ตอนที่แล้วตอนที่ 454 อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 456 สัญญาณเตือนภัย

ตอนที่ 455 ธุรกิจครั้งใหญ่


กลุ่มดาวคันชั่งหนึ่งในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา แต่ไม่เหมือนกับกลุ่มดาวแมงป่องที่เสื่อมโทรมและไม่เหมือนกับกลุ่มดาวราชสีห์ที่รุ่งเรืองประวัติศาสตร์ของกลุ่มดาวนี้ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาเป็นกลุ่มดาวระดับกลางๆไม่ก้าวหน้าไม่ตกต่ำ

แต่กลุ่มดาวคันชั่งเป็นกลุ่มดาวที่เปิดกว้างที่สุดได้รับการยอมรับในสิบสองตำหนักสุริยุปราคาไม่ว่าจะพูดถึงโดยทฤษฎีใดไม่วันถูกขับออกเพราะความคิดนอกรีตนอกรอย ดังนั้นปรมาจารย์ขององค์การวิญญาณมืดหลายคนจึงชอบใช้ชีวิตอย่างสันโดษในกลุ่มดาวคันชั่ง

ด้วยประโยชน์ดังกล่าวจึงสร้างบรรยากาศที่ดีดังนั้นกลุ่มดาวคันชั่งจึงกลายเป็นที่มีช่างฝีมือมากที่สุดและมียอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญในทุกประเภทที่แตกต่างหลากหลาย  กลุ่มดาวคันชั่งมีสมาคมมากมายเช่นสมาคมช่างฝีมือ, สมาคมนักสู้เป็นต้น สมาคมที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมเป็นสมาคมยอดปราชญ์อย่างมิต้องสงสัย 80%ของสมาคมหลักในกลุ่มดาวคันชั่งคือสมาคมใต้สังกัดของสมาคมยอดปราชญ์

คุณสมบัติในการเข้าร่วมสมาคมยอดปราชญ์นั้นเข้มงวดมากและมีแต่สุดยอดอัจฉริยะเท่านั้นจึงจะเข้าร่วมได้แต่ยอดฝีมือเหล่านั้นทั้งหมดส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับงานค้นคว้าของตนไม่สนใจเรื่องอื่นดังนั้นสมาคมจึงให้ตำแหน่งผู้อาวุโสไปหลายคน ผู้อาวุโสจะรับผิดชอบทำงานประจำวัน และพวกเขาเองก็ประสบความสำเร็จอย่างลึกซึ้งในวิชาต่อสู้  ดังนั้นพวกเขาจึงอำนาจมากในสมาคม

ผู้อาวุโสเซียวเป็นหนึ่งในพวกนี้และผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหลายคนล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเขารวมทั้งช่างจักรกลใหญ่อย่างกวนจือม่อ ก่อนที่เซรีนจะได้รับขนานนามเป็นปรมาจารย์ มีปรมาจารย์สายจักรกลอยู่เพียงสองคนในโลกคือม่อเหล่งแห่งตระกูลม่อและกวนจือม่อ

ม่อเหล่งเป็นคนสันโดษมุ่งมั่นกับการสร้างอาวุธจักรกลเป็นแบบของตนอยู่ในตระกูลม่อ

กวนจือม่อกลับตรงกันข้ามเขาไปกลุ่มดาวคันชั่งเพื่อทำงานค้นคว้าของตนเองแต่แม้ว่ากวนจือม่อจะเป็นปรมาจารย์ทางจักรกล ในสมาคมยอดปราชญ์ สถานะของเขาไม่สูงขนาดเท่าใดนัก  เพราะความตกต่ำของวิชาจักรกล

เซรีนสร้างอาวุธจักรวิญญาณ  แต่ไม่มีอิทธิพลมากนักในกลุ่มดาวคันชั่ง จนกระทั่งสงครามในกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่ซึ่งกองทัพจักรกลทำงานได้โดดเด่นมาก  ทำให้วิชาจักรกลกลายเป็นหัวข้อวิจารณ์กันอย่างร้อนแรงและสถานะของกวนจือม่อพุ่งขึ้นสูงทันที

มีปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ในสมาคมยอดปราชญ์มากมาย  แม้ว่าความรู้ในวงการวิชาจักรกลของพวกเขาจะมีจำกัด  แต่พวกเขาก็เข้าใจต่อวิถีโลกและงานคนอื่นอย่างลึกซึ้ง

ผู้อาวุโสหลายคนมีความเฉียบแหลมสังเกตเห็นการผสมผสานกันของจิตวิญญาณยุทธและอาวุธจักรกลทำให้วิชาเก่าแก่ที่ตกสมัยไปแล้วกลับกลายเหมือนกับติดปีกเข้าไปกลายเป็นศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด  และสำหรับเหล่าผู้อาวุโสผู้ทรงภูมิรู้ พวกเขากังวลห่วงใยถึงความวุ่นวายว่ากลุ่มดาวคันชั่งจะสามารถรักษาจุดยืนเดิมไว้ได้หรือไม่?  แม้ว่าพวกเขาจะเข้าร่วมฝ่ายใดก็ตาม พวกเขาจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาไว้ได้หรือไม่?กลุ่มดาวคันชั่งเผชิญหน้ากับดาบก็ไม่ต่างจากวัวอ้วนรอให้เชือดเป็นแน่

การดูแลปกป้องตนเองเป็นข้อกังวลและห่วงใยของสมาคมยอดปราชญ์มาช่วงหนึ่งแล้ว  มรดกของกลุ่มดาวคันชั่งนั้นดีและควบคุมได้ง่ายและทำให้พวกเขาต้องค้นคว้าวิชาต่อสู้ และนำพวกเขาไปสู่การค้นคว้าวิธีใช้วิทยายุทธ มีแนวโน้มที่จะเน้นฝึกฝนวิชาต่อสู้  ขณะที่พวกเขายังขาดแคลนวิชาต่อสู้ทางการทหาร

แต่ในช่วงเวลาอย่างนั้นกลับปรากฏกองทัพจักรกลขึ้นมานั่นดึงดูดความสนใจของพวกเขาอย่างมาก

กองทัพจักรกลเป็นหน่วยรบที่สมบูรณ์แบบสำหรับกลุ่มดาวคันชั่งเพราะความสามารถพิเศษและวิทยาการของพวกเขาสูงล้ำที่สุด กลุ่มดาวคันช่างมีช่างใหญ่สายจักรกลอยู่คนหนึ่งและที่สำคัญมากกว่า วิทยาการของกลุ่มดาวคันชั่งในการผลิตนั้นแข็งแกร่งมากและทันทีเมื่อพวกเขามีความรู้เรื่องอาวุธจักรกลวิญญาณพื้นฐานได้ ด้วยทุนสำรองของพวกเขา  พวกเขาจะสามารถก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว

เมืองสามวิญญาณกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด

สมาคมยอดปราชญ์หวังว่าพวกเขาจะสามารถประสานความร่วมมือกับเมืองสามวิญญาณกับสมาคมได้โดยตรง  แต่ภูมิปัญญายังต้องพัฒนากันต่อไป พอมีถังเทียนโผล่มาเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเมืองสามวิญญาณทำให้ระดับสูงของสมาคมต้องวางความคิดนั้นทันที

แม้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะเป็นกลุ่มดาวชั้นสาม  แต่ยังไม่ควรเข้าไปตอแยกับถังเทียนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาสามารถรบชนะทุกศึก หนุ่มน้อยถังทำตัวดูเหมือนเผินๆ แล้วโง่งี่เง่า  แต่กลับมีแผนการที่ลึกซึ้ง

จากกลุ่มดาวหมาป่าไปกลุ่มดาวอันโดรเมดาแล้วจากกลุ่มดาวอันโดรเมดาไปกลุ่มดาวหมีใหญ่จากกลุ่มดาวหมีใหญ่ไปกลุ่มดาวมังกร ผลสำเร็จที่น่าประทับใจนั้น ทุกคนรู้ว่าเขาคือหนามยอกที่ทรงพลัง

แน่นอนว่าสิบสองตำหนักระนาบสุริยะมีกองทัพที่แข็งแกร่งกว่า มีนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่า  แต่พลังเหล่านี้ทั้งหมดแค่ถูกเขียนบันทึกเอาไว้ กี่ปีมาแล้วที่ขุนพลทหารของพวกเขาเข้าสู่สงคราม?  มีไม่กี่คนที่อ้างว่าเคยแต่น่าจะหมายถึงการปราบปรามเสียมากกว่า ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายอาจถูกตราหน้าว่าไม่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาเดินตามเส้นทางที่เหี้ยมหาญและทรงพลังโค่นล้มกองทัพอื่นครั้งแล้วครั้งเล่า

ชื่อของหนุ่มถังถือกำเนิดมาจากการเข่นฆ่า

แม้ว่าจะไม่มีเลือดนองเป็นลำธารไม่เข่นฆ่าล้างเมืองหรือดวงดาว แต่ก็ไม่ใช่คนที่มีใจดี ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ใครพูดขัดหูก็ลุยใส่ทันที เป็นบุรุษหนุ่มที่สู้เพื่อชีวิตและไม่มีวันยอมแพ้

ตระกูลอีวานโง่เขลาจริงๆ...

กลุ่มดาวคันชั่งปรับเปลี่ยนทัศนคติกลายเป็นความร่วมมืออย่างฉันท์มิตรทุกคนควรจะร่วมมือ ท่านตั้งราคา ข้าซื้อ เราสามารถตกลงราคากันได้ ทำไมจะต้องต่อสู้และเข่นฆ่ากันด้วยเล่า?

แม้ว่ากลุ่มดาวคันชั่งจะไม่ได้ร่ำรวยเท่ากับกลุ่มดาวอควาเรียส  แต่เรามีงบประมาณไม่จำกัดแน่นอน

ทั้งสองฝ่ายเจรจากันฉันท์มิตรและให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี

ท่านต้องการวิชาอาวุธจักรกลวิญญาณของเราใช่ไหม?  เราไม่สามารถขายวิชาที่ทรงอำนาจให้ท่านได้  แต่วิชาอาวุธจักรกลพื้นฐานล่ะ?  อย่างนั้นไม่มีปัญหา

วิชาจักรกลพื้นฐาน? พวกเขาก็ต้องการ  กลุ่มดาวคันชั่งของเราไม่มีความรู้ทางนี้เท่าใดนักมีเพียงผู้เชี่ยวชาญที่เกินมาคนหนึ่ง ตราบใดที่เราเข้าใจพื้นฐานได้ดี ในพริบตาเราก็จะเข้าใจระดับสูงทันทีและจากนั้นใครจะรู้ว่าใครเชี่ยวชาญกว่ากัน

เราไม่มีทางเลือกราคาของชุดจักรกลพื้นฐานก็ไม่ถูกเหมือนกัน เพราะเราก็ทุ่มเทเลือดหยาดเหงื่อและน้ำตาไปมากแน่นอนที่สำคัญที่สุดเราเป็นมิตรกับทุกตระกูลในสวรรค์วิถีและจะไม่ลำเอียงแน่นอน

ท่านฉลาดมากในการนำกองทัพของท่านทำธุรกิจกล่าวได้ว่าเป็นมุมมองอย่างหนึ่ง เพราะอย่างนั้นข้าได้แต่เห็นด้วยข้าได้ยินว่ากองทัพของท่านถูกยุบไปแล้วอาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านั้นที่พวกท่านเคยใช้มาก่อนท่านสามารถขายให้กับข้าได้นะ

นั่นเป็นไปไม่ได้เรายังคงต้องใช้ฝึกฝน ต้องใช้เตรียมตัวทำศึก เรายังต้องการ...

โอ๊ยโหยว..ท่านตีความตั้งใจดีข้าผิดไป และข้าเองก็แก่มากแล้ว  ปากข้าไวไปหน่อย  แค่บอกจำนวนข้ามาก็ได้

……

ทั้งสองฝ่ายยังคงโต้ตอบผลักดันข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว

วิชาจักรกลวิญญาณพื้นฐานขายให้สมาคมยอดปราชญ์สองหมื่นล้านเหรียญ

สถาบันหมาป่าฟ้ามีอาวุธจักรกลวิญญาณห้าพันหกร้อยชุดขายให้สมาคมยอดปราชญ์ชุดละแปดสิบล้าน จำนวนรวม 448 พันล้านเหรียญดาว

ในช่วงเวลาสั้นๆราคารวม 468 พันล้านเหรียญถูกใช้ไปกับอาวุธจักรกลนั้น

ทั้งสองฝ่ายค่อนข้างจะพอใจ

ปิงพอใจอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาสามารถขายชุดจักรกลวิญญาณได้ถึงห้าพันหกร้อยชุดเป็นมูลค่า 448พันล้านเหรียญ  เขากำลังหัวเราะอยู่ในใจ  อาวุธรุ่นใหม่ของเซรีนผลิตออกมาแล้วและเกือบได้เวลาเปลี่ยนชุดเกราะ ความจริงเขาตั้งใจจะให้ไว้กับสถานที่ฝึกฝนเพื่อไว้ใช้  แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถขายออกไปได้ทันที

เมื่อม่อเว่ยเทียนถือโอกาสขูดเลือดเนื้อขายขยะของเขาถึงยี่สิบล้านเหรียญดาว  ปิงรู้สึกว่าการขายของเขาเองในราคาแปดสิบล้านก็นับว่ายุติธรรม

และผู้อาวุโสเซียวก็พอใจอย่างมาก   แม้ว่ามูลค่ารวม 448พันล้านเหรียญดาวดูเหมือนจะเอารัดเอาเปรียบไปบ้าง แต่ศึกใหญ่ใกล้เข้ามาและสำหรับพวกเขา เรื่องที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินทอง  แต่เป็นเวลา อาวุธจักรกลวิญญาณมือสองไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถเอามาค้นคว้าวิจัยได้เท่านั้น แต่พวกเขาสามารถเอามาใช้งานได้ทันทีโดยนักสู้สายจักรกลขององค์กรจะเริ่มใช้ฝึกฝนกัน

มิฉะนั้น ถ้าพวกเขารอจนกระทั่งพวกเขาสามารถปล่อยอาวุธจักรกลของตัวเองได้และเริ่มฝึก  นั่นจะสายเกินไป

ข่าวว่าสมาคมยอดปราชญ์กลุ่มดาวคันชั่งร่วมมือกับเมืองสามวิญญาณแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเซรีน, ม่อเหล่งและกวนจือม่อ สามปรมาจารย์ช่างจักรกลมาพบหน้ากัน  ทำให้ทุกคนกระตือรือร้นตื่นเต้นมาก  นี่เป็นการพบปะกันครั้งแรกของสามปรมาจารย์ในยุคเดียวกัน  และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบจักรกล  นี่คือสัญญาณการฟื้นตัวของวิชาจักรกล!

****

ตระกูลอีวาน

“เจ้าเป็นหมูตัวหนึ่งหรือเปล่า?  ถึงได้ทำเรื่องโง่แบบนี้? ตอนนี้ทั่วทั้งสวรรค์วิถีกำลังเย้ยหยันพวกเรา  แม้แต่เฒ่าเก่อจอมตระหนี่ก็ยังเยาะเย้ยถากถางเราทำไมพวกเจ้าไม่สืบดูให้ดีก่อน? ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ถามขอคำแนะนำจากคณะผู้อาวุโสในเรื่องใหญ่อย่างนั้นก่อน?”

เดาว์ตันอีวาน ประมุขตระกูลอีวานมีสีหน้าแดงก่ำ เขาโมโหจนตัวสั่น

ที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นบุรุษวัยกลางคนยืนคอตกซึมเซา

“เจ้ารู้ไหมใครเป็นเจ้าเมืองสามวิญญาณ?มันคือจอมห้าวถังเทียน มันคือไอ้บ้าวิปริตใช้วิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณกับตัวเอง! เจ้าบ้านั่นสามารถกัดเจ้าได้โดยไม่ให้ความสำคัญอะไรเลยแล้วเจ้ายังกล้าไปตอแยเขาอีกหรือ? เขาไม่เคยเห็นแก่หน้าสมาพันธ์ชาวยุทธและองค์การวิญญาณมืด  แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?” เดาว์ตันด่า

บุรุษวัยกลางคนพึมพำกับตนเอง  “แต่ก็แค่เพียงกลุ่มดาวหมีใหญ่...”

“แค่กลุ่มดาวหมีใหญ่เหรอ?”เดาว์ตันโกรธจนเริ่มหัวเราะ “สมาคมยอดปราชญ์กลุ่มดาวคันชั่ง ทุ่มเงินอย่างน้อย 500พันล้านซื้อขยะนั่นหรือ? ให้ข้าบอกเจ้าก็ได้ พวกเขาทุกคนพยายามเอาใจถังเทียน!  เจ้ากำลังดูถูกกลุ่มดาวหมีใหญ่  แต่คนอื่นกลับคิดตรงกันข้าม! ข้าจะบอกเรื่องนี้เจ้าก็ได้ เรื่องนี้ ถ้าเจ้าไม่จัดการให้ดี ข้าจะส่งรายงานเจ้าให้คณะผู้อาวุโสพิจารณา!”

บุรุษวัยกลางคนตะลึง  เขาไม่อยากเชื่อหูตัวเองและรู้สึกตัวหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง “ท่านบ้าไปแล้ว!  ข้าเป็นลูกชายท่านนะ!  ท่าน…”

เผียะ!

เสียงตบดังลั่น

บุรุษวัยกลางคนเอามือกุมหน้า  เขาตะลึงงงเป็นไก่ตาแตก

หน้าของเดาว์ตันเคร่งเครียดและเขากล่าวอย่างจริงจัง“ถูกแล้ว เจ้าเป็นลูกชายข้า แต่ไม่มีใครอยู่เหนือตระกูลอีวาน ข้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเมื่อเจ้าเอาแต่หมกมุ่นกับสตรี  แต่เจ้าต้องไปหาเซรีน ไปขอให้นางยกโทษให้ไม่มีเรื่องที่ต้องคุยอีกแล้ว ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ข้าจะขับเจ้าออกจากตระกูล!”

บุรุษวัยกลางคนตกตะลึง

“จำไว้ เจ้าไม่ใช่แค่ลูกชายคนเดียวของข้า”

คำพูดของเดาว์ตันเย็นชามากทำให้บุรุษวัยกลางคนทรุดตัวลง

เมื่อบุรุษวัยกลางคนออกไปอย่างไร้ชีวิตชีวา  บุรุษชราอีกคนปรากฏตัวขึ้นอย่างลี้ลับเขาถอนหายใจ “นายผู้เฒ่า คุณชายโจเซ่เหลวไหลไปชั่วขณะและทุกอย่างคงชัดเจนขึ้นในไม่ช้า”

“เขาจะดีขึ้นหรือ?”น้ำเสียงของเดาว์ตันเย็นชา “ข้าจะไม่ยอมให้เขาฉุดตระกูลใหญ่ให้ตกต่ำไปกับเขา  ท่านไปสืบดูเรื่องในปีนั้นหรือยัง?  เราต้องการหลักฐาน”

“เป็นการกระทำของท่านหญิงซูซี่” ชายชรากล่าว“เราทดสอบแล้วพบพิษกำเริบช้าอยู่ในกระดูกของมารดาเซรีนและมันคือเถาเขียวที่ตระกูลซูได้ผลักดันออกมาเมื่อไม่กี่ปีนี้และเท่าที่เห็น เถาเขียวน่าจะทำสำเร็จในปีนั้น”

“ความริษยาเป็นบาปจริงๆ” เดาว์ตันถอนหายใจหลังจากนั้นเขาแค่นเสียงทันที “มีแต่การให้อภัยเท่านั้นถึงจะช่วยให้พวกเขาปลอดภัย”

หัวใจของชายชราเย็นเฉียบ

เขาติดตามนายผู้เฒ่ามาเกินกว่าสิบปีและทุกประโยคและวลีที่เขาพูดเข้าใจได้ง่าย  ถ้าเซรีนยกโทษให้บิดานางอย่างนั้นเรื่องจะจบลงโดยปริยาย ถ้าเซรีนไม่ยกโทษให้พวกเขา อย่างนั้นคุณชายโจเซ่และท่านหญิงซูซี่...

ภาพเด็กหญิงผู้น่าสมเพชและเดียวดายปรากฏขึ้นในใจเขาทันทีเวลานั้นเมื่อนางออกจากตระกูลอีวานไป นางมีดวงตาที่แข็งกร้าว

นางไม่ร้องไห้

เพราะเหตุผลบางอย่างหัวใจของเขาเย็นเฉียบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด