ตอนที่ 458 สุนทรพจน์ปลุกใจ
ฝูเยี่ยนร้องขอความช่วยเหลือมาถึงกลุ่มดาววาฬและขณะเดียวกัน กองพลวาฬดำก็ขอความช่วยเหลือมาด้วยเช่นกัน
รายงานก่อให้เกิดโกลาหลไม่มีใครคาดเลยว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะไร้ยางอายและใช้วิธีที่น่ารังเกียจและเอารัดเอาเปรียบ การต่อสู้ครั้งก่อนของถังเทียนล้วนเป็นการรบโดยตรงซึ่งหน้าทำให้ผู้คนสรรเสริญความกล้าหาญของเขา แต่การสู้ในปัจจุบันทำให้ลมเปลี่ยนทิศทันที
“นี่ก็หมายความว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่อับจนหนทางและหมดความสามารถของตนเอง! พวกเขาไม่มีทางอื่นเพื่อหยุดยั้งเราทหารกล้าของกลุ่มดาววาฬทั้งหลาย ชัยชนะอยู่ข้างหน้า ตราบใดที่เรายังผลักดันต่อไปกลุ่มดาวหมีใหญ่จะตกเป็นของเรา! วีรบุรุษผู้กล้าทั้งหลายผู้บุกเบิกดินแดนใหม่เพื่อกลุ่มดาววาฬจะได้รับรางวัลอย่างดี พวกเขาพยายามสู้กับโจรที่มาหยุดเรา แต่พวกเขาไม่รู้ พวกโจรหมาป่าชั้นต่ำเหล่านั้นจะต้องกลายเป็นหินลับมีดของนักสู้ชาววาฬของเรา! พันธมิตรของเรา สมาพันธ์ชาวยุทธจะส่งผู้เชี่ยวชาญสายเลือดมาช่วยให้เราคว้าชัยชนะตอนนี้ข้าจะตั้งรางวัลค่าหัว นักสู้หมาป่าจะมีรางวัลหมื่นเหรียญดาว! ทหารผู้กล้าแห่งกลุ่มดาววาฬของข้า พวกเจ้าทุกคนยังจะรออะไรอยู่อีก?”
คำพูดของกงชิงปลุกใจสร้างกำลังใจอย่างสูงทำให้นักสู้ชาววาฬทุกคนนัยน์ตาเป็นประกาย โจรหมาป่าน่ะหรือ?พวกมันคือนักสู้ที่ถือกำเนิดมาจากดินแดนยากจนและกันดารมีความหนาแน่นของพลังดวงดาวเพียง 1% ยิ่งกว่านั้นยังมีค่าหัวถึงหนึ่งหมื่น!
นั่นทำให้หลายคนที่ยังไม่เป็นนักสู้ที่ดีกระตือรือร้นทันทีใช่แล้ว พลังของพวกเขาธรรมดามาก แต่เมื่อเทียบกับกระสุนมนุษย์กลุ่มดาวหมาป่าแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่า
และด้วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่สมาพันธ์ชาวยุทธส่งมาทุกคนค่อยวางใจ
กลุ่มดาววาฬพากันตื่นเต้น
กงชิงพูดปลุกใจเสร็จก็ดื่มน้ำกลั้วคอ
ผู้เฒ่าจางยกย่องชื่นชม “สุนทรพจน์ของฝ่าบาทน่าประทับใจ! ค่าหัวหมื่นเหรียญทอง นั่นเป็นความคิดที่ฉลาดและมองการณ์ไกลจริงๆ มีเพียงฝ่าบาทที่คิดได้อย่างนั้นด้วยเหรียญดาว10 พันล้านก็ใช้กำจัดนักสู้หมาป่าได้ล้านคน ข้าเชื่อมั่นฝ่าบาทจริง”
กงชิงรู้สึกยินดีและยิ้มออกมา“เขาต้องการใช้กลยุทธกับข้า เราสามารถร่วมกับพวกเขา ใครจะรู้ ถ้าเผ่าพันธุ์หมาป่าถูกล้างเผ่าพันธุ์ก็คงทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจจริงๆ”
“ฝ่าบาทมีเมตตาจริงๆ!” ผู้เฒ่าจางยกย่องทันที
“เรื่องผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือด ข้าจะต้องขอร้องให้ผู้เฒ่าจางทำงานอย่างหนัก”
ผู้เฒ่าจางตอบทันที “วางใจได้เลยฝ่าบาท กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดส่งออกไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดระดับสูงของสมาพันธ์พลังของเขายากจะหาใครเทียบได้”
กงชิงยิ้ม “งั้นข้าก็วางใจแล้ว”
*****
เมืองสามวิญญาณ
“ข้าเพียงแต่รับสมัครคนมาได้เพียงเท่านี้” ติงตังกล่าวอย่างจนใจ
ถังโฉ่วชำเลืองมองนักสู้ที่ด้านหลังของติงตังราวๆ สี่สิบคน ทุกคนมีพลังปราณและความแข็งแกร่ง ยากจะหยั่งถึง โลกในปัจจุบันปั่นป่วนและสถานะของนักสู้ยังมีพัฒนาการตามสถานการณ์ที่สำคัญยิ่งกว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะรับสมัคร เนื่องจากมีคนรวยหลายคนในช่วงปีนี้และตราบใดที่พวกเขามีความสามารถ จะมีคนสามารถจ่ายได้ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน
การป้องการฐานมักจะมีปัญหา แม้ว่าพวกเขาจะจัดแนวป้องกันที่เป็นอาวุธจักรกลเป็นชั้นๆ และมีกองทหารรักษาการณ์ในฐาน แต่ถ้าเผชิญกับยอดฝีมือก็มักจะมีปัญหา ถ้าไม่ใช่เพราะถังอี้มาถึงทันเวลา พวกเขาคงต้องต่อสู้กันอย่างยากลำบาก
เพราะเหตุนั้นถังโฉ่วจึงเสนอให้จัดระเบียบการป้องกันฐานมติผ่านอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันนี้ความสำคัญของเมืองสามวิญญาณสำคัญมากและแม้ว่าจะมีนักสู้อยู่หลายคนในเมืองสามวิญญาณแต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักสู้สายจักรกล ในอดีตที่ผ่านมาหลายปี นักสู้สายจักรกลล้วนอ่อนแอกันหมด และแม้จะมีพลังเพิ่มจากการตั้งกองทัพแต่เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือก็ยังเป็นเรื่องยาก
ทุกคนคิดว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้การป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นและการรับสมัครมอบให้ติงตังรับผิดชอบ
ติงตังผู้รับหน้าที่ในการหาข่าวมีเครือข่ายสหายอยู่มากและแม้จะใช้ช่องข่าวกรองแต่หลังจากนั้นนางยังคงรับสมัครนักสู้มาได้สี่สิบคน
“พวกเขาทุกคนเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีแต่ไม่ได้เป็นนักสู้ระดับทอง ตอนนี้มีนักสู้ระดับทองที่ว่างอยู่น้อยมากในสี่สิบคนนี้มีสิบคนมีระดับช่วง 4000-6000 และที่เหลือ 27 คนมีระดับเกิน 6000 ทุกคนนี่คือข้อมูลทั้งหมดของพวกเขา ข้าจะมอบให้เจ้า”
ติงตังยื่นข้อมูลนักสู้ให้กับถังโฉ่วเขาขอบคุณนางอย่างสุภาพ
ติงตังมองดูถังโฉ่วด้วยท่าทางแปลกในฐานะคนที่ทำงานข่าวกรอง นางมีความรู้สึกไวมากต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถรู้สึกได้ว่าถังโฉ่วมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างแม้ว่าถังโฉ่วมักจะสุภาพอยู่เสมอ
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา...
ความคิดนั้นผ่านใจนางไปอย่างรวดเร็ว แต่นางก็ไม่คิดเรื่องนั้นมาก ถังโฉ่วเป็นหนอนตำราสำหรับนาง ต่างจากขุนพลทหารปกติจะสอนนักสู้สายจักรกลและทำสิ่งที่ขุนพลวิญญาณทหารไม่ค่อยทำกัน
ใต้เท้าปิงบอกว่าถังโฉ่วคือผู้นำทหารประเภทประจำสำนักงานผู้นำทหารประจำสำนักงานเป็นแบบนั้นหรือ? แต่ผี่ผาก็ยังชื่นชมถังโฉ่วมาก่อน แม้ว่าทั้งสองจะถกเถียงกันบ่อย
ถ้าถังโฉ่วแข็งแกร่งมากขึ้นนั่นจะเป็นเรื่องที่ดี แม้ว่าปัจจุบันอันตรายทั้งหมดที่ฐานเผชิญค่อนข้างอ่อนแอแต่ก็ยังทำให้ติงตังกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองสามวิญญาณนั้นเพิ่มความสำคัญมากขึ้นทุกทีและกลุ่มคนต่างๆที่เมืองสามวิญญาณเกี่ยวข้องด้วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมืองสามวิญญาณเหมือนกับชิ้นขนมอร่อยที่ทุกคนต้องการชิม แม้ว่าในสายตาของสวรรค์วิถี พลังของเมืองสามวิญญาณยังไม่นับว่าแข็งแกร่ง
ติงตังก็ให้ความสนใจทางลับ ดังนั้นเมื่อข้อเสนอของถังโฉ่วผ่านติงตังจึงลงมืออย่างรวดเร็วและสามารถรับสมัครนักสู้แข็งแกร่งได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ระหว่างช่วงเวลาที่สามารถรับสมัครนักสู้ผู้แข็งแกร่งนั้นมีน้อย แน่นอนเงินเดือนของยอดฝีมือก็น่าทึ่งเช่นกันทุกคนมีค่าตัวเกินพันล้าน ยี่สิบคนก็หมายถึงยี่สิบพันล้าน แต่ก็ถือว่าเป็นความปลอดภัยที่แท้จริง เนื่องจากเมืองสามวิญญาณในปัจจุบันถือว่ามีอิทธิพลในท้องถิ่น
“เชิญตามข้ามา”
ถังโฉ่วไม่ไม่ดูข้อมูลนักสู้ในมือของเขาและเดินนำทาง ติงตังสงสัยว่าถังโฉ่วจะสั่งการนักสู้อย่างไรดังนั้นนางจึงเดินตาม
นักสู้ไม่ได้แสดงความเย่อหยิ่งในเมื่อความสำเร็จทางอาชีพของพวกเขาค่อนข้างสูง ที่สำคัญยิ่งกว่า ก่อนมาถึงติงตังให้พวกเขาดูภาพบันทึกของการสู้กับกลุ่มโจรสายลมและบอกพวกเขาว่าคนที่นำกองทหารก็คือถังโฉ่ว
ชื่อของโจรสายลมมีศักดิ์ศรีและรู้จักกันดีทำให้พวกนักสู้ต้องการพบกับถังโฉ่ว
ถังโฉ่วพาพวกเขามาที่สนามฝึกและเริ่มการทดสอบที่ซับซ้อนและละเอียดการทดสอบมีหลายอย่างต่างกัน หลายคนไม่เคยได้ยินมากก่อนทำให้พวกนักสู้มีความสนใจ และพวกเขาทุกคนทดสอบด้วยความสนใจแบบขัดเคืองบ้างจนเสร็จสิ้น
ในเวลาอันรวดเร็วถังโฉ่วให้พวกเขาได้สังเกตดูและรู้สึกถึงความสามารถของเขาโดยตรง
“ฉีเหล่ย,พื้นที่โจมตีที่ถนัดที่สุดของท่านคือด้านขวาพื้นที่ระหว่างสองเมตรถึงสิบเมตรห่างจากช่วงความยาวแขน พลังโจมตีเริ่มแรก 75% และท่านมีความคุ้นเคยพื้นที่นี้แล้วรูปแบบการปล่อยพลังของท่านบางทีอาจสูงถึง 83%ในการโจมตีพื้นที่ส่วนนี้และซี่โครงซ้ายล่างคือจุดของท่าน”
“หวังปัว, วิชาพลองของเจ้ารุนแรงมากแต่ปัญหาคือตราบเท่าที่เจ้ารุกโจมตีมากกว่าหกครั้ง จังหวะของเจ้าจะผิดปกติ และข้อผิดพลาดระหว่างวิชาพลองยังมีการชะงักอย่างเห็นได้ชัดซึ่งจะกลายเป็นจุดอ่อนของเจ้าและแผ่นเกราะเจ้าต่ำเกินไปแม้ว่าจะช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงมั่นคงยิ่งขึ้นแต่จะจำกัดพื้นที่ในการโจมตีของเจ้าไว้”
……
ติงตังสามารถเห็นได้ชัดว่านักสู้ทุกคนมีสีหน้าอึดอัดใจและสองสามคนหลั่งเหงื่อเยียบเย็นกระชับอาวุธของพวกเขาแน่น ติงตังประหลาดใจมาก เป็นไปได้หรือนี่ถังโฉ่วเห็นนักสู้แต่ละคนๆ จากการทดสอบจริงๆ?
นางรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือเกินไปเนื่องจากในสายตานาง การทดสอบทั้งหมดยุ่งเหยิงและเป็นการทดสอบสุ่มๆและนางไม่สามารถเข้าใจการใช้งานเลยแม้แต่น้อย
จุดที่ถังโฉ่วชี้และวิจารณ์ทีละจุดนั้นสร้างความตกใจให้กับนักสู้อย่างสิ้นเชิง
นักสู้ที่สามารถฝึกฝนมาจากสถานที่ของพวกเขาถึงกับตกตะลึงงันกันไปหมดได้อย่างไร?
ตอนแรกพวกเขาตกใจและโกรธ ตกใจกับความจริงที่ว่าถังโฉ่วอ่านพวกเขาทะลุหมดโกรธจากความจริงที่ว่าจุดอ่อนของพวกเขาถูกประกาศออกมาทำให้พวกเขารู้สึกอันตราย
ถังโฉ่วรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรและเขาพูดหนึ่งประโยคทำให้พวกนั้นสงบได้ทันที
“ทุกท่านได้ลงนามสัญญาจิตวิญญาณยุทธไปแล้วจากวันนี้เป็นต้นไป พวกท่านทุกคนเป็นหน่วยเดียวกันมันเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าสำหรับทีมพวกท่านต้องเข้าใจจุดอ่อนของพวกท่านมากกว่าให้พวกเขารู้ข้อได้เปรียบของตัวพวกท่าน เพราะเพื่อนร่วมงานข้างหน้าท่านสามารถกำหนดความเป็นความตายท่านได้และเพื่อนร่วมงานข้างหลังก็สามารถช่วยให้ท่านได้ชัยชนะได้”
หลังจากลงนามสัญญาจิตวิญญาณยุทธแล้วไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกเขาจะทรยศหักหลังดังนั้นสายตาของนักสู้จึงมีความเป็นมิตรมากขึ้นทันที
“เพื่อประโยชน์บรรลุผลการต่อสู้ที่ดีกว่าเราจำเป็นต้องทดสอบเป็นกลุ่มต่างๆ กันและจำเป็นต้องจัดกลยุทธ์ที่สอดคล้องกัน”
เสียงของถังโฉ่วสงบมากและให้พลังที่น่าเชื่อถือ
นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตั้งใจฟังเหมือนกับนักเรียนที่ว่าง่าย
เขา...ดูเหมือนจะกลายเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง...
ติงตังมองดูถังโฉ่วและไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง
**************
ในแผนกงานโลหิตวิทยาคำพูดที่ไม่จริงจังและไม่สำคัญของปิงดังก้องทำให้ผ่อนคลายและเรียกเสียงหัวเราะเป็นครั้งคราว
“หึหึ,คณะนักโลหิตวิทยา โอว นักโลหิตวิทยาผู้มีประสบการณ์มากที่สุดของสมาพันธ์ชาวยุทธ เมื่อได้ยินข่าวนั้น ทำเอาข้าอึ้งไปเลยหลังจากนั้นข้าค่อยรู้สึกตัว เอ่, ดูเหมือนพวกเขาจะมาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ... เอ..สมาพันธ์ชาวยุทธมีนักโลหิตวิทยาด้วยเหรอ? เอ..สมาพันธ์ชาวยุทธต้องการวัดฝีมือกับยอดฝีมือนักโลหิตวิทยาของเรา... โอวน่ากลัวเหลือเกิน”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทั้งผู้เฒ่าและผู้มีประสบการณ์ข้างล่างหัวเราะขำขันกันไม่หยุด พวกเขาส่วนใหญ่จะมาจากองค์การวิญญาณมืดและเมื่อได้ยินว่าสมาพันธ์ชาวยุทธและต้องการแข่งขันกับพวกเขาผู้เชี่ยวชาญงานด้านโลหิตวิทยาและยาพิษ พวกเขามีความสุข
“ความจริงข้าไม่เลือกปฏิบัติกับสมาพันธ์ชาวยุทธนะจริงๆ ด้วย”
“แต่ถ้าเราปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญงานโลหิตของพวกเขาอยู่รอดได้ นั่นคงเป็นเรื่องน่าอายอย่างแท้จริง เฮ้เฮ้ ข้าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรอยู่แล้วแต่ถ้าพวกท่านต้องการให้ข้าทน ข้าไม่สามารถ....”
“ฆ่าพวกมัน!” ใครบางคนตะโกนลั่น
ความดุร้ายและกระวนกระวายผุดขึ้นในใจพวกเขา ทุกคนเริ่มโห่ร้อง เริ่มทำสีหน้าที่น่ากลัว,รังสีอำมหิตท่วมท้น!
“ฆ่าพวกมันให้หมด!”