่ะ..." เขาโห่ร้อง
"คุณเป็นเจ้าของปราสาท 36 แห่งทั่วโลกเจ้าค่ะ คุณจะได้เป็นเจ้าของมากขึ้นเมื่อคุณได้ขึ้นครองราชย์เจ้าค่ะ" มาร์ธาเปิดเผย
แม็กนัสตกตะลึง "ผ... ผมต้องจ่ายภาษีให้พวกเขาด้วยงั้นหรอ?"
"ไม่เจ้าค่ะ ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สมบัติผู้วิเศษ" เธอเคลียร์ข้อสงสัยของเขา แม็กนัสเกลียดการสูญเสียเงินมากที่สุด
“นี่หมายความว่า ผมจะกลับมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้งั้นเหรอครับ? เยี่ยมไปเลย กลับกันเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยพาพ่อกับแม่มาที่นี่” แม็กนัสตัดสินใจ
“ตามดิฉันมาเจ้าค่ะ ดิฉันจะพาไปห้องเก็บกุญแจให้ทุกท่านดู เป็นสถานที่ที่มีการป้องกันแน่นหนาที่สุดในปราสาทแล้วเจ้าค่ะ เนื่องจากเป็นที่เดียวที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาได้ นอกจากที่แห่งนี้ ทั่วทั้งเกาะจะมีระบบป้องการการใช้กุญแจนำทางชนิดอื่นรวมถึงการหายตัวด้วยเจ้าค่ะ” เธอบอกพวกเขาขณะที่พวกเขากำลังเดินตาม
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงห้องที่มีรูปปั้นมากมาย แต่รูปปั้นเหล่านี้ต่างก็เป็นกุญแจนำทางสำคัญถาวร การรักษาความปลอดภัยที่แท้จริงในห้องคือกำแพงไฟที่ปิดล้อมจากด้านข้าง เมื่อมีคนเข้ามาเท่านั้นที่จะแยกออกจากด้านใดด้านหนึ่ง และถ้ามีผู้บุกรุกเข้ามา ทั้งห้องก็จะลุกเป็นไฟ
"อันไหนไปลอนดอนครับ?" แม็กนัสถาม
"อันที่มีหมวกทรงกระบอกยาวแปลกๆ เจ้าค่ะ ดิฉันมักจะพบว่าคนลอนดอนเป็นคนแปลกๆ ดิฉันก็เลยทำแบบนั้นเจ้าค่ะ” มาร์ธาชี้ไปที่รูปปั้น
"โอเคฮะคุณยายมาร์ธา ผมจะกลับมาพร้อมกับพ่อแม่และมังกรสัตว์เลี้ยงของผมทีหลัง มังกรจะอยู่ที่นี่เพราะการเอาสัตว์ร้ายระดับ 5 เดินไปไหนต่อไหนข้างนอกอาจทำให้ผมเจอปัญหามากมายได้นะครับ” แม็กนัสแจ้งเธอ
เมื่อได้ยินเขา ดวงตาสีแดงของมาร์ธาก็เป็นประกาย “นั่นคงจะวิเศษมากเจ้าค่ะ
ดิฉันอยากให้มีมังกรอยู่ที่นี่มาตลอด เพราะกษัตริย์มีมังกรแต่ในนาม"
“ฮิฮิ จริงด้วย โอเคครับ แล้วเจอกัน ดูแลตัวเองด้วยนะครับ คุณยายมาร์ธา”
แม็กนัสโบกมือและเดินเข้าไปใกล้รูปปั้น
"บ๊อบบี้ มานี่หน่อย นี่คือกุญแจนำทาง มันสามารถเคลื่อนย้ายนายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ฉันถึงจะเตือนนายไว้ก่อน นายจะรู้สึกแปลกๆ ในท้องหลังจากใช้มัน แต่ห้ามปล่อยมือเด็ดขาดนะ” เขาเตือน
รักนาร์และเซเวอรัสก็เข้ามาจับมันเช่นกัน ในที่สุดแม็กนัสก็ถือมันและพึมพำ
"กุญแจนำทาง"
*วู้ววว...*
"น่าตื่นเต้นดีนะ ดิฉันน่าจะทำอาหารดีๆ ให้เขาตอนเขามาครั้งหน้า เพราะยังไงเขาก็เรียกดิฉันว่าคุณยาย” มาร์ธาพึมพำหลังจากที่แม็กนัสจากไป
...
*ฟืบ*
"อุแวะ~~..." X4.
พวกเขาทั้งหมดเริ่มอาเจียนทันทีที่มาถึงที่
“ทะ-ทำไมนายถึงอ้วกด้วยล่ะ?” รักนาร์ถาม
"ว่าไงนะ... นี่นายคิดว่าฉันจะชินกับเรื่องแย่ๆ นี่เหรอไงฮะ?"
แม็กนัสตอบกลับในขณะที่พยายามไม่อาเจียน
"อ้วกกกก... ฉันเกลียดกุญแจนำทาง" ขนาดบ๊อบบี้ยังคร่ำครวญ
สเนปอาเจียนอยู่เงียบๆ คนเดียวเพราะเขาหงุดหงิดมาก
"เดี๋ยวนะ! เรากลับลอนดอนแล้วเซฟจะกลับยังไงอ่ะ?” แม็กนัสถาม
ดวงตาของสเนปก็เบิกกว้างเช่นกันเขาก็เพิ่งนึกได้ เขาวางแผนอย่างรวดเร็ว "ฉันว่าจะขอยืมไม้กวาดนายหน่อย"
“ก็ได้ แต่นายควรไปพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวก็มืดแล้ว” แม็กนัสแนะนำ
เขาพยักหน้ากับสิ่งนั้น ไม่มีใครอยากท่องกลางคืนแม้แต่น้อย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ยังเป็นแค่เด็ก ขนาดผู้ใหญ่ยังกลัวสัตว์ประหลาดใต้เตียงได้ แล้วเด็กอายุ 11 ขวบจะเหลือหรอ?
"เจ๋ง มานอนบ้านของฉันก่อน อา เราต้องทำความสะอาดอ้วกพวกนี้ก่อน" แม็กนัสถอนหายใจ
“น่าจะซื้อเอลฟ์ประจำบ้าน” รักนาร์แนะนำ
"ไม่! ไม่เอาทาส" แม็กนัสปฏิเสธทันที
“ใครบอกว่านายว่าต้องปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนทาสล่ะ? แค่ให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นในตอนที่พวกเขาทำงานให้นาย” รักนาร์ยืนกราน
"ก็จริงแฮะ นายพูดถูก อืม… ไว้วันพรุ่งนี้ฉันจะไปที่กระทรวงเพื่อหาเอลฟ์สักสองตน มาดูกันดีกว่าว่าปราสาทนี้ใหญ่แค่ไหนก่อน” แม็กนัสตัดสินใจ
วิธีที่ดีที่สุดในการดูว่ามันใหญ่แค่ไหนคือการออกไปข้างนอกและมองจากมุมสูงระยะไกล ดังนั้นพวกเขาจึงขึ้นไม้กวาดและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่นานก็ชัดเจน ปราสาทหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่ใหญ่เท่ากับปราสาทอื่นๆ ที่พวกเขาเคยเห็น ส่วนที่ดีที่สุดของที่นี่คือความเขียวขจีที่อยู่รอบๆ
“เอาล่ะ เลื่อนการสำรวจมันไว้ก่อน กลับบ้านกันไม่งั้นแม่ฉันจะเข้าสู่โหมดสุดยอดนักสืบ บ๊อบบี้ นายจะนอนที่บ้านฉันด้วยไหม?” แม็กนัสถาม
“ไม่ วันนี้ฉันต้องกลับบ้านแล้ว หรือไม่ฉันอาจจะโผล่หน้าไปที่บ้านนายสักแวบค่อยกลับ” บ๊อบบี้กล่าวว่า
"เอางั้นเลย" เขากล่าว
หลังจากนั้นพวกเขาบินเป็นเวลา 15 นาทีและถึง บ้านเลขที่ 10 ซอยพรีเว็ต สถานที่นี้ดูน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อมองจากท้องฟ้า มีไฟส่องสว่างตามบ้านและถนน นอกจากนี้ยังมีไฟคริสต์มาส พ่อของแม็กนัสก็อยู่ที่นั่นด้วย กำลังเปิดไฟในบ้าน เขากลับเข้าสู่อารมณ์ที่มีความสุขและกระฉับกระเฉงเพราะได้งานคืนพร้อมกับขึ้นเงินเดือนและได้เลื่อนตำแหน่ง แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีและเหมือนฝันคือการได้รู้ว่าลูกชายของเขากำลังจะเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ความภาคภูมิใจของเขาแทบจะแตะขอบฟ้า
เช่นเดียวกับกรณีของเกรซ เธอทำอาหารมากพอที่จะเลี้ยงม้าที่หิวโหยได้สองสามตัว เธอแค่อยากจะเฉลิมฉลองทุกสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้น
“เอ่อ พ่อฮะ ผมช่วยนะครับ” แม็กนัสหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาแล้วโบกไม้
แถบไฟยาวทั้งหมดบินไปรอบๆ บ้านและวางไว้อย่างเรียบร้อย บางชิ้นบินไปที่สนามหญ้าเล็กๆ และตกแต่งบนต้นไม้นั้น
“เปิดไฟหน่อยฮะพ่อ” แม็กนัสพูด
อดัมรีบเสียบปลั๊กและเปิดสวิตช์
“ว้าว...” บ๊อบบี้อุทาน
แม็กนัสจุดไฟเพื่อทำให้มังกรยักษ์พ่นไฟออกมา แสงไฟในบ้านสร้างมังกรและบนสนามหญ้าเป็นไฟ
“เวทมนตร์สะดวกมาก” อดัมพึมพำกับตัวเอง
*ฟุดฟิด*
“พ่อฮะ! เข้าไปข้างในกันเถอะ แม่ทำกับข้าวหอมมากเสร็จแล้ว” แม็กนัสวิ่งเข้าไปในบ้านของเขาอย่างตื่นเต้น
"แม่ฮะ! ผมกลับมาแล้ว" เขาเข้าไปในบ้านพร้อมกับประกาศเสียงดัง
เกรซอยู่ในครัวได้ยินเสียงแม็กนัสก็หัวเราะออกมา เขาจึงวิ่งไปหาเธอเพื่อดูว่าเธอทำอาหารอะไรในวันนั้น
"อืม...กลิ่นหอมจัง เดาว่า... ไก่ใช่ไหมฮะ?" เขาถาม
"พร้อมน้ำเกรวี่จ่ะ สปาเก็ตตี้มีทบอล ลาซานญ่า และบราวนี่ไอศกรีมนะจ๊ะ" เธอกล่าวเสริม
“แจ่มฮะ บ็อบบี้ รักนาร์และเพื่อนของผมอีกคนจะมาทานข้าวและนอนบ้านเราด้วยฮะในวันนี้” แม็กนัสบอกเธอเพื่อให้แน่ใจว่ามีอาหารเพียงพอ
เธอรู้สึกมีพลังฮึกเหมทันที "ยิ่งมีเสียงดังมากเท่าไหร่ อาหารเย็นก็จะยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้นเท่านั้นนะจ๊ะ พาเพื่อนๆ ไปล้างมือก่อนนะ แม่จะเอาอาหารเย็นไปไว้บนโต๊ะ”
*แคว๊ก*
แม็กนัสมองไปที่ดั๊กซึ่งสวมเสื้อยืดตัวเล็กน่ารักและนั่งอยู่เหนือตู้เย็น
"นี่ดั๊ก แชดกับซัมเมอร์อยู่ไหน?" แม็กนัสถาม
เกรซชี้ไปที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งซัมเมอร์และแชดนั่งอยู่หน้าทีวีขณะที่รายการทอมแอนด์เจอร์รี่ฉายอยู่
“ฮ่าฮ่า ผมเดาว่าพวกเขาคงไม่ต่างจากลูกแท้ๆ มั้งฮะเนี่ย” แม็กนัสหัวเราะเบาๆ
“ลูกไม่รู้หรอก ซัมเมอร์เป็นเด็กดีมาก เธอทักทายคนส่งนมในตอนเช้าวันนี้ด้วยซ้ำ ถึงหน้าตาของเธอจะดูน่ากลัวเมื่อมองจากหน้าต่าง ทำเอาส่งนมก็กรีดร้องเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เลยล่ะจ่ะ” เกรซจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนเช้า
แม็กนัสหัวเราะเสียงดังและไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อกอดซัมเมอร์
“อ้อแล้วก็นะ แม็ก มีจดหมายถึงลูกด้วยนะจ๊ะ มันบอกว่ามาจากราชสำนักและลงชื่อยาวๆ ของคุณด้วย แม่เลยไม่ได้เปิด มันอยู่บนโต๊ะกาแฟนะจ๊ะ” เกรซบอกเขา
แม็กนัสไปดูจดหมายด้วยความสนใจ บนหน้าปกนั้นระบุที่อยู่ของแม็กนัส แต่จริงๆ แล้วจ่าหน้าซองถึงแม็กนัส แกรนท์ เอมรีส เพนดราก้อน ชื่อเต็มของเขาที่เป็นที่นิยมในโลกพ่อมดแม่มดเท่านั้น และพวกราชวงศ์คงรู้จักชื่อนี้ด้วย
~อืมมม... นี่มันคำขู่หรือคำขอโทษกันแน่เนี่ย~ เขาสงสัยและเปิดดู เกรซ อดัม สเนป รักนาร์ และบ็อบบี้ก็มาหาเขาเพื่อดูว่ามันเขียนว่าไง
...
ฝั่งตรงข้ามถนน ภายในบ้านที่สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์เช่าไว้ มีคน 2 คนคอยจับตาดูบ้านของแกรนท์อยู่ตลอด
"ว้าว... ดูการตกแต่งนั้นสิ เขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ ก็แหงล่ะว่าเขาเป็นเพนดราก้อนนี่นะ" บอดี้การ์ดหญิงกล่าว
คิงส์ลีย์มาส่องที่หน้าต่าง "เดี๋ยวนะ! เมื่อนาทีที่แล้วยังไม่มีอะไรเลย นั่นแม็กนัสเหรอ? เขาใช้เวทมนตร์เอาจริงดิ?"
เขาตกใจมาก แม็กนัสทำผิดกฎกระทรวงฯ ถึง 2 ข้อ แสดงเวทมนตร์ต่อหน้ามักเกิ้ลและใช้เวทมนตร์ขณะที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
“ใช่ มันเพิ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้” ผู้หญิงคนนั้นชี้แจง
*ฟุบ*
มู้ดดี้ก็มา คิงส์ลีย์อธิบายสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
"เธอได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือเปล่า?" มู้ดดี้ถาม
“ไม่ครับ ผมไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย” คิงสลีย์ตอบ
“ฮึ่ม..เจ้าเด็กเวรนั่น ดูเหมือนว่าร่องรอยจะไม่ได้มีผลกับเขา เขาเกิดมาพร้อมพรของพระเจ้าอย่างแท้จริง” เขาพึมพำและแอบดูบ้านแกรนท์อย่างไม่พอใจ เขามาที่นี่เพราะเขาได้รับข่าวร้ายจากงานในกระทรวง เกี่ยวกับตรามารที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาในตรอกน็อคเทิร์น
~ ว่าไอ้สารเลวพวกนั้นจะไม่โผล่มาที่นี่ ฉันเกลียดการฆ่าในช่วงวันหยุดคริสต์มาส~ มู้ดดี้บ่นกับตัวเองขณะกำไม้เท้าแน่น เขาจะไม่แสดงท่าทีผ่อนปรนต่อใครก็ตามที่พยายามทำร้ายแมกนัสหรือครอบครัวของเขา ไม่ใช่เพราะแม็กนัสเคยช่วยชีวิตเขาไว้ แต่เพราะเขาชอบเด็กคนนี้มากและอยากเห็นเขาเติบโตแล้วขึ้นครองราชย์อย่างแท้จริง
_____________________________