ตอนที่ 449 - เพลิงปรารถนา
เย่ว์หยางดื่มด่ำกับความสุขในชีวิตของคนมีภรรยาหลายคน จะเสียดายก็แต่เพียงว่า เขาต้องกระทำการอย่างลับๆ
ทั้งนี้เพราะเย่ว์ปิงและเย่ว์ซวง น้องสาวของเขาจะคอยพัวพันอยู่ใกล้ๆ และพวกนางไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่ได้คิดอะไรกับพฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ว่าเขาจะหน้าหนาเพียงใดก็ตาม เย่ว์หยางก็ยังละอายที่จะทำกิริยาท่าทางประเจิดประเจ้อกับภรรยาของเขาต่อหน้าน้องสาว
เย่ว์ปิงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พี่สะใภ้ทั้งสองของนางกำลังประชันขันแข่งกันอย่างลับๆ ภายใต้โต๊ะ และนางยังมีความสุขกับการสนทนากับพี่ชายเรื่องสัตว์อสูรและกลยุทธต่อสู้
นางมักขอคำแนะนำจากเจ้าเมืองโล่วฮัวและนางเซียนหงส์ฟ้า
ถ้าใครต้องเป็นฝ่ายต้องครุ่นคิดจริงจัง นางจะเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้อย่างแท้จริง
พอตกยามค่ำคืน เจ้าเมืองโล่วฮัวจะใช้แผน “กับดักสุดที่รัก” และใช้มารยารักล่อลวงให้เย่ว์หยางตกอยู่ในบ่วงความรัก “สามคนผัวเมีย”
หลังจากค่ำคืนที่ทรมาน นางเซียนหงส์ฟ้าคิดอยู่นานจึงหาวิธีดีๆ รับมือเรื่องนี้ได้ นั่นคือปิดอายตนะรับรู้ทั้งหก เสียงที่ทำให้นางแทบทนไม่ได้ คงพอจะไม่ได้ยินกระมัง?
นางกล้าพนันได้ว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวกำลังฝืนตัวเอง ศึกรักอย่างนั้นสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงมากมาย นางแอบหัวเราะในใจ เรามาคอยดูกันต่อไป เจ้าจะทนทำอย่างนั้นได้นานแค่ไหน
ข้าเองไม่กังวลอยู่แล้ว คิดหรือว่าเจ้าสามารถครอบครองได้ตลอด?
ในฐานะที่เป็นสตรีพรหมจรรย์ นางเซียนหงส์ฟ้ายังมีความคาดหวังและกังวลอยู่บ้าง นางกังวลว่าถ้านางไม่สามารถทนได้ และทำให้หมดอารมณ์ตั้งแต่ครั้งแรกของนาง อย่างนั้นโล่วฮัวที่เป็นสตรีก็จะล้อเลียนนาง นางอาจมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กับเย่ว์หยางในตอนแรกก็ได้ ความรู้สึกนี้ไม่เลวจริงๆ แม้ว่าอาจจะเป็นการลอบกระทำอยู่บ้าง แต่ก็ตื่นเต้นและเร้าอารมณ์ได้ไม่เลว ที่สำคัญที่สุด นี่ทำให้เขาชอบนางมาก
เพื่อให้เย่ว์หยางทำอย่างนั้นทันที นางเซียนหงส์ฟ้าไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอย่างเต็มที่
จะให้เจ้าชู้ยั่วยวนกันบ้างเล็กน้อยเพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ของพวกเขานับว่ายังเป็นเรื่องดีที่สุด
เย่ว์หวี่สามารถบอกได้ว่านางกังวล ในแต่ละวันนางพยายามอย่างดีที่สุดที่จะปล่อยให้หลายเรื่องผ่านไปได้อย่างราบรื่น และนางเข้านอนกลางคืนเร็วกว่าปกติ นางไม่กล้าฟังเสียงแบบนั้น
นางยังคัดค้านจะเข้าไปในโลกคัมภีร์ กลัวว่าจะเห็นบางอย่างที่ไม่เหมาะไม่ควรสำหรับเด็ก หรือแม้แต่ได้ยินเสียงเช่นนั้น ซึ่งจะทำให้หัวใจนางว้าวุ่นและนอนไม่หลับยามราตรีได้
แม่สี่กลับตรงกันข้าม นางอดทนได้มากและจะชักชวนซวงเอ๋อให้นอนแต่หัวค่ำ
สำหรับเรื่องพฤติกรรมของบุรุษกับสตรี นางสนใจเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ เท่านั้น
เรื่องปลีกย่อยเล็กน้อยของชีวิต นางรู้ว่าทุกคนสามารถรับมือได้ดี ความหึงหวงกันนิดหน่อยเป็นเรื่องไม่อันตราย ยิ่งกว่านั้น ความขัดใจกันเล็กน้อยเช่นนี้จะช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างทุกคนให้พัฒนาขึ้น ถ้าพวกเขาทุกคนต่างเมินเฉยเย็นชาต่อกัน นั่นคงจะไม่ดีแน่
สามวันผ่านไปในทำนองนี้
เจ้าเมืองโล่วฮัวทำศึกรักกับเย่ว์หยางติดต่อกันสามคืน ใช้พลังทุกอย่างของนางปรนเปรอเขา ทำให้นางเหนื่อยล้ามาก
ในที่สุด นางก็ตระหนักได้ว่า คู่แข่งความรักของนางไม่ได้กระตือรือร้นเลย
นางรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจทันที
“ช่างเถอะ! ท่านเอาเขาไปได้เลยคืนนี้ ข้าเหนื่อยแล้ว” เจ้าเมืองโล่วฮัวยอมรับความพ่ายแพ้ชั่วคราว นางรู้สึกว่านางเร่งเร้าเกินไปหน่อย ถ้าเย่ว์หยางมีสัมพันธ์กับมารกฎฟ้ามาแล้ว นางคงรับรู้ถึงความรู้สึกของสตรีด้วยกันไปแล้ว ถ้าเป็นกรณีนั้น นางคงไม่อาจควบคุมสติตนเองได้ในสถานการณ์อย่างนั้น ตอนนี้ล่ะ? นางยังคงเป็นสตรีพรหมจรรย์อยู่ นางยังคงสงวนตัวอยู่และยังกลัวการสูญเสียความบริสุทธิ์ แม้ว่าจะมีเสียงยั่วเย้าน่าสนใจ แต่ทันทีที่นางปิดอายตนะรับรู้ทั้งหกไม่ยอมรับฟัง นางก็ยังคงต่อต้านได้
ตอนนี้เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกว่าได้ทะเลาะกับมารกฎฟ้าอย่างไม่มีเหตุผล นางต้องรอให้เย่ว์หยางมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางเซียนหงส์ฟ้าเสียก่อน จากนั้นจึงเป็นเวลาชิงรักหักสวาท
อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม
ถ้าแม้แต่มารกฎฟ้ายังลุ่มหลงเจ้าเด็กตัวร้ายนั่น เหมือนกับตัวนางเอง ค่อยมีความหมายที่จะชิงดีชิงเด่นกับนาง
พอสงบจิตใจได้ เจ้าเมืองโล่วฮัวก็รู้สึกท้อ นางรู้สึกว่านางแพ้ในที่สุดหลังจากเหนื่อยมาถึงสามวัน แม่สาวมารกฎฟ้าจะตกเป็นของเย่ว์หยางในไม่ช้าอยู่ดี วิธีขัดขวางของนางช่างเขลาจริงๆ ไม่เพียงแต่เหนื่อยเท่านั้น ยังไม่มีผลอะไรเสียด้วย มีแต่เจ้าลามกเย่ว์หยางที่เสวยผลประโยชน์อยู่คนเดียว
ต้องขอบคุณที่นางรู้สึกตัวเร็ว ถ้านางต้องอดทนทำอย่างนี้ต่อไปอีกสักสิบวันหรือครึ่งเดือน นางคงล้มป่วยอย่างมิต้องสงสัย
นางเซียนหงส์ฟ้าแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้าเมืองโล่วฮัวยอมแพ้
เดิมทีนางคิดว่าแม่สาวโล่วฮัวต้องการทำเช่นนี้ต่อไปอย่างน้อยก็มากกว่าสัปดาห์ ใครจะคิดกันว่านางกลับยอมแพ้หลังจากผ่านไปเพียงสามวัน
ดูเหมือนว่าคู่แข่งของนางยังเป็นหญิงที่ฉลาด นางเซียนหงส์ฟ้าไม่เคยรู้สึกเกลียดชังโล่วฮัวแต่อย่างใด และได้ยินว่านางขอโยนผ้ายอมแพ้เหมือนสาวน้อยที่น่ารัก ความรู้สึกที่นางมีต่อโล่วฮัวกลับดีขึ้นมาก
พอเห็นว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวยอมรับความพ่ายแพ้ หัวใจนางเซียนหงส์ฟ้ากลับเต้นรัว
บางทีถ้าโล่วฮัวพูดกับนาง นางอาจจะรู้สึกโล่งใจก็ได้
แม้ว่านางยังอายุน้อย แต่นางก็มีประสบการณ์มาก
“ความจริงข้าไม่ได้คิดอะไรจริงๆ เจ้าทั้งสองคนอยู่กับเขาคืนนี้ก็ได้ สำหรับเรื่องอย่างว่านั้น ข้า, ความจริง มันเป็นครั้งแรกของข้า ดังนั้นข้าไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ข้ายังหวั่นใจเล็กน้อย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีเถอะ ข้าไม่เคยคิดต่อสู้ช่วงชิงอยู่แล้ว ข้าก็แค่คิดสนุกๆ เท่านั้น นั่นถึงเป็นสาเหตุที่ข้าไม่ได้ล้อเลียนพวกเจ้าทั้งคู่ ถ้าพวกเจ้าไม่สบายใจ ข้าก็ต้องขอโทษด้วย” ยากนักที่นางเซียนหงส์ฟ้าจะพูดตรงตามความรู้สึก ถ้าเป็นเรื่องอื่น นางคงชนะสตรีมานับไม่ถ้วน มีเพียงเรื่องนี้ นางไม่มีประสบการณ์จริงๆ ไม่ใช่ว่านางไม่เคยถูกเนื้อตัวของเย่ว์หยาง ที่สำคัญเมื่อเขามีสัมพันธ์กับเจ้าเมืองโล่วฮัว นางเคยแอบดูตอนกลางคืน นางรู้สึกว่าถ้าเป็นนาง นางคงทำให้เขาเหนื่อยแทบตายแน่ แต่เพราะความคิดนี้ นางจึงอยากให้เย่ว์หยางย่องเข้าหานางตอนกลางคืน
“ความในใจของท่าน ข้าก็เคยเป็นอย่างนั้นมาเหมือนกัน ครั้งแรกน่ากลัวนิดหน่อย จิตใจเจ้าจะสับสน ท่านต้องการมอบกายให้เขาจริงๆ แต่ท่านก็ยังหวั่นเกรงว่าจะทำได้ไม่ดีพอ แล้วจะทำให้เขาผิดหวังก็เป็นได้” พอเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าย้อนขอคำแนะนำจากนางเช่นนี้ เจ้าเมืองโล่วฮัวอดที่จะเห็นใจนางไม่ได้
สาวมารกฎฟ้าที่น่าสงสาร นางมีชื่อเสียงมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว แต่นางไม่เคยได้ลิ้มรสความหอมหวานของความรักเลย
โชคดี ที่นางพบเย่ว์หยางเร็ว
ตอนนี้ นางคิดว่าหลายอย่างก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน
ในขณะนั้น เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกมีความสุขอีกครั้ง
นางรู้สึกว่านางนับว่าโชคดี นางไม่ต้องรอหลายร้อยปีกว่าจะพบคนรักที่ดีที่สุด
“ครั้งแรก เจ็บมากไหม?” นางเซียนหงส์ฟ้าต้องการสานสัมพันธ์และขณะเดียวกันก็ขอคำแนะนำด้วย เนื่องจากนางยังอ่อนประสบการณ์เรื่องอย่างว่านี้มาก
“ใช่แล้ว, ก็เจ็บอยู่หรอกนะ” เจ้าเมืองโล่วฮัวยินดียิ่งขึ้น นางรั้งตำแหน่งที่ปรึกษาและเริ่มอธิบายว่า “ครั้งแรกนะ เจ็บจริงๆ แต่มิใช่ว่าท่านจะไม่เคยเห็น เย่ว์หยางเป็นมังกรในมวลหมู่มนุษย์อย่างแท้จริง ท่านไม่เคยสัมผัสมาก่อนเหรอ? จริงเหรอ? งั้นเคยสัมผัสตรงนั้นมาก่อนไหม? มันร้อนมากไม่ใช่เหรอ? เฉียดๆ ก็ไม่เคยเหรอ? เขายอมเชื่อฟังในช่วงฝึกผสานร่างไหม? ไม่น่าเป็นไปได้…ช่างเถอะ เรายังไม่คุยเรื่องนี้กันก่อน เรามาคุยเรื่องร่างกายของเราเองเถอะ ท่านไม่เคยรู้จนกว่าจนกว่าจะได้ลอง แต่ความจริงร่างกายท่านแข็งแรงมาก… ถึงตอนนั้นมันจะเจ็บมาก, แต่ก็ยังทนได้แน่นอน ทำไมข้าต้องโกหกท่านด้วยเล่า! ท่านโชคดีแค่ไหนที่ข้าอธิบายให้ท่านฟัง ท่านจะต้องเตรียมใจไว้ แตกต่างจากข้าที่ตอนนั้นไม่มีใครบอกอะไรเลย! ไม่มีสักคน ข้าต้องค่อยๆ พบเจอกับตัวเออง แต่ครั้งแรกของข้าก็ประสบความสำเร็จแล้ว ใช่แล้ว ต้องกล้าเข้าไว้! หลังจากครั้งแรกสำเร็จ หลายอย่างจะง่ายขึ้นมาก และท่านมั่นใจได้เลยว่าเขาอ่อนโยนนุ่มนวลมาก… ว่าแต่สิ่งที่ข้าได้เล่าไป คงไม่ทำให้ท่านกลัวอย่างที่จินตนาการไว้นะ”
“ขอบใจเจ้ามาก” พอได้ฟังเจ้าเมืองโล่วฮัวบรรยาย “ครั้งแรก” ของนาง นางเซียนหงส์ฟ้าจึงค่อยสงบจิตใจได้
“ไม่จำเป็น ใครจะรู้ เราอาจต้องชิงรักหักสวาทกันในอนาคตก็ได้! โอว จริงสิ, เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ยังไม่รู้ ครั้งหน้าข้าคงต้องบอกนาง” เจ้าเมืองโล่วฮัวชักติดใจที่จะเป็นผู้สอนให้คำแนะนำเรื่องอย่างว่า
คืนนั้น เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ยืนดักหน้าประตูเพื่อรอเย่ว์หยางอีก
เมื่อเย่ว์หยางลอบเข้าห้องนาง เขาก็ต้องประหลาดใจที่พบว่านางหลับสนิทเสียแล้ว
พอแตะตัวนางเบาๆ นางหันกลับมาอย่างงัวเงีย ปากก็ยังพึมพำพูดทั้งที่หลับตา “ข้าง่วง, ข้าต้องการพักผ่อน 2-3 คืนมานี้ข้าไม่ได้พักเลย”
หญิงงามอู๋เหินก็ทำนองเดียวกัน นางไม่ได้ทำเสียงงัวเงีย แต่ยังคงโบกมือให้เย่ว์หยางในทำนองว่านางก็ต้องการพักและวันนี้ไม่ขอปรนนิบัติเย่ว์หยาง
ต้องรู้ไว้ว่า นางเป็นพันธมิตรร่วมของเจ้าเมืองโล่วฮัวมาถึงสามคืน
ความจริง นางเหนื่อยมากกว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวเสียอีก เพราะเจ้าเมืองโล่วฮัวอ่อนไหวและไม่ค่อยทน นางจึงถูกพิชิตอย่างรวดเร็ว ในที่สุดภาระปรนนิบัติสามีสุดที่รักจึงตกอยู่กับนางคนเดียวทั้งหมด
ค่ำคืนย่องห้องสาวก็เริ่มขึ้น!
ขณะที่เย่ว์หยางตรงไปที่ห้องนางเซียนหงส์ฟ้า นางขึ้นเตียงนอนแล้ว แต่นางยังคงลืมตาอยู่ นางกำลังรอเขาอย่างเงียบๆ แสงนุ่มนวล ฉายต้องใบหน้าที่งดงามทรงเสน่ห์ดุจหยกเนื้อดีของนาง ทำให้เย่ว์หยางต้องกลั้นหายใจ เย่ว์หยางจ้องอย่างหวาดๆ เขาไม่เคยเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าในสภาพเงียบสงบและอยู่ในสภาพนุ่มนวลเช่นนั้นมาก่อน
“คืนนี้อนุญาตให้นอนด้วยได้ แต่เราจะไม่มีอะไรกันคืนนี้ พรุ่งนี้ ค่อยให้ข้าปรับตัวหน่อย ข้ายังกังวลอยู่เล็กน้อย” นางเซียนหงส์ฟ้าโบกมือ เรียกให้เย่ว์หยางเข้ามา นางค่อยๆ เปิดผ้าห่มออกเผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าเหมือนหยกเนื้อดีสมบูรณ์ และบอกให้เขานอนข้างๆ นาง ทันทีที่เย่ว์หยางเข้ามา นางพลิกตัวแล้วพาดศีรษะลงในอ้อมแขนเย่ว์หยางเอียงตัวลงที่หน้าอกเขา
จากคิ้ว, แก้ม, ริมฝีปากไล่มาที่คอของเขา จากนั้นก็เป็นไหล่ อกเลื่อนลงมาที่ท้องน้อย
นางกอดรัดอย่างนุ่มนวล
ราวกับว่านางต้องการจะทำความเข้าใจบุรุษผู้นี้ ผู้ที่จะกลายเป็นสามีของนางในเวลาที่รวดเร็วที่สุด นางพยายามจะรักเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แม้ว่าการหลงรักในส่วนลึกของวิญญาณนางจะดูเหมือนไม่สมจริงก็ตาม
แต่อย่างน้อยที่สุด นางพยายามอย่างหนักเพื่อยอมรับเขา เปิดใจของนางและยอมให้เขาเข้ามาในชีวิตนาง สำหรับเขาจะได้อยู่ตำแหน่งนั้นตลอดไป ชั่วนิรันดร์
เย่ว์หยางกอดร่างนางที่กำลังสั่นเพราะกระวนกระวาย ความต้องการจะปกป้องพล่านอยู่ในใจเขา ในตอนนี้ นางไม่ใช่มารกฎฟ้าอีกต่อไป ไม่ใช่ยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกต่อไป นางเป็นแค่สตรีคนหนึ่ง เป็นสตรีที่ขลาดกลัวแต่ก็ยังต้องการรัก
ถ้าเขาครอบครองนางตอนนี้ นางก็คงไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเย่ว์หยางเห็นสตรีที่สั่นเพราะกระวนกระวาย สิ่งที่เหลืออยู่ในใจเขาไม่ใช่ความใคร่ แต่เป็นความรักและความชื่นชอบเท่านั้น…. สิ่งที่นางต้องการที่สุดคือความเอาใจใส่ของเขา นางต้องการความปลอบโยนมากกว่าการเร่งเร้าครอบครองนาง เย่ว์หยางจูบหน้าผากนาง และจูบแก้มนางอย่างนุ่มนวล เขาใช้มือลูบหลังที่เรียบลื่นดุจหยกเนื้อดี เพื่อผ่อนคลายจิตใจนางให้สงบให้คลายจากความเครียด
“ความจริงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย และทำเรื่องที่มีความสุขกับคนที่ท่านรัก ทั้งหมดก็แค่นี้เอง” เย่ว์หยางจูบริมฝีปากนางที่เหมือนกลีบดอกไม้อย่างนุ่มนวล ให้นางได้รู้สึกเพลิดเพลินกับการจูบ
เมื่อริมฝีปากนางรู้สึกมีความสุขและปรารถนา ก็เผยอออกเล็กน้อย จากนั้นเย่ว์หยางจึงจูบต่อ
และปล่อยให้นางได้ลองความมหัศจรรย์ของการจูบ
เป็นผลให้นางเซียนหงส์ฟ้าได้ลิ้มรสชาติหอมหวานโดยการเรียนรู้ด้วยตนเอง การจูบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น ยิ่งพวกเขาจูบกันมาก นางก็ยิ่งไม่อยากแยกจากกัน จนกระทั่งรู้สึกเจ็บริมฝีปากเล็กน้อย นางจึงต้องปล่อย
โดยมิทันรู้ตัว นางตระหนักได้ว่านางไม่กระวนกระวายอีกต่อไป
ขาของนางเกี่ยวพันรอบต้นขาของเขาโดยมิรู้ตัว นางรู้สึกความร้อนจากร่างกายของเขา โดยเฉพาะจุดที่อ่อนไหวตรงนั้น แม้ว่าจะไม่มีการถูกต้องโดยตรง แต่มีความรู้สึกพิเศษ เป็นความปรารถนาที่ประหลาดแต่คุ้นเคย ความปรารถนานี้คุ้นเคยมากเคยทำให้นางยินดีมาแล้ว เมื่อตอนที่นางเผลอถูกเนื้อต้องตัวเขาช่วงฝึกผสานกาย แต่เป็นความรู้สึกที่รุนแรงกว่า
พูดให้ถูกยิ่งขึ้นก็คือ ปรารถนาจะให้เขาครอบครองนาง
ลมหายใจนางกระชั้นเล็กน้อย นางเซียนหงส์ฟ้ามองดูเย่ว์หยางและเขินอาย
นางมิเพียงไม่รู้สึกกระวนกระวาย แต่ยังมีความปรารถนาอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นางยังคงอาย เพราะนางเพิ่งประกาศไปว่านางไม่ต้องการสละโสดคืนนี้
“เรื่องที่แย่ก็คือการกลัวเกินไป” มือน้อยๆ ของนางกลับกล้าอย่างคาดไม่ถึง ความตั้งใจของนางไม่ใช่อย่างนั้น นางแค่ต้องการจะหยั่งท่าที แต่นางกลับไม่ยินดีจะปล่อยไป เนื่องจากนางไม่กล้าแสดงออกทางสีหน้า สิ่งเดียวที่เหลือก็คือทำอย่างแสดงจริตมารยา
สภาพนางตอนนี้ นอกจากตกใจประหม่าเล็กน้อย แต่นางไม่กลัวต่อไปแล้ว
ความจริง นางรู้สึกเพลิดเพลินเล็กน้อย
นางรู้สึกว่าบุรุษที่นางเลือก เป็นบุรุษที่ทรงพลังแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือร่างกาย เขาคือมังกรในมวลหมู่มนุษย์
“เจ้าไม่ชอบหรือ? เจ้าต้องการจูบไหม?” นางเซียนหงส์ฟ้าจำได้ว่าคืนนั้นเมื่อนางเห็นวิธีที่เขาจูบอกโล่วฮัว ดูเหมือนเขาชอบใช้ลูกไม้อย่างนั้น ด้วยความตื่นเต้น นางลุกค่อยๆ ลุกขึ้นดึงมือของเขากดลงบนอกมหึมาของนาง นางกล้ำกลืนความกระวนกระวายและกระซิบข้างหูเขา “เมื่อคืนนั้น ข้าเห็นวิธีที่เจ้าจูบโล่วฮัว ทำกับข้าอย่างนั้นบ้างสิ….”
***************