ตอนที่แล้วตอนที่ 448 - ชื่นมื่นกับภรรยาหลายคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 449 - เพลิงปรารถนา

ตอนที่ 700 ยกระดับสาวน้อยไตตัน


ปราสาทสายรุ้ง

เด็กสาวยักษ์แทบจะไม่เคยฝึกปรือฝีมือเลย  เวลาส่วนใหญ่นางจะนอนหลับกรนสนั่นหวั่นไหวทั้งวัน  ในขณะที่นางลุกขึ้นและยืดเส้นยืดสายเป็นครั้งคราว  ถ้าจะให้นางฝึกฝนหนักทุกวัน  อย่างนั้นก็คงจะไม่มีที่ให้นางทำเช่นนี้ เพราะแม้แต่ภูเขาคงจะพังทลายราพณาสูรเป็นแน่  นอกจากนี้ถ้าว่ากันตรงๆ แล้วแม้ว่านางเป็นยักษ์ที่มีส่วนสูงถึงสองร้อยเมตรก็จริง  ทว่านางยังเป็นเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม  ความคิดและบุคลิกนิสัยของนางเป็นผู้ใหญ่กว่าหนูน้อยซวงเอ๋อเพียงเล็กน้อย    นางเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ตามธรรมชาติเท่านั้น

ในการต่อสู้ร่วมกับเย่ว์หยาง  นางมักจะอยู่ในชั้นนักสู้ปราณฟ้าระดับสามไม่เคยเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

แต่ในความเป็นจริงก็มีการเลื่อนระดับสองสามครั้งแล้ว

ไม่ใช่เป็นการเลื่อนของพลังของนางแต่เป็นที่เกราะไตตันที่เข้ากับร่างของนางได้ดีขึ้น หรือไม่ก็ความเข้าใจในทักษะการต่อสู้ของนางทำได้ดีขึ้น

ความก้าวหน้าของนางเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เย่ว์หยางเห็นว่านางยังห่างจากชั้นปราณฟ้าระดับสี่เล็กน้อยจึงตัดสินใจช่วยให้นางเลื่อนระดับเร็วขึ้น  เพื่อให้พลังการสู้รบอีกครึ่งเดือนข้างหน้าเพิ่มทะยาน

การช่วยเด็กสาวยักษ์ให้ก้าวหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย  ใช้เวลาถ่ายเทโคจรพลังปราณก่อกำเนิดในร่างนางประมาณหนึ่งสัปดาห์

ร่างของไตตันโบราณใหญ่โตมากเกินไป  ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเด็กสาวยักษ์ยังสืบสายเลือดราชวงศ์ไตตันโบราณ  ร่างของนางจึงมีขนาดใหญ่กว่าธรรมดา  อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางยังมีวิธี  เขาเรียกสาวกิเลนปิงหยินออกมาจากการอาบเพลิงอมฤตให้นางใช้เวทบางอย่างที่เย่ว์หยางเรียกชื่อไม่ถูกเพื่อย่อร่างเด็กสาวยักษ์ลงสิบเท่ากลายเป็นยักษ์สูงยี่สิบเมตร

“ลำบากจริงๆ กว่าข้าจะหลับได้แต่ละที  แต่ข้าก็ยังโดนปลุกมาช่วยทำงานให้เจ้า  ข้าดวงไม่ดีเลยจริงๆ!”  สาวกิเลนอ้าปากหาวอย่างน่ารักขณะที่นางย่อร่างเด็กสาวยักษ์เพื่อให้เย่ว์หยางเริ่มงานต่อ

“เจ้าทำให้ข้าตัวใหญ่ขึ้นได้ไหม?  ขอสักหนึ่งกิโลเมตรได้ไหม?”  เด็กสาวยักษ์กระพริบตาปริบๆ ถาม

“ตามทฤษฎีข้าทำได้”  สาวกิเลนระบุว่ามีความเป็นไปได้

“ดีจริง, ไว้ข้าหาภูเขาเจอสักลูก เจ้าค่อยทำให้ข้าโตกว่าภูเขาก็แล้วกัน”  เมื่อได้ยินเช่นนี้ เด็กสาวยักษ์มีความสุขมาก

“หือ? ทำไมล่ะ?”  สาวกิเลนและเย่ว์หยางสงสัย

“แม่บอกว่าถ้าข้าสูงกว่าภูเขา  จึงจะถือว่าข้าโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ต่อให้ข้ายังไม่โต ข้าก็ต้องการรู้จริงๆ ว่าข้าจะดูเหมือนอะไรเมื่อตอนที่ข้าสูงกว่าภูเขาในอนาคต”  ถ้าเผ่าพันธุ์คนแคระได้ยินคำพูดของนางคงได้ร้องไห้น้ำตาท่วมทั้งเผ่าเป็นแน่  เมื่อเย่ว์หยางและสาวกิเลนได้ยินเช่นนี้ต่างพูดไม่ออก  สูงสองร้อยเมตรยังไม่พออีกหรือนี่?  เป็นไปได้ไหมว่าราชวงศ์ไตตันโบราณจะสูงถึงหนึ่งกิโลเมตร?

เย่ว์หยางสิ้นเปลืองพลังปราณก่อกำเนิดไปกับการเปิดเส้นชีพจรให้เด็กสาวยักษ์

นอกจากนั้นยังเชื่อมเส้นชีพจรให้ทั้งหมด

ตามเงื่อนไขธรรมดา เส้นชีพจรเกลียวแบบใหม่จะถูกสร้างขึ้น

ในร่างของไตตันโบราณ มีเส้นชีพจรพิเศษไหลเวียนซ่อนอยู่อย่างเลือนราง แต่ไม่มีการเชื่อมถึงกัน ไม่มีรูปลักษณ์แท้จริง  เย่ว์หยางสร้างขึ้นในร่างของเด็กสาวยักษ์อย่างกล้าหาญและแม่แบบที่ทำอย่างนี้ได้ก็คือโคเงาอาหมัน และร่างของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นเย่ว์หยางช่วยให้เปลี่ยนแปลงได้ครั้งแล้วครั้งเล่าได้  อย่างไรก็ตามเด็กสาวยักษ์มีความแข็งแกร่งมากพอ  ดังนั้นไม่ว่าเขาทำอะไรก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนาง

ความจริงเป็นเรื่องง่ายกับการช่วยให้ไตตันโบราณเปิดเส้นชีพจร ยังง่ายกว่ามนุษย์เสียอีก

เพียงแต่ส่วนที่ยากก็คือเขาสิ้นเปลืองพลังปราณก่อกำเนิดไปมาก  เย่ว์หยางต้องดื่มน้ำทิพย์ถึงสิบครั้งเพื่อทำโครงการยักษ์ (จริงๆ) ครั้งนี้ให้สำเร็จ

“วันนี้เราจะหยุดไว้เท่านี้ก่อน  ต่อไปเราจะโคจรย้อนกลับ!”  เย่ว์หยางรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะลองพยายามดูว่าจะมีผลอย่างไรถ้าโคจรพลังย้อนกลับเชื่อมกับร่างของไตตันโบราณ  หลังจากถ่ายเทพลังปราณก่อกำเนิดผ่านเส้นชีพจรของนางแล้ว เย่ว์หยางจะใช้เพลิงอมฤตชำระปรับเปลี่ยนร่างนาง  สาวกิเลนปิงหยินใช้วิชาย่อร่างอมตะของนางช่วยแล้วก็ยังทำให้เหน็ดเหนื่อยมากมาย ทันทีที่นางเห็นว่าเย่ว์หยางสามารถหยุดได้  นางรีบเผ่นไปพักโดยเร็ว

“พี่ใหญ่เหนื่อยมากหรือเปล่า?”  แม้ว่าเด็กสาวยักษ์จะดีใจที่ตัวนางมีความก้าวหน้า  แต่นางก็ต้องกล่าวคำขอโทษ  “พี่ใหญ่! ทำไมท่านไม่พักสักหน่อยเล่า ถ้าไม่สำคัญนักก็พักสักสองสามวันก็ได้!”

“ไม่เป็นไร” เย่ว์หยางรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น

เขาเรียกหงส์เพลิงอมฤตออกมาและส่งเข้าไปในร่างของเด็กสาวยักษ์

จากภายนอกเข้าไปภายใน และจากภายในออกมาด้านนอก

การชำระร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ทำให้เด็กสาวยักษ์ได้รับการชำระเอ็นไขกระดูกเส้นชีพจร ทำให้นางตกอยู่ในอาการเจ็บปวดก่อนที่จะมีความรู้สึกเกิดใหม่อีกครั้ง

เมื่อลี่เยี่ยนเห็นเด็กสาวยักษ์กัดฟันเจ็บปวดนางอดรู้สึกประทับใจไม่ได้  ทั้งนี้เป็นเพราะก่อนหน้านี้ เย่ว์หยางก็ใช้เพลิงอมฤตชำระร่างให้นาง  นอกจากนี้ความรู้สึกในการชำระร่างคราวนั้นยังด้อยกว่าเมื่อหงส์เพลิงอมฤตเคลื่อนไหวต่อเนื่องผ่านร่างกายแผดเผาจากภายในและภายนอก... สำหรับเด็กสาวยักษ์สามารถทนได้ แต่ลี่เยี่ยนไม่กล้าพูดว่านางจะสามารถทนได้  แม้ว่านางจะตกทอดสายเลือดมังกรโบราณแต่นางไม่อาจเทียบได้กับสายเลือดเชื้อพระวงศ์ไตตันโบราณได้

ในที่สุดเด็กสาวยักษ์อดงอตัวไม่ได้

แต่นางต้องอดทน นางไม่ต้องการล้มลงกับพื้น

นางจิกมือกับพื้น

และมุ่งมั่น

หงส์เพลิงอมฤตทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าและจากนั้นบินโฉบลง มันทะลุเข้าไปในร่างของนางและสร้างลำแสงเพลิงอมฤตลุกโชติช่วงในท้องฟ้า

เด็กสาวยักษ์ที่ถูกอาบไปด้วยเพลิงอมฤตลุกขึ้นยืนและคำรามใส่ท้องฟ้า  หลังจากนั้นเป็นเวลานาน ตลอดทั้งร่างของนางเปล่งแสงสีทองราวกับเทพจุติมายังโลกมนุษย์ ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางควบคุมเวลาและพลังจิตไว้  ปราสาทสายรุ้งคงพังทลายเป็นเสี่ยงทันทีเมื่อนางยกระดับ

“น่าอัศจรรย์จริง” หลังจากออกมาจากสมรภูมิโบราณ พวกสาวองครักษ์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับเด็กสาวยักษ์ทุกคนยืนสังเกตอยู่ด้านหลังเย่ว์หยาง  หญิงงามเผ่ามนุษย์สุนัขปรบมือร่าเริง

“เจ้าอยากจะลองดูบ้างไหม?”  เย่ว์หยางจงใจหยอกล้อนาง

“ไม่ดีกว่า, เรามีระบบรักษาร่างกายอยู่แล้ว  ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องกลายเป็นผู้ทรงพลัง”  หญิงสาวเผ่ามนุษย์สุนัขกระดิกหางเบาๆ และยื่นมือน้อยๆ มาทางเย่ว์หยาง  “ท่านจะไม่ให้สมบัติรางวัลกับข้าบ้างหรือ?”

“ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าก็ลืมไปแล้ว”  เย่ว์หยางโยนแว่นชนิดข้างเดียวให้นาง

“นี่มันสมบัติอะไร?” หญิงสาวเผ่าสุนัขถามอย่างมีความสุข

“นี่เป็นสมบัติที่ทรงพลังอำนาจมาก ชื่อเต็มก็คือแว่นตาสุนัขไร้ใจ และถ้าเจ้าสวมใส่ มันจะปกป้องตาของเจ้าจากทุกสิ่งทุกอย่าง  นี่เป็นสมบัติที่ทรงพลานุภาพมาก เจ้าจะไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ระวังด้วยเล่า!  เจ้าเป็นคนเดียวในโลกที่ได้สมบัติที่ไม่เหมือนใครนี้”  เย่ว์หยางตอบเป็นจริงเป็นจัง

“....” กลุ่มนักรบองครักษ์สาวที่เพิ่งหลุดพ้นจากคำสาป ไม่เคยกลับไปยังสมรภูมิโบราณอีกเลย เมื่อได้ฟังเช่นนี้ก็แทบจะลมจับ

“นี่มันของดีจริงๆ เหรอ?”  สาวงามเผ่ามนุษย์สุนัขรู้สึกว่าเป็นของที่ไม่มีประโยชน์  แต่นางไม่อาจตัดใจโยนทิ้งได้  สมบัติที่ไม่เหมือนใครคือสิ่งที่นางตัดใจปฏิเสธไม่ได้

“แน่นอน นี่เป็นสมบัติร้อยเปอร์เซนต์!”  เย่ว์หยางเรียนรู้เคล็ดลับในการสร้างหุ่นรบสามารถสร้างของที่น่าเบื่ออย่างนั้นได้

“โอว...”  เมื่อเห็นการกระทำของเย่ว์หยางที่ชอบหลอกล่อเด็ก ลี่เยี่ยนยกมือทำท่าปาดเหงื่อโดยไม่รู้จะพูดยังไง

อาการอย่างนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเย่ว์หยาง

ถ้าเป็นในอดีตที่ผ่านมา นางคงไม่มีทางทำตัวเองอย่างนั้น

เพียงคนเดียวที่เคารพเชื่อฟังเย่ว์หยางจับใจก็คือแพนด้าน้อยหนิวหนิว

เด็กสาวยักษ์ผู้เลื่อนระดับเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ได้สำเร็จรอให้เพลิงอมฤตเปลี่ยนเป็นหงส์เพลิงและกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางก่อนจะหัวเราะร่าอย่างมีความสุข

หลังจากมีความสุขชั่วขณะแล้ว นางก้มลงและขอเย่ว์หยางออกไปสู้ “พี่ใหญ่!  ตั้งแต่ท่านบอกว่าจะออกไปทุบตีเจ้าบัดซบนั่น  ข้าจะไปโค่นเอาชนะเขาเอง  ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าพลังของข้าแทบจะระเบิดอยู่ในร่างข้าแล้ว  ข้าไม่กลัวศัตรูหน้าไหนต่อไปอีกแล้ว  ฮ่าฮ่า วิธีการของพี่ใหญ่ยอดเยี่ยมที่สุด  ตอนนี้หาศัตรูมาให้ข้าสู้เร็วๆ  ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งดี!”

เย่ว์หยางเหงื่อไหงพรั่งพรู

โชคดีที่ลี่เยี่ยนร่วมมือกับเย่ว์หยางช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากนี้

เพื่อป้องกันไม่ให้ปราสาทสายรุ้งถูกทำลายจากการต่อสู้ของพวกนาง  เย่ว์หยางจะพาพวกนางไปที่เมืองลมดำ แดนสวรรค์ใต้

การสู้รบครั้งนี้จะทำให้เกิดหายนะใหญ่กับเมืองลมดำ แดนสวรรค์ใต้

แม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร และคนอื่นก็ยังตะลึงเมื่อทราบข่าว  แค่ไตตันโบราณปราณฟ้าระดับสี่ และสาวยักษ์ลี่เยี่ยนปราณฟ้าระดับห้าเมื่อพวกนางสู้กันจะรุนแรงขนาดไหน?  คำว่าโลกแตกคงจะใช้อธิบายได้ไม่พอ  หลังจากพวกนางระเบิดพลังรุนแรง  การปะทะของพวกนางแต่ละครั้ง  สร้างแรงระเบิดรุนแรงน่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง  ก่อนหน้านี้ที่สุสานรอบนอกแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ยังไม่ได้ใช้พลังจริงจังอะไรนัก  ในพื้นที่ว่างแดนสวรรค์ใต้  ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น พื้นที่หลายสิบกิโลเมตรถูกกวาดพังทลาย

แรงระเบิดเหมือนกับพายุหมุนรุนแรงกวาดเอาต้นไม้ในระยะสามสิบกิโลเมตรหายไปหมด

ภายในพื้นที่ใจกลางสิบกิโลเมตรไม่ว่าจะเป็นภูเขา เนินเขา โขดหิน ต้นไม้ทุกอย่างแหลกกระจายเป็นชิ้น

หลังจากการปะทะกันเกิดเป็นหลุมคล้ายหลุมอุกกาบาต  แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรุนแรงสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนทำให้ดินและฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นคลุมไปทั้งท้องฟ้า

เจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่งและปีศาจเฒ่าเว่ยที่กำลังประชุมลับในเมืองลมดำมีสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงการต่อสู้นี้  พวกเขาสันนิษฐานว่ายอดฝีมือจากสำนักทงเทียน สำนักมังกรทะยานและวังมารมาถึงแล้วและกำลังทำสงครามกับนักสู้ปราณฟ้าที่ไม่รู้จัก  การปะทะกันโดยตรงอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องที่นักสู้ปราณฟ้าธรรมดาจะทำได้

แม้แต่ปีศาจเฒ่าเว่ยที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าก็ยังไม่มั่นใจ

เขาไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้าแบบนั้น  ถ้าเขาถูกพลังแบบนั้นโจมตี เขาคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว

การต่อสู้ดำเนินไปต่อเนื่องสามชั่วโมงโดยไม่มีการพัก....  เจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่ง ปีศาจเฒ่าเว่ยและคนอื่นต่างกระวนกระวาย  แน่นอน, พวกเขาไม่รู้ว่าการต่อสู้ระหว่างลี่เยี่ยนกับเด็กสาวยักษ์จบลงแล้ว เพียงแต่สลับให้อาหมันลงสู้แทน

ถ้าไม่มีเงายักษ์ช่วยลี่เยี่ยนคงไม่สามารถปะทะโดยตรงกับเด็กสาวยักษ์ได้

อาหมันมีพลังของไตตันและหัวใจธรณีสาร  นางคือเทพธิดาศึกผู้ไม่รู้จักเหนื่อย  ในฐานะคู่ซ้อมของเด็กสาวไตตัน อาหมันมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด

ดังนั้นการสู้รบที่ทำให้เจ้าเมืองลมดำและคนอื่นตื่นตัวอย่างต่อเนื่องตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน  เมื่อการต่อสู้อย่างเป็นทางการจบลงเด็กสาวยักษ์ก็หมดแรงพอดี

พอรอให้เย่ว์หยางและคนอื่นๆ จากไป

เจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่งและปีศาจเฒ่าเว่ยมาสังเกตดูสนามต่อสู้ทันที

ทันทีที่พวกเขาเห็นเช่นนี้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป  แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมตัวเตรียมใจอยู่ก่อนแล้ว  แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าพลังในการต่อสู้ครั้งนี้จะสยดสยองอย่างนี้  เจ้าเมืองลมดำคิดว่าถ้าเจ้าแคว้นมรกตออกหน้า หลายๆ อย่างคงจะดีขึ้น  แต่ตอนนี้พอเขาเห็นสภาพหักพังหลังจากต่อสู้ หัวใจของเขาพลันเย็นเฉียบ

“เอื๊อก!” หน้าของปีศาจเฒ่าเว่ยซีดเซียวขณะเขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

เพราะเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองเล็กกระจ้อยร่อยและอ่อนแอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด