ตอนที่แล้วตอนที่ 452 เมื่อถังอี้ออกมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 454 อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ

ตอนที่ 453 ถังอี้ผู้น่ากลัว


ประตูบรอนซ์ที่หนาและหนักเปิดออกช้าๆนักสู้คนหนึ่งอยู่ในชุดเกราะกวัดแกว่งดาบยืนตระหง่านอยู่เบื้องหลังประตู

เชอลี่ย์และแอกเกอร์สะดุ้ง

ดวงตาที่ดูเหมือนเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันเสียดแทงใจพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกอันตรายรอบตัวที่อธิบายไม่ถูก

เชอลี่ย์ใจสั่นสะท้านเหมือนแมวใจหวาดนางกรีดร้องและพุ่งออกไปเหมือนสายฟ้า นางกระโจนเข้าหาถังอี้  แอกเกอร์ก็ใจสั่นสะท้านเช่นกันดวงตาที่จ้องมองพวกเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันหนาแน่นที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเขาถือดาบยักษ์ขจัดความคิดที่กวนใจออก สีหน้าเคร่งเครียดลากดาบกับพื้นสาวเท้าก้าวยาวไปข้างหน้า

ตัวดาบที่ลากไปกับพื้นทำให้เกิดประกายไฟแปลบปลาบจากการเสียดสี

เขากระตุ้นปราณแท้ของเขาทำให้ทั่วทั้งร่างสว่างไสวโดยมีดาบยักษ์สว่างเจิดจ้ามากที่สุด ร่างกายท่อนบนของเขาไม่ขยับ มีแต่ก้าวย่างที่หนักหน่วงเต็มไปด้วยพลังรุกจู่โจมทุกย่างก้าวทำให้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ

เชอลี่ย์ซึ่งอยู่ในอากาศมีดวงตาเป็นประกายทันทีร่างของนางเปลี่ยนสภาพเป็นเลือนรางและนางหายไปในอากาศทันที

ความจริงนางสามารถเพิ่มความเร็วของนางได้!

ถังอี้ควงดาบป้องกันไว้โดยไม่ตื่นเต้น

แก๊ง!

มีดสั้นกระทบเข้ากับใบดาบฟันขาม้าและปราณแท้ที่แหลมคมเหมือนเข็มเหล็กกล้าทะลวงเข้าไปในดาบ

เชอลี่ย์มีแววตาดีใจ

เข็มมหาประลัยหนึ่งในไม้ตายสังหารของนางมันคือปราณแท้ที่แหลมคมเข้มข้นแข็งกว่าทองร้อยเท่าและทนทานมากกว่า ปกติจะถูกเก็บไว้อย่างเชื่องเชื่ออยู่ในเส้นชีพจรของนางถูกขัดเกลาและมีความอิ่มตัวทุกวัน

มันเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบแต่อันตรายร้ายกาจ คู่ต่อสู้นับไม่ถ้วนของนางตายภายใต้วิชานี้โดยไม่รู้ตัว และมีอยู่ครั้งหนึ่งนักสู้ระดับทองคนหนึ่งถูกเข็มมหาประลัยทะลวงร่างได้

วิชาตัวเบาของนางโดดเด่น  นางสามารถเร่งความเร็วลัดไปตามมุมต่างๆได้ดั่งใจบวกกับวิชาเข็มมหาประลัยของนาง จึงทำให้นางแทบไร้เทียมทาน

แต่ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็ต้องแข็งชะงัก

เข็มมหาประลัยเหมือนกับวัวที่พุ่งลงทะเล  ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

ถังอี้สะบัดข้อมือทำให้เกิดพลังต้านทานมหาศาลและระเบิดทันทีเชอลี่ย์หยุดนิ่งเหมือนกับว่านางถูกกลืนเข้าไปในคลื่นเหล็กขนาดใหญ่

ในท่ามกลางความตื่นกลัวนางไม่สนใจอะไรอื่นทุกอย่างผมของนางกระพือทั้งที่ไม่มีลมม้วนตัวประหลาดเหมือนกับลวดเหล็ก  นางป้องกันด้านหน้าไว้

เชอลี่ย์ครางรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายบ้าครั่งขนาดมหึมาปะทะใส่  นางปลิวกระเด็นถอยหลังเร็วกว่าตอนมาเลือดลมทั่วกายปั่นป่วนและรู้สึกล้าไปทั้งตัว

หน้าของเชอลี่ย์ซีดเหมือนกระดาษใจของนางถูกความตื่นตกใจครอบงำ

เพียงสะบัดข้อมือตวัดดาบ  ดาบฟันขาม้าก็ตั้งตรงอยู่ข้างหน้าถังอี้แล้ว

ขณะเดียวกันรัศมีทั่วตัวของแอกเกอร์ก็ยังคงเพิ่มขึ้นความพ่ายแพ้ของเชอลี่ย์ทำให้เขาหรี่ตาแคบ แต่เขาเหมือนลูกธนูที่เหนี่ยวเต็มที่เตรียมยิงจากแล่งมิสามารถถอนถอยได้  ทันใดนั้นในใจเขามีความคิดจะถอยแต่เขาคำรามเร่งเร้าปราณแท้ในร่างจนถึงระดับสูงสุด  ตาเขาแดงเหมือนเลือดเส้นเลือดปูดโปนราวกับสัตว์ป่าเขาวิ่งเข้าหาถังอี้

ทุกๆก้าวทำให้พื้นสั่นสะเทือน ทุกๆ ก้าวยิ่งเพิ่มพลังปราณแท้ให้เขา พลังที่สะสมจนสูงกดดันให้เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและตัดสินใจเด็ดขาด  เขาวิ่งไปข้างหน้าทันที

ถือดาบในแนวขนานข้างหน้าร่างกายเขาเหมือนกับหอกยาวรังสีดาบประหลาดกระจายออกจากตัวดาบ

ตาของถังอี้เป็นประกายการต่อสู้ข้างหน้าเขาดุเดือดและรังสีดาบของแอกเกอร์หนาแน่นมากสร้างความปั่นป่วนในอากาศแต่ใจของเขายังสงบนิ่งเหมือนน้ำ

ชีวิตของเขาก่อนหน้านั้นเป็นชีวิตที่ระดับเล็กน้อยและปานกลางไม่ทิ้งร่องรอยอะไรๆ ไว้ในโลก เป็นชีวิตที่แสนจะธรรมดาเขาไม่สามารถค้นหาบางอย่างในโลกด้วยชีวิตแบบนั้น

แต่ตั้งแต่เมื่อข้ากลายเป็นเช่นนี้

ตั้งแต่เมื่อข้ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้า

ตั้งแต่เมื่อข้าไม่อาจทนต่อความขลาดเขลาและเป็นคนอ่อนแอได้

นั่นคือทั้งหมดที่เจ้าปรารถนาหรือ?ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน!  ทำให้คนบุคลิกธรรมดาๆอย่างข้าต้องกลายเป็นเช่นนี้

นั่นคือทั้งหมดที่เจ้าต้องการหรือ?มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน! ทำให้ข้ามีความกล้าหาญทำให้ข้าสามารถเชิดหน้าขึ้นสู้ ทำให้จิตใจข้าว้าวุ่นกระวนกระวาย ทำให้ข้าไม่คำนึงถึงความเป็นความตายของข้า

ข้ามาถึงจุดที่มีวันนี้โดยไม่รู้ตัวและโดยไม่รู้ตัว ข้าเป็นผู้น้อยและคนธรรมดาที่กลับมีความมั่นใจและหยิ่งในตนเอง

ข้ากลายเป็นผู้แข็งแกร่ง

ความเชื่อมั่นทั้งหมดนี้  ความทะเยอทะยานเหล่านี้ ความโหยหาเหล่านี้  มิใช่ว่าจะไม่สมหวังตลอดไปและข้าไม่ต้องฝังเอาไว้ในใจข้าอีกต่อไป

ข้าจะต้องทำให้สำเร็จ!

ประกายแสงในดวงตาถังอี้เจิดจ้าขึ้น  ดาบฟันขาม้าถูกสับลงมาอย่างดุดัน!

“ฆ่า!”

เขาตวาดเสียงจริงจังและเสียงต่ำกึกก้องไปทั้งเมืองสามวิญญาณ

ชาวเมืองสามวิญญาณหันมาดูอย่างตั้งใจเป็นประจักษ์พยานฉากภาพที่น่าจดจำ รังสีดาบที่น่ากลัวพวยพุ่งออกมาเหมือนน้ำบ่า กวาดไปทั่วเมืองสามวิญญาณทำลายทุกอย่างเหมือนกับว่าสิ่งเหล่านั้นกำลังเหี่ยวเฉา อาคารทั้งหมดในเมืองสามวิญญาณถูกตัดขาดเหมือนกับกระดาษ

ทุกอย่างที่กระแสรังสีดาบกวาดผ่านล้วนสูญหายไปทั้งหมด  นอกจากแอ็กเกอร์  เกิดร่องกว้างตรงและลึกเหยียดยาวถึงท้ายเมืองสามวิญญาณ...

ดาบยักษ์ของแอ็กเกอร์หายไปเหลืออยู่แต่เพียงด้ามดาบ  เขาตกลงไปในร่องทั้งตัวเปรอะไปด้วยเลือดและหมดสติ

เชอลี่ย์มองดูร่องลึกยาวไม่มีที่สุดด้วยความหวาดผวานางสั่นไปทั้งตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ

สัตว์ประหลาด!

นักสู้ที่ใช้ดาบนั้นคือสัตว์ประหลาด!

เขาเป็นนักสู้ระดับเซียน?ไม่ใช่เลย ไม่มีปราณของนักสู้ระดับเซียน, แต่... ถ้าเขาไม่ใช่นักสู้ระดับเซียนเขาปล่อยพลังดาบดุจเทพยดาได้ยังไง?

ฐานทัพนี่...นี่มันคือสถานที่อะไรกันแน่!

นางหมุนตัวพยายามหนีทันที  แต่ทันใดนั้นตัวประหลาดชุดเกราะเงื้อดาบอีกครั้ง และ และมันหันหน้ามาทางนาง!

นางกัดฟันสั่นขาสั่นท้องปั่นป่วนและสิ่งที่ทำให้นางรู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งขึ้นก็คือ นางรู้สึกได้ว่าปราณของฝ่ายตรงข้ามตรึงนางไว้แล้ว

นางถือดีในวิชาตัวเบาของนางแต่..นางกลับไม่มั่นใจว่านางจะสามารถหลบรังสีดาบที่น่ากลัวนั้นได้สำเร็จ

“ข้ายอมแพ้”

นางกัดฟันกล่าวเพราะเหตุผลบางอย่าง ใจนางรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเทียบกับเผชิญหน้ากับตัวประหลาดด้านหน้านางการยอมรับการลงโทษจากตระกูลยังไม่น่ากลัวเท่านี้

นางโยนมีดสั้นในมือทิ้ง

ถังอี้ไม่สนใจว่านางเป็นสตรีเขามัดเชอลี่ย์แน่น ผูกปากนางและยังมัดแอกเกอร์ที่สลบอีกด้วย

“ปิดประตู”

ถังอี้ลากคนทั้งสองไปและพูดโดยไม่หันหน้ากลับมา

หน้าของช่างจักรกลซีดเผือดรีบปิดประตูกลทันทีแต่มือของเขาสั่นเทิ้ม

พวกเขาสามารถเห็นการสู้กับตาตนเอง  แต่ละคนที่อยู่ในสนามฝึกฝนพากันเงียบกริบ อาวุธจักรวิญญาณเหมือนรูปสลักทองไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิดเดียว

พึ่บพึ่บ

เสียงเกราะขนนกของถังอี้ดังชัดเจนในท่ามกลางความเงียบ

ถังอี้มองดูคนทั้งสองที่ถูกมัดอยู่ไม่ไกลเขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงถูกมัด แต่เขาไม่สนใจ  โยนคนในมือทั้งสอง

“มัดพวกเขาไว้ด้วยกัน”

เพียงเท่านั้นถังเทียนหมุนตัวกลับไปที่ประตู  ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาถือดาบยืนตรง

สนามที่ฝึกฝนมีเสียงฮือฮาทันที

“โอวๆๆๆ พระเจ้า!”

“ข้าตาฝาดหรือเปล่า?  ข้าต้องตาฝาดแน่ๆ! ข้าตาฝาดไปแล้ว”

“ท่านถังอี้ร้ายกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด?เขาเป็นมนุษย์หรือเปล่า? โอ๊ะลืมไป เดิมเขาก็ไม่ได้เป็นมนุษย์อยู่แล้ว....”

……

เซรีนมองดูอยู่ในที่ไกลออกไปถอนหายใจโล่งอก  นางกังวลว่าตระกูลอีวานจะมาล้างแค้นเนื่องจากนางรู้จักพลังของตระกูลอีวานดี แต่พลังมหาศาลของถังอี้ทำให้นางคลายใจขึ้นมาก

แม้ว่าลุงหน้าไพ่จะห้าวไปบ้าง  แต่เขาไว้ใจได้ในเวลาที่สำคัญ...

เซรีนสังเกตความเปลี่ยนแปลงของถังอี้อย่างละเอียดและสามารถคาดได้ว่าต้องเป็นเพราะถังอี้ยอมทำงานอย่างหนักเพื่อคนอื่นแน่นอน  นางกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ทุกคนพากเพียรหนักและต่อสู้เพื่อเจ้าเซรีน ดังนั้นเจ้าก็ต้องทำให้ดี!

นางคลายกำปั้นสีหน้าของนางสงบอีกครั้ง เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  นางมองดูแถวช่างจักรกลที่ยืนเกะกะ  “พวกเจ้าทุกคนมองอะไร? หา!  พวกเจ้าทุกคนว่างจนมีเวลาจับกลุ่มกันหรือ?  ทุกคนตั้งใจให้ดีใครก็ตามที่บังอาจย่อหย่อนในเวลานี้ เดี๋ยวแม่ได้ละเลงเลือดแน่...”

ช่างจักรกลแตกฮือทันที  คำพูดของเจ๊ใหญ่ไม่ใช่คำขู่เล่นๆ

เมื่อเซรีนกลับไปที่โต๊ะทำงานตนเอง  หัวใจนางเต็มไปด้วยความคิดต่อสู้ตามเสียงร่ำร้องของใจนาง

เซรีน! เจ้าต้องเป็นวิศวจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกมีเพียงคนเดียวเท่านั้น

ฮัวเฉินหวินได้เห็นประจักษ์ดาบของถังอี้ทำให้เขาถึงกับตกตะลึง เขาเคยเห็นพลังดาบโจมตีคล้ายๆ อย่างนี้มาก่อน ทั้งหมดเป็นเซียนดาบ  ถ้าพวกเขาปลดปล่อยพลัง  การปลดปล่อยรังสีดาบที่มีพลังทำลายล้างนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

แต่...ถังอี้ไม่ใช่เซียนนักสู้แน่นอน!

ฮัวเฉินหวินรู้แล้วว่าเมืองสามวิญญาณและถังเทียนมีความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นเขาจึงศึกษาอย่างละเอียดผ่านรายงานเป็นจำนวนมาก  เมื่อเขาเห็นถังอี้ตัดสนามฝึกฝน  เขาจำถังอี้ได้ทันที

แม้ว่าถังอี้จะปรากฏในรายงานนับไม่ถ้วน แต่ใบหน้าและดาบฟันขาม้าในมือของเขาเป็นที่รู้จักกันดี

ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองสามวิญญาณและถังเทียนไม่ธรรมดาแน่นอน!

แต่หลังจากนั้นฮัวเฉินหวินตกตะลึงกับพลังผิดธรรมดาของถังอี้และเป็นพลังเกินกว่าที่เขียนไว้ในรายงานไปมาก...

ฮัวเฉินหวินค่อยๆสงบจิตใจและคิดถึงข้อข้องใจอื่นทันที

เป็นไปได้ไหมว่า...ถังเทียนกำลังถูกมองข้าม?

—————————————————-

สายตาของชาวสวรรค์วิถีให้ความสนใจกับการเกิดขึ้นอย่างฉับพลันของสมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวแมงป่อง การคุยเรื่องกลุ่มดาวหมีใหญ่สงบลงอย่างรวดเร็ว  กลุ่มดาวชั้นสามเมื่อเอาไปเทียบกับกลุ่มดาวชั้นหนึ่งมิอาจเทียบกันได้เลย แม้ประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรืองของกลุ่มดาวหมีใหญ่เมื่ออยู่ต่อหน้ากลุ่มดาวแมงป่อง ก็ไม่มีค่าควรแก่การพูดถึง

ข่าวลือการฆ่านักสู้ระดับเซียน,วิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณ, การตื่นขึ้นของเจ็ดดาวเหนือ,การร่วมเป็นพันธมิตรของกลุ่มดาวมังกร....

เมื่ออยู่ต่อหน้ากลุ่มดาวแมงป่อง  ข่าวพวกนั้นไม่มีค่าควรเอ่ยถึง

แต่ถังอี้แห่งกองทัพหมาป่าก็คือกองทัพสำคัญที่สุดซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาของถังเทียน  ถังอี้มักถูกคนต่างคอยศึกษาเขาและพลังของถังอี้ก็ถูกเปิดเผยมานานแล้ว

แต่ฮัวเฉินหวินเพิ่งเห็นการต่อสู้กับตาและตระหนักในที่สุด การประเมินพลังของถังอี้ในรายงานนั้นเป็นเรื่องตลกทั้งนั้นมีเหตุผลที่จะกล่าวอย่างนั้น ด้วยรายงานต่างๆ มากมาย  พวกเขาคงจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนกันเป็นแน่

เป็นไปได้ไหมว่าถังอี้ปิดบังพลังของเขาไว้?

แผนการของถังเทียนลึกซึ้งจริงๆ...

แต่ทำไม  ทำไมถึงมาเปิดเผยเอาในตอนนี้?พวกเขาพยายามจะทำอะไรกันแน่?

มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจของฮัวเฉินหวิน แต่เห็นได้ชัดว่านักสู้จักรกลคุ้นเคยกับถังอี้ทุกคนความคุ้นเคยเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากการพบปะแค่ครั้งหรือสองครั้ง

เป็นไปได้ไหม...?  ถังเทียนคือเจ้าเมืองสามวิญญาณ?

ฮัวเฉินหวินตกตะลึง  เขาหวาดหวั่นกับความคิดที่แว่บขึ้นมานั้น

หนุ่มชาวฟ้า...เจ้าปิดบังความลับที่แท้จริงไว้มากน้อยเท่าใดกันแน่....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด